แนะนำสำหรับคนที่เพิ่งได้อ่านนิยายเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ขออธิบายล่วงหน้าว่าเรื่องนี้จะเน้นที่ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเอกสองคนซึ่งเป็นชายทั้งคู่ และอาจมีเนื้อหาบางส่วนไม่เหมาะสมสำหรับเยาวชน หรือคนที่ไม่นิยมเรื่องแนว Boy's Love ดังนั้นหากไม่ชอบอ่านนิยายแนวที่ไม่มีนางเอก ขอแนะนำว่าให้คลิกไปอ่านหน้า About me , เท้าพาไป หรือ พร่ำ(เพ้อ)รายสะดวก ซึ่งเนื้อหาจะเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปค่ะ เราเตือนคุณแล้วนะคะ++------++บทที่ 8หนักจัง...ธีระคิดอย่างงัวเงีย แพขนตาหนาพริ้มปรือก่อนที่นัยน์ตาดำขลับจะกวาดไปรอบตัวอย่างเชื่องช้า ไม่นานสายตาของเขาก็หยุดลงบนท่อนแขนเปลือยเปล่าที่พาดอยู่บนร่างไม่ใช่สิ...น่าจะเรียกว่าท่อนแขนเปลือยเปล่าที่ 'รัด' ตัวเขาไว้มากกว่า แถมยังรัดเสียแน่นอย่างกับกลัวเขาจะดิ้นตกเตียงเสียอีกด้วยสมองของเด็กหนุ่มเริ่มเป็นอิสระจากการหลับไหล เขาไม่ได้โวยวาย ไม่ได้ร้องแรกแหกกระเชอ ไม่แสดงอาการตื่นตูมตกใจใดๆ ทั้งสิ้นเพราะจำได้ทุกอย่างว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้น เขาถึงกับเห็นมันในความฝันด้วยซ้ำ เพียงแต่ครั้งนี้ใบหน้าของคู่กรณีไม่ได้เป็นเพียงภาพพร่ามัวอีกต่อไป และสถานที่ก็ไม่ใช่มุมมืดของบันไดหนีไฟก็เท่านั้นเองนอกจากนั้น...สะโพกที่ยังระบมของเขาก็เป็นหลักฐานถึงเหตุการณ์เมื่อคืนเช่นกัน ทั้งที่โดยเนื้อแท้แล้วเขาไม่ได้ชอบการถูกทำแบบแรงๆ เลยสักนิด แต่คนทำก็ยังไม่สนใจ...เกลียดนักคนที่ไม่ฟังคนอื่นแบบนี้...ความคิดเพิ่งวนมาถึงส่วนล่างไม่ทันไร ธีระก็เกร็งไหล่โดยอัตโนมัติเมื่อสัมผัสได้ว่าอะไรบางอย่างที่ดันสะโพกอยู่เริ่มออกอาการอย่างที่ผู้ชายมักเป็นในตอนเช้า ถึงจะรู้ว่ากฤตภาสคงยังไม่รู้สึกตัว สมองเขาก็คิดเร็วจี๋ว่าต้องรีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเด็กหนุ่มค่อยๆ พลิกตัวอย่างระมัดระวัง วูบหนึ่งเขานึกอยากกัดท่อนแขนอีกฝ่ายให้จมเขี้ยวเผื่อจะสาแก่ใจที่มาบังคับเขาเมื่อคืน แต่คิดอีกทีก็ไม่อยากให้กฤตภาสได้มีข้ออ้างในการตั้งเงื่อนไขอื่นกับเขาอีก เพราะตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกเป็นครั้งที่สามเด็ดขาด"จะรีบไปไหนล่ะ? เธอนี่ตื่นเช้าชะมัดเลยนะ"ธีระสะดุ้งเมื่อจู่ๆ ก็มีอ้อมแขนรั้งเขากลับลงไปบนเตียง เด็กหนุ่มชักสีหน้าใส่คนที่ดันตัวขึ้นคร่อมทับโดยกดข้อมือทั้งสองข้างของเขาไว้จนขยับหนีไม่ได้"ผมไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่ต่อ ถ้าแฟนๆ ของคุณมาหาเดี๋ยวจะเป็นเรื่อง""ไม่มีใครมาหรอก ห้องฉันหมายเลขอะไรยังไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำ"เสียงกฤตภาสเกียจคร้านอย่างคนเพิ่งตื่น ไรเคราสีเขียวอ่อนเริ่มขึ้นให้เห็นเป็นแนวตามกรอบหน้าไปจนถึงคาง ธีระไม่ปฏิเสธว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นคนรูปลักษณ์โดดเด่นและมีเสน่ห์ เพียงแต่เสน่ห์ที่ว่านั้นใช้กับเขาไม่ได้นับตั้งแต่วินาทีที่ถูกบีบให้นอนด้วยแล้ว"ยังไงผมก็จะกลับ ถึงอยู่ต่อเราก็ไม่มีอะไรต้องคุยกัน""ถ้างั้นก็ไม่ต้องคุย ปกติฉันก็ไม่ค่อยชอบใช้ปากคุยสักเท่าไหร่"คนพูดเอ่ยพลางก้มลงแนบริมฝีปากบนซอกคอของธีระ ลมหายใจอุ่นๆ ที่รดลงบนผิวทำให้เด็กหนุ่มหน้าแดงซ่านอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก็พยายามหันหนีเมื่อผู้สูงวัยกว่าเลื่อนใบหน้าขึ้นมาเหมือนจะจูบ ริมฝีปากของกฤตภาสจึงเพียงถากผ่านผิวแก้ม"ถ้างั้นก็ไปหาคนอื่นแทนเถอะ แล้วก็บอกทุกคนที่บริษัทด้วยว่าผมจะไม่ไปฝึกงานแล้ว"กฤตภาสเลิกคิ้วแล้วยันตัวขึ้นอีกครั้ง เขามองเด็กหนุ่มที่ตะแคงหน้าไปอีกด้านราวกับเหม็นหน้าเขาเต็มประดา จากนั้นก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นลูบไปบนผิวแก้ม"...แค่นี้ก็จะหนีแล้วเหรอ?"ธีระเม้มปากแน่น เขารู้สึกเหมือนกำลังโดนทดสอบความอดทนด้วยน้ำเสียงเฉื่อยเนือยเหมือนไม่ใส่ใจ แต่มือของกฤตภาสกลับไม่เลิกป้วนเปี้ยนบนตัวเสียที จึงใช้มือข้างที่ว่างดันอกอีกฝ่ายออกห่าง"จะเรียกว่าหนีหรืออะไรก็ตามใจ ในเมื่อผมเลิกฝึกงานก็เท่ากับคุณไม่ใช่เจ้านายผมอีกแล้ว ลุกออกไปเดี๋ยวนี้!"แววตาของกฤตภาสยังคงสงบนิ่งและมีร่องรอยเกียจคร้านไม่เปลี่ยน แต่ร่างสูงใหญ่กลับจงใจทิ้งน้ำหนักลงบนตัวธีระมากขึ้นจนเด็กหนุ่มแทบหายใจไม่ออก แถมยังแกล้งบดสะโพกลงกับหน้าขาของเขาอีกด้วย"คุณกฤต!"ธีระหน้าแดงก่ำทั้งจากความโกรธและอาย นี่ถ้าหากกฤตภาสไม่ใช่พวกชอบกวนประสาทอย่างร้ายกาจก็ต้องเป็นพวกสมองมีปัญหา เพราะไม่ว่าเขาจะขอให้ทำอะไรก็จงใจทำตรงข้ามไปเสียทุกอย่างพวกผู้บริหารชอบมีงานอดิเรกคือการปั่นหัวคนอื่นหรือไงกัน!?"