ตัวป่วนของปอ ป้า
 | |  | |
มีหลายท่านสอบถามปอ ป้า มาด้วยความเป็นห่วง..ว่า ป่วยเป็นอะไร...เจ้าตัวป่วนของปอ ป้า หน้าตาเป็นอย่างไร .....???..???.....
วันนี้ปอ ป้า ก็เลยจะพาเจ้าตัวป่วนมาแนะนำให้ท่านรู้จัก คิดว่าถ้าได้รู้จักแล้ว ก็จะต้องร้อง...อ๋อ....กันทั้งนั้น แต่บางท่านที่ยังไม่เคยได้ยินกิตติศัพท์ความเก่งกล้าของเจ้าตัวป่วนนี้ ก็อาจจะร้อง...เอ๊ะ...มีด้วยเหรอ...อิ อิ
เรามาทำความรู้จักเจ้าตัวป่วนกันเลยดีกว่า...ค่ะ
| |  | |  |
 | |  | |
เจ้าตัวป่วน หรือที่เรียกกันว่า โรค SLE Systemic Lupus Erythematosus - SLE หรือโรคลูปุส
ทางการแพทย์ระบุว่าโรคนี้เกิดขึ้นในเมืองไทยกว่าร้อยปีแล้ว แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเสียชีวิตด้วยภาวะไตวาย คนส่วนใหญ่จึงคิดว่าผู้ป่วยเป็นโรคได
ต่อมา เริ่มรู้จักกันแพร่หลายมากขึ้น เมื่อนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง คุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้เสียชีวิตลงเพราะโรคนี้ คนไทยส่วนใหญ่จึงเรียกโรคนี้ว่า " โรคพุ่มพวง "
หลังจากนั้นอีกไม่นาน ดารานักแสดงคุณหมอก - ณัฐสิมา ก็มาเสียชีวิตด้วยโรคนี้เช่นกัน ผู้คนจึงได้หันมาให้ความสนใจกับเจ้าตัวป่วนตัวนี้มากขึ้น ปัจจุบันถึงขนาดมีเว็บไซด์ " ชมรมคนเป็นโรค เอส แอล ดี " ด้วย ต่อไปนี้เป็นบทความทางการแพทย์ที่ปอ ป้า ขอนำเสนอ...
Systemic Lupus Erythematosus - SLE หรือโรคลูปุส
เป็นโรคที่เกิด จากภูมิต้านทานในร่างกายของเราชนิดหนึ่ง เกิดการเปลี่ยนแปลงไป ภูมิต้านทานชนิดนี้เป็นโปรตีนในเลือดชนิดหนึ่งที่เรียกว่า แอนติบอดี้ (ANTIBODIES) ซึ่งปกติจะมีหน้าที่จับและทำลายสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคจากภายนอกร่างกาย แต่โปรตีนชนิดนี้ ในผู้ป่วยโรคลูปุสจะจับ และทำให้เกิดการอักเสบของอวัยวะต่าง ๆ ของผู้ป่วยโรคลูปุสเอง ขึ้นกับว่าจะจับอวัยวะใด เช่น ถ้าจับที่ผิวหนังก็จะทำให้เกิดผื่น ถ้าจับกับไต ก็จะทำให้เกิดการอักเสบของไต จับกับเยื่อหุ้มข้อ ก็จะเกิด ข้ออักเสบขึ้น จัดเป็นโรคที่เรื้อรังชนิดหนึ่ง
คำว่า ลูปุส (Lupus) แปลว่า สุนัขป่า (wolf)
เนื่องจากแพทย์สมัยก่อนมองว่าผื่นที่แก้มและที่หน้า ที่เกิดในผู้ป่วยโรคลูปุส มีลักษณะคล้ายร่องรอยที่เกิดจากการทำร้ายโดยสุนัขป่า ซึ่งจริง ๆโรคนี้ไม่มีส่วนใดเกี่ยวข้องกับสุนัขป่าทั้งสิ้น
สาเหตุของโรค เอส แอล อี ในปัจจุบันเรายังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของโรค เอส แอล อี แน่ชัด แต่มี หลักฐานที่บ่งบอกว่าจะเกิดจากปัจจัยเหล่านี้ร่วมกัน คือ
1. กรรมพันธุ์
2. ฮอร์โมนเพศหญิง
3. ภาวะติดเชื้อบางชนิด, โดยเฉพาะเชื้อไวรัส
นอกจากนี้เรายังทราบว่ามีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้ผู้ป่วยที่เป็น หรือมีโอกาสเป็นโรค เอส แอล อี มีอาการรุนแรงขึ้น เช่น
1. แสงแดด โดยเฉพาะ แสงอุลตร้าไวโอแลต
2. การตั้งครรภ์
3. ยาบางชนิด
อาการของโรค เอส แอล อี มีอะไรบ้าง
