ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

5 ข้อควรจำก่อนจอดรถ ทำแบบนี้อันตราย!!

เมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมา เราก็ใช้เวลาพักผ่อนตามอัธยาศัย เหมือนชาวบ้านทั่วไปที่ต้องการเวลาที่นอกจากทุ่มให้กับงานแล้ว ต้องทุ่มให้กับครอบครัวและเรื่องอื่นๆ ที่ทำให้เราได้เจอเรื่องประหลาดอย่างหนึ่งของคนใช้รถกันในปัจจุบัน ที่ไม่เคยนึกว่าจะเจอ

มีหลายคนโดยเฉพาะผู้ใหญ่รุ่นเดอะในวงการเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับการจราจรในสมัยนี้ว่า มันขาดสิ่งที่เรียกว่า "น้ำใจบนท้องถนน" และนำมาสู่เรื่องราวแห่งความขัดแย้ง ซึ่งบางครั้งก็มาจากต้นปัญหาเล็กๆ ที่หนึ่งในพฤติกรรมสุดแย่ในปัจจุบันนั้น ก็ยังไม่พ้นการจอดรถ

รถยนต์ถือเป็นสิ่งที่หามาด้วยความยากลำบาก บางคนอาจจะมีคนซื้อให้ หลายคนอาจจะได้มรดกตกทอดมาอีกที แต่ทั้งหมดนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่าการใช้รถจำเป็นต้องรู้จักดูแลรักษา ไม่ใช่เพียงแค่ขัดสี ทำความสะอาด หรือ แอร์เย็นเพลงเพราะเท่านั้น แต่มันยังหมายถึงความปลอดภัย ที่ต้องสอดส่องก่อนเดินจาก มิฉะนั้นการจอดรถแบบสุ่มสี่สุ่มห้า อาจเป็นบทเรียนราคาแพง ซึ่งวันนี้เรามี 5 ข้อแนะนำสำหรับใครที่ยังใหม่ในการใช้รถใช้ถนนมาฝาก และถือเป็นการทบทวนสำหรับพวกเราที่ใช้รถใช้ถนนกันอย่างเชี่ยวชาญด้วย

1. จอดในช่องถ้าเป็นไปได้ ที่ จอดรถนั้นไม่ว่าที่ไหนหรือที่ใดก็ตาม โดยมากแล้วจะมีการตีเส้นช่องจอดไว้เพื่ออำนวยความสะดวก และเมื่อรวมกับเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน อย่างเช่น กล้องมองถอยหลังนั้น ผนวกกับเซนเซอร์ ก็ช่วยให้ง่ายยิ่งขึ้น การจอดรถในช่องที่กำหนดนั้น ล้วนมีแต่ข้อดีอย่างปฏิเสธไม่ได้ ทั้งความเป็นระเบียบไปจนถึงความปลอดภัย ซึ่งเราควรจะจอดในช่องถ้าเป็นไปได้

2. จอดขวางต้องเข้า N และไม่ล็อคเบรกมือ ข้อ 2 นี้เป็นเรื่องที่ชวนหัวเสียกันประจำ ทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเจ้าของรถ ทั้งคนทำ และผู้ที่ถูกกระทำ ที่บางครั้งการทำให้คนอื่นเสียเวลาจากความไม่รับผิดชอบ ก็เป็นเรื่องราวกันมานักต่อนักแล้ว การจอดรถขวางคันอื่นนั้น บางครั้งเรายอมรับว่ามันเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ด้วยส่วนหนึ่งจากจำนวนรถ ที่มากขึ้นทุกวัน แต่หากจะขวางคนอื่นอย่าลืม!!! **** ต้องปลดเกียร์ว่าง หรือตำแหน่ง N ของเกียร์ออโต้ และไม่ควรดึงเบรคมือ***


