ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

Honda Brio V MT ความสนุกลงตัว ที่สัมผัสได้

หลังจากทีมงาน eCAReasy ได้มีโอกาสร่วมทริปทดสอบในแบบ Group test ฮอนด้า บริโอ้มาแล้ว ซึ่งในครั้งนั้นได้ไปทดสอบกันถึงจังหวัดเชียงราย และถือเป็นครั้งแรกเลยที่เหล่าสื่อมวลชนสายรถยนต์ได้สัมผัสกับฮอนด้า บริโอ้ ทั้งในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ และเกียร์ธรรมดา หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และครั้งนี้เราก็ได้รับโอกาสอีกครั้ง ที่จะได้นำฮอนด้า บริโอ้ รุ่น V MT มาทำการทดสอบในรูปแบบการใช้งานในชีวิตประจำวัน จะเป็นอย่างไร ลงตัวแค่ไหน ตามกันต่อเลยครับ

สำหรับฮอนด้า บริโอ้ รุ่น V MT ที่นำมาทดสอบนี้ ถือเป็นรุ่นกลาง ต่เป็นออพชั่น TOP สุดในรุ่นเกียร์ธรรมดา โดยรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนกันกับตัว TOP สุดในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ด้านหน้าออกแบบให้สั้น เน้นความสปอร์ต ล้ำสมัย ส่วนด้านหลังออกแบบท้ายตัด พร้อมกระจกหลังบานใหญ่ จากที่มองดูรูปโฉมภายนอกเรียกได้ว่าออกแนวน่ารัก สปอร์ตเล็กๆอยู่เหมือนกัน

Honda Brio V MT

สำหรับภายใน เมื่อเปิดประตูเข้าสู่ห้องโดยสาร อยากจะบอกว่ามันไม่ได้แคบอย่างที่คิด เท่าที่สังเกตุหลายๆจุด น่าจะมาจากการออกแบบที่เน้นความกว้างขวาง อาทิ แนวของแผงข้างประตูจะโค้งเพื่อเพิ่มพื้นที่ด้านข้างของห้องโดสารให้ดูโปร่งขึ้น อีกส่วนที่ทำให้การนั่งโดยสารสะดวกสบาย และกว้างขวางขึ้น คือ การออกแบบเบาะนั่งคู่หน้าให้ด้านหลังเบาะมีความโค้ง ทำให้เพิ่มพื้นที่เวลานั่งโดยสารไม่ให้อึดอัด เรียกว่าทางทีมงานลองนั่งโดยสารกันแบบผู้ใหญ่ 5 คนแบบสบายๆ แต่ก็มีข้อติที่หลายคนบอกมาคือ พื้นที่เก็บของสัมภาระด้านหลังจะแคบไปสักนิด ก็อย่างที่รู้กันอยู่นะครับว่า ฮอนด้า บริโอ้ เป็นรถขนาดเล็กอีโคคาร์ การใช้งานส่วนใหญ่น่าจะเหมาะกับใช้งานในเมืองแบบสบายๆ ขนของบ้างเล็กน้อย ก็ถือว่าน่าจะเพียงพอแล้ว

มาต่อกันที่ขุมพลังของฮอนด้า บริโอ้ คันนี้กันบ้างใช้เครื่องยนต์ i-VTEC 4 สูบ ความจุ 1,200 ซีซี 90 แรงม้า สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิง E20 และประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 20 กิโลเมตรต่อลิตร (ตามสเปกโรงงาน) ส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด พร้อมอุปกรณ์เสริมความปลอดภัยมาตราฐานครบ อาทิ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า พร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ ระบบเบรก ABS พร้อม EBD ระบบล็อกป้องกันเด็ก ระบบกุญแจ Immoblizer และไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED

Honda Brio V MT

การทดสอบในช่วงแรกนี้ ทีมงาน eCAReasy ได้ทดสอบโดยใช้เส้นทางในเมืองที่การจราจรที่ติดขัด สลับหยุดนิ่ง ฮอนด้า บริโอ้ รุ่น V MT สามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างน่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนเลนเพื่อแซง และแทรก ทำได้อย่างคล่องตัว และด้วยความที่เป็นรถที่ได้รับความสนใจของผู้ใช้รถอยู่แล้ว เวลาวิ่งไปทางไหน จะเปลี่ยนเลน หรือแทรกใครก็จะรับการเว้นที่ให้เจ้าฮอนด้า บริโอ้เสมอ ส่วนถามว่าการใช้เกียร์ธรรมดากับการจราจรที่ติดขัดในกรุงเทพฯมีปัญกาบ้างเปล่า ทีมงาน eCAReasy ขอบอกว่า ฮอนด้า บริโอ้ ตัวนี้ถือเป็นรถเกียร์ธรรมดาที่ขับขี่ง่ายคล่องตัว น้ำหนักการเหยียบคลัตช์ก็ไม่แข็ง แถมให้อัตราเร่งที่ทันใจดีในแบบเกียร์ธรรมดา แต่จะให้สบายแบบเกียร์อัตโนมัติคงไม่ใช่ โดยอัตราความสิ้นเปลืองที่วัดได้อยู่ประมาณ 15-16 กม./ลิตร ก็ถือว่าน่าพอใจกับการใช้งานในเมือง และอีกอย่างที่ลืมพูดถึงไป ในยามที่อยู่ในสภาพการจราจรที่ติดขัด คงไม่มีอะไรสบายไปกว่า ที่เรามีเพลงเพราะๆจากเครื่องเสียงคุณภาพดี จากช่อง USB และระบบปรับอากาศที่เย็นสบายที่มีให้ในฮอนด้า บริโอ้

Honda Brio V MT

ผ่านจากการทดสอบแบบการจราจรในเมืองแล้ว ถึงเวลาที่ทีมงาน eCAReasy จะพาฮอนด้า บริโอ้ไปลองวิ่งใช้งานกันแบบเดินทางไกลบ้าง ซึ่งในรถเล็กเหล่านี้จะชอบถูกพูดว่า "ออกต่างจังหวัด วิ่งทางไกล ไม่ได้หรอก" ทีมงาน eCAReasy เลยจัดให้ซะเลย... โดยใช้เส้นทาง กรุงเทพฯ - บางแสน ชลบุรี ซึ่งก็น่าจะเพียงพอกับการที่จะได้สัมผัสสมถรรนะของฮอนด้า บริโอ้ ต้องขอบอกก่อนว่าการเดินทางทดสอบในครั้งนี้มีผู้ร่วมทดสอบอีก 4 คน ตลอดเส้นทางการเดินทางเราก็พยายามจะลองอัตราการสิ้นเปลืองโดยใช้ความเร็วในการเดินทางอยู่ระหว่าง 100-110 กม./ชม. จะเห็นว่าความเร็วที่เราใช้ไม่ใช่รูปแบบที่ใช้ทดสอบความประหยัดอย่างที่อื่นเขาทำกัน แต่อย่างที่บอกไปแล้วครับว่า ทีมงาน eCAReasy ต้องการทดสอบการใช้งานแบบเดินทางไกลที่ใช้ในชีวิตจริง เลยเลือกเอาความเร็วดังกล่าวมาทดสอบ ซึ่งฮอนด้า บริโอ้ รุ่น V MT ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังได้อัตราการสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 19.6 กม./ลิตร อาจจะดูน้อยกว่าสเปกที่เคลมมาแต่อย่างที่บอกครับ นี่เป็นความเร็วใช้งานจริง นั่งโดยสารกัน 4 คน ได้อัตราการสิ้นเปลืองขนาดนี้ถือว่าน่าพอใจแล้วครับ แต่ถ้าใช้ความเร็วลดลงอีกรับรองได้ว่าเกิน 20 กม./ลิตร แน่นอน และในส่วนเรื่องอัตราเร่งของเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรที่มากับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ก็สามารถเรียกใช้พละกำลังได้อย่างเต็มที ไม่ว่าจะเป็นช่วงเร่งแซง ก็เปลี่ยนเกียร์เรียกกำลังได้ทันที แต่ความเร็วท็อปสปีดอาจจะไม่มากเนื่องจากถูกล็อกความเร็วไว้ที่ประมาณ 145 กม./ชม.มาจากโรงงาน

