|
Ovaltine Bar (Cooking for Hope)

โอวัลตินเป็นอีกหนึ่งของว่างเวลาหิวตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ไม่มีอะไรกินก็จะวิ่งไปหยิบโอวัลตินผงชงน้ำร้อนบ้าง ชงนมร้อนบ้าง หรือแม้แต่ผสมนมข้นหวานแล้วทาขนมปัง เพื่อจะได้รู้สึกว่ามีอะไรถ่วงท้องตัวเอง อิอิอิ ผมจึงมองว่าโอวัลตินเป็นเพื่อนวัยเด็กของผมอีกคนหนึ่ง เสมอมา
วันนี้เราลองมาดึงโอวัลตินให้มีส่วนร่วมในขนมตัวอื่นๆ ที่จงใจเป็นมากกว่าเครื่องดื่ม หรือของรองท้อง วันนี้เราจะแต่งตัวให้โอวัลตินกันใหม่ครับ
โครงการบ้านโฮมฮักที่ช่วยเด็กๆผู้รับผลกระทบจากเชื้อเอชไอวี ก็ไม่ต่างจากโอวัลตินในมุมมองของผมว่าเป็นเพื่อนของพวกเขา หากแต่โครงการนี้คงมากกว่าคำว่าเพื่อน เป็นเหมือนผู้ปกครองที่สองที่จะคอยดูแลพวกเขามากกว่ารองท้อง
ใครอยากจะรู้สึกดีๆกับเจตนารมณ์ของผู้จัดทำ ใครอยากร่วมกันแบ่งปันความรู้สึกดีๆแบบนี้ ผมขอเชิญท่านส่งสูตรและภาพอาหารที่ท่านทำแล้ว เพื่อรวบรวมเป็นหนังสือทำอาหารให้กับโครงการ หมดเขตเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๒ นี้เท่านั้น
สนใจข้อมูลเพิ่มเติมหรืออยากบริจาคเพื่อสนับสนุนโครงการดีๆแบบนี้ ตามไปดูรายละเอียดโครงการได้ที่.. โครงการ Cooking for Hope ครับผม
บาร์โอวัลติน โดยเชฟPichet Ong
ตัวฐาน ช็อกโกแลตนม ๓๔๐ กรัม เนยสดรสจืด ๓ ช้อนโต๊ะ ข้าวพอง rice krispies ๑ ๑/๔ ถ้วยตวง (หรือคอร์นเฟลกบุบหยาบๆ) เกลือสมุทร ๑/๘ ช้อนชา (หรือหนึ่งหยิบมือ)
ครีมบาวาเรียนโอวัลติน ช็อกโกแลตนม ๓๔๐ กรัม ครีม ๓ ถ้วยตวง (แบ่งเป็น ๑ ๑/๒ ถ้วย กับ ๑ ๑/๒ ถ้วย) โอวัลติน ๓/๔ ถ้วยตวง (แบ่งเป็น ๑/๒ ถ้วย กับ ๑/๔ ถ้วย)

ไม่ต้องใช้เตาอบนะครับ อิอิอิ จัดที่ว่างในตู้เย็นให้พอดีกับถาดขนาดกว้าง ๙ นิ้ว ยาว ๑๓ นิ้ว ทาไขมันบางๆแล้วปูกระดาษครับ จะได้สะดวกตอนเอาออกจากพิมพ์

เริ่มจากทำตัวฐานนะครับ ละลายช็อกโกแลตกับเนยสดบนไอน้ำร้อน หมั่นคนให้เข้ากัน ใครใช้ไมโครเวฟต้องใช้พลังงานห้าสิบเปอร์เซนต์ ตรวจทุกๆหนึ่งนาที หมั่นคนเรื่อยๆ จนเข้ากันนะครับ

