ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

ฮอนด้า เชนจ์ "แจ๊ซ" ปรับราคาเพิ่ม 1-2 หมื่นบาท

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว “แจ๊ซ ไมเนอร์เชนจ์” ที่มากับรูปลักษณ์สดใหม่ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก-ปลอดภัยเพียบ สนนราคาเพิ่มขึ้น 10,000-20,000 บาท แล้วแต่รุ่น

“แจ๊ซ ไมเนอร์เชนจ์” ออกแบบชนหน้า-หลัง ไฟหน้า กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ไฟท้ายแบบ LED และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ทั้งนี้ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครันมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณกะระยะกันชนหลัง 4 จุด ไฟตัดหมอกคู่หน้า เครื่องเสียงแบบโมดูลพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB เบาะนั่งสีใหม่ และสีส้มบริลเลียนใหม่

นอกจากนี้ ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ ทุกรุ่นยังมาพร้อมกับถุงลมคู่หน้า Dual SRS และระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ส่งผลให้ฮอนด้า แจ๊ซ เป็นรถขนาดซับคอมแพ็กต์รายแรกที่ยกระดับ มาตรฐานด้านความปลอดภัยให้สูงยิ่งขึ้นสำหรับทั้งคนขับและผู้โดยสาร

อาซึชิ ฟูจิโมโตะ ประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้า แจ๊ซ ยังคงเป็นรถที่ขายดีที่สุดของฮอนด้าในตลาดรถซับคอมแพ็กต์ 5 ประตูทั่วโลก นับถึงตอนนี้ ยอดขายสะสมของฮอนด้า แจ๊ซ ใน 115 ประเทศทั่วโลกขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3.6 ล้านคันแล้ว นับตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรกไปในปี 2544”

ในประเทศไทย ฮอนด้า แจ๊ซ ทำสถิติยอดขายไปแล้วมากกว่า 130,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวฮอนด้า แจ๊ซ เจเนอเรชั่นแรกในปี 2546 ขณะ ที่ฮอนด้า แจ๊ซ เจเนอเรชั่นที่สองซึ่งเปิดตัวในปี 2551 ยังคงครองใจผู้บริโภคได้อย่างเหนียวแน่น ด้วยรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว สะดุดตายิ่งขึ้น

“ฮอนด้า แจ๊ซ เป็นรถที่ขับสนุก บังคับควบคุมได้ดั่งใจ คล่องแคล่วยามโลดแล่น และใช้งานได้หลากหลาย รูปแบบ ความนิยมชมชอบอย่างแพร่หลายในตัวฮอนด้า แจ๊ซ เป็นผลมาจากรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว แลดูสปอร์ตยิ่งขึ้น ประหยัดน้ำมัน และมีเนื้อที่ใช้สอยภายในที่กว้างขวาง พื้นที่ห้องโดยสารที่ใหญ่กว่ารถในระดับเดียวกัน รวมไปถึงคุณสมบัติด้านการขับขี่ที่สนุกสนาน ส่งผลให้ฮอนด้า แจ๊ซ เป็นรถแฮทช์แบ็ค 5 ประตูที่ขายดีที่สุดของเมืองไทย ในประเภทรถยนต์นั่งซับคอมแพ็กต์ ตลอดช่วงเจ็ดปีที่ผ่านมา” นายฟูจิโมโตะ กล่าว

ฮอนด้า แจ๊ซ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น คือ รุ่น S รุ่น V และรุ่นสูงสุด SV โดยทั้ง 3 รุ่นติดตั้งเครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร 120 แรงม้า พร้อมถุงลมคู่หน้า Dual SRS และระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS สามารถใช้ได้กับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20

ฮอนด้า แจ๊ซ รุ่นท็อป คือ รุ่น SV มาพร้อมกันชนหน้า-หลังแบบสปอร์ต สเกิร์ตข้างและล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว เพื่อเสริมภาพลักษณ์ความเป็นรถสไตล์สปอร์ตให้สมบูรณ์เต็มพิกัด นอกจากนี้ยังมีสัญญาณกะระยะกันชนหลัง 4 จุด ไฟตัดหมอก ไฟท้ายแบบ LED และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ฮอนด้า แจ๊ซ รุ่นนี้ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด มาพร้อมถุงลมคู่หน้า Dual SRS ภายในสีดำ/น้ำเงินเข้ม กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยสไตล์สปอร์ต ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ด้วยสัมผัสปลายนิ้ว พนักเท้าแขนด้านคนขับและสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย แจ๊ซ รุ่น SV ราคา 715,000 บาท