โรค เอส แอล อี เป็นโรคที่มีลักษณะการแสดงออกได้หลากหลายลักษณะ อาจมีอาการเฉียบพลันและรุนแรง หรือมีอาการค่อยเป็นค่อยไปเป็นช่วงระยะเวลานานหลายปี อาจมีอาการแสดงออกของหลายอวัยวะในร่างกายพร้อม ๆ กัน หรือมีการแสดงออกเพียงอวัยวะหนึ่งทีละอย่างก็ได้ มีอาการเป็น ๆ หาย ๆ ได้
แต่ลักษณะเฉพาะของโรค เอส แอล อี คือ ผู้ป่วยจะมีอาการในหลาย ๆ ระบบของร่างกาย โดยจะเกิดขึ้นพร้อมกันหรือไม่พร้อมกันก็ได้
| |  | |  |
 | |  | |
อะไรเป็นสาเหตุชักนำที่ทำให้โรค เอส แอล อี มีอาการรุนแรงขึ้น หรือกลับเป็นขึ้นใหม่ สาเหตุมีหลายประการ เช่น
1. การถูกแสงแดด อาจทำให้เกิดอาการกำเริบทางผิวหนัง และอาจะทำให้มีอาการ ของระบบอื่น ๆ ตามมาได้
2. การมีภาวะติดเชื้อ ไม่ว่าจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา
3. การตั้งครรภ์ ถ้ายังมีอาการของโรค เอส แอล อี อยู่ หรือยังควบคุมอาการไม่ได้ดี ยังไม่ควรตั้งครรภ์ ปกติแพทย์จะยอมให้ตั้งครรภ์ได้เมื่ออาการของโรคสงบลง อย่างน้อย 6 เดือน
4. การออกกำลังกายหรือทำงานหนักอย่างหักโหม
5. การถูกกระทบกระเทือนทางอารมณ์อย่างรุนแรง
จะปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อเป็นโรคเอส แอล อี
1. ในระยะแรกต้องได้รับการรักษาด้วยยา ต้องรับประทานยาตามขนาด และระยะเวลาที่แพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด
2. ควรพยายามอย่าให้ผิวหนังถูกแสงแดดโดยตรง ควรใส่หมวกปีกกว้าง กางร่ม และสวมใส่เสื้อแขนยาวเวลาที่จำเป็นต้องออกแดด
3. ทำจิตใจให้สบาย ไม่ควรเครียด ถ้อถอย เศร้าใจ หรือกังวลใจ เพราะทำให้อาการกำเริบได้ ควรมีกำลังใจและมีความอดทนต่อการรักษา
4. เสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารประเภท เนื้อสัตว์ ไข่ นม ผักและผลไม้ต่าง ๆ มีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้พอเพียง
5. เนื่องจากผู้ป่วย เอส แอล อี มีโอกาสติดเชื้อโรคได้ง่าย จึงต้องคอยระวังตัว ไม่เข้าใกล้ผู้อื่นที่กำลังเป็นโรคติดต่อ เช่น โรคหวัด พยายามไม่อยู่ในที่ผู้คนแออัด นอกจากนี้อาหารที่รับประทานทุกชนิด ควรเป็นอาหารที่สะอาดและต้มสุกแล้ว
6. ทำตามคำแนะนำของแพทย์ พยาบาล และไปรับการตรวจตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อประโยชน์ในการรักษาและประเมินความรุนแรงของโรค และผลการรักษา แพทย์จะได้พิจารณา ให้การรักษาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
7. ไม่ควรเปลี่ยนแพทย์ผู้รักษาบ่อย ๆ เพราะแพทย์คนใหม่อาจจะไม่ทราบรายละเอียดของอาการเจ็บป่วย ทำให้เกิดความล่าช้าในการวินิจฉัยและการรักษา อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน หรืออาจเป็นอันตรายได้
8. ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง เพราะจะมีโอกาสแพ้ยาได้บ่อยและรุนแรงกว่าคนธรรมดา
9. ไม่ควรเพิ่มหรือลดขนาดยาเอง
10. ถ้ามีอาการผิดปกติ มีไข้ หรือไม่สบาย ควรรีบกลับไปปรึกษาแพทย์ผู้รักษาทันที หรือหากจะไปหาแพทย์อื่น ควรนำยาที่กำลังรับประทานอยู่ ไปให้แพทย์ดูด้วยทุกครั้ง เพื่อว่าแพทย์จะได้จัดยาได้ถูกต้อง และสอดคล้องกับยาประจำที่รับประทานอยู่
