ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

Suzuki Ertiga ตัวแทน APV มือปราบ MPV รุ่นเล็ก

อาจจะไม่ใช่รถยนต์ที่เป็นที่นิยมในบ้านเราอะไรมากมายนัก แต่ความอเนกประสงค์ของรถยนต์ประเภท MPV นั้น ก็สร้างความน่าสนใจในตัวมันเองให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้นในตลาด โดยเฉพาะ รถกลุ่มคอมแพ็คนั้นได้รับความสนใจไม่มากก็น้อย

ที่ผ่านมา Suzuki นับว่าเป็นค่ายรถยนต์รายหนึ่งที่ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อตลาดกลุ่มนี้ เมื่อช่วง 2 ปีที่แล้วที่แนะนำ Suzuki APV รถนั่งอเนกประสงค์ที่เข้ามาแข่งเจ้าตัวเล็ก Toyota Avanza และมันก็รับการตอบรับดีจากคนมีครอบครัวพอตัว และเมื่อไม่นานมานี้มีคนจับภาพรถอเนกประสงค์นิรนามได้ในอินเดียจนเปHนที่มาของคำถามชวนสงสัย เพราะมันตีตรา Suzuki

มินิแวนปริศนาที่ถูกเผยแพร่นี้ มีการกล่าวกันว่า มัน มีชื่อว่า Suzuki Etirga ที่พัฒนาในแพลทฟอร์มินิแวนใหม่ล่าสุด RIII ที่เปิดเผยออกมาเมื่อช่วงปี 2010 กับรถ Suzuki RIII Concept ที่ออกมาชิมลางเมื่อช่วงปี 2010 เพื่อดูกระแสตอบรับจากกลุ่มลูกค้า

การพัฒนา Suzuki Etirga นั้นมุ่งเน้นในการตอบสนองแก่กลุ่มลูกค้าในอินเดีย แต่ดูเหมือน ความอเนกประสงค์ของรถรุ่นนี้น่าจะมีดีพอไปจำหน่ายยังที่อื่น เมื่อ นาย แดวี่ ทุยลัน อำนวยการด้านการตลาดแห่ง PT Suzuki Indomobil เตรียมที่จะนำรถรุ่นนี้ออกวางจำหน่ายในประเทศอินโดนีเซีย ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของ ปีหน้า และมีการระบุคร่าวด้านราคาว่ามันจะมีราคาจำหน่ายที่สูสีกับคู่แข่ง

ทั้งนี้ Suzuki Etirga ในเวอร์ชั่นที่จะวางจำหน่ายในอินเดียนั้น จะมาพร้อมเครื่องยนต์ ขนาด 1.4ลิตร ให้พละกำลังขับเคลื่อน 95 แรงม้า และสามารถเรียกแรงบิดได้สูงถึง 13 กิโลกรัมเมตร และนอกจานี้ มีการระบุว่า มันอาจจะมาพร้อมเวอรืชั่นเครื่องยนต์ดีเซล ที่สามารถตอบสนองได้มากถึง 89 แรงม้า ที่ยกมาจาก suzuki SX-4 ทั้งหมดมาพร้อมระบบเกียร์อัติโนมัติ 5 สปีดที่ยังมี บเ 3แถว ภายใน สีเบจและเบาะ 3 แถว ไปจนถึง ABS และ ถุงลมนิรภัยคู่หน้าด้วย




 

Create Date : 20 ตุลาคม 2554    
Last Update : 20 ตุลาคม 2554 7:48:44 น.
Counter : 2220 Pageviews.  

