|
ตลาดรถไฟฟ้ามาแรง เจมคาร์ มั่นใจมัดลูกค้าอยู่ ชูประหยัดถึง 70%
เจมคาร์ฟุ้งตลาด รถไฟฟ้าไร้คู่แข่ง ทำยอดขายโต 20-25% ต่อเนื่อง เชื่อปีนี้กวาดรายได้ทะลุ 200 ล้าน มั่นใจมีสินค้าตอบโจทย์หลากหลาย ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถกอล์ฟ ประหยัดกว่าน้ำมัน 70%
นางสุเนตร คุณานันทกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โกลบอล อิเลคทริค เอเชีย จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ "เจมคาร์" และ "อีเกิ้ล" กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงภาพรวมของตลาดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าว่า มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประหยัดค่าใช้จ่ายจากการเติมน้ำมัน รวมทั้งมีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่ารถยนต์ทั่วไป ขณะที่คู่แข่งในตลาดมีอยู่น้อยราย ทำให้ยอดขายของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 20-25% อย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาการทำการตลาดทั้ง 10 ปี โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ราว 200 ล้านบาท จากการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะต่ำ หรือรถกอล์ฟประมาณ 65% รถไฟฟ้าสมรรถนะสูง 20% และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอีก 15% ซึ่งในปีนี้คาดว่ายอดขายน่าจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 25% โดยรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่บริษัทนำเข้ามาจำหน่ายนั้นนำมาจากผู้ผลิต รถยนต์ไครสเลอร์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าที่บริษัทจำหน่ายมี 2 ประเภท คือ รถไฟฟ้าความเร็วสูง ที่มีความเร็วสูงสุด 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จไฟหนึ่งครั้งใช้เวลา 6-8 ชั่วโมง มีค่าใช้จ่ายสำหรับการชาร์จไฟประมาณ 20 บาทต่อครั้ง สามารถวิ่งได้ระยะทาง 60 กิโลเมตร อีกประเภทคือ รถไฟฟ้าสมรรถนะต่ำ ชาร์จไฟหนึ่งครั้งใช้เวลา 6-8 ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทาง 25 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุด 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีทั้งแบบ 2, 4, 6, 12 ที่นั่ง นอกจากนี้ในปีนี้บริษัทยังมีสินค้าใหม่คือ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอีก 4 รุ่น มีราคาจำหน่ายตั้งแต่ 35,000-137,000 บาท ที่นำเข้าจากประเทศจีน ได้รับการออกแบบและพัฒนาให้มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย สวยงาม เหมาะกับการเดินทางในระยะสั้น โดยบริษัทจะจำหน่ายสินค้าทั้งหมดด้วยการส่งทีมขายเข้าไปหากลุ่มลูกค้าโดยตรง หรือไดเร็กต์เซลส์ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่คือ โครงการหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่, รีสอร์ต, โรงงานและท่าเรือ รวมถึงจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ของบริษัท และโชว์รูมที่ ถนนศรีนครินทร์และจังหวัดภูเก็ต ส่วนภายในปีหน้าก็จะเปิดโชว์รูมอีกแห่งที่ อำเภอหัวหินด้วย เพื่อรองรับกับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น สำหรับแนวทางการทำตลาดนั้น บริษัทจะให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้าและการบริการเป็นหลัก โดยบริษัทจะรับประกันแบตเตอรี่และมอเตอร์คอนโทรลเลอร์ ด้วยการมีหน่วยโมบายเซอร์วิส เพื่อส่งทีมช่างเข้าไปให้บริการลูกค้าถึงสถานที่ด้วย โดยช่างจะผ่านการอบรมจากบริษัทไครสเลอร์ในสหรัฐอเมริกาทุก 3 เดือน ขณะที่บริษัทเองก็ให้บริการซ่อมรถไฟฟ้าที่ซื้อจากเกรย์มาร์เก็ตรายอื่น ๆ ด้วย ทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มจากการรับบริการรถจากผู้นำเข้าอิสระด้วย นอกจากการจำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแล้ว บริษัทยังเป็นตัวแทนจำหน่ายแบตเตอรี่แบรนด์ "ยูเอส แบตเตอรี่" ที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา โดยส่วนใหญ่จะขายปลีกให้แก่โรงงานผลิตรถ สนามกอล์ฟ รวมถึงลูกค้าที่ซื้อรถไฟฟ้าจากบริษัทด้วย "เราได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพราะรถไฟฟ้าเป็นรถที่รักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้ผู้ใช้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้ถึง 70% ขณะที่การบำรุงรักษาก็เป็นเรื่องง่าย และมีค่าใช้จ่ายต่ำ ลูกค้าจะต้องดูแลการใช้งานเพียงแบตเตอรี่ ซึ่งก็มีอายุการใช้งานประมาณ 3-5 ปี และมอเตอร์คอนโทรลเลอร์ที่มีอายุการใช้งานประมาณ 5-10 ปี ทำให้รถไฟฟ้าจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ" นางสุเนตรกล่าว
| Create Date : 04 เมษายน 2554 | | |
| Last Update : 4 เมษายน 2554 8:19:39 น. |
| Counter : 1335 Pageviews. |
| |
|
| |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [
