|
วันที่ ๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๗ วันคล้ายวันเกิดพ่อเก่ง |
|
วันที่ ๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๗ วันคล้ายวันเกิดพ่อเก่ง อีกหนึ่งนาทีจะห้าทุ่ม สะดุ้งตื่นอีกละ น่าจะลืมอะไรบางอย่างที่รถ เช่นล็อครถมอเตอร์ไซต์ ก็เลยเดินงัวเงีย ๆ ลงบันไดไปหน้าบ้าน ปรากฎว่าลืมเอาผ้าคลุมเบาะ แต่ไม่ลืมล็อครถ แล้วก็งัวเงีย ๆ เดินกลับบนห้อง ขากลับ แวะเปิดตู้เย็น สงสัยจะเริ่มหิว ก็เลยแอบบิดไข่เจียวของใครสักในตู้เย็นกินไปหนึ่งคำ . ตอนค่ำดุรันยาไปหนึ่งยก เพราะทำคิ้วขมวดบางเรื่อง พ่อก็หมดพลังพอดี ก็เลยต้องไปเพิ่งพิงพระเยซูมากขึ้น ฟังเพลงพระเจ้า แล้วก็ปิดไฟนอนก่อนลูกเลย พระเจ้าก็บอกชัดเลย่า put God first เราจะหวังอะไรมากกับโลกนี้ไม่ได้หรอก แม้แต่ลูกก็ตาม .. อย่ายึดอะไรไว้ในใจเรา เพราะสักวันจะทำให้เราเสียใจ แม้แต่ลูกก็ตาม แต่ก็ไม่ปล่อยหรือละเลย ทำให้ดีที่สุดในสิ่งที่เป็นหน้าที่ของเรา .. ก็ต้องมีบ้างไปตามระเบียบ ดุลูก บ้าง ผลของการดุลูกก็คือ พ่ออดกินสเต็กที่ซื้อมา หุๆ แต่ตอนพ่อนอน รันยายกปลาทอดอะไรไม่รู่้มาให้ แต่สภาพนั้น เหม็นหน่อย ๆ และไม่อร่อยเลย พ่อเลยยกออกไปวางบนโต๊ะกับข้าว แล้วกลับมานอนต่อ .. สักพ่อ สงสัยมีคนบอกให้รันยาไปนอนได้แล้ว ก็เลยเห็นรันยาแอบเข้ามานอนในห้องกับพ่อ .. เวลาไปเที่ยว เวลาไปทำกิจกรรม จะไม่มีปัญหาอะไรใด ๆ แต่จะมีปัญหาเสมอ ๆ เมื่อสั่งงานเกี่ยวกับเสื้อผ้า เช่นเก็บผ้า เก็บถุงเท้าเป็นต้น คราวนี้ รันยายืนยันว่าถุงเท้ายังเปียกอยุ่ แต่ฝั่งย่าบอกว่าแห้งแล้ว พ่อก็เลยตะโกนดุไปตามระเบียบ .. ก็ผ่านไปสามถึงสี่ชั่วโมงแล้วหละ ก็หายโกรธลูกแล้ว ลูกตื่นมาก็คงหายโกรธแล้วเหมือนกัน ต้องขอบคุณพระเยซู ไม่ว่าเรื่องดีหรือร้าย พ่อจะจดจำได้เพียงหนึ่งวันเท่านั้น วันนี้เจ้านายชม พรุ่งนี้เราก็ไม่ได้จดจำอะไร วันนี้ทะเลาะกับลูก พรุ่งนี้เราก็ลืมไปหมด แต่อาจทำเป็นเก๊ก ๆ หน่อยเท่านั้น .. ไม่เหมือนเมื่อก่อน โกรธใครจะยาวกว่านี้ เดี๋ยวนี้จริง ๆ วันเดียวลืมแล้ว แต่แค่เก๊กเท่านั้น .. วันนี้วันคล้ายวันเกิด จริง ๆ ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าไร แต่ก็แอบ ๆ มองว่ามีใครมาอวยพรวันเกิดในเฟซบุ๊ค กับในไลน์ไหม ๕๕ ขนาดเราที่เป็นคริสเตียนที่ถูกสอนมาว่า เราไม่ยึดติดกับเทศกาล ประเพณีใด ๆ แต่เมื่อถามพระเจ้าแล้ว พระเจ้ากลับตอบพ่อชัดเจนว่า เวลาที่เพื่อน ๆ หรือใคร ๆ เขามีวันคล้ายวันเกิดมาถึง ก็จงไปอวยพรเขาเถอะ พระเจ้ากลับตอบพ่อเก่งแบบนั้น ซึ่งขัดกับสิ่งที่มานาฯสอน จริง ๆ มีสองสามเรื่อง ที่ทำให้พ่อออกจากมานาฯ ก็คือเคร่งครัดในเรื่องประเพณีพวกนี้หนะเอง ซึ่งพอถามพระเจ้า กลับได้คำตอบตรงกันข้ามกับสิ่งที่พี่เจสอน .. คำตอบนั้น แน่ใจนะว่ามาจากพระเจ้า คำถามเหล่านี้ พ่อเก่ง ถามมาตลอดหลายปีแล้ว และมันเป็นแบบเดิม ๆ แบบนี้ สันติสุขที่แท้จริงจะเป็นตัวบอกเราเอง .. จากวันเกิด มาบ่น มานาฯ ได้ไหงหนอ .. จริง ๆ พ่อเก่ง เพื่อนแทบไม่มีก็ว่าได้ แต่ก็มีเพื่อนมัธยมหลายคนแวะมาอวยพรวันเกิดอยู่ ถึงแม้จะไม่ได้ไปทักทาย หรือไม่ได้ไปแวะหา แต่ก็ยังอุตส่าห์แวะทักในเฟซฯ ก็ถือว่า เพื่อนคนนั้นค่อนข้างใจกว้างพอสมควรแล้วหละ .. สิ่งเล็ก ๆ น้อยๆ แบบนี้ ปรากฎว่าเป็นการวัดใจคน วัดชีวิต วัดอยู่เหมือนกันว่า เขาเหล่านั้น สามารถเจียดเวลาอันเล็กน้อย เพื่อมาจิ้มนิ้ว พิมพ์สั้นหรือยาว อวยพรวันเกิดใครต่อใคร นั่นก็แปลว่า เขายังพอจะมีความรัก หรือพอจะแบ่งเวลาให้เราได้อยู่บ้างหนะเอง .. แต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ที่เราหรือใครจะไม่ทำแบบนั้น เพราะเป็นเรื่องของจังหวะ ความคิด สถานการณ์ การพบเจอ ที่ทำให้แต่ละคนมีกิจกรรมแตกต่างกันไป การอวยพรวันเกิด ก็น่าจะถือว่าเป็นหนึ่งกิจกรรมที่เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราแบ่งให้กับบางคนได้ .. ทบทวนชีวิตวันนี้หน่อยหนึ่ง ก็ต้องไม่ยึดติดใด ๆ พ่อไม่มีเพื่อน มีแต่ลูกกับครอบครัว แต่ก็ต้องไม่ยึดติดสิ่งทีมีเหลืออันน้อยนิดนี้ .. ช่วงนี้คำว่าพายุยางิ เข้ามาหาสองวันติด ๆ รันยาก็ยังรู้จักเลย เพราะเห็นภาพประเทศจีนและเวียดนามโดนพายุซุเปอร์ใต้ฝุ่นนี้ถล่มในบางเมือง มีเมืองฮานอยด้วย รันยาบอกว่าเพิ่งจะท่องศัพท์คำนี้ไปก็คือ Hanoi ส่วนพ่อก็นึกถึงตอนไปเที่ยวเมือหลายปีก่อนแล้ว ก็เห็นภาพตัวเองขี่มอเตอร์ไซต์เที่ยวในฮานอย นึกถึงคำว่า กาเฟแดง (แปลว่ากาแฟดำ) นึกถึงคำว่า โบ (แปลว่าวัว) นึกถึงคำว่า กา (แปลว่าไก่) หุๆ หลาย ๆ คำของเวียดนามจำง่าย เพราะเหมือนใช้การออกเสียงมาพิมพ์เป็นศัพท์ เช่น โบ กับกา สิ่งที่จินตนาการก็คือ ภาพมอเตอร์ไซต์ที่เขาซิกแซกเก่งมาก ๆ แต่ก็ไม่สามารถหลบพายุนี้ได้ .. วันนี้ตื่นเช้า ก็ขับรถทาทาไปแวะที่เซเว่นฝั่งตรงข้ามหมู่บ้านอรสิริหก ซื้อโยเกิร์ต ถั่ว แล้วก็หมูปิ๊งกินกัน พอพ่อเริ่มกินโยเกิร์ต รันยาก็จะกินตาม ก็ทำให้พ่อฉุกขึ้นมาว่า สงสัยในทุกกิจกรรม หรือถ้าเป็นไปได้ เราต้องลงมือทำกับลูกด้วย อยากให้ลูกกินนมเปรี้ยว โยเกิร์ต พ่อก็ต้องกินให้ดูก่อน อยากให้ลูกวิ่งระยะไกลในงานต่าง ๆ พ่อก็คงต้องพารันยาไปดูก่อน เดี่ยวต้องพารันยากับย่าไปงานวิ่งกันก่อน อาจให้รันยาอยู่กับย่า เพื่อดูพ่อวิ่งระยะสิบกิโลเมตรให้ดู พอเห็นภาพพ่อรับเหรียญวิ่ง รันยาก็คงอยากจะวิ่งตาม เป็นต้น .. เอาว่ะ เดี๋ยวต้องยอมเสียตังค์สักเดือนละสามพันเป็นต้น เป็นค่าวิ่งกับค่าโรงแรมค่าเดินทาง หรือ อาจไปแถว ๆ ห้าพัน ถ้าแพงมากก็อาจจะสองเดือนครั้งก็ได้ ตอนนี้พบว่าไม่มีทางเกิดขึ้นเลย ถ้าพ่อไม่พาไปเลย .. แต่บางเรื่อง พ่อพยายามเลี่ยงมาก ๆ เช่นการไปในที่ ๆ จะทำให้รันยาทำตามอย่างโลกมากไป เช่น ห้างฯเซ็นทรัล พ่อแทบจะไม่พาไปเลย จริง ๆ ห้างคงไม่ผิด แต่พ่อรู้สึกแบบนั้น เดี่ยวต้องพาลูกไปคริสตจักรหาเพื่อน ๆ หาเพื่อนใหม่ให้รันยามากขึ้น รันยาจะปลอดภัยในทางโลกแน่นอน .. แปดโมงสี่สิบ เราก็ไปถึงอรสิริหกแล้วหละ รันยาเจอเพื่อนคนหนึ่ง น่าจะชื่อนีน่า รันยาบอกว่าเพื่อนคนนี้คงจะอยุ่ในกลุ่มนางฟ้า สงสัยเพราะดูหน้าตาดีมั้ง..........พ่อก็ลืมอธิษฐานให้ลูกตอนนั้นว่า ขอบคุณพระเจ้าที่ลูกจะมั่นใจ ที่ลูกจะไม่น้อยใจ หรือรู้สึกบางอย่าง พ่อก็ให้กำลังใจเสมอ ๆ ว่า เวลารันยายิ้ม รันยาน่ารักมาก ๆ นะ .. พ่อบอกบ่อย ๆ ว่า ยิ้มแบบนี้ จมุกแบบนี้มันพอดีแล้วหละ อนาคตไม่ต้องไปเสริมเติมแต่งใด ๆ นะ พ่อจะย้ำเกี่ยวกับจมูกอยุ่บ่อย ๆ เหมือนกันว่าน่ารักแล้ว จมูกแบบนี้คือจมูกของคนน่ารัก .. ก็เมื่อเรามีปัญหาในใจ เมื่อเราใช้วิธีขอบคุณพระเจ้า ปัญหาก็จะคลี่คลายลงไปในทันที .. https://x.com/i/status/1832613040338227473 .. ตอนเที่ยงเรากลับบ้านกันก่อน พักแป๊บนึง แล้วพ่อก็เอารถมอเตอร์ไซต์ออกจากบ้านกับรันยา พารันยาไปนั่งร้านกาแฟสร้างสรรค์แถว ๆ สันกำแพง