3. ชิดที่สุดและพับกระจกข้าง ช่วยได้ บางครั้งเราก็ไม่เข้าใจว่า เทคโนโลยีที่ดีขึ้น อาจจะไม่ได้ช่วยทำอะไรให้คนมีจิตสำนึกขึ้นเลย หลายครั้งที่เราผ่านไปมาบนลานจอดรถมีความรู้สึกว่า รถหลายคันสามารถทำให้การจราจรคล่องตัวได้มากขึ้น เพียงแค่กดสวิทช์พับกระจกมองข้าง ซึ่งเป็นออพชั่นของรถหลายรุ่น โดยเฉพาะรถเก๋ง ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการสัญจร อีกหน่อย ซึ่งเมื่อบวกกับการจอดชิดทางก็จะทำให้มีพื้นที่อีกมากถึง 10-15 เซนติเมตร ซึ่งช่วยให้คนอื่นผ่านไปได้ง่ายขึ้น ***ดังนั้นถ้ารถคุณมีปุ่มพับกระจกข้าง ควรทำทุกครั้ง** เมื่อจอดรถให้ติดเป็นนิสัย

4.หัวมุม-ทางแคบ ที่นี้อโคจร หลายคนทั้งที่รู้ก็รู้ว่าที่ๆ ตัวเองทำการเสียบรถจอดเข้าไปนั้นไม่ปลอดภัย แต่ก็ยังจะทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง!! หัวมุม ทางโค้ง และ ทางแคบ ซึ่งพื้นที่เหล่านี้ล้วนเป็นพื้นเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุอย่างมาก ที่นอกจจะทำให้เสียเวลา เสียทรัพย์แล้ว คุณไม่ควรจะไปโทษรถคันที่มาชน แต่ควรจะโทษตัวเองที่จอดรถเกะกะกีดขวางการจราจร ในที่ซึ่งไม่สมควรจะจอด

5. ที่คนพิการ..จอดกันทำไมมิทราบ เมื่อ ไม่นานมานี้เรามีโอกาสไปยังโรงหนังดังย่านแครายที่ที่จอดรถนั้นน้อยนิดเมื่อ เทียบกับคนที่เข้ามาใช้บริการ แต่ถ้านับว่าอะไรเป็นพฤติกรรมที่แย่ที่สุดในการจอดรถ คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่า การจอดรถในที่คนพิการที่ห้างจัดเตรียมไว้ ... จริงอยู่คุณอาจจะมีเงินที่พอจะฟาดหัวใครก็ได้ แต่ก็ควรเคารพสิทธิคนพิการบ้าง ซึ่งแม้พวกเขาอาจจะมีจำนวนไม่มากนัก แต่รถคนพิการในปัจจุบัน ก็มีการใช้รถใช้ถนนอยู่ ซึ่งบางครั้ง ที่จอดสำหรับคนพิการไม่ได้หมายความว่ารถคันนั้นต้องมีคนพิการขับ แต่ยังรวมถึงรถที่มีผู้โดยสารหรือคนขับที่อาจเดินเหินไม่สะดวก ซึ่งหากคุณอยู่ในภาวะดังกล่าวเช่นแฟนขาหัก หรือคุณย่านั่งรถเข็น ก็สามารถไปจอดตรงที่คนพิการได้ โดยสะกิดพี่ยามแล้วให้เหตุผลไป ซึ่งพวกเขาก็พร้อมบริการอย่างเต็มที่

เพียง 5 ข้อ นี้ การจอดรถของคุณก็จะปลอดภัยขึ้น แล้วไม่ต้องมานั่งกังวลใจไปช๊อปให้สบาย ที่นอกจากนี้ ยังช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่ามากขึ้นว่ากลับมาจะไม่เจอ กระดาษโพสท์อิท เขียนต่อว่าหรือ รถเป็นรอยขีดยาว ที่จะทำให้เสียอารมณ์

การจอดรถนั้น ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เพราะทุกครั้งที่คุณจากรถไป จะไม่มีทางทราบว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับมันบ้าง ซึ่งทางที่ดีเราควรเริ่มต้นในการป้องกัน หลีกเลี่ยงความเสี่ยง ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ และมันทำให้รถของคุณนั้นปลอดภัยจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน




 

Create Date : 16 มิถุนายน 2554    
Last Update : 16 มิถุนายน 2554 8:34:44 น.
Counter : 1366 Pageviews.  