6 เรื่องไม่ควรทำ เมื่อขับลุยน้ำท่วม

อ่วมไปตามกันเลยทีเดียวสำหรับ วิกฤตการณ์น้ำท่วมระดับชาติครั้งใหญ่ในรอบหลายปี จนบางคนนั้นบอกว่า นี่เป็น "มหาภัยสึนามิน้ำจืด" ที่ทำให้หลายคนนั้นต้องตกอยู่ภายใต้ภัยพิบัติอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่หวั่นอันตรายในการเข้าไปช่วยพื้นที่ประสบภัย

เมื่อก่อนหน้านี้ เราเคยพูดถึงการขับรถลุยน้ำท่วมไปแล้วกับข้อปฏิบัติที่ควรจะทำเมื่อคุณต้องลุยเส้นทางน้ำท่วม แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังมีหลายคนที่ยังไม่ค่อยเข้าใจในการขับรถลุยน้ำ แต่เอาเป็นว่าถ้าคุณกำลังต้องผ่านทางลุยน้ำท่วมระดับสูง สิ่งเหล่านี้คือข้อห้ามระหว่างขับขี่ในน้ำท่วม

ข้อปฏิบัติขับรถลุยน้ำท่วม

1.ห้ามขับรถเร็ว เส้นทางน้ำท่วมนั้นนับเป็นอุปสรรคที่สำคัญที่ท้าทายอย่างมากสำหรับนักขับ และสิ่งที่สำคัญเมื่อคุณใช้เส้นทางที่เต้มไปด้วยน้ำนั้นคือห้ามขับรถเร็ว เหตุผลที่เราไม่แนะนำให่คุณขับรถเร็วนั้น ก็เพราะ 1.น้ำอาจจะกระเด็นใส่คนอื่นๆ หรือ เพื่อนร่วมทาง ซึ่งคุณอาจจะโดนสาบแช่งตามหลังได้ และ 2.เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เนื่องจากน้ำท่วมนั้น อาจทำให้การเบรกให้หยุดนั้นมีประสิทธิภาพลดลง เช่นเดียวกับระยะเบรค ที่เกิดจากการสัมผัสผิวถนนนั้นทำได้ยากขึ้น ทำให้ลื่นยิ่งขึ้น

2.อย่าเร่งเครื่องแรง ในการลุยพื้นทีน้ำท่วมนั้น ตามปกติของการลุยอุปสรรคทั้งหลายนั้น เรามักจะใช้กำลังเครื่องเดินเบามากกว่าใช้การเร่งเครื่องเพื่อผ่านอุปสรรค ซึ่งการเดินเบานี้เราเรียกว่า Walking Speed ซึ่งตามหลักการทำงานของเครื่องยนต์แล้ว ยิ่งเราเร่งเครื่องมาก เครื่องยนต์ก็จะยิ่งต้องการอากาศมากเพื่อไปใช้ผสมกับอัตราการจ่ายน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และถ้าคุณลุยน้ำในระดับสูง แล้วเร่งเครื่องรอบสูงผลก็คือ เครื่องยนต์อาจจะดูดน้ำเข้าไป และท้ายที่สุดเครื่องยนต์อาจจะดับได้

ข้อปฏิบัติขับรถลุยน้ำท่วม

3.พยายามอย่าใช้เบรก เบรกรถนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญในการเดินทางและในพื้นที่น้ำท่วมนั้นพยายามลดการใช้เบรค แต่ให้ใช้แรงเฉื่อยของเครื่องยนต์ในการหยุดรถหรือชะลอความเร็ว ยิ่งเมื่อรวมกับมวลของน้ำแล้วนั้น เราก็จะพบว่า การลดความเร็วในพื้นที่น้ำท่วมนั้นสามารถทำได้ง่าย แม้ไม่ใช้เบรค ที่สำคัญอย่าวิ่งติดกับคันหน้า ควรเว้นระยะห่างสัก2 ช่วงคัน รถ เพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะ ในกรณีที่คันหน้าอาจจะเสีย เราจะได้ไม่ติดท่ามกลางสายน้ำ