เพื่อจะให้รันยาตั้งใจอ่านหนังสือสอบ ปรากฎว่า มาดูตอนนี้ เราไปอ่านภาษาอังกฤษที่จะสอบวันพฤหัสฯที่ ๑๒ กันยายน ก็คือหน้า ๒๑ ๒๓ ๕๗ ๖๕ ๗๑ https://voom-obs.line-scdn.net/h5ufKtEwOdltuXmVVOQhxIicsZmwiACoPMlF3O3s3Z24hUn0MYVQmbytlMGMkCywNZ1Y/m800x1200 .. เดี๋ยวพรุ่งนี้เลิกเรียน คงต้องพารันยาอ่านวิชา English for Daily Life 4 หน้า ๓๖..๓๗ และ ๔๐ ต่างหาก ซึ่งจะสอบวันที่ ๑๐ กันยายน https://voom-obs.line-scdn.net/hAO7QyJ_FAmE_RBFvaBIFGHY2RwN1GF1mNExQU3wuQwNyEFo2P0gGAScvSAR3Sw5hMUc/m800x1200
ตอนนี้พ่อบอกตัวเองว่า ไม่เป็นไรหรอก สบาย ทัน ได้คะแนนกลาง ๆ ก็ได้อยู่ สำคัญคืออย่าเครียดมากไป การเรียนเก่ง หรือไม่เก่ง ไม่ได้สำคัญที่สุดในชีวิต เพราะถ้ามองดูแล้ว ชีวิตคนเรานั้นอยู่ประมาณ ๘๐ ปีเท่านั้น และปรากฎว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดกลับเป็นเรื่องของ สุขภาพใจ และสุขภาพกาย ต่างหาก .. บันทึกภาพรันยาไว้เหมือนเคย อ่านหนังสือที่ร้านกาแฟสร้างสรรค์ https://pbs.twimg.com/media/GW77pqLa8AASAOY?format=jpg&name=large https://pbs.twimg.com/media/GW77p81a8AILQbe?format=jpg&name=large https://x.com/i/status/1832682665373466737 https://x.com/i/status/1832682665373466737 .. พอใกล้ ๆ สี่โมงเย็น พ่อบอกว่าเดี่ยวเราไปดูงาน Calisthenics กันที่ดีแคทลอนเชียงใหม่ รันยายิ้มออกมาตามธรรมชาติเลย ไปถึงก็ไปนั่งในร้านกาแฟใกล้ ๆ บาร์ รันยาบอกว่าแพงมาก ๆ เลย รันยาสั่งนมชมพู เพราะว่าจะอาศัยที่นั่งในร้านเพื่อดูการแข่งขันดึงข้อ .. สักพัก พ่อบอกว่า เฮ้ย นั่น นายจอห์น บูรณสิริ นี่นะ พ่อจำชื่อไม่ได้เท่าไร ที่หล่อ ๆ ดัง ๆ เป็นฟลูเอนเซอร์เกี่ยวกับนักพูดให้กำลังใจ ตอนแรกคิดว่าจะมาแข่งด้วย เพราะดูหุ่นแล้ว คล้าย ๆ หัดดึงข้อมาเหมือนกัน https://pbs.twimg.com/media/GW8dmDnaUAA0D4H?format=jpg&name=medium .. พ่อบันทึกวีดิโอ ได้บางคน บางคนดึงข้อสวยมาก คนนี้คุ้นหน้ามาก เพิ่งจะจำได้ว่า เหมือนเคยเห็นในช่อง TLLK ตัวเล็กเล่นกล้ามหนะเอง ตัวจริงเหมือนตัวยาว ๆ แต่บางกว่าในยูทูป แต่ก็ถือว่าหุ่นดีเลยหละ ดึงได้ดีและพยายามกว่าชาวบ้านมาก ๆ แต่พ่อบันทึกไปได้ไม่จบ เสียดายอยู่เหมือนกันคิดว่าเขาจะเลิก