ฮอนด้า แจ๊ซ รุ่น V ซึ่งเป็นรุ่นกลาง ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานใหม่ เช่น สัญญาณกะระยะกันชนหลัง 4 จุด สวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย ไฟท้ายแบบ LED ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ เซ็นทรัลล็อคพร้อมสวิทช์ควบคุมที่ตำแหน่งคนขับ เครื่องเสียงซีดี MP3 1 แผ่น แบบโมดูลพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB ถุงลมคู่หน้า Dual SRS และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว แจ๊ซ รุ่น V ราคา660,000 บาท

Honda Jazz Minor Change 2011, ข่าวแหล่งรถ
Honda Jazz Minor Change 2011

Honda Jazz Minor Change 2011, ข่าวแหล่งรถ
Honda Jazz Minor Change 2011

Honda Jazz Minor Change 2011, ข่าวแหล่งรถ
Honda Jazz Minor Change 2011

Honda Jazz Minor Change 2011, ข่าวแหล่งรถ
Honda Jazz Minor Change 2011

Honda Jazz Minor Change 2011, ข่าวแหล่งรถ
Honda Jazz Minor Change 2011

Honda Jazz Minor Change 2011, ข่าวแหล่งรถ
Honda Jazz Minor Change 2011

Honda Jazz Minor Change 2011, ข่าวแหล่งรถ
Honda Jazz Minor Change 2011

Honda Jazz Minor Change 2011, ข่าวแหล่งรถ
Honda Jazz Minor Change 2011





 

Create Date : 28 มกราคม 2554    
Last Update : 28 มกราคม 2554 22:23:44 น.
Counter : 1254 Pageviews.  

ตลาดบีคาร์โตเกือบเท่าตัว Honda เข็น Brio สู้ศึก จับ Jazz บิ๊กไมเนอร์เชนจ์

เจซีซี เปิดเผยตัวเลขขายรถปี 2553 มีทั้งสิ้น 798,543 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งทำได้ 523,266 คัน โดยโตโยต้าขายสูงสุด 326,007 คัน มีส่วนแบ่ง 40.08% ของตลาด, อีซูซุ 152,787 คัน 19.1%, ฮอนด้าจำนวน114,056 คัน 14.3%, นิสสัน 54,388 คัน 6.8%, มิตซูบิชิ 39,549 คัน 5%, มาสด้าจำนวน 35,143 คัน 4.4%, เชฟโรเลต 19,968 คัน 2.5%, ฟอร์ด 13,637 คัน มีส่วนแบ่ง 1.7% และอื่น ๆ

รถปิกอัพขนาด 1 ตัน ขาย 346,746 คัน, รถยนต์นั่งประเภทซีคาร์ขาย 93,966 คัน, บีคาร์ขาย 205,984 คัน เอสยูวีขาย 55,334 คัน, ซี/ดีคาร์ขาย 27,882 คัน เอ็มพีวีและเอยูวีขาย 7,540 คัน, และรถยนต์นั่งอื่น ๆ ขาย 58,040 คัน

เป็นที่น่าสังเกตว่า รถยนต์นั่งในกลุ่มบีคาร์นั้นมีอัตราการเติบโตและมีปริมาณมากที่สุดในรอบปี ที่ผ่านมา จากปี 2552 ขายได้ 120,499 คัน ปี 2553 ขายเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวที่ 205,984 คัน แบ่งเป็นโตโยต้า 82,840 คัน รองลงมาคือ ค่ายฮอนด้า 69,497 คัน, มาสด้า 22,534 คัน, นิสสันขายมาร์ชหรืออีโคคาร์ 18,740 คัน

นางปนัดดา เจณณวาสิน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ประเทศไทยเริ่มฟื้นตัวอย่างเป็นรูปธรรม ปี 2554 น่าจะมียอดขายรวม 840,000-850,000 คัน

