|
 |
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
 |
12 กรกฏาคม 2553
|
|
|
|
วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามฯ (1)

สวัสดีค่ะ
วันนี้มาพาไปเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์กันต่อค่ะ
สถานที่ที่คณะเราไปชมคือ วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร อยู่ไม่ไกลเท่าใดนัก
เดินมาไม่นานก็ถึงป้ายประตูเข้าวัดทางด้านซ้ายมือ

มองเข้าไปจะพบประตูที่เป็นศิลปปูนปั้นอันสวยงามเตะตาก่อนเพื่อน

มาฟังประวัติของวัดนี้ สักเล็กน้อยนะคะ
วัดแห่งนี้ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 4 ด้วย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น นับว่าเป็นวัดพระอารามหลวงที่มีขนาดเล็กมาก ด้วยมีเนื้อที่เพียง 2 ไร่ 2 งาน 98 ตารางวา ทั้งนี้เพราะที่ดินผืนนี้เดิมในสมัยรัชกาลที่ 1 ได้มีผู้สร้างโรงธรรมการเปรียญ เพื่อใช้เป็นที่ฟังธรรมถวายทานแด่พระสงฆ์ แต่ต่อมาในสมัย รัชกาลที่ 3 ได้ใช้ที่แห่งนี้เป็นสวนกาแฟ ครั้นถึงรัชกาลที่ 4 สวนกาแฟขาดผู้ดูแลรักษา ปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า จึงทรงมีพระราชดำริจะใช้ที่นี้สร้างวัดธรรมยุตขึ้น จึงได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อที่ แผ่นดินนี้ เป็นจำนวนเงิน 18 ชั่ง ตำลึงกึ่ง (1,098 บาท) การก่อสร้างพระอารามเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2407 ใช้เวลาประมาณ 7 เดือนจึงแล้วเสร็จ
เมื่อเดินผ่านป้ายประตูวัดแล้ว เรายังไม่เข้าไปภายในอาคารที่มีประตูสวยๆ นั่น เพราะว่า ทางด้านซ้ายมือถัดจากประตู จะมองเห็นเสาหลักศิลาต้นหนึ่ง ตั้งเด่นอยู่บนกำแพง

เสาหลักศิลานี่ คือ เสาพัธสีมา ที่กำหนดให้เป็นบริเวณวัด เมื่อจะมีการทำสังฆกรรม เช่นการบวช ภายในพัธสีมา

ตามธรรมดาเราจะเคยเห็นแต่พัธสีมาที่เป็นรูป เสมา ธรรมดาใช่ไหมคะ แต่เสานี้พิเศษกว่านั้น คือ เป็นพัธสีมา ที่มีจารึกคาถาบาลี และภาษาไทย ซึ่งเป็นบทพระราชนิพนธ์ รวม 10 หลัก

เพราะมีเสมาอยู่ที่แนวกำแพงวัด เพราะฉะนั้นสามารถทำสังฆกรรมที่บริเวณใด ภายในวัดก็ได้

ประตูวัดทางด้านทิศเหนือ(ที่แรกพบ) มีบานประตูเป็นไม้สักสลักเป็นรูป เสี้ยวกาง กำลังรำง้าวอยู่บนหลังสิงห์โต

คณะเราเดินอ้อมเสาพัธสีมา มาทางซ้ายมือ แล้วลอดซุ้มประตูเข้ามา จึงจะพบพระวิหารหลวงหลังใหญ่อยู่ด้านหน้า
เนื่องจากวัดนี้มีมหาสีมาล้อมพระอาราม ภายในวัดจึงไม่มีพระอุโบสถ หากแต่ใช้พระวิหารหลวงเป็นที่กระทำสังฆกรรม พระวิหารหลวงหลังนี้ตั้งอยู่บนพื้นไพทีสูง มีมุขหน้าและหลัง ผนังภายนอกประดับด้วยหินอ่อน

มีสิงโตหินเฝ้าบันไดทางขึ้น

หน้าบันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เป็นรูปมหาพิชัยมงกุฎบนพระแสงขรรค์ ซึ่งมีพานแว่นฟ้ารองรับมหาพิชัยมงกุฎและพระขรรค์นั้น พานแว่นฟ้าประดิษฐานอยู่บนหลังช้าง ๖ เชือก ทั้งสองข้างประดับด้วยฉัตรห้าชั้น พื้นของหน้าบันเป็นลายกนกลงรักปิดทองทั้งหมด ตัวหน้าบันเป็นไม้สักแกะสลักเป็นลวดลายดังกล่าวนั้น นับว่าเป็นหน้าบันที่วิจิตรพิสดาร เป็นยอดของสถาปัตยกรรมอันดับหนึ่งของประเทศไทย