ถอดรหัส Tata Nano เจ้าเล็กพริกขี้หนูแดนภารตะ..ที่กำลังจะมาไทย

ถ้าพูดถึงรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี แล้วคงไม่มีใครปฏิเสธว่าเมื่อช่วงหลายปีก่อนนั้น คนไทยก็ไดุคุ้นเคยกับรถยนต์ยี่ห้อ Daihatsu ที่นำ Mira เข้ามาจำหน่ายในไทย และได้รับความนิยมอย่างมากตามความเล็กน่ารักประกอบกับราคาน้ำมันในช่วงนั้น ที่มาถึงวันนี้เรากำลังจะได้พบรถเล็กรุ่นใหม่ที่มีกำหนดลงตลาดไทยปลายปี หรือ อย่างช้าคือต้นปีหน้า

Tata ชื่ออาจจะเหมือนนักร้องสุดฮิพที่คนไทยชื่นชอบ แต่นี่คือชื่อยี่ห้อรถยนต์จากประเทศอินเดียที่มาแลนดิ้งตลาดเมืองไทยได้พักใหญ่แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เปิดตัวรถยนต์กระบะพาณิชย์ Tata Xenon ที่โดนแซวกันว่าขับคันนี้ระวังพี่จ่าจับ กับคอนเซปต์ "กระบะฉีกกฏ"

Tata Nano

คำขำๆที่เล่าสู่กันฟังนี้อาจจะทำให้ Tata ได้ไอเดียใหม่สุดบรรเจิดในการรุกตลาดรถยนต์เมืองไทย ที่วันนี้ค่ายรถยนต์แดนชมพูทวีปก็แบไต๋ในการเข้าสู่ตลาดรถนั่งที่เริ่มต้น ผ่านเจ้าตัวเล็กในกลุ่ม A Segment Subcompact car ที่ขายมาพักใหญ่ในอินเดีย และก็ใกล้แล้ว ที่จะลงตลาดเมืองไทย

Tata Nano ชื่อนี้ทำให้เราหลายคนหูกระดิกมาแล้วหลายรอบ หลังเมื่อช่วงปี 2009 เปิดตลาดด้วยราคาเพียง70,700 บาท ตามอัตราแลกเปลี่ยนขณะนั้น ที่ได้รับการตั้งราคาขายไว้เพียง 100,000 รูปีเป็นค่าตัวสำหรับเจ้าจิ๋วคันนี้

Tata Nano

ตัวรถนั้นมีขนาดเพียง 3099 ม.ม. กว้าง 1495 ม.ม. สูง 1652 ม.ม. มีฐานล้อ 2230 ม.ม. ทั้งหมดตอบสนองด้วยความสามารถในการบรรทุกผู้โดยสาร 4 คน โดยมีถังน้ำมันจุเพียง 15 ลิตร และมีน้ำหนักพิกัดรวมเพียง 600 กิโลกรัม เบาสุดๆ และมันต้องมาพร้อมความประหยัดสุดๆด้วย

ใต้รถด้านหลังเป็นที่อยู่ของหัวใจขนาด 624 ซีซี แบบ 2 สูบ ตอบสนองเป็นสูงสุด 35 แรงม้า พร้อมแรงบิดที่ไม่มากมายเพียง 48 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ 4 จังหวะเดินหน้า 1 จังหวะถอยหลัง แต่ถ้าถามความประหยัดสามารถทำได้มากถึง 30 กิโลเมตร/ลิตร เป็นค่าเฉลี่ย ที่มีการทดสอบในต่างประเทศพบว่า 0-60 กม/ชม. ใช้เวลา 12.6 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุด ถ้าจะเดินทางไกล อาจต้องทำใจเพราะไปได้ไวแค่ 105 กม./ชม.