Honda Brio V MT

อีกจุดที่ฮอนด้า บริโอ้ ทำได้น่าพอใจก็คือเรื่องของสมถรรนะของช่วงล่างที่เซตมาอย่างเกินตัวในรถขนาดอีโคคาร์ โดยฮอนด้า บริโอ้ให้ความคล่องตัว เกาะถนน ทั้งในทางโค้ง และทางตรง การบังคับควบคุมน้ำหนักพวงมาลัยกำลังดี พวงมาลัยจับกระชับมือวงเลี้ยวแคบสามารถกลับรถในซอยได้สบาย ส่วนที่หลายๆคนบ่นว่า ฮอนด้า บริโอ้ ไม่มีไล่ฝ้าหลังกับที่ปัดน้ำฝนหลัง ทางทีมงาน eCAReasy ก็มีโอกาสไว้ขับขี่ขณะฝนตกแรงๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร การมองเห็นก็ยังเป็นปรกติ แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ในเมื่อคู่แข่งในตลาดเขามีออฟชั่นนี้มาให้ รุ่นต่อไปของฮอนด้า บริโอ้ก็อย่าลืมจัดมาให้ครบๆแล้วกันครับ

สรุปที่ทีมงาน eCAReasy ได้ทดสอบฮอนด้า บริโอ้ รุ่น V MT ในรูปแบบต่างๆ ยังขอย้ำคำเดิมว่า "ขับสนุกจนลืมไปเลยว่ากำลังทดลองขับรถ ecocar เครื่อง 1200 ซีซี." ด้วยสมถรรนะช่วงล่าง การยึดเกาะถนน พละกำลังของเครื่องยนต์ 4 สูบที่มาพร้อมความประหยัดเชื้อเพลิง ถ้ามองมองข้ามออฟชั่นบางตัวที่ไม่มีไปได้...ฮอนด้า บริโอ้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนอยู่เหมือนกันนะครับ...

ขอขอบคุณ :

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย จำกัด เอื้อเฟื้อรถยนต์ทดสอบ

ร้าน SweetSummer บางแสน ชลบุรี เอื้อเฟื้อสถานที่

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ //www.ecareasy.com




 

Create Date : 25 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 25 กรกฎาคม 2554 7:57:18 น.
Counter : 2340 Pageviews.  

เปิดตัวยนตกรรมสุดหรู… New Audi RS6 2012

กลับมาอีกครั้งแล้ว สำหรับข่าวสารวงการรถยนต์ คราวนี้เอาใจคนที่ชื่นชอบซีดานสุดหรูจากค่าย Audi กันบ้างครับ
ซึ่งล่าสุดทาง Thaicarlover.com ได้ข่าวมาว่า

Audi ได้เปิดตัวรถยนต์ Audi RS6 2012 ยนตกรรมที่หรูหราระดับผู้นำใหม่จากออดี้ โฉบเฉี่ยวด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย รูปทรงภายนอกที่โดดเด่น ไม่ว่าใครก็จะต้องจ้องมองมาที่นวัตกรรมยานยนต์คันนี้ ที่สวยสะดุดทุกสายตา หรูหราด้วยฟังก์ชั่นมากมาย ปรับแต่งสไตล์ให้ดูทันสมัย และสง่างามมากขึ้น ด้วยไฟหน้า ไฟท้าย และดีไซน์ภายนอกที่หรูหรา ล้ออัลลอยด์ใหม่ดีไซน์สวย ไม่ว่ามองมุมไหนก็สวยไปหมดเลยครับ

Audi RS6 2012-01

Audi RS6 2012-01

นอกจากนี้ ภายในของ Audi RS6 2012 ใหม่ ยังมาในรูปแบบที่ทันสมัย สไตล์สปอร์ต งดงามทุกมิติที่มอง โดยเฉพาะห้องโดยสารที่กว้างสบาย ทันสมัยไปด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ USB iPOD และ Bluetooth ที่ควบคุมได้ง่ายแค่ปลายนิ้วสัมผัสอีกด้วยครับ

Audi RS6 2012-02

Audi RS6 2012-02

สำหรับขุมพลังของ ออดี้ อาร์เอส6 2012 จะเป็นเครื่องยนต์ V8 Twin Turbo ขนาด 4.0 ลิตร และเครื่องยนต์ V10 ขนาด 5.0 ลิตร ส่งพลังแรงสุดถึง 600 แรงม้า สมราคาสปอร์ตยอดฮิตตลอดกาลจากออดี้ครับ