อย่าเพิ่งโมโหน่า ฉันมีอะไรสนุกๆ จะให้เธอดูก่อน"ร่างสูงเหยียดแขนไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนหัวเตียงโดยไม่ลุกขึ้น ร่างของทั้งสองจึงยิ่งเสียดสีกันจนธีระได้แต่เม้มปากเพื่อกลั้นเสียงครางไม่ให้หลุดออกไป เมื่อกฤตภาสหดแขนกลับมาแล้วก็กดหาอะไรอยู่สักครู่ก่อนจะหันหน้าจอมาทางเด็กหนุ่ม"ถ่ายได้ดีใช่ไหมล่ะ? กล้องมือถือสมัยนี้ขนาดถ่ายในที่แสงน้อยยังชัดเหมือนใช้กล้องจริงเลยนะ"ธีระแทบไม่ได้ยินช่วงท้ายประโยค สองตาของเขาเบิกกว้างขณะจับจ้องรูปที่ปรากฏบนหน้าจอ และราวกับกลัวว่ารูปเดียวจะไม่หนำใจ กฤตภาสยังแสดงความใจดีด้วยการเลื่อนรูปต่อไปให้เขาดูได้ถนัดตาต่อจากภาพแรกก็เป็นภาพที่สอง จากนั้นก็ภาพที่สาม ภาพที่สี่ ภาพที่ห้า ...ขณะที่ธีระยังไม่หายช็อก กฤตภาสก็ย่อหน้าจอให้รูปเหล่านั้นเรียงกันเป็นรูปขนาดเล็ก เด็กหนุ่มจึงได้เห็นว่าตนถูกถ่ายรูปตอนที่หลับเอาไว้เป็นอัลบั้ม! และที่เลวร้ายที่สุด...นอกจากรูปภาพเหล่านั้นจะไม่สมควรให้ใครเห็นแล้ว กฤตภาสยังจงใจเอาตัวเองเข้ามาในรูปหลายรูปเพื่อสื่อว่าทั้งสองกำลังทำเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างชัดเจนอีกด้วย"คุณ..."เด็กหนุ่มพูดอะไรไม่ออก รู้แต่ว่าเลือดในกายทุกหยดไหลขึ้นไปรวมกันบนหัวจนหูอื้อตาลาย สีหน้าที่เปลี่ยนไปของเขาจุดรอยยิ้มบนมุมปากของคนที่กำลังจ้องมอง"เมื่อคืนนี้กว่าจะถอดเสื้อคลุมออกจากตัวเธอได้ก็ลำบากอยู่ล่ะนะ แต่สงสัยเธอคงจะเหนื่อยจริงๆ เพราะไม่ว่าจะถูกจับให้นอนท่าไหนก็ไม่ตื่นขึ้นมาโวยวายเลยสักแอะ เพียะ!!!เสียงฝ่ามือกระทบผิวหน้าดังก้องในห้องที่เงียบสงัด ธีระรู้สึกถึงความแสบร้อนกลางฝ่ามือหลังฟาดออกไปบนใบหน้าของกฤตภาสเต็มแรง เขาไม่สงสัยเลยว่าคนโดนตบจนหน้าหันคงเจ็บแสบยิ่งกว่า เพราะไม่ช้ารอยแดงรูปฝ่ามือก็ค่อยๆ เห่อขึ้นบนซีกหน้าด้านที่เด็กหนุ่มเพิ่งตวัดมือใส่ธีระหอบหายใจแรงจนตัวโยน อารมณ์เดือดดาลทำให้เขาไม่สนใจแล้วว่าคนตรงหน้าเป็นใคร เขาลืมนึกไปถึงกระทั่งว่าหากอีกฝ่ายไม่พอใจจนใช้กำลังตอบโต้ เขาจะถูกทำอะไรบ้างหรือจะเอาแรงที่ไหนไปสู้ไหวทว่าคนที่โดนตบกลับเพียงแค่นหัวเราะ กฤตภาสค่อยๆ เบนหน้ากลับมาพร้อมกับนัยน์ตาลึกล้ำ แต่รอยหยักบนมุมปากกดลึกกว่าเดิมราวกำลังสาแก่ใจนักหนาคลิปเสียงก็มีนะเด็กหนุ่มเบิกตาโตมากยิ่งขึ้น