4.พยายามอย่าใช้คลัทช์ คลัทช์นั้นเป้นตัวตัดต่อกำลังเคร่องยนต์ และ แม้คลัทช์จะเป็นอุปกรณ์ภายในที่อยู่ระหว่างท้ายเครื่องยนต์และชุดเกียร์ แต่ก ใครที่ขับรถเกียร์ธรรมดาในน้ำท่วมแล้วคิดจะต้องย้ำคลัทช์เพื่อให้ให้รถดับนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง เนื่องจากทุกครั้งที่ย้ำคลัทช์ เครื่องจะเร่งแรงเพิ่มขึ้นทำให้ เครื่องอาจจะดูดน้ำเข้าไปได้ และอีกประการคือ น้ำมีแรงดันซึ่งอยู่ที่ล้อ ยิ่งน้ำลึก ยิ่งทำให้ยากต่อการหมุน ซึ่งหมายถึงคลัทช์จะต้องรับแรงในการเชื่อมต่อมากขึ้นจากเดิม ซึ่งผลคือสามารถทำให้คลัทช์รถนั้นไหม้ได้ ดังนั้นทางที่ดีเปลี่ยนเกียร์ที่เหมาะสมก่อนลงน้ำ ครับ

ข้อปฏิบัติขับรถลุยน้ำท่วม

5.อย่าสร้างคลื่นน้ำ คลื่นน้ำคือตัวอันตรายที่สำคัญที่สุดในการทำให้รถนั้นสามารถดับกลางอากาศได้ระหว่างลุยน้ำท่วม และนับเป็นเรื่องสำคัญมากๆ การที่เราวิ่งรถในพื้นที่น้ำท่วมนั้น เราไม่ปฏิเสธว่าเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการทำให้ไม่เกิดคลื่นไม่ได้ แต่เราสามารถรถผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้ ไม่ว่ากับรถตัวเอง หรือรถคันอื่นๆก็ตาม และทางที่ดี เมื่อพบว่ามีรถสวน ก็ให้ลดความเร็วลง ถ้าเห็นว่ารถคันที่สวนมามาเร็ว ลิฟไฟส่งสัญญาณสักนิด ก็ดีใช่น้อย แต่หาก รถอีกคันมาแรงคืล่นมาสูงมาก ให้เราเร่งความเร็วเพิ่ม เพื่อทำให้เกิดคลื่นปะทะ ก่อนที่หน้ารถเราจะผ่านคลื่นน้ำนั้น อย่าเหวี่ยงรถหนี เพราะ คลื่นสามารถดันรถ อาจทำให้คว่ำได้โดยเฉพาะรถยกสูง

6.อย่าเหวี่ยงรถกะทันหัน หลายครั้งที่เราขับรถในพื้นที่น้ำท่วมนั้น เราไม่ปฏิเสธว่า อาจจะมีเซอร์ไพร์ส กับหลุมที่เกิดขึ้นจากการกัดเซาะของน้ำ แต่ถ้าคุณเห็นในระยะกระชั้นชิดแล้วเตรียมที่จะหักหลบหนี อย่าทำโดยเด็ดขาด เพราะพื้นถนนมีแรงยึดเกาะต่ำ ยิ่งถ้าคุณมาเร็วมาก อาจจะเป็นต้นเหตุทำให้รถคว่ำเอาได้ง่ายๆ

ทั้ง 6 ข้อนี้เป็นคำแนะนำจากเราที่อยากให้ปฏิบัติ เมื่อขับรถลุยพื้นที่น้ำท่วม ซึ่งสิ่งหนึ่งที่สำคัญในการขับรถลุยน้ำท่วมนั้น คือการเชื่อมั่นในรถ และเชื่อมั่นในตัวเอง อย่าหวั่นวิตกกับอุปสรรคบนเส้นทางข้างหน้าครับ




 

Create Date : 19 ตุลาคม 2554    
Last Update : 19 ตุลาคม 2554 7:59:45 น.
Counter : 1571 Pageviews.  

“อินโนวา ใหม่”คิดแค่อเนกประสงค์...จบ!