Tata Nano

ด้านสมรรถนะการขับขี่ก็อาจต้องออกแรงกันสักนิด แต่อาจไม่เป็นปัญหานักกับรถเล็ก เพราะมันไม่มีพวงมาลัยพาวเวอร์ มาให้จากโรงงาน แต่วงเลี้ยวของมันนั้นก็แคบเพียง 2 เมตร ที่การห้ามล้อก็วางใจได้ด้วยชุดเบรคหน้า ดิสก์หลังดรัม เกาะถนนแน่นกับช่วงล่างแม็คเฟอร์สันสตรัทตามสมัยนิยม ส่วนด้านหลังใช้กึ่งอิสระ ที่ในอินเดียมาพร้อมล้อขนาด 12 นิ้ว ส่วนรุ่นที่จะมาในบ้านเรานั้นยังไม่มั่นใจ

ในห้องโดยสาร Tata ไม่ตอบอะไรมากมาย เพราะนี่เป็นรถเล็กประหยัดน้ำมันแบบสุดๆ ที่ในห้องโดยสารมาพร้อมพวงมาลัย 2 ก้าน ในรุ่นธรรมดา ที่กระจกไฟฟ้าถูกวางสวิทช์ไว้ที่คอนโซลกลาง ในขณะที่แผงข้างประตูอาจดูโบราณเล็กน้อยแต่ทันสมัยตามหลัก "สัจจะวัสดุ" ซึ่งในรุ่นที่จำหน่ายในอินเดียไม่มีแอร์ และวิทยุ แต่ในรุ่นที่มาไทย มีการออกมายืนยันแล้วว่าจะมีมาให้แน่นอน

Tata Nano

Tata Nano นี้ถือเป็นความหวังใหม่ของค่ายรถยนต์แดนภารตะในการรุกตลาดยานยนต์ไทย ที่จะเปิดราคาที่ 2.75 แสน ซึ่งอาจจะทำให้ใครหลายคนสนใจเจ้ารถเล็กคันนี้ แต่จงมองด้วยว่า รถที่ซื้อมาเหมาะใช้ในแบบที่คุณต้องการหรือไม่ เพราะ ท้ายสุดแล้ว บางทีคุณอาจต้องการอะไรที่มากกว่านั้น


Tata Nano นี้มีข่าวมาหลายครั้งถึงการเตรียมจะมาไทย แต่ดูเหมือนครั้งนี้จะจริงมากขึ้น หลังมีการยืนยันวิ่งทดสอบในประเทศไทยจากหลายคน แต่การมาครั้งนี้จะทำให้คนสนใจได้มากน้อยเพียงใด เพราะ ปัจจุบันอีโค่คาร์ก็กำลังได้รับความนิยมอยู่




 

Create Date : 15 มิถุนายน 2554    
Last Update : 15 มิถุนายน 2554 8:37:37 น.
Counter : 1419 Pageviews.  

รถ Audi A7 sportback สุดสวย

หวังว่าสักวันคงจะมีขายในประเทศไทย ;)



















































































 

Create Date : 14 มิถุนายน 2554    
Last Update : 14 มิถุนายน 2554 8:12:14 น.
Counter : 2623 Pageviews.  

TSL เสือปืนไวเผยโฉม New SLK250

"ทีเอสแอล" สวมบทเสือปืนไว เผยโฉม สปอร์ท SLK 250 ใหม่ล่าสุดพร้อมอุปกรณ์แต่งครบเครื่อง เอาใจแฟนพันธ์แท้ก่อนใคร เผยเป็นสุดยอดนวัตกรรมใหม่ระบบหลังคาแก้ว Magic Sky Control สามารถปรับระดับความเข้มของกระจกตามความเข้มของแสง และ พับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า ขนาดเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร 4 สูบ พร้องเทอร์โบชาร์จเจอร์ให้กำลังสูงสุดที่ 204แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ เคาะราคาเริ่มต้น 4.59 ล้านบาท

นางสาวสุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายสุดยอดยนตรกรรมชั้นนำจากต่างประเทศ เปิดเผยว่า "บริษัทได้นำเข้ารถเมอร์เซเดสเบนซ์ สปอร์ท ใหม่ล่าสุด รุ่น SLK- R 172 ซึ่งเป็นเจเนเรชั่นใหม่ล่าสุด เป็นรายแรกในไทย มาพร้อมกับอุปกรณ์ตกแต่งและนวตกรรมใหม่ๆ ของเทคโนโลยี่อีกเช่นเคย โดยเฉพาะหลังคา Magic Sky Control สามารถปรับความเข้มกระจกหลังคาให้แปรเปลี่ยนตามสภาพแสงภายนอกที่ตกกระทบ เพื่อป้องกันมิให้ความร้อนและแสงแดดมาทำลายสุนทรียภาพในการขับขี่ อีกทั้งหลังคาพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่บริษัทนำมาให้คนไทยได้มีโอกาสได้สัมผัสและเป็น เจ้าของก่อนใคร"


เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1,796 cc แรงม้าสูงสุด 204 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 310 นิวตันเมตร ที่ 2,000-4,300 รอบต่อนาที ความเร็วสูงสุดที่ 241 กม./ชม. ระบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G-TRONIC) พวงมาลัยมัลติฟังชั่น 3 ก้าน หุ้มด้วยหนังแท้ Nappa ปรับระดับได้ 4 ทิศทาง ช่วยเพิ่มความสบายในขณะขับขี่มากขึ้น พร้อมระบบเทคโนโลยีครบครัน

ห้องโดยสารจะตกแต่งด้วยวัสดุที่มีคุณภาพและหรูหรา คอนโซลกลางจะแต่งด้วยอะลูมิเนียม ช่องลมแอร์จะเป็นรูปทรงกลมเมทัลลิกทั้ง 4 ชุด ซึ่งเป็นอุปกรณ์ติดตั้งโดยเฉพาะ ส่วนหลังคาเปิดประทุนนั้นจะมีโครงสร้างเบาเป็นหลังคาโลหะสีเดียวกับตัวรถ ทำงานเปิดปิดรวดเร็วเพียงไม่กี่วินาที ซึ่งล้วนแต่เป็นเสน่ห์ของ SLK สปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุด และเป็นรถที่เหมาะกับผู้บริหารที่ชอบขับรถเองหรือผู้ที่ชอบความหรูหราแต่มี ใจสปอร์ต"


พร้อมกันนี้ TSL ได้จัดงานแนะนำ SLK 250 ใหม่ล่าสุดตั้งแต่วันนี้ที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า วันนี้ถึง 14 มิ.ย.นี้ ณ หรือแวะมาชมและทดลองขับได้ที่ทีเอสแอลทั้ง 3 สาขา แจ้งวัฒนะ สาทร และทองหล่อ หรือจะโทรมานัดหมายล่วงหน้าได้ที่ ทีเอสแอล คอลเซ็นเตอร์ โทร 02-269-9999




 

Create Date : 13 มิถุนายน 2554    
Last Update : 13 มิถุนายน 2554 8:14:46 น.
Counter : 1171 Pageviews.  

วิจัยมะกันเผยผู้ใช้ chevrolet- Nissan อาจถึงคาดไว

ใครๆ ก็คงอยากมีชีวิตอยู่นานๆ คงเป็นอะไรที่เราพอจะบอกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่พูดถึงความปลอดภัยจากการเดินทางที่รถส่วนตัวเป้นคำตอบของหลายคน ทำให้เกิดคำถามหนึ่งที่ทำให้สงสัยว่ารถเหล่านั้นปลอดภัยจริงหรือไม่