11. ผู้ป่วยหญิงที่แต่งงานแล้ว ไม่ควรมีบุตรในระยะที่โรคกำเริบ เพราะจะเป็นอันตรายต่อแม่และเด็กในครรภ์ ไม่ควรใช้ยาคุมกำเนิด เพราะอาจจะทำให้อาการของโรคกำเริบขึ้น ควรเลี่ยงใช้วิธีอื่น ๆ แทน โดยการปรึกษาแพทย์ ผู้ป่วยจะสามารถตั้งครรภ์ได้เมื่อพ้นระยะที่โรคมีความรุนแรงแล้ว แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการตั้งครรภ์ และขณะตั้งครรภ์ ควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์
| |  | |  |
 | |  | |
การป้องกัน
เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด การป้องกันไม่ให้เกิดโรค เอส แอล อี ในขณะนี้ยังไม่มี หากท่านสงสัยว่าเป็นโรคนี้ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยเสียแต่ในระยะแรก และได้รับการรักษาที่ถูกต้อง การล่าช้าในการรักษาอาจทำให้อาการเป็นรุนแรงขึ้น เช่น ไตวาย หรือถึงแก่เสียชีวิตได้
ในปัจจุบัน ผู้ป่วยโรค เอส แอล อี มีอัตราของความพิการหรือเสียชีวิตลดลงน้อยลงมาก เมื่อเทียบกับ เมื่อ 10-20 ปีก่อน ทั้งนี้เนื่องจากการที่เราสามารถพบ และให้การวินิจฉัยโรคได้ตั้งแต่ระยะแรก ๆ ประกอบกับยาและวิธีการรักษาที่ดีขึ้นในอนาคต โดยอาศัยความรู้ ที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะทำให้สามารถค้นพบสาเหตุที่แท้จริงของโรค เอส แอส อี สามารถแยกแยะผู้ป่วยเป็นกลุ่ม ปรับปรุงการรักษาให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้ป่วย ตลอดจนควบคุมและให้การป้องกันไม่ได้เกิดโรค เอส แอล อี ขึ้นได้
| |  | |  |
 | |  | |
ลักษณะทางอาการตามระบบที่สำคัญคือ อาการทั่วไป
ผู้ป่วยมักจะมีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดศรีษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อ จิตใจหดหู่ อาการทางผิวหนัง
ผู้ป่วยจะมีผื่นเกิดที่บริเวณใบหน้า ตั้งแต่บริเวณสันจมูกไปที่บริเวณโหนกแก้มทั้ง 2 ข้าง เป็นรูปคล้ายผีเสื้อ (butterfly rash) หรือที่เรียกว่า Malar rash นอกจากนี้ผู้ป่วยมักจะมีผื่นขึ้น หรือมีอาการคันเฉพาะบริเวณที่ถูกแสงแดด (photosensitivity) หรือมีผื่นเป็นวง ๆ เป็นแผลเป็นตามหน้า และหลังศรีษะหรือใบหู (discoid lupus) หรือมีอาการปลายมือปลายเท้าขาว ซีดเขียว เวลาโดนความเย็นผู้ป่วยบางรายจะมีแผลในปาก โดยเฉพาะบริเวณเพดานปากเป็น ๆ หาย ๆ
ผม
อาการผมร่วงเป็นอาการที่พบบ่อยในขณะที่โรคเป็นรุนแรง อาการทางข้อและกล้ามเนื้อ ผู้ป่วยเอส แอล อี ส่วนใหญ่จะมีอาการปวดข้อ อาจจะเป็นข้อนิ้วมือ ข้อไหล่ ข้อเข่า หรือข้อเท้า อาจมีอาการบวมแดงร้อนร่วมด้วย อาจทำให้ข้อบิดเบี้ยวผิดรูปร่างได้ แต่จะไม่ถึงกับทำลายข้อ ดังเช่นในโรคข้ออักเสบรูห์มาตอยด์ นอกจากนี้อาจมีอาการปวด หรืออักเสบของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นร่วมด้วย อาการทางไต