ประสบความสำเร็จงดงาม สำหรับโครงการไอเอ็มวี (IMV Project -Innovative International Multi-Purpose Vehicle) ที่เปิดตัวในปี 2547 พร้อมรถยนต์ใหม่ 3 รุ่น ประกอบด้วยปิกอัพ “ไฮลักซ์ วีโก้” รถอเนกประสงค์สไตล์เอสยูวี “ฟอร์จูนเนอร์” และเอ็มพีวี “อินโนวา”

โดยโปรเจกต์นี้ถือเป็นโมเดลในการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจโตโยต้าในภูมิภาคอาเซียน และสร้างเม็ดเงินผลกำไรกลับไปยังโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น แบบเป็นกอบเป็นกำ...แน่นอนว่าไทยถือเป็นฐานผลิตสำคัญ ที่ช่วยผลักดันให้ดอกผลผลิบานตามแผน

ในแง่โปรดักต์ที่ใช้พื้นฐานการผลิตร่วมกัน หรืออิงแชสซีส์-ชิ้นส่วนของปิกอัพ “ไฮลักซ์ วีโก้” ต่อยอดพัฒนา และแยกขายตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละประเทศ ส่งผลโดยตรงต่อต้นทุนต่อหน่วยการผลิตที่คุ้มสุดคุ้ม

…คนไทยนิยมปิกอัพก็ว่ากันไป แต่ถ้าเป็นอินโดนีเซียแล้ว ต้องอเนกประสงค์แบบเอ็มพีวีเท่านั้นถึงจะโดนใจ (ใช้พื้นฐานอะไรก็สุดแล้วแต่)

อย่างไรก็ตามคล้อยหลังการเปิดตัว “ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์” และ “ฟอร์จูนเนอร์” บิ๊กไมเนอร์เชนจ์ไม่นาน โตโยต้าจัดการส่ง“อินโนวา ใหม่” ออกมาตามคิวปฎิบัติของรถโครงการไอเอ็มวี

“อินโนวา ใหม่” นำเข้าทั้งคันจากประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งรุ่นไมเนอร์เชนจ์นี้ ปรับเปลี่ยนเพิ่มความสดใหม่ในหลายๆจุด ไล่ตั้งแต่ ฝากระโปรง โคมไฟหน้า กระจัง กันชน ไฟตัดหมอก ด้านหลังโฉบเฉี่ยวด้วยสปอยเลอร์หลังคา ปรับรายละเอียดของโคมไฟท้ายใหม่ (กรอบเดิม) และเพิ่มทริมโครเมียมเหนือแผ่นป้ายทะเบียนให้ดูโดดเด่น คล้ายกับฟอร์จูนเนอร์ (ทีมดูแลโปรเจกต์ทีมเดียวกัน) พร้อมล้ออัลลอยด์ 15 นิ้วลายใหม่

ภายในอารมณ์เดียวกับฟอร์จูนเนอร์ ทั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันวงใหม่ แผงควบคุม เรือนไมล์ คันเกียร์ ปุ่มต่างๆปรับให้ทันสมัย แต่ต่างกันตรงสีของลายไม้ ด้านชุดบันเทิงในรุ่นท็อป 2.0Vจัดระดับเครื่องเล่น DVD MP3หนึ่งแผ่น ช่องต่อ USB AUXระบบบลูทูธเชื่อมโทรศัพท์ พร้อมจอทัชสกรีน LCD ด้านหน้าขนาด 6.1 นิ้ว

นอกจากนี้ยังฝังจอ LCD ขนาด 10.2 นิ้วไว้บนหลังคา ขับพลังเสียงด้วยลำโพง 6 ตัว และเย็นฉ่ำตลอดการเดินทางด้วยช่องแอร์คู่ เพื่อความสุนทรีย์สำหรับผู้โดยสารแถว 2 และ3