แต่ปรากฎว่ายาวเลย https://x.com/i/status/1832719796103946720 มีฝรั่งมาแข่งด้วยสองสามคนมั้ง มีคนหนึ่งหน้าตาคุ้น ๆ เพราพ่อเคยเห็นมาหัดดึงข้อ ตอนนั้นถอดเสื้อ ก็มีกล้าม มีปีกเห็นชัดพอประมาณเลย คราวนี้ใส่เสื้อมาดึงข้อ อดดูกล้าม หุๆ https://x.com/i/status/1832719807739035865 .. เราดูไม่จบ ดูไปในส่วนดึงข้อจนครบทุกคน แล้วเดี๋ยวคงมีต่อแบบห้อยตัวจับเวลาดูเรื่องของ Grip strengh เราดูไปได้เพียงคนเดียวและก็ไม่จบด้วย น้องคนแรก น่าจะห้อยไปมากกว่าสองนาที อันนี้เดาเอา .. พ่อพารันยาขี่รถมอเตอร์ไซต์กลับทางเดิมไปทางถนนสันกำแพง แล้วรันยาแวะกินสเต๊กก่อนถึงตลาดเจริญเจริญ จริง ๆ ร้านน่าจะติดกับร้านแจ่มฟ้ามากกว่า รันยากินสเต๊กหมู ก็เหลือผักให้พ่อตามเคย พ่อซัดผักรวดเดียวหมด แล้วก็สั่งสเต๊กไก่หมูใส่กล่อง จริง ๆ ไม่ได้ทันคิดเผื่อซ์้อให้ที่บ้านหรอก แต่มาถึงบ้าน ทะเลาะกับลูกเล็กน้อย พ่อเลยอดกินเลย หุๆ .. รันยาบอกอร่อยดี แต่พ่อคิดว่าหมูบางไปหน่อย .. ดำเนินชีวิตวันต่อวันกันต่อไป ในส่วนดี ๆ ก็ต้องขอบคุณพี่เจกับมานาฯ จริง ๆ ก็ฟังแกอยุ่ทุก ๆ วัน live today only, live day by day, LIVE ONE DAY at at time live a moment ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขในขณะใด ๆ จะดีที่สุด แต่อย่าให้เลยไปอีกหนึ่งวัน อย่าเก็บให้ใจเราเศร้ามองเมื่อพ้นผ่านวัน อย่าให้ใจเราเก็บความหยิ่งจองหอง เพราะเคยทำสำเร็จ ให้มันจบวันนี้ก็พอแล้ว อย่าลืมว่า ไม่มีสิ่งใด ๆ เกิดจากการกระทำ เกิดจากความสามารถของเราเลย การคิดแบบนี้ อย่างน้อย เราจะหยิ่งจองหอง ผยองพองตัว หรือคิดว่า ฉันทำ ฉันได้ เราจะไม่มีความคิดแบบนั้นอีกต่อไป ซึ่งมีข้อดีกว่ามากมายนัก ทำให้เรายิ้มได้แบบทุก ๆ วัน ใช้ชีวิตได้แบบพอดี ๆ ไม่เลิศเชิ๊ตหยิ่ง แต่ก็ไม่ก้มหน้า เราจะยิ้ม หายใจ เดินแบบช้า ๆ เหมือนในหนังจีน คือชีวิตจะเป็นแบบสโลว์โมชั่น แต่กลับพบว่าชีวิตมีประสิทธิภาพมากกว่าสะอีก .. จบข่าว พรุ่งนี้เริ่มวันใหม่ รันยาไปโรงเรียนเหมียนเคย ..
Create Date : 08 กันยายน 2567 |
Last Update : 8 กันยายน 2567 23:50:14 น. |
|
0 comments
|
Counter : 63 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
BlogGang Popular Award#20
|
|
|