ไต เป็นอวัยวะหนึ่งที่มีการอักเสบได้บ่อยในผู้ป่วย เอส แอล อี ผู้ป่วยที่มีไตอักเสบ จะมีอาการบวมบริเวณเท้า 2 ข้าง หน้า หนังตา หรือบวมทั้งตัว เราพบว่าผู้ป่วยเหล่านี้จะมีไข่ขาวรั่วออกมาในปัสสาวะจำนวนมาก รายที่มีอาการรุนแรงขึ้นจะมีความดันโลหิตสูงขึ้น มีปัสสาวะออกน้อยลง หรือมีปัสสาวะเป็นสีน้ำล้างเนื้อ ในรายที่เป็นรุนแรงมากอาจถึงขั้นมีไตวายได้ อาการทางไตเป็นอาการสำคัญที่บอกว่าโรคค่อนข้างเป็นรุนแรง อาการทางระบบประสาท เมื่อผู้ป่วย เอส แอล อี มีการอักเสบของสมอง บางรายมีอาการชัก บางรายมีอาการพูดเพ้อเจ้อ เอะอะโวยวาย คลุ้มคลั่งคล้ายคนโรคจิต จำญาติพี่น้องไม่ได้ บางรายมีการอักเสบของเส้นประสาทเฉพาะที่ร่วมด้วยได้ อาการทางระบบโลหิต
บางครั้งมีการทำลายเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว หรือเกร็ดเลือด ทำให้มีอาการโลหิตจาง ซีด อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หน้ามืดจะเป็นลม หรือมีเม็ดเลือดขาวต่ำลง หรือเลือดออกง่ายได้ อาการทางหัวใจและหลอดเลือด เมื่อมีการอักเสบของเยื่อหุ้มหัวใจ หรือกล้ามเนื้อหัวใจ ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บหน้าอก ใจสั่น เหนื่อยง่าย นอนราบไม่ได้ บางครั้งมีจังหวะการเต้นของหัวใจผิดปรกติ ถ้ามีการอักเสบของเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ จะมีอาการของ การขาดเลือดของอวัยวะนั้น ๆ เกิดขึ้นได้
นอกจากนี้ผู้ป่วย เอส แอล อี บางราย อาจมีภาวะเลือด แข็งตัวง่าย ทำให้มีการอุดตันของหลอดเลือดดำ หรือหลอดเลือดแดง ตามอวัยวะต่าง ๆ อาการทางระบบเดินอาหาร
ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน กลืนลำบาก การดูดซึมสารอาหารจากลำไส้ผิดปกติ บางครั้งมีตับอ่อนอักเสบร่วมด้วยได้
ผู้ป่วยด้วยโรค เอส แอล อี แต่ละคน ไม่จำเป็นต้องมีอาการครบทุกระบบ หรือมีอาการรุนแรงเสมอไป ความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับระบบอวัยวะที่ผู้ป่วยมีอาการร่วมด้วย บางคนเป็นน้อย มีแต่ ไข้ ปวดข้อ มีผื่นขึ้น บางคนมีอาการรุนแรง มีชัก คลุ้มคลั่ง ไตวาย หรือปอดอักเสบรุนแรงจนมีเลือดออกในปอดได้ อาการของโรคจะแสดงความรุนแรง แต่บางครั้งอาการก็สงบลงได้เอง
ข้อมูล : //www.thai-sle.com/menu-ebook.htm
| |  | |  |
 | |  | |
รู้จักเจ้าตัวป่วนของปอ ป้า กันแล้ว..นะคะ คิดว่าจะต้องมีคนสงสัยและอยากถามปัญหาต่อไปอีก ปอ ป้า ก็เลยขออนุญาติแจงรายละเอียดไว้เลย..ละกัน
1) ปอ ป้า จัดเป็นผู้ป่วยที่มีอาการทางไหน ?? ตอบว่า : ทางข้อและกล้ามเนื้อ..ค่ะ
เมื่อตอนที่เป็นใหม่ ๆ จัดอยู่ในประเภทมีอาการทางผิวหนัง กินเวลานานกว่า ๕ ปี ต่อมาคุณตัวป่วน เค้ากลัวป้าจะเบื่อ ก็เลยขยันพัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ พัฒนาไป พัฒนามา ตอนนี้เลยมาลงอยู่ที่ข้อและกล้ามเนื้อ เป็นเวลากว่า ๑๐ ปีแล้ว รวมเวลาที่เป็นโรคนี้นับได้ประมาณ..น่าจะมากกว่า ๓๐ ปีแล้ว..ค่ะ ( ต่อไปก็ไม่รู้ว่าเค้าจะพัฒนาเป็นอะไรไปอีก..หุ หุ )
2) เป็นบ่อยมั้ย ?? ตอบว่า : ตอบไม่ได้ค่ะ
เพราะวันไหนเค้าเกิดพิสวาทรักปอ ป้า ขึ้นมา อยากจะมา เค้าก็มา มาแบบสายฟ้าแล็บ เค้าไม่ค่อยชอบวางแผนการล่วงหน้าหรอก..ค่ะ ...ชอบมาเซอร์ไพรส์ ปอ ป้า อิ อิ...