ทุกวันนี้ แม้จะมีการทดสอบการชนเพื่อยกระดับความปลอดภัยให้มากขึ้น แต่ยังปฏิเสธไม่ได้ว่ามันไม่สามารถการันตีได้ในทุกกรณี และจากการศึกษาเมื่อเร็วๆนี้ของ สถานบันประกันภัยเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน หรือ IIHS ให้สหรัฐได้เผยผลที่น่าตกใจ เมื่อมีการระบุว่า ผู้ใช้รถยนต์ยี่ห้อ Chevrolet และ Nissan อาจถึงคาดไวกว่าที่คิด

การศึกษานี้มีขึ้นเพื่อมองถึงปัญหาการเสียชีวิตในอุบัติเหตุทางถนนที่มีบ่อยครั้งในสหรัฐ ภายใต้หัวข้อ Dying In Crash ซึ่งมีการเผยผลการวิจัยออกมาเมื่อวานนี้ (09 มิ.ย.) ดดยจากผลการวิจัย พบว่ารถที่มีโอกาสรอดชีวิตจากอุบัติเหตุน้อยที่สุดคือ Nissan 350 Z รองลงเป็นกระบะฟูลไซส์ Nissan Titan ในขณะที่อันดับ 3 เป็น Chevrolet Aveo

อย่างไรก็ดีหากมองตามรถรุ่นที่มีจำหน่ายในบ้านเรานั้น ยังมี Nissan Versa หรือที่บ้านเราเรียกว่า Tida ในรุ่น 4 ประตู ที่รั้งอยู่ในอันดับที่ 10 ที่ตามติดมาด้วย Chevrolet Corolado exteded cab ที่ยัง ford ranger extended cab และ Toyota yaris ซึ่งรถที่กล่าวถึงทั้งหมดเป้นรถรุ่นที่จำหน่ายในปี 2006-2009 เท่านั้น

ในด้านรถที่ถ้าเกิดการชนแล้วมีโอกาสรอดชีวิตสูงนั้น อันดับที่ 1 เป็น Audi A6 ตามมาด้วย Mercedes Benz E-class รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ และ มินิแวนจากค่ายสามห่วง Toyota sienna ซึ่งเมื่อมองตามรายชื่อกับรถที่มีจำหน่ายในบ้านเราก็ยังมี Honda CR-V ,Lexus RX400h และ Honda Accord

ด้าน นาง แอนนี่ แม็คคาร์ รองประธานอาวุธโสทางด้านการวิจัย เปิดเผยว่า รถที่มีอัตราการเสียชีวิตของผู้ขับขี่และผู้โดยสารต่ำนั้น คือรถยนต์กลุ่มรถอเนกประสงค์ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากความสุงของเป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งก่อนหน้านี้รถกลุ่มดังกล่าวอาจจะไม่ปลอดภัยนัก แต่เมื่อค่ายรถสามารถทำให้รถมีสเถียรภาพการขับขี่มากขึ้น ก็ทำให้มันปลอดภัยมาก

ทั้งนี้การวิจัยในหัวข้อดังกล่าวนี้เกิดขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลตั้งแต่ปี 2006-2009 โดยใช้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจาก สำนักงานความปลอดภัยท้องถนนสหรัฐหรือ NHTSA ซึ่งส่วนหนึ่งก็มีการสรุปว่ารถยนต์ที่มาพร้อมระบบควบคุมการทรงตัวจะมีอัตราสูญเสียต่ำกว่า


แน่นอนเราขับรถก้ย่อมต้องการความปลอดภัย แต่ถ้าสังเกตจะพบว่า อันดับ 1 ของรถที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ 350Z นั้นเป็นรถสปอร์ต เช่นเดียวกับกระบะที่เป้นรถเครื่องยนต์ v8 ซึ่งหมายความยิ่งเราขับรถเร็วโอกาสเกิดอุบัติเหตุก้มีมากขึ้น เพราะฉะนั้นจงใช้ถนนด้วยความระมัดระวังกันครับ




 

Create Date : 12 มิถุนายน 2554    
Last Update : 12 มิถุนายน 2554 11:11:06 น.
Counter : 1111 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.