เมื่อเข้ากันดี เทข้าวพองจะรสธรรมดาหรือรสโกโก้ก็ได้ หรือคอนเฟลกที่บุบหยาบลงในส่วนผสมช็อกโกแลต คนพอให้เคลือบทั่วถึงแล้วเทลงพิมพ์ เกลี่ยให้แบนก่อนนำเข้าพักไว้ในตู้เย็นครับ

ส่วนตัวมูสโอวัลตินหรือบาวาเรียนครีมนั้น เริ่มด้วยการใช้ครีมส่วนหนึ่งถ้วยครึ่งแรก มาต้มกับโอวัลติน ๑/๒ ถ้วย ครับ

เมื่อเดือดฟองพล่าน จึงเทใส่ส่วนของช็อกโกแลตนมในชาม พักไว้หนึ่งนาที จึงค่อยคนด้วยตะกร้อหรือพายยางให้เนื้อเนียนดีครับ พักไว้จนเย็นตัว (ประมาณหนึ่งถึงสองชั่วโมง)

เมื่อส่วนผสมช็อกโกแลตโอวัลตินเย็นตัวดีแล้ว ตีครีมที่เหลืออีกครึ่งให้ตั้งยอดอ่อนครับ ลักษณะของครีมยอดอ่อน จะเหมือนไข่ลวก หรือโยเกิร์ตแบบผสมผลไม้จะเหลวๆหน่อย ไม่ใช่อยู่ตัวแบบที่ใช้แต่งหน้าเค้กกันครับ
การใช้วิปครีมที่ตียอดอ่อนแบบนี้เหมาะกับกาาทำมูส เพราะนอกจากจะตะล่อมให้เข้ากับส่วนผสมง่ายแล้ว ยังเทลงพิมพ์ง่ายไม่ต้องเสียเวลาปาดให้เรียบหรือลดปริมาณฟองอากาศในขนมได้ด้วยครับ

แบ่งครีมมาส่วนหนึ่งเพื่อตะล่อมให้เข้ากับส่วนผสมโอวัลตินก่อน จะได้เป็นการปรับอุณหภูมิส่วนผสมทั้งสองให้ใกล้เคียงกันไปในตัวด้วย เหมือนคนคอเดียวกัน เวลาคุยกันก็รู้เรื่อง เข้าใจกันง่าย วัตถุดิบในการทำเบเกอรี่ ถ้าอุณหภูมิใกล้เคียงกัน ไม่ต่างกันสุดขั้วแบบร้อนมาเจอเย็น ก็ช่วยให้คนทำสะดวกขึ้นครับ ลองสังเกตการทำขนมครั้งหน้าของคุณดูนะครับไม่ว่าจะสูตรไหนๆ

เมื่อตะล่อมเข้ากัน เทลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ได้เลยครับ เกลี่ยให้กระจายเท่ากันทั่วพิมพ์ แล้วนำเข้าตู้เย็นอย่างน้อย ๔ ชั่วโมง หรือข้ามคืนได้ยิ่งดีครับ ยังไม่ต้องห่อพลาสติกนะครับ อาจจะทำหน้าขนมเสียรูปได้เพราะยังเหลวอยู่
พอขนมเซตได้ที่...เอามีดปลายแหลม รนไฟให้พออุ่นหรือจุ่มน้ำร้อนแล้วเช็ดให้แห้ง รันตามขอบพิมพ์ครับ
หลังจากนั้นจะเอาพลาสติกแปะหน้าขนม หรือกระดาษไขก็ได้ครับ แล้วเอาถาดเปล่าหรือฝาวางข้างบน กลับหัวพิมพ์ลง(ฝาหรือถาดจะมาอยู่ด้านล่าง)
ขนมจะตกลงมาอยู่กับถาดด้านล่าง ให้ยกพิมพ์ออกเพื่อลอกกระดาษไขที่เรารองไว้ทีแรกทิ้งครับ