สำหรับการเข้า-ออกห้องโดยสารขึ้นลงสบายระดับเอ็มพีวีทั่วไป และไม่ถึงกับปีนป่ายเหมือนฟอร์จูนเนอร์ ในตำแหน่งผู้ขับทัศนวิสัยด้านหน้ากว้างไกล แต่ด้านหลังบอดแคบตามโครงสร้าง ต้องอาศัยการมุมมองกระจกข้างเสริมช่วย ขณะที่ผู้โดยสารแถวสองยืดแข้งขาสบายเบาะหนังนั่งนุ่มรองรับได้ดี ส่วนเบาะนั่งแถวสามอาจจะเหมาะกับเด็กน้อยที่มีความคล่องตัวมากกว่า

แต่กระนั้นกรณีไม่มีผู้โดยสารเบาะแถวสามสามารถพับเกี่ยวเก็บขึ้นไปด้านข้างเพื่อเพิ่มพื้นที่สำภาระได้เหมือน ฟอร์จูนเนอร์ ซึ่งประเด็นนี้ผู้เขียนมองว่าโตโยต้าเล่นง่ายไปนิด

ในส่วนของความบันเทิงต่างๆระหว่างการขับขี่ ถือว่าโอเคนะครับ ยิ่งมีช่องเสียบ USB ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น ส่วนการเล่นหนังแผ่น DVD จอภาพคมชัดพอสมควรสำหรับผู้โดยสารแถว 2 และ3 ขณะที่จอด้านหน้าหมดสิทธิ์ดูเพราะคุณต้องดึงเบรกมือเท่านั้นภาพถึงจะแสดงให้เห็น

ขุมพลังสำหรับ“อินโนวา ใหม่” มีเฉพาะเบนซินเท่านั้น ส่วนดีเซล 1KD ที่เคยวางในรุ่นเก่ายังไม่มีแผนทำตลาด โดยเครื่องยนต์ 1TR-FE 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ขนาด 1998 ซีซี ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไร ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 182 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังสู่ล้อหลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ผู้เขียนได้อินโนวา รุ่น 2.0V (ราคา1.079 ล้านบาท) เป็นพาหนะไปหัวหิน พร้อมผู้โดยสารรวม 4 คน บวกสำภาระ ต้องบอกว่าการตอบสนองการขับขี่ค่อนข้างอืด อัตราเร่งเนิบช้า ขณะที่รอบดีดสูงขึ้นแต่ตัวรถไม่ได้ขยับตามใจนัก จังหวะเร่งแซงต้องคิกดาวน์หวังพละกำลังฉุดดึง

แน่นอนว่าน้ำหนักรถ น้ำหนักคน สำภาระรวมแล้วร่วม2 ตัน ทำให้พลังเร่งมาช้า ทั้งย่านความเร็วกลาง ตลอดจนความเร็วปลายก็ไม่ได้ไหลแล่นฉิว

พวงมาลัยน้ำหนักเบา แต่คมกริบ อารมณ์เหมือนวีโก้ตัวแรก ทำให้การควบคุมช่วงการขับขี่ความเร็วสูงต้องใช้สมาธิพอสมควร 100-120 กม./ชม. มือต้องจับพวงมาลัยแน่น กำเครียดพอสมควร

โครงสร้างแบบบอดี้ออนเฟรม พร้อมปรับช่วงล่างให้นุ่มขึ้น ลดความกระด้างลงแบบรู้สึกได้ ซึ่งการนั่งในตำแหน่งผู้ขับพร้อมผู้โดยสารให้การรองรับขับสบายพอสมควร แต่ในส่วนของผู้โดยสารแถวสองจะรับรู้ถึงการโยกโยนในจังหวะทางตรง และเหวี่ยงแกว่งช่วงเข้าโค้งอยู่มากโข

ในส่วนของเบรกหน้าดิสก์ หลังดรัม ปรับประสิทธิภาพดีขึ้น ซึ่งผู้เขียนพอใจทั้งจังหวะและระยะเบรก ที่ตอบสนองน้ำหนักการกดแป็นเบรก ให้การชะลอหยุดตามคาด