เขาจับจ้องกฤตภาสที่กดหาอะไรบางอย่างในมือถืออีกครั้ง จากนั้นก็ได้ยินเสียงอันบาดหูของบทสนทนาเมื่อคืนซึ่งทำให้เลือดในกายเย็นเฉียบดุจน้ำแข็ง"คุณกฤตผิดสัญญา เมื่อกี้ยังบอกอยู่เลยว่าจะค่อยเป็นค่อยไป""ขอโทษก็แล้วกัน ต่อจากนี้จะไม่ทำแรง"เสียงที่ตามมาหลังจากนั้นเป็นเสียงครวญครางของเขาเอง ไม่นับเสียงอันน่าอายจากการการเสียดสีของผิวเนื้อหลังจากกฤตภาสบอกว่าอยู่ในตัวเขาแล้ว ยิ่งได้ฟังหลักฐานของเหตุการณ์เมื่อคืนมากขึ้น นัยน์ตาของเด็กหนุ่มก็ยิ่งจ้องมองกฤตภาสราวกับเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้อยู่ในโลกเดียวกันกับเขาทำไมกัน...เพื่ออะไร..."แบตฉันใกล้จะหมดแล้ว ฟังแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน ถ้าอยากฟังเต็มๆ เดี๋ยวจะเปิดให้ฟังทีหลัง"กฤตภาสเอ่ยก่อนจะลุกขึ้นเพื่อหยิบสายชาร์จมาเสียบโทรศัพท์ ฝ่ายธีระได้แต่มองท่วงท่าเป็นธรรมชาติของอีกฝ่ายเหมือนไม่ได้เพิ่งทำอะไรผิดแปลกแล้วก็ถามเสียงแห้ง ...คุณกฤต ผมไปทำอะไรให้คุณกฤตตั้งแต่ตอนไหน? ทำไมถึงต้องทำแบบนี้กับผมด้วย?ธีระสับสนไปหมดกับเหตุการณ์ที่กำลังเผชิญ ที่ผ่านมาเขาอาจไม่ใช่เด็กดีที่อยู่ในลู่ในทางนัก แต่ก็มั่นใจว่าไม่เคยไปทำร้ายหรือก่อกรรมทำเข็ญกับใคร แล้วทำไมชีวิตเขาถึงต้องมาเจอกับผู้ชายคนนี้?"เธอไม่ได้ทำอะไรหรอก ฉันก็แค่ถ่ายรูปพวกนี้ไว้เล่นๆ เหมือนเวลาเราเจอเรื่องอะไรที่ประทับใจก็อยากเก็บภาพไว้ไง แต่ถ้าในอนาคตฉันดูคนเดียวจนเบื่อก็อาจนึกอยากแชร์ให้คนอื่นดูบ้างก็ได้"กฤตภาสเอ่ยราวกับรูปที่ถ่ายไว้เป็นรูปทิวทัศน์ภูเขาหรือท้องทะเลทั่วไป แต่เด็กหนุ่มรู้ดี...นั่นเป็นคำขู่ถ้าหากไฟล์ภาพและเสียงเหล่านั้นหลุดออกไปถึงมือคนอื่น...เขาก็ไม่กล้าเดาแล้วว่าจะพบเจอกับเรื่องเลวร้ายอย่างไรบ้าง ไม่แน่มันอาจส่งผลต่ออนาคตของเขาหลังเรียนจบเลยก็ได้ แต่ทั้งที่รู้อย่างนั้น...กฤตภาสก็ยังจะทำหลักฐานพวกนี้เก็บไว้อีก...เท้าไวเท่าความคิด ร่างเพรียวตวัดขาลงจากเตียงแล้วก็ผลักกฤตภาสออกก่อนจะดึงโทรศัพท์ออกจากสายชาร์จ แต่ยังไม่ทันจะได้หมุนตัวไปทางหน้าต่างก็ถูกรวบทั้งเอวและมือข้างที่กำโทรศัพท์ไว้แน่น"จะทำอะไร?"กฤตภาสถามเสียงเครียดขณะที่รัดเอวของธีระจากด้านหลัง ส่วนเด็กหนุ่มได้แต่พยายามดิ้นและถีบขาเป็นพัลวันเพื่อให้ตัวเองเป็นอิสระ"ไม่ถามก็น่าจะรู้! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!!"ธีระไม่สนใจว่าร่างเปลือยของทั้งคู่กำลังเสียดสีกันจากการพยายามดิ้นรน แต่ดูเหมือนกฤตภาสก็หาได้ใส่ใจเช่นกัน"เสียโทรศัพท์ไปสักเครื่องน่ะฉันไม่เสียดายหรอก แต่พอดีว่าข้อมูลอย่างอื่นในเครื่องมันมูลค่าสูงกว่านั้นมาก ดังนั้นคงยอมให้เธอเขวี้ยงทิ้งง่ายๆ ไม่ได้หรอกนะ พ่อหนู"ยิ่งโดนตอกย้ำว่าคนพูดเห็นเขาเป็นเด็ก ธีระก็ยิ่งเลือดขึ้นหน้า เขาหมุนตัวหันกลับไปหากฤตภาสแล้วเขวี้ยงโทรศัพท์ในมือเข้าใส่ฝาผนัง จากนั้นก็กัดหัวไหล่ข้างที่มีรอยสักของกฤตภาสเต็มแรง"ฮึ่ม!"กฤตภาสคำรามด้วยคิดไม่ถึงว่าจะถูกทำร้ายร่างกายเป็นหนที่สอง แต่ชายหนุ่มไม่ได้พยายามผลักไสหรือดิ้นหนี สองแขนแข็งแรงรวบเอวของเด็กหนุ่มแล้วพาเดินกึ่งลากเข้าไปในห้องน้ำ จากนั้นก็หมุนฝักบัวให้น้ำเย็นจัดหลั่งลงบนร่างของทั้งคู่จนธีระสะดุ้ง"ปล่อยนะ!!"เด็กหนุ่มร้องตะโกนพลางทุบไหล่ของกฤตภาสเพื่อให้ตนเองเป็นอิสระ ในปากเขาได้กลิ่นคาวเลือดจากแผลที่เพิ่งฝากไว้บนไหล่หนาก่อนที่สายน้ำจะชะกลิ่นนั้นออกไป แต่นอกจากกฤตภาสจะไม่ปล่อยแล้วก็ยังจงใจรัดเอวเขาแน่นกว่าเดิมเหมือนไม่สะทกสะท้านกับสายน้ำเย็นเลยสักนิด"หายบ้ามั่งรึยัง!? แล้วก็จะบอกให้รู้นะ ไฟล์ภาพและเสียงพวกนั้นฉันส่งเข้าอีเมล์ส่วนตัวไปหมดแล้ว ต่อให้มือถือพังหรือถูกขโมยฉันก็ยังส่งอีเมล์หาใครต่อใครได้สบายมาก อย่าพยายามทำเรื่องที่เปลืองแรงเปล่าดีกว่า"ธีระหรี่ตาสู้กระแสน้ำพลางถลึงตามองอีกฝ่ายด้วยความโกรธเกรี้ยว แต่ไม่นานก็เริ่มรู้ตัวว่าทนความหนาวจากสายน้ำที่รดหลั่งลงมาไม่ไหว นอกจากนี้เขายังรู้สึกเหนื่อยจากการระเบิดอารมณ์ตั้งแต่เช้าจนเรี่ยวแรงลดต่ำลงทุกทีเขาไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้คนคนนี้เห็นเลยสักนิด...แต่จะให้ฝืนต่อไปอีกก็ไม่ไหวแล้ว"...คุณกฤต ผมหนาว"เสียงของธีระสั่นน้อยๆ เช่นเดียวกับมือที่หยุดทุบและเพียงกำไว้เฉยๆ ริมฝีปากสีสดเริ่มซีดจนคนเห็นสังเกตได้ กระนั้นกฤตภาสก็ไม่ได้ปิดน้ำในทันที เขาเพียงแต่ออกแรงกระชับวงแขนมากขึ้นแล้วถามเสียงเข้ม"สัญญาว่าจะเลิกอาละวาดได้หรือยัง?"