Audi RS6 2012-03

Audi RS6 2012-03

ส่วนราคา ออดี้ อาร์เอส6 2012 จะเริ่มต้นที่ประมาณ 1,860,000 บาทครับ ซึ่ง Audi RS6 2012 ถือเป็นสปอร์ตซีดานที่หรูหรา สะดวกสบายด้วยภายในที่กว้างขวาง และทันสมัย มาพร้อมกับเทคโนโลยีประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และระบบความปลอดภัยมาตรฐานอีกด้วยครับ

สำหรับแฟนๆ Audi ในบ้านเราคงต้องรอลุ้นว่า Audi RS6 2012 จะมาอวดโฉมที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โปร 2554 (Motor Expo 2011) ในปลายปีนี้หรือไม่ ซึ่งอันนี้แฟนๆ ออดี้ คงต้องติดตามกันต่อไปครับ

อย่าพลาดติดตามอัลบั้มรูปรถยนต์เด่น พริตตี้น่ารักๆ รวมถึงความเคลื่อนไหวในวงการรถยนต์ทั้งไทย และต่างประเทศได้ใหม่กับ Thaicarlover.com ครับ




 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 24 กรกฎาคม 2554 10:39:25 น.
Counter : 1121 Pageviews.  

Tesla Roadster ..สปอร์ตไฟฟ้าจากค่ายนำเข้า

คงได้ยินกันมาสักพักใหญ่แล้วสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ในต่างประเทศเริ่มมีการวางจำหน่ายกันไปแล้วทั้งรถทั่วๆไป จนถึงสปอร์ตคาร์ ที่ในบ้านเรานั้นก็มีการเปิดตัวให้ชม ก่อนที่จะมีกระแสข่าวว่าค่ายยานยนตืนำเข้าเตรียมใจปล้ำเตรียมนำเข้ามาจำหน่ายตัดหน้าบรรดาผู้ผลิต ที่วันนี้ก็กลายเป็นจริง

ราคาอาจจะเกินเอื้อมสำหรับค่าตัวสปอร์ตคาร์ไฟฟ้าหนึ่งเดียวจากค่ายผู้นำเข้าชั้นนำ อีตั้น อิมปอร์ท ที่เคาะไว้ที่ 8.5 ล้านบาทสำหรับเศรษฐีที่ต้องการความแตกต่างไม่มีใครเหมือน ที่วันนี้รถ Tesla Roadster ก็ได้มีการเปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการ ที่เราอดไม่ได้ที่จะเก็บมาฝากกัน

Tesla Roaster

สปอร์ตคาร์ไฟฟ้าคันนี้ในนามว่า Tsla นั้น มาพร้อมทรวดทรงแบบรถสปอร์ตสไตล์ Roadster ที่มีเส้นสายการออกแบบในลักษณะที่อาจจะคุ้นๆกันบ้าง แต่เส้นสายของมันนั้นกลับทำให้ดูแตกต่างดูสปอร์ต โฉบเฉี่ยวตั้งแต่แรกเห็น ให้อารมณ์แบบแบาๆสบายๆ ไม่ดุดันมากนักพริ้วไหวด้วยหลังคาร์ Hardtop ชิ้นเดียวทำจาก คาร์บอนไฟเบอร์ชั้นชิ้น ที่หากเบื่อก็สามารถถอดออกรับลมชมวิวได้ แต่แน่นอนว่าอจจะร้อนสักนิดสำหรับบ้านเรา ส่วนบั้นท้ายมีไฟทรงโดนัทแบบ LED ลงตัวดล้ออลอยที่เลือกใช้ขอบ 16 ทางด้านหน้ามาพร้อมยาง 175/55/R16 ส่วนด้านหลังเขยิบใช้ขอบ 17 นิ้ว มาพร้อมยาง 225/45/R17

Tesla Roaster

ในห้องโดยสาร Tesla Roadster มาพร้อมความนุ่มลึกสื่อสารถึงผู้ขับขี่ผ่านการตบแต่งสีดำ ให้ขับง่ายยิ่งขึ้นผ่านชุดพวงมาลัย 3 ก้านหรูหราและโฉบเฉี่ยวที่มาพร้อมระบบ cruise control มีจอแสดงผลแบบ touch screen และเบาะนั่งทรงพิเศษที่ออกแบบมารองรับสรีระของผู้ขับขี่เช่นเดียว เครื่องเสียงที่ยังให้คุณเชื่อมต่อได้กับ ipod