ด้านอัตราบริโภคน้ำมันหลังจากขับนอกเมืองเป็นหลัก ใช้ความเร็วเฉลี่ย 120 กม./ชม. หรือบางช่วงขับทางยาวๆ ผู้เขียนก็เพิ่มความเร็วขึ้นไปเกิน 140-160 กม./ชม.จนสุดท้ายได้ตัวเลข 9.0-9.5 กม./ลิตร

รวบรัดตัดความ... “อินโนวา ไมเนอร์เชนจ์” ขับเฉื่อย เอื่อยไม่เร่งรีบ ช่วงล่างปรับให้นุ่มนวลมากขึ้น ตอบสนองสภาพถนนเมืองไทย แต่ความกว้างขวางอเนกประสงค์ พร้อมออปชัน ถือเป็นจุดเด่นที่จัดให้ไม่ได้ขาดสำหรับรถครอบครัว...ปีนี้โตโยต้าตั้งเป้าขายอินโนวาประมาณ 4,000 คัน ซึ่งดูสถานการณ์แล้วน่าจะเกลี้ยงตามโควต้า












 

Create Date : 18 ตุลาคม 2554    
Last Update : 18 ตุลาคม 2554 8:26:28 น.
Counter : 1530 Pageviews.  

“รถยนต์ประสบอุทกภัย”บริษัทประกันชดเชยอย่างไร?!


สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในปี 2554 นี้นับเป็นครั้งที่รุนแรงและหนักที่สุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา

ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนจนทำให้หลายคนเครียดจัด แต่สิ่งหนึ่งที่จะสามารถช่วยเหลือและบรรเทาความเสียหายได้นั่นก็คือ การประกันภัยที่ได้ทำไว้ให้กับทรัพย์สินต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “รถยนต์” ซึ่งหากต้องได้รับความเสียหายจากวิกฤติอุทกภัย ความครอบคลุมของประกันภัยจะชดเชยได้มากน้อยแค่ไหน...?!?

จันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ให้ความรู้ว่า

สำนักงาน คปภ.มีความห่วงใยผู้ประสบอุทกภัยเป็นอย่างยิ่ง จึงเร่งให้บริษัทประกันภัยสำรวจความเสียหายเพื่อจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ประสบภัยได้ทันทีหลังน้ำลด โดยสถิติความสูญเสียทรัพย์สินด้านการประกันภัยจากความเสียหายสถานการณ์น้ำท่วมเบื้องต้นแบ่งเป็นความเสียหายต่อรถยนต์มีจำนวน 818 คัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 53,199,744.30 บาท จ่ายเต็มจำนวนเงินที่เอาประกันภัยแล้ว 1,878,388.60 บาท ซ่อมแซมรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่าเงินที่เอาประกันภัย 5,826,981.08 บาท อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำท่วมยังไม่คลี่คลาย บริษัทประกันจึงไม่สามารถเข้าไปประเมินความเสียหายได้ทั้งหมด ต้องรอสรุปตัวเลขหลังน้ำลดต่อไป

ทั้งนี้ ผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จะได้รับความคุ้มครองจากประกันภัย แบ่งเป็นประเภท การประกันภัยเกี่ยวกับบุคคล

คือ 1. การประกันชีวิต คุ้มครองการเสียชีวิตทุกกรณี (รวมถึงการเสียชีวิตจากภัยน้ำท่วม) 2. การประกันภัยอุบัติเหตุ ส่วนบุคคล คุ้มครองกรณีเสียชีวิตเนื่องจากการจมน้ำหรือถูกน้ำซัดจมหายไป 3. การประกันสุขภาพ คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วยจากเหตุการณ์น้ำท่วม สำหรับ การประกันภัยเกี่ยวกับทรัพย์สิน (บ้าน ที่อยู่อาศัย สถานประกอบการ) คือ 1. การประกันภัย คุ้มครองผู้ที่ได้ทำประกันอัคคีภัย และ ’ต้องซื้อภัยคุ้มครองภัยน้ำท่วมเพิ่มเติมไว้“ 2. การประกันความเสี่ยงทรัพย์สิน คุ้มครองผู้ที่ได้ทำประกันภัยความเสียหายทรัพย์สิน ซึ่งให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินที่เอาประกันอันเกิดจากภัยต่าง ๆ รวมถึงน้ำท่วมด้วย 3. การประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก คุ้มครองกรณีผู้ประกอบการต้องการปิดกิจการและขาดรายได้จากภัยน้ำท่วมด้วย