อดทนอีกนิดนะคร้าบบบบบบบบบบบ เกือบเสร็จแล้ว เอาเขียงสะอาดๆ มาวางปิดด้านบนของขนม (ซึ่งตอนนี้คือตัวฐาน) และพลิกกลับหัวท้ายอีกที (เขียงจะต้องกลับมาอยู่ด้านล่างเพื่อรองตัวฐานขนมนั่นเอง) ลอกกระดาษหรือพลาสติกบนผิวมูสออก นำโอวัลตินที่เหลือมาร่อนให้ทั่ว ก่อนตัดแบ่งชิ้น หรือจะยกให้ใครทั้งชิ้นก็ไม่ต้องใช้เขียงรองแต่อย่างใดครับ

ตัดเสร็จ เลือกโรยดอกเกลือ หรือเกลือป่น เล็กน้อยเพื่อเพิ่มอรรถรส และตัดหวานจากตัวขนมเล็กน้อยครับ
วิธีการตัดขนมพวกแนวมูส หรือครีมชีส แบบนี้ต้องแน่ใจว่าขนมเย็นได้ที่นะครับ กับสองมีดเล่มใหญ่ยาวเกินขนาดเค้ก และสามเตรียมน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นไว้จุ่มมีด เพื่อทำให้มีดอุ่นอยู่ตลอด บางทีผมก็เอามีดลนไฟครับ แต่วิธีนี้ต้องคอยตรวจกับฝ่ามือว่าร้อนไปไหม เอาแบบอุ่นๆ เหมือนตอนโดนแดดก่อนเที่ยงครับ เราทนร้อนไหว เค้กก็จะได้ทนไหวไม่ละลายไปด้วย เวลาตัดก็วางมีดด้านคมลงไปทั้งแนวที่จะตัด ความร้อนจะทำให้มูสละลาย เมื่อออกแรงกดใบมีดเพียงเล็กน้อยก็จะจมลงไปในส่วนของครีมจนถึงก้นครีมครับ ติดก็ตรงฐานนี่เอง ที่ต้องออกแรงกดเพิ่ม แล้วจึงดึงมีดออกตรงๆ จากทิศทางที่กดลงไปอย่าดึงเหมือนเฉือนเข้าหาตัวนะครับ อาจจะไม่งามได้
คราวนี้ผู้ใหญ่หลายคน ได้เวลากลับไปหวนระลึกถึงตอนเป็นเด็กกันบ้าง ขอให้มีความสุขกันถ้วนหน้านะครับ
เพราะผมเห็นว่า "การแบ่งความสุขให้คนอื่นนั้น...เริ่มจากที่เราสุขข้างในเราเองก่อนครับ"

Eng version is in process
Create Date : 22 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 22 มิถุนายน 2553 10:08:02 น. |
|
15 comments
|
Counter : 2945 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: สาววิเศษ วันที่: 22 มิถุนายน 2553 เวลา:11:28:26 น. |
|
โดย: auau_py วันที่: 22 มิถุนายน 2553 เวลา:11:34:06 น. |
|
โดย: ดรีม IP: 58.8.171.156 วันที่: 22 มิถุนายน 2553 เวลา:11:39:28 น. |
|
โดย: McMullence IP: 24.17.184.38 วันที่: 22 มิถุนายน 2553 เวลา:13:14:08 น. |
|
โดย: IyadA วันที่: 24 มิถุนายน 2553 เวลา:9:59:44 น. |
|
โดย: NokJbz วันที่: 26 มิถุนายน 2553 เวลา:9:51:47 น. |
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 สิงหาคม 2553 เวลา:21:48:45 น. |
|
โดย: จ๋า IP: 15.1.18.249, 124.122.123.125 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:15:13:56 น. |
|
โดย: คะน้า IP: 2.51.88.97, 86.96.228.87 วันที่: 1 เมษายน 2554 เวลา:13:25:05 น. |
|
โดย: kittscake วันที่: 29 ตุลาคม 2554 เวลา:17:30:46 น. |
|
|
|
|
kittscake |
 |
|
 |
|