เช่นเดียวกับแหล่งข่าวระดับบริหารจากบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงฮอนด้าตั้งเป้าจะต้องมียอดปี 2554 สูงถึง 140,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าประมาณ 20,000 คัน ซึ่งยอดขายที่เพิ่มขึ้นนั้นโดยหลัก ๆ จะมาจากอีโคคาร์ หรือฮอนด้า บริโอ้ ที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์โชว์ที่จะมีขึ้นในเดือนมีนาคมนี้ โดยมั่นใจว่าน่าจะทำยอดขายรวมทั้งปีได้ถึง 3 หมื่นคัน รวมถึงมี แผนส่งฮอนด้า แจ๊ซ ที่เป็นรุ่นบิ๊กไมเนอร์เชนจ์ออกสู่ตลาด และซีวิค โมเดลใหม่

ขณะที่นายโนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงเป้าหมายของมิตซูบิชิในปีนี้ว่า บริษัทตั้งเป้าจะต้องมียอดขายอยู่ในระดับ 50,000 คัน มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 6% โดยแบ่งเป็นยอดขายจากมิตซูบิชิ ไทรทัน 27,000 คัน ปาเจโร สปอร์ต จำนวน 14,000 คัน มิตซูบิชิ แลนเซอร์ และแลนเซอร์ อีเอ็กซ์ จำนวน 4,000 คัน สเปซวากอน 1,000 คัน

เช่นเดียวกับนายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้มาสด้าตั้งเป้าจะต้องมียอดขายอยู่ที่ระดับ 38,500 คัน โดยปีนี้มาสด้าจะมีรถยนต์นั่งโมเดลใหม่อย่างมาสด้า 3 ออกสู่ตลาดในช่วงงานมอเตอร์โชว์เช่นกัน


ฮอนด้า บรีโอ้ เปิดตัวแน่งานมอเตอร์โชว์เดือนมีนาคมนี้, ข่าวแหล่งรถ
ฮอนด้า บรีโอ้ เปิดตัวแน่งานมอเตอร์โชว์เดือนมีนาคมนี้

ฮอนด้า บรีโอ้ เปิดตัวแน่งานมอเตอร์โชว์เดือนมีนาคมนี้, ข่าวแหล่งรถ
ฮอนด้า บรีโอ้ เปิดตัวแน่งานมอเตอร์โชว์เดือนมีนาคมนี้

ฮอนด้า บรีโอ้ เปิดตัวแน่งานมอเตอร์โชว์เดือนมีนาคมนี้, ข่าวแหล่งรถ
ฮอนด้า บรีโอ้ เปิดตัวแน่งานมอเตอร์โชว์เดือนมีนาคมนี้

ฮอนด้า บรีโอ้ เปิดตัวแน่งานมอเตอร์โชว์เดือนมีนาคมนี้, ข่าวแหล่งรถ
ฮอนด้า บรีโอ้ เปิดตัวแน่งานมอเตอร์โชว์เดือนมีนาคมนี้

ฮอนด้า บรีโอ้ เปิดตัวแน่งานมอเตอร์โชว์เดือนมีนาคมนี้, ข่าวแหล่งรถ
ฮอนด้า บรีโอ้ เปิดตัวแน่งานมอเตอร์โชว์เดือนมีนาคมนี้

ฮอนด้า บรีโอ้ เปิดตัวแน่งานมอเตอร์โชว์เดือนมีนาคมนี้, ข่าวแหล่งรถ
ฮอนด้า บรีโอ้ เปิดตัวแน่งานมอเตอร์โชว์เดือนมีนาคมนี้

ฮอนด้า บรีโอ้ เปิดตัวแน่งานมอเตอร์โชว์เดือนมีนาคมนี้, ข่าวแหล่งรถ
ฮอนด้า บรีโอ้ เปิดตัวแน่งานมอเตอร์โชว์เดือนมีนาคมนี้

ฮอนด้า บรีโอ้ เปิดตัวแน่งานมอเตอร์โชว์เดือนมีนาคมนี้, ข่าวแหล่งรถ
ฮอนด้า บรีโอ้ เปิดตัวแน่งานมอเตอร์โชว์เดือนมีนาคมนี้





 

Create Date : 27 มกราคม 2554    
Last Update : 27 มกราคม 2554 14:14:01 น.
Counter : 1094 Pageviews.  

Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน

Post image for Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน


*ภาพประกอบคือ Mazda2 รุ่นปี 2011

2011 Mazda2 13 Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน
2011 Mazda2 14 Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน
2011 Mazda2 19 Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน
2011 Mazda2 21 Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน
2011 Mazda2 04 Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน
2011 Mazda2 06 Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน
2011 Mazda2 09 Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน
2011 Mazda2 12 Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน
2011 Mazda2 07 Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน
2011 Mazda2 10 Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน
2011 Mazda2 11 Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน
2011 Mazda2 15 Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน
2011 Mazda2 18 Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน
2011 Mazda2 02 Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน
2011 Mazda2 08 Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน
2011 Mazda2 20 Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน
2011 Mazda2 01 Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน
2011 Mazda2 16 Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน
2011 Mazda2 05 Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน
2011 Mazda2 17 Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน
2011 Mazda2 03 Mazda2 ไฟฟ้า มาแน่ปี 2012 ช่วงแรกขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เก็บข้อมูลการใช้งาน




 

Create Date : 26 มกราคม 2554    
Last Update : 26 มกราคม 2554 8:51:09 น.
Counter : 1030 Pageviews.  

ภาพเพิ่มเติม Mitsubishi Eco Car หรือชื่อทางการว่า Concept Global Small Vehicle

Mitsubishi Eco Car

ต่อเนื่องจากวันก่อนที่ Mitsubishi ได้เผยแพร่ภาพของ Concept Global Small Vehicle หรือขอเรียกง่ายๆว่า Mitsubishi Eco Car เพราะตามแผนของบริษัทฯ เราคงได้เห็นหรือได้ใช้รถรุ่นนี้ในประเทศไทยในเร็ววันนี้ในฐานะอีโคคาร์ทาง เลือกอีกรุ่นนอกจาก Nissan March, Honda Brio หรืออาจจะเป็น Toyota Etios Liva ตามข่าวที่ AutoSpinn ได้เคยนำเสนอไปแล้ว ล่าสุดมีภาพเพิ่มเติมของ Mitsubishi Eco Car ที่ช่วยทำให้หลายคนหายสงสัยเสียทีว่าด้านหลังจะสวยเหมือนด้านหน้าหรือไม่ อย่างไร ผลที่ออกมาไม่ทำให้ผิดหวัง เหลืออย่างเดียวคือลุ้นให้หน้าตาของรถรุ่นผลิตไม่ต่างไปจาก Concept Car คันนี้เท่านั้นเอง!!






 

Create Date : 24 มกราคม 2554    
Last Update : 24 มกราคม 2554 21:53:25 น.
Counter : 1287 Pageviews.  

เชฟโรเลต แคปติวา ขุมพลังใหม่ เร้าใจ สุดประหยัด

เชฟ โรเลตเปลี่ยนหัวใจขับเคลื่อนใหม่ให้ “แคปติวา” รถอเนกประสงค์สุดล้ำ เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ เร้าใจด้วยเครื่องยนต์รุ่นใหม่บล็อก 4 สูบแถวเรียงความจุกระบอกสูบ 2.4 ลิตร DOHC พร้อมระบบแคมชาฟท์แปรผันคู่ต่อเนื่อง (ดับเบิล ซีวีซี) ที่สามารถปรับเปลี่ยนท่อไอดีและไอเสียได้ตามรอบเครื่องยนต์ เพิ่มสมรรถนะและความประหยัด

เครื่องยนต์ใหม่ของ แคปติวาได้ผ่านการทดสอบอย่างหนักตามมาตรฐานของ จีเอ็มและเชฟโรเลต ที่เรียกว่า โกลบอล เอนจิน ดูราบิลิตี (GED) ถูกติดตั้งอยู่ในเชฟโรเลต แคปติวาเพื่อวิ่งทดสอบในสภาพภูมิอากาศและสภาพถนนที่แตกต่างกันทั่วโลก เพื่อให้แน่ใจว่า แคปติวาที่ใช้ขุมพลังขับเคลื่อนใหม่นี้จะสามารถรองรับกับการใช้งานในทุกรูป แบบ