พูดถึงรถไฟฟ้าตัวจริง แน่นอนสมรรถนะการขับขี่เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้โดยเฉพาะเมื่อมันเป็นรถสปอร์ตที่จะต้องประชันกับรถน้ำมันที่เป็นมาตรฐานเดิมของรถปัจจุบัน ทว่า Tesla Roadster นั้น สามารถให้คุณขับสนุกได้เทียบเท่ากับรถสปอร์ตที่มีพละกำลัง 288 แรงม้า แต่ให้อัตราแรงบิดดีกว่าที่มากถึง 370 นิวตันเมตร ขับเคลื่อด้วยระบบส่งกำลังอัตราทดเดียว ซึ่งสามารถเดินทางได้ไกลถึง 394 กิโลเมตร จากการชารืจไฟแบตเตอร์รี่เพียงครั้งเดียว ที่ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 7.5 ชั่วโมงเท่านั้น

Tesla Roaster

ในด้านการขับขี่ Tesla Roadster มาพร้อมระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งมาอย่างดีแม้รถจะเบาหวิวแต่ก็ยังมั่นใจได้ด้วยช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ที่มาพร้อมAnti roll bar ช่วยให้คุณมั่นใจในยามที่ขับขี่ ทุกเสนทางบนถนนทั้งยามปกติหรือโหมดสปอร์ตก็ตาม

การมาถึงของรถโรดสเตอร์ไฟฟ้าคันนี้ นับเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับตลาดรถยนต์ในประเทศไทย โดยเฉพาะ เมื่อรถรุ่นนี้ถือเป็นความล้ำหน้าที่ผสานสปอร์ตคาร์เข้ากัยวัตกรรมของโลกยานยนต์ในวันข้างหน้าที่ไม่แน่ ในอนาคตเราอาจจะมีรถไฟฟ้าใช้กันก็ได้

ภาพประกอบเพิ่มเติมจาก netcarshow

ราคาจำหน่าย Tesla Roadster

Tesla Roadster ราคา 8.5 ล้านบาท

นำเข้า-จัดจำหน่ายโดยบริษัท อีตั้น อิมปอร์ท จำกัด




 

Create Date : 23 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 23 กรกฎาคม 2554 9:41:15 น.
Counter : 1591 Pageviews.  

Mitsubishi Sportback RA Edition ....ขออิจฉาเพื่อนบ้านกับ 5 ประตูเวอร์ชั่นพิเศษ

หากพูดถึงค่ายรถยนต์สายพันธุ์สปอร์ตที่ถ่ายทอดกรรมพันธ์จากสนามแรลลี่สู่ท้องถนนแล้วนั้นคงไม่มีใครไม่รู้จักค่าย Mitsubishi ที่ปัจจุบันใช้คอนเซปต์ " The Spirirt of Competition"นำทาง และในขณะที่บ้านเรายังขาด Lancer รุ่น 5 ประตู ทว่าที่มาเลเซียนั้นกลับมีรุ่นพิเศษที่งามหยดจนน่าหลงใหล

Mitsubishi Sportback RA Edition

การมาของ Lancer Sportback RA Edition นั้นใช้พื้นฐานของคอมแพ็คคาร์ 5 ประตูในรุ่น Sportback ที่เนรมิตรรถยนต์คอมแพ็คคาร์ 4 ประตู ให้น่าหลงใหลในสไตล์รถแฮทช์แบ็ค 5 ประตู และเพื่อให้เด็ดถูกใจผู้ใช้ก็ยังมาพร้อมการแต่งในสไตล์แรลลี่ลิขสิทธิ์แท้ของสำนัก Ralliart ที่เริ่มตั้งแต่เปลี่ยนกันชนหน้าให้ดุดันขึ้นมาพร้อมกระจังดีไซน์สปอร์ต ที่ยังควบล้ออัลลอยขอบ 18 นิ้วมาเป็นของแถม พร้อม Diffuser ที่ยังมีกล้องมองหลังด้วย

ในห้องโดยสาร Mitsubishi เน้นตบแต่งให้อารมณ์สปอร์ตเต็มพิกัดกับการตบแต่งโทนดำมาพร้อมเบาะหนังสีดำให้ความคมเข้มตลอดทั้งคัน ที่ยังมีชายบันไดจาก Ralliart มาเป็นของแถม ที่จับมือมาพร้อมอารมณ์สปอร์ตแท้จากโรงงานผ่านเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ให้พละกำลัง 170 แรงม้า ให้แรงบิด 226 นิวตันเมตรจากโรงงาน ที่พอจะยืนยันความสนุกสนานในการขับขี่