ซุ้มประตูหน้าต่างประดับรูปลายปูนปั้น ลงรักปิดทองติดกระจกสีเป็นรูปมงกุฎทุกบาน ตัวบานประตูหน้าต่างสลักด้วยไม้สักเป็นลายก้านแย่ง ซ้อนกันสองชั้นลงรักปิดทองติดกระจกสี ทำให้ดูงดงามยิ่งขึ้น


มีพวงอุบะแขวนท้าทายสายลมที่กลางหน้าต่างอย่างสวยงามสมกับความเป็นไทย

ลวดลายลงรักปิดทองเป็นลายกลีบดอกพุดตานอันงดงาม


ประตูเข้าพระอุโบสถเป็นสัญญลักษณ์ ของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระประธานประจำพระวิหารหลวงนั้น คือ "พระพุทธสิหังคปฏิมากร" เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ หล่อด้วยโลหะตามแบบพระพุทธสิหิงส์ ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชี ภายใต้บุษบก รัชกาลที่ 4 โปรดให้จำลองจาก พระพุทธสิหิงส์ องค์ที่ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรค์ ภายในพิพิธภัณสถานแห่งชาติ เนื่องจากทรงชอบพระทัยว่ามีพุทธลักษณะงดงามยิ่ง อีกทั้งทรงนับถือด้วยพระราชศรัทธาเป็นพิเศษ


เบื้องหน้าพระประธาน มีพระพุทธรูป ชื่อ พระนิรันตราย ประดิษฐานอยู่ในครอบแก้วด้วย

ภายในพระวิหารหลวงมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เป็นภาพเขียนด้วยสีฝุ่น
เขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นภาพเกี่ยวกับพระราชพิธีสิบสองเดือน



ภาพสุริยุปราคาในสมัยรัชกาลที่ 4 (ภาพนี้อยู่ลึกลับมาก ต้องปิดประตูทางเข้าพระวิหาร แล้วพบว่าภาพซ่อนอยู่หลังประตู)

นอกจากนี้ บนบานหน้าต่างในพระวิหารหลวง จะพบตัวหนังสือโบราณจารึกไว้ ใครทราบรายละเอียดตรงนี้ช่วยบอกด้วยค่ะ ตัวหนังสือแบบนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงนำไปจารึกไว้ที่ วัดพระราม 9 เช่นเดียวกัน



ภายในพระวิหารหลวงก็คงจะมีรายละเอียดเท่านี้
บล็อกหน้าจะพาไปชมภายนอกบริเวณพระวิหารหลวงกัน ว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
มาติดตามประวัติศาสตร์ช่วงนี้กันนะคะ
  
Create Date : 12 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 4 มีนาคม 2554 12:45:05 น. |
|
28 comments
|
Counter : 15940 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: ป้าเกรซ (BabyGreace ) วันที่: 12 กรกฎาคม 2553 เวลา:12:17:18 น. |
|
|
|
โดย: chadapha วันที่: 12 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:51:18 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 12 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:09:25 น. |
|
|
|
โดย: อิ ส ร ะ ช น ตั ว โ ต เ ต็ ม วั ย . . ไม่ ใ ช่ ใ ค ร . . . มัน คื อ . . (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 12 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:46:32 น. |
|
|
|
โดย: ปลายแป้นพิมพ์ IP: 180.180.75.150 วันที่: 12 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:54:09 น. |
|
|
|
โดย: ถปรร วันที่: 12 กรกฎาคม 2553 เวลา:17:20:57 น. |
|
|
|
โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 12 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:27:02 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 กรกฎาคม 2553 เวลา:7:44:20 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 13 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:00:47 น. |
|
|
|
โดย: มนุษย์ต่างดาว..ผมยาว..ปากหวาน... (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 13 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:31:00 น. |
|
|
|
โดย: mymph วันที่: 13 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:35:30 น. |
|
|
|
โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 13 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:14:15 น. |
|
|
|
โดย: chadapha วันที่: 13 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:04:59 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 13 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:06:57 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 กรกฎาคม 2553 เวลา:6:54:38 น. |
|
|
|
โดย: ใครก็ทำได้ วันที่: 14 กรกฎาคม 2553 เวลา:8:50:17 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 14 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:15:55 น. |
|
|
|
โดย: ju IP: 113.53.115.127 วันที่: 14 กรกฎาคม 2553 เวลา:12:15:07 น. |
|
|
|
โดย: พี่.ทองแก้ว IP: 58.9.213.4 วันที่: 14 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:24:21 น. |
|
|
|
โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 14 กรกฎาคม 2553 เวลา:15:19:24 น. |
|
|
|
โดย: รุ่งฤดี วันที่: 14 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:11:22 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 กรกฎาคม 2553 เวลา:7:44:08 น. |
|
|
|
| |
|
 |
addsiripun |
|
 |
|
|
ทานข้าวกลางวันหรือยังคะ พักผ่อนเยอะๆนะคะ
รอปิ๊กแป๊กเวอร์ชั่นใหม่อยู่ค่ะ