3) รู้สึกท้อแท้มั้ย ?? ตอบว่า : ไม่นะคะ ไม่เคยท้อแท้สักครั้ง
มีอาการก็หม่ำยา หม่ำแล้วไม่ดีขึ้น ก็ไปหาหมอ หมอปรับยาให้ใหม่ ยังไม่ดีขึ้นอีก ก็ไปนอนคุยเล่นกะหมอกะพยาบาลที่โรงบาล คุยเบื่อแล้ว ก็กลับบ้าน..ทำงานต่อ ปฏิบัติธรรมต่อ อัพบล๊อกต่อ ...ชีวิตมีรสชาดดีออก ไม่งั้นหงอยแย่...
ปอ ป้า นึกคำถามได้แค่นี้เอง เพราะเป็นตัวของปอ ป้าเอง มันรู้เรื่องคุณตัวป่วนหมดแล้ว...อ่ะ เลยนึกไม่ออกว่า คนที่เค้าไม่รู้จักคุณตัวป่วน เค้าจะมีคำถามอะไรมากไปกว่านี้อีก
เอาเป็นว่า ถ้าใครสงสัยอะไร ถามได้เลย..นะคะ ยินดีตอบ...ขอรับ ครับกระโพ้มมมม...
สุดท้าย ปอ ป้า ขอขอบคุณทุก ๆ ท่าน ที่กรุณาถามไถ่ ให้กำลังใจกันเข้ามามากมายนับไม่ถ้วน (..เว่อร์..ซะ ) ซาบซึ้งในน้ำใจ และ ไมตรี ตลอดจนความปรารถนาดีที่มีให้กันเสมอมา
ทุกวันนี้ ปอ ป้า มีความสุขที่ได้มีเพื่อนต่างวัยในโลกไซเบอร์แห่งนี้ เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ หลาน ๆ ทุกคน ต่างให้ความรัก ความอบอุ่น แก่ปอ ป้า
ชีวิตผ่านร้อน ผ่านหนาว สูงสุดและต่ำสุดมากว่า 55 ปี แล้ว
เกิดมา มีบุพการีที่ดีเลิศ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้เรียนรู้การปฏิบัติธรรมตั้งแต่เริ่มหัดพูดหัดเดิน ได้ถึงแล้วในรสพระธรรม ได้รับใช้พระพุทธศาสนา มีกัลยาณมิตรที่ดีมากมาย มีลูกที่ดี มีสามีที่ประเสริฐ
ถึงแม้ว่าจะต้องต่อสู้กับโรคภัยที่ไม่มีทางรักษาให้หายได้ ปอ ป้า ก็ถือว่าชีวิตนี้มีกำไรแล้ว..ค่ะ
ขอขอบคุณกรอบสวยจากบ้านคุณแมวที่น่ารัก maew_kk...ค่ะ

| |  | |  |
Create Date : 26 มีนาคม 2552 |
Last Update : 19 มีนาคม 2558 16:09:12 น. |
|
36 comments
|
Counter : 2649 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: satineesh วันที่: 26 มีนาคม 2552 เวลา:12:01:52 น. |
|
|
|
โดย: นู๋ดาว คนซน (satineesh ) วันที่: 26 มีนาคม 2552 เวลา:12:06:24 น. |
|
|
|
โดย: SaKaNaJang วันที่: 26 มีนาคม 2552 เวลา:13:12:07 น. |
|
|
|
โดย: อาลีอา วันที่: 26 มีนาคม 2552 เวลา:19:57:07 น. |
|
|
|
โดย: ขวัญค่ะ (toyor ) วันที่: 26 มีนาคม 2552 เวลา:20:50:29 น. |
|
|
|
โดย: มัททะนะ (mastana ) วันที่: 27 มีนาคม 2552 เวลา:1:03:49 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 มีนาคม 2552 เวลา:8:20:16 น. |
|
|
|
โดย: กชมนวรรณ วันที่: 27 มีนาคม 2552 เวลา:9:23:37 น. |
|
|
|
โดย: นู๋ดาว คนซน (satineesh ) วันที่: 27 มีนาคม 2552 เวลา:15:50:06 น. |
|
|
|
โดย: ญามี่ วันที่: 27 มีนาคม 2552 เวลา:15:50:26 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 มีนาคม 2552 เวลา:16:28:40 น. |
|
|
|
โดย: LooKPat วันที่: 27 มีนาคม 2552 เวลา:19:21:30 น. |
|
|
|
โดย: ญามี่ วันที่: 27 มีนาคม 2552 เวลา:19:28:17 น. |
|
|
|
โดย: busabap วันที่: 27 มีนาคม 2552 เวลา:19:49:05 น. |
|
|
|
โดย: อาลีอา วันที่: 27 มีนาคม 2552 เวลา:19:52:46 น. |
|
|
|
โดย: นู๋ดีค่ะ (kun_isara ) วันที่: 27 มีนาคม 2552 เวลา:20:43:53 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 27 มีนาคม 2552 เวลา:22:46:34 น. |