Mitsubishi Sportback RA Edition

ทั้งนี้ mitsubishi Sportback RA Edition จะมีวางจำหน่ายเพียง 100 คัน เท่านั้นมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี คือ Lightning Blue, White Solid และ Black Mica ส่วนราคาจำหน่ายอยู่ที่137,980 ริงกิต ที่อยากรู้ราคาไทยก็คุณ 10 ได้ เลย

ที่มาจาก Paultan.org

Sanook! Auto Comment

Mitsubishi Sportback RA Edition นั้นเป็นรถพิเศษตั้งแต่ออกจากดรงงานที่แน่นอนว่าเมืองไทยนั้นไม่มีวี่แววของรุ่น 5 ประตู แต่สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคงไม่พ้นการตบแต่งจากสำนักแต่ง ralliart ที่ลงตัวในดีไซน์ที่สวยงามและเหมาะกับสภาพการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 22 กรกฎาคม 2554 8:11:02 น.
Counter : 1290 Pageviews.  

Suzuki ปล่อย… Suzuki Every Van ออกทดลอง

กลับมาอีกครั้งกับข่าวสารวงการรถอเนกประสงค์ ซึ่งคราวนี้เราจะมานำเสนอรถจากค่าย Suzuki กันบ้างครับ
ซึ่งล่าสุดทาง Thaicarlover.com ได้ข่าวมาว่า

Suzuki ได้ขยับตัวสู้ศึก EV เก็บข้อมูลใช้งานจริงด้วย Suzuki Every Van เวอร์ชั่นไฟฟ้า ซึ่งถึงแม้ในตลาดโลก ชื่อของ ซูซูกิ อาจจะไม่ได้เป็นผู้เล่นหลักในตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเหมือนผู้ผลิตค่ายอื่นๆ แต่ในประเทศญี่ปุ่นเอง รถเล็กแบบ Kei Car ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนบุคคล หรือรถเพื่อการพาณิชย์ที่ยังใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ซูซูกิ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง ด้วยเครื่องยนต์ ซีซี. น้อย พอเพียงสำหรับความต้องการในการใช้งานที่เน้นความประหยัดเป็นหลัก โดยเฉพาะงานขนส่งตามตรอกซอกซอยเล็กๆ

Suzuki Every Van EV

Suzuki Every Van EV

โดบล่าสุด ซูซูกิ เตรียมส่งไมโครแวน Suzuki Every (เปิดตัวในญี่ปุ่นปี 1982 ด้วยชื่อ Suzuki Carry) เวอร์ชั่นพลังงานไฟฟ้า 13 คัน ให้ดีลเลอร์ในแถบรอบๆ ฮามามัทสุ ทดลองใช้งานจริง เพื่อเก็บข้อมูลสำหรับการใช้งานในอนาคต ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีข่าวว่าจะเป็นรุ่นใด

ในเบื้องต้น Every คันต้นแบบจะใช้แบตเตอรี่ ลิเธียม-ไอออน ความจุสูง ระยะเวลาในการชาร์จเต็ม 5 ชั่วโมง ด้วยไฟบ้าน 200 โวลต์ วิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 100 กิโลเมตร น้ำหนักตัวรถเพิ่มขึ้นจากรุ่นปกติราว 200 กิโลกรัม ทว่าด่านหินจริงๆ คือการทดลองวิ่งด้วยการบรรทุกของเต็มความจุ (เจนเนอเรชั่นที่ 6 น้ำหนักบรรทุกราว 350 กิโลกรัม) หรือใกล้เคียงกับการใช้งานจริงของลูกค้านั่นเอง

อย่าพลาดติดตามอัลบั้มรูปรถยนต์เด่น พริตตี้น่ารักๆ รวมถึงความเคลื่อนไหวในวงการรถยนต์ทั้งไทย และต่างประเทศได้ใหม่กับ Thaicarlover.com ครับ




 

Create Date : 21 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 21 กรกฎาคม 2554 8:14:47 น.
Counter : 2469 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.