นอกจากความทนทานแล้ว เครื่องยนต์ใหม่ยังให้ความเร้าใจด้วยพละกำลังสูงสุดถึง 165 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 225 นิวตัน-เมตร ที่ 4,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ 6 สปีด พร้อมไดรเวอร์ ชิฟท์ คอนโทรล (DSC) ที่ถือเป็นครั้งแรก และก้าวล้ำหน้ากว่ารถในระดับเดียวกัน

ระบบขับเคลื่อนของแคปติวา มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา (AWD) พร้อมระบบเสริมแรงบิดอัจฉริยะ (แอ๊คทีฟ ทอร์ค ออน ดีมานด์) ช่วยเสริมพละกำลังให้แก่ระบบขับเคลื่อนแบบ AWD จากการทำงานของคลัตช์แม่เหล็กไฟฟ้ากับคลัตช์แบบเปียกซึ่งจะทำหน้าที่ส่ง กำลังสู่ระบบเฟืองท้ายเพื่อกระจายแรงบิดที่เหมาะสมมากที่สุดสำหรับเพลาล้อ คู่หน้าและคู่หลัง ทั้งนี้เพื่อสร้างสมดุลและเสริมกำลังให้แก่สภาพการขับขี่ที่แตกต่างกันออกไป

นอกจากนี้แคปติวายังได้รับการติดตั้งระบบเครื่องเสียงด้วยเทคโนโลยีสามมิติ จากยุโรปใหม่ล่าสุด ซึ่งจะมีระบบประมวลผลที่ช่วยปรับคุณภาพของทุกความถี่เสียงให้มีมิติความ ละเอียดและคมชัดที่สุดจากลำโพง 6 ตัวในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 8 ตัวในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ

ภายในยังเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ต่าง ๆ ทั้งระบบมัลติมีเดียที่สามารถดูหนัง ฟังเพลงทั้งจากแผ่นซีดี และเอสดี การ์ด (รองรับไฟล์เอ็มพี 4) พร้อมการติดตั้งช่องต่ออุปกรณ์เสริมและยูเอสบี เพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เครื่องเสียงแบบพกพาและระบบบลูทูธ (เฉพาะในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ) อีกด้วย การออกแบบภายในห้องโดยสารคงความหรูหราทันสมัย เพิ่มความสดใหม่ด้วยแผงมาตรวัดดีไซน์ใหม่แบบเรืองแสงสีน้ำเงินเข้ม พร้อมความกว้างขวางสะดวกสบายจากเบาะโดยสาร 7 ที่นั่ง เมื่อพับเบาะแถวที่ 3 ราบลงจะมีปริมาตรในการขนสัมภาระอยู่ที่ 465 ลิตร และเมื่อปรับเบาะแถวที่ 2-3 ให้เรียบในระดับเดียวกันจะเพิ่มพื้นที่ใช้สอยสูงสุดถึง 930 ลิตร

ส่วนชุดกันสะเทือนของแคปติวาที่ด้านหน้าเป็นแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัทและใช้ระบบช่วงล่างอิสระ 4-ลิงก์ ที่ด้านหลัง ให้การยึดเกาะถนนอย่างปลอดภัยและความนุ่มนวลเพื่อการขับขี่ พร้อมเสริมความโดดเด่นที่เหนือชั้นกว่ารถอเนกประสงค์รุ่นใด ๆ ด้วยช่วงล่างแบบยกตัวอัตโนมัติ ที่จะช่วยปรับระดับของช่วงล่างให้อยู่ในระนาบเดียวกัน เช่น เมื่อมีการบรรทุกสัมภาระที่ด้านท้ายรถ น้ำหนักที่ถ่วงท้ายก็จะทำให้หน้ารถเชิดขึ้น แต่ด้วยกลไกอัตโนมัติของช่วงล่างใหม่ก็จะปรับช่วงล่างด้านหลังให้ยกสูงขึ้น อัตโนมัติ เพื่อรักษาสมดุลของรถ ลดอาการหน้ารถเชิดขึ้นและยังช่วยให้ควบคุมรถได้มั่นคงปลอดภัย

ดังนั้นการเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่เพื่อเพิ่มจุดเด่นให้กับแคปติวาครั้งนี้ก็ต้องให้ลูกค้าได้พิสูจน์กันต่อไป.

ลำยอง ปกป้อง





 

Create Date : 23 มกราคม 2554    
Last Update : 23 มกราคม 2554 17:24:20 น.
Counter : 1215 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.