ส่วนการประกันภัยรถยนต์ คือ 1. การประกันรถยนต์ คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นหากเสียหายบางส่วนจะได้รับการชดเชยค่าเสียหายตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัย หากรถยนต์เสียหายจนไม่สามารถซ่อมได้หรือความเสียหายที่มีมูลค่าความเสียหายตั้งแต่ร้อยละ 70 ของมูลค่ารถยนต์ บริษัทประกันจะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนเต็มตามจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ 2. การประกันภัยรถยนต์ประเภทอื่น (นอกจากประเภท 1) คุ้มครองสำหรับรถที่ประกันภัยภาคสมัครใจและได้มีการซื้อประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลไว้ด้วยก็จะได้รับความคุ้มครองเพิ่มในส่วนนี้ตามจำนวนเงินที่เอาประกันภัยไว้ 3. การประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (พ.ร.บ.) คุ้มครองในกรณีที่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บขณะที่ได้รับบาดเจ็บขณะที่ขับขี่หรือโดยสารในรถนั้นเบื้องต้นจะได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัยตาม พ.ร.บ.เป็นค่าเสียหายเบื้องต้น กรณีค่ารักษาพยาบาลตามจริงไม่เกิน 15,000 บาท กรณีเสียชีวิตได้รับ 35,000 บาท



ทั้งนี้ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ให้คำแนะนำแก่ผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของรถยนต์ที่ประสบภัยน้ำท่วมว่า

ข้อควรปฏิบัติกรณีที่รถยนต์ได้รับความเสียหาย คือหลังจากน้ำลดผู้เป็นเจ้าของรถควรแจ้งความเสียหายต่อบริษัทประกันทราบโดยเร็ว แสดงรายละเอียดของเอกสาร หลักฐาน ที่สำคัญ กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์แก่บริษัทประกันภัยเพื่อดำเนินการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (ในกรณีที่เอกสารทำการประกันภัยหรือกรมธรรม์ประกันภัยสูญหายขณะน้ำท่วม สามารถประสานสำนักงาน คปภ.จังหวัดได้ทันที) และนำรถเข้าศูนย์โดยรถยกให้เร็วที่สุด

ที่สำคัญข้อห้ามสำหรับเจ้าของรถเพื่อไม่ให้รถได้รับความเสียหายมากยิ่งขึ้น คือ อย่าสตาร์ตรถยนต์ในทันที ควรเปิดฝากระโปรงรถเพื่อสำรวจให้มั่นใจว่าไม่มีเศษอะไรมาติดอยู่ในตัวเครื่อง รวมถึงตรวจเช็กชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ในตัวถัง พร้อมทั้งสายไฟในบริเวณต่าง ๆ ว่ายังอยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้ หากไม่มั่นใจให้นำรถเข้าศูนย์โดยรถยกให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันความเสียหายที่ไม่คาดคิด และอย่าพ่วงไฟควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีระบบไฟฟ้าลัดวงจรที่จะก่อให้เกิดความเสียหายกับระบบเครื่องยนต์และระบบไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ

นอกจากนี้ทางสำนักงาน คปภ.ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือด้านการประกันภัยให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ

โดยให้บริการรับแจ้งเหตุและให้คำปรึกษาด้านการประกันภัยรวมถึงการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือเจ้าของรถที่ได้รับความเสียหายในการให้บริการรถลาก ซ่อมรถยนต์และการตรวจสภาพรถที่ได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วมฟรี ดังนั้นผู้ประสบภัยที่เป็นเจ้าของรถสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือด้านการประกันภัย ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ทุกวันจันทร์-ศุกร์ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนประกันภัย 1186

ภัยธรรมชาติเกิดขึ้นอย่างบ่อยครั้งโดยที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

แต่สามารถบรรเทาความเสียหายและความเดือดร้อนทางด้านการเงินได้ด้วยการทำประกันภัย แต่สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดคือก่อนซื้อประกันภัยควรพิจารณาเลือกซื้อกรมธรรม์ประกันภัยให้เหมาะสมตรงกับความต้องการของตัวเอง รวมทั้งตรวจสอบใบอนุญาตตัวแทนหรือนายหน้าจากนายทะเบียนเท่านั้น ที่สำคัญอย่าลืมตรวจสอบเอกสารการชำระเบี้ยประกันภัยทุกครั้งเพื่อรักษาและคงไว้ซึ่งประโยชน์ของตัวเอง.


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์




 

Create Date : 17 ตุลาคม 2554    
Last Update : 17 ตุลาคม 2554 8:04:45 น.
Counter : 1209 Pageviews.  

“ฮอนด้า”ยันผลิตริดจ์ไลน์ต่อ-โต้ข่าวทำปิกอัพซีอาร์-วี

ข่าวต่างประเทศ-ฮอนด้ายืนยันจะเดินหน้าผลิตและทำตลาดให้กับปิกอัพรุ่นริดจ์ไลน์ที่ขายอยู่ในตลาดอเมริกาเหนือต่อไป พร้อมกับปฏิเสธข่าวที่ว่าปิกอัพรุ่นนี้กำลังจะยุติการผลิตหลังหมดอายุการทำตลาด เพื่อเปิดทางให้กับผลผลิตใหม่ โดยจะเป็นปิกอัพที่ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับเอสยูวีรุ่นซีอาร์-วี ใหม่

ริดจ์ไลน์ โฉมปี 2012
ฮอนด้าปฏิเสธรายงานจากสื่อในสหรัฐอเมริกาที่ระบุว่า ทางบริษัทมีแผนจะหยุดการผลิตปิกอัพรุ่นริดจ์ไลน์ โดยกล่าวว่า รถกระบะขนาดกลางรุ่นนี้จะยังคงทำการผลิตแน่นอน เพราะยังมีบทบาทสำคัญสำหรับฮอนด้า และจะมีอยู่ต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้

สำหรับยอดขายที่ลดลงของรถกระบะรุ่นดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจ เพราะต้องพิจารณาถึงชิ้นส่วนที่ขาดตลาด รวมถึงการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี ซึ่งมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 6 ปี ที่ผ่านมา โดยฮอนด้า กล่าวว่า ริดจ์ไลน์ ในรุ่นปี 2012 จะมีรูปลักษณ์ใหม่ มีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีการประหยัดเชื้อเพลิง รวมถึงเพิ่มรุ่นและหนึ่งในนั้นจะมีโฉมสปอร์ตเป็นอีกทางเลือกหนึ่งด้วย

โดยก่อนหน้านั้น เคยมีรายงานอ้างแหล่งข่าวภายในว่า ริดจ์ไลน์กำลังจะหยุดสายการผลิต และแทนที่ด้วยรถยนต์กระบะขนาดกลาง ซึ่งใช้พื้นฐานของ ซีอาร์-วี แต่ทางฮอนด้าก็ออกมาปฏิเสธว่ารถกระบะที่ใช้พื้นฐานร่วมกับ ซีอาร์-วี ไม่มีอยู่ในแผนงานแต่อย่างใด




 

Create Date : 16 ตุลาคม 2554    
Last Update : 16 ตุลาคม 2554 10:47:53 น.
Counter : 985 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.