|
|
|
โดย: i am_giddy วันที่: 27 มีนาคม 2552 เวลา:23:10:17 น. |
|
|
|
โดย: คนสาธารณะ วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:1:36:31 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:8:14:46 น. |
|
|
|
โดย: I_sabai วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:14:03:07 น. |
|
|
|
โดย: ญามี่ วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:17:01:51 น. |
|
|
|
โดย: yoja วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:22:35:48 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:8:16:03 น. |
|
|
|
โดย: มัททะนะ (mastana ) วันที่: 30 มีนาคม 2552 เวลา:0:33:48 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มีนาคม 2552 เวลา:8:24:09 น. |
|
|
|
โดย: อาลีอา วันที่: 30 มีนาคม 2552 เวลา:9:06:42 น. |
|
|
|
โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 14 ตุลาคม 2552 เวลา:18:25:46 น. |
|
|
|
โดย: pragoong วันที่: 17 ตุลาคม 2554 เวลา:15:21:12 น. |
|
|
|
โดย: หวานค่ะ IP: 122.154.16.246 วันที่: 9 มีนาคม 2555 เวลา:14:09:54 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
| |
|
|
> > .............ดาวจ๋า.......ดาวจ๋า...................ดาวจ๋า..........ดาวจ๋า
> > .........ดาวจ๋า.............ดาวจ๋า................ดาวจ๋า...............ดาวจ๋า
> > .....ดาวจ๋า...................ดาวจ๋า.............ดาวจ๋า...................ดาวจ๋า
> > ...ดาวจ๋า........................ดาวจ๋า........ดาวจ๋า......................ดาวจ๋า
> > ..ดาวจ๋า.............................ดาวจ๋าดาวจ๋า...........................ดาวจ๋า
> > .ดาวจ๋า.................................ดาวจ๋า.................................ดาวจ๋า
> > .ดาวจ๋า...........................................................................ดาวจ๋า
> > ..ดาวจ๋า.........................................................................ดาวจ๋า
> > ....ดาวจ๋า......................................................................ดาวจ๋า
> > .....ดาวจ๋า...................................................................ดาวจ๋า
> > ......ดาวจ๋า...........................ขอเจิมค่ะ.....................ดาวจ๋า
> > ...........ดาวจ๋า.......................................................ดาวจ๋า
> > ................ดาวจ๋า...............................................ดาวจ๋า
> > ....................ดาวจ๋า......................................ดาวจ๋า
> > .........................ดาวจ๋า..............................ดาวจ๋า
> > ..............................ดาวจ๋า.....................ดาวจ๋า
> > ....................................ดาวจ๋า............ดาวจ๋า
> > ........................................ดาวจ๋า.....ดาวจ๋า
> > ...............................................ดาวจ๋า