เด็กหนุ่มเม้มปากแน่นอย่างดื้อรั้น แต่ก็จนใจที่กล้ามเนื้อเริ่มชาจากความหนาวจนไม่มีแรงแม้แต่จะยกแขนผลักอีกฝ่าย จึงได้แต่ก้มหน้าลงแล้วผงกศีรษะช้าๆ อย่างไม่เต็มใจกฤตภาสเห็นดังนั้นถึงค่อยระบายลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ชายหนุ่มไม่ได้พาคนในอ้อมแขนออกจากห้องน้ำทันที เพียงแต่ปรับอุณหภูมิน้ำให้อุ่นขึ้นแล้วกดสบู่เหลวออกมาลูบไปบนเนื้อตัวของธีระ เด็กหนุ่มได้แต่กะพริบตาปริบขณะมองคนที่กำลังลูบร่างกายเขาแรงๆ เหมือนจะสร้างความอบอุ่นให้ด้วยแววตาไม่เข้าใจ เมื่อช่วยล้างฟองสบู่ออกให้หมดแล้ว ร่างสูงใหญ่ก็หยิบผ้าขนหนูมาพันรอบกายของเขาอย่างแน่นหนา"ออกไปเช็ดตัวใส่เสื้อผ้าซะ แล้วก็ไม่ต้องคิดเรื่องจะทำลายโทรศัพท์ฉันหรือหนีอีก ไม่อย่างนั้นแค่ฉันโทรหาตำรวจว่าเธอขโมยของและทำร้ายร่างกาย รับรองได้ว่าชีวิตเธอหลังจากนี้ไม่มีความสุขแน่"ธีระได้แต่มองคนตัวใหญ่กว่าอย่างโกรธเคือง แต่ก็รู้ดีว่ากฤตภาสมีหลักฐานยืนยันหากแจ้งความจริงๆ ไม่ว่าจะรอยนิ้วมือบนหน้าหรือรอยฟันที่เขากัดหัวไหล่ จึงได้แต่สะบัดหน้าหนีแล้วเดินลงส้นออกไปจากห้องน้ำ เมื่อคล้อยหลังเด็กหนุ่ม กฤตภาสถึงค่อยผ่อนลมหายใจแล้วหันมาอาบน้ำสระผมบ้างเพราะไม่ได้ทำความสะอาดร่างกายเลยตั้งแต่เมื่อคืน ชายหนุ่มสูดปากเสียงเบาเมื่อลูบสบู่ไปบนไหล่แล้วรู้สึกแสบ พอก้มมองก็เห็นเห็นเลือดสีแดงซึมออกมาตามรอยฟันและเขี้ยวที่เจาะจนเป็นรูเล็กๆ ทว่าเขาเพียงมองรอยแผลเหล่านั้นนิ่ง จากนั้นก็หลุดเสียงหัวเราะออกมาอย่างชอบใจไม่นึกว่าเด็กนั่นจะทั้งกล้าตบและกัดเขา คนที่ดูสุภาพและได้รับการเอ็นดูจากใครๆ ไปทั่วอย่างนั้น พอฟิวส์ขาดแล้วกลับอารมณ์ร้ายเหลือคาด แต่น่าแปลกที่เขาไม่รู้สึกโกรธแถมยังสนุกอีกด้วย ดูท่าทาง...เขาจะยิ่งอยากเห็นเด็กคนนี้ฟิวส์ขาดเพราะเขามากขึ้นเรื่อยๆ เสียแล้วสิ...++---TBC---++A/N: เนื้อหาตอนนี้อาจดำเนินไปช้าๆ เนิบๆ หน่อยนะคะ เพราะอยากเน้นให้กฤตภาสกับน้องตี้ได้ทำความคุ้นเคยกันมากขึ้นหลังจากที่รวบรัดตัดความจาก A ไป Z ตั้งแต่เริ่มเรื่อง ความจริงแล้วน้องตี้ไม่ได้เป็นคนชอบความรุนแรง แต่พอมาเจอตัวพ่ออย่างกฤตภาสแล้วคงอดไม่ไหวจริงๆ ซึ่งเรื่องที่คุณชายกฤตจะทำให้น้องตี้หมั่นไส้ยังไม่หมดแค่นี้แน่ ต้องคอยติดตามกันต่อไปค่ะ ปล. ชอบเวลาอ่านคอมเม้นต์แล้วได้เห็นความคิดอันหลากหลายที่คนอ่านมีต่อสองคนนี้จัง ความสุขอย่างหนึ่งของคนเขียนคือได้รับรู้เสียงสะท้อนกลับมาจากคนอ่าน ดังนั้นถ้าชอบหรือไม่ชอบ แค่พิมพ์บอกไว้แบบสั้นๆ ก็ขอบคุณมากแล้วค่ะ ^^