<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
6 กุมภาพันธ์ 2553

ช่องเขาขาด




สวัสดีค่ะ

ไปเที่ยวกาญจนบุรีครั้งนี้ ได้ไปชมสถานที่ประวัติศาสตร์หลายแห่งในเมืองกาญจนบุรี
สถานที่แห่งหนึ่งที่ได้ไปชมคือ “ช่องเขาขาด”





ช่องเขาขาดคืออะไร
ช่องเขาขาด ( hellfirepass) อยู่ในบริเวณพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด อำเภอไทรโยค
ภายในกองการเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานทหารพัฒนา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา
บริเวณกิโลเมตรที่ 64 - 65 บนทางหลวงหมายเลข 323 (กาญจนบุรี-ไทรโยค-ทองผาภูมิ)





เป็นสถานที่จัดแสดงมินิเธียเตอร์เกี่ยวกับเหตุการณ์ในช่วงก่อสร้างสะพาน ดูแล้วทำให้รู้สึกสลดใจเป็นอย่างมาก
สถานที่แห่งนี้ได้รวบรวมข้อมูลภาพถ่าย ข้าวของเครื่องใช้ระหว่างการสร้างทางรถไฟสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
โดยรัฐบาลออสเตรเลียได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ขึ้น พิพิธภัณฑ์นี้จัดไว้อย่างเป็นระเบียบสวยงาม

เสียดายวันที่คณะของเราแวะไปนั้น 18.00 น. แล้ว พิพิธภัณฑ์ ปิดแล้วค่ะ





ภายในบริเวณมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติไปยังช่องเขาขาด
ซึ่งเป็นภูเขาที่ถูกตัดเป็นช่อง เพื่อทำส่วนหนึ่งของทางรถไฟสายมรณะที่เชลยศึกในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ตัดเจาะภูเขาหินด้วยมือปราศจากเครื่องมืออันทันสมัยให้เป็นช่องสำหรับสร้างทางรถไฟ

มีป้ายบอกความเป็นมาของเส้นทางนี้ให้อ่านก่อนเดินลงไปด้านล่าง





ถ่ายภาพออกมาแล้วตัวหนังสือเล็กไปหน่อยนะคะ อยากให้ไปอ่านเองจังเลยค่ะ





มาเดินลงไปดูร่องรอยทางรถไฟกันเลยค่ะ









คุณมาถูกทางแล้วนะคะ เดินต่อไปเลยค่ะ





หยุดอ่านป้ายนี้สักนิด ก่อนที่จะเดินต่อไป





ปัจจุบันยังมีร่องรอยของทางรถไฟปรากฏอยู่








สถานที่แห่งนี้ที่คนไทยเรียกว่าช่องเขาขาด ซึ่งคนญี่ปุ่นเรียกว่าช่องค็อนยู แต่ฝรั่งเค้าเรียกว่าช่องไฟนรก (Hell Fire Pass) ซึ่งเป็นชื่อเรียกหลังจากที่เชลยศึกทำงานต่อเนื่องกันในเวลากลางคืน โดยมีแสงสว่างจากกองไฟและคบไฟ






ในพิพิธภัณฑ์ มีเรื่องราวและเรื่องเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ในช่วงที่มีการก่อสร้างทางรถไฟสายมรณะแห่งนี้
ที่ทางพิพิธภัณฑ์ได้เรียบเรียงไว้อย่างละเอียดทุกขั้นตอน





ตั้งแต่การเริ่มต้นก่อสร้าง ลักษณะงานที่จัดแบ่งกันทำของเหล่าบรรดาเชลยศึกและเหล่าบรรดากรรมกร
ที่ถูกว่าจ้างมาด้วยค่าแรงที่ไม่มีความยุติธรรม แถมยังจ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง
คนงานจำนวนมากล้มตายด้วย เพราะขาดอาหาร ทำงานหนักเกินไป โรคภัยและความโหดร้ายทารุณ ป่าเถื่อน
ภายใต้อำนาจของวิศวกรชาวญี่ปุ่นและผู้คุมชาวเกาหลี





เชลยศึกที่เป็นฝ่ายพันธมิตรกว่า 60,000 คน และ กรรมกรที่ใช้แรงงานชาวเอเชียประมาณ 200,000 คน
ทำงานก่อสร้างทางรถไฟ เชลยศึกประมาณ 12,800 คน กรรมกรอีกประมาณ 90,000 คน
เสียชีวิตจากโรคภัยไข้เจ็บ อดอาหาร อุบัติเหตุ ถูกทุบตี และ สาเหตุอื่นๆ ระหว่างช่วง 15 เดือน ของการก่อสร้าง
คนเหล่านั้นได้รับความทุกข์ทรมานจากความโหดร้ายทารุณของผู้คุมและความไม่ยุติธรรมที่ได้รับจากชาวญี่ปุ่น






ขอนำบทความที่สถานทูตออสเตรเลียจัดทำขึ้น
เพื่อรำลึกถึงทหารผ่านศึกในสงครามโลกครั้งที่ 2
ซึ่งพิธีดังกล่าวจัดในวันที่ 25 เมษายน 2547

“ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ทหารลูกพระอาทิตย์หรือญี่ปุ่น ซึ่งเข้าเป็นพันธมิตรกับเยอรมัน
ซึ่งนำโดยฮิตเลอร์ ได้ฟาดหัวฟาดหางในประเทศต่างๆ ในย่านนี้อย่างเต็มที่
ซึ่งก็ได้ถล่มเอาประเทศในย่านนี้ยับไปไม่เป็นท่า
นอกจากนี้ ยังได้สร้างความทุกข์อยากให้กับประชาชนอย่างแสนสาหัส
เช่น การบังคับสตรีมาเป็นนางบำเรอให้กับทหารของตน
ส่วนผู้ชายก็ถูกบังคับใช้แรงงานอย่างทารุณ

สถานอนุสรณ์ที่แสดงถึงความโหดเหี้ยม ของทหารญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในประเทศไทยคือ
สะพานข้ามแม่น้ำแคว ในจังหวัดกาญจนบุรี
และมีอีกสถานที่หนึ่งที่คนทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งคือ ช่องเขาขาด ซึ่งก็อยู่ในจังหวัดกาญจนบุรีเช่นกัน





ช่องเขาขาดเป็นเส้นทางรถไฟสายไทย-พม่า ที่ญี่ปุ่นต้องการสร้างผ่าน
และดำเนินการสร้างโดยเชลยศึกชาวออสเตรเลีย และเชลยศึกฝ่ายพันธมิตร
เล่ากันว่าช่องทางที่เรียกว่าช่องเขาขาดนี้ ทหารญี่ปุ่นใช้ทหารเชลยเป็นทาสในการก่อสร้างทาง
ชีวิตทหารเหล่านั้นล้มตายกันเป็นเบือ เพราะทำงานหนักและโรคภัยไข้เจ็บที่ชุกชุม โดยเฉพาะไข้ป่า





ช่องเขาขาดเป็นทางแคบๆ ที่ตัดผ่านเนินเขา มูลดิน ขอบทางรถไฟ
และสะพานซึ่งมีอยู่มากมาย ต่อสถานที่เหล่านี้กลายมาเป็นโครงการพิพิธภัณฑสถานช่องเขาขาด
เพื่อรำลึกถึงเหล่าทหารที่ต้องทุกข์ทรมานเหล่านั้น

การตัดทางผ่านภูเขา มูลดิน ขอบทางรถไฟ และสะพานมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทหารญี่ปุ่น
ในการลำเลียงทหารและเสบียงไปช่วยทหารญี่ปุ่นในประเทศพม่า
ซึ่งขณะนั้นทหารญี่ปุ่นสามารถตั้งมั่นอยู่ในประเทศพม่าแล้ว





การก่อสร้างช่องเขาขาดเริ่มด้วย แรงงานของเชลยศึกชาวออสเตรเลียจำนวน 400 คน
และญี่ปุ่นได้เพิ่มเชลยศึกขึ้นอีกเพื่อให้การก่อสร้างสำเร็จตามกำหนด
ส่วนทหารเชลยศึก ที่เพิ่มเข้ามาส่วนมาก ยังเป็นทหารชาวออสเตรเลีย และทหารจากสหราชอาณาจักร

มีบันทึกว่า บรรดาเหล่าเชลยศึกจะใช้ค้อนหนัก 8 ปอนด์ สว่าน ระเบิด เสียม พลั่ว จอบ
และตะกร้าหวายอันเล็กๆ เพื่อขนดินออกไปเททิ้งข้างนอกทาง
และพวกเขาทำงานอย่างทรมาน บางคนเสียชีวิตอย่างน่าเวทนาในที่ทำงาน





ในขณะที่ก่อสร้างเส้นทางสายนี้นั้น เป็นช่วงมรสุมที่รุนแรง
และการก่อสร้างช่องเขาขาด ยังต้องเผชิญกับความกดดันอย่างสูงจากวิศวกรชาวญี่ปุ่น และผู้คุมชาวเกาหลี
ที่ได้บังคับให้พวกเขาทำงานวันละ 12-18 ชั่วโมง
นับจากเดือนมิถุนายน 2486 จนเดือนสิงหาคมในปีเดียวกัน





ระหว่างการสร้างสะพานรถไฟ ให้เสร็จทันกำหนดนั้น
เหล่าทหารเชลยศึกฝ่ายพันธมิตร ขนานนามช่องเขาขาดว่า “ช่องนรก”
ด้วยเหตุที่ผู้คุมชาวญี่ปุ่นบังคับ ให้นักโทษทำงานในเวลากลางคืน ใช้แสงสว่างจากคบไฟ
ซึ่งให้ความรู้สึกว่าที่นี่คือขุมนรกบนโลกจริงๆ

ในช่วงที่เร่งสร้างทางรถไฟให้เสร็จตามกำหนดเรียกว่าช่วง “สปิโต” หรือ “ตอนเร่งรัด”





ช่องเขาขาดยังเป็นอนุสรณ์สถาน ที่ทหารญี่ปุ่นกระทำไว้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ที่ยากจะมีผู้ลืมเลือน”



(ขอบคุณเวปฯ ในภาพด้วยนะคะ)









Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 7 พฤษภาคม 2555 12:05:04 น. 40 comments
Counter : 3943 Pageviews.  

 
สวัสดียามเช้าครับป้าแอ็ด

ตามมาเที่ยวด้วยคนครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:51:23 น.  

 
ป้าแอ๊ดถ่ายภาพสวยจังครับ ช่องเขาขาด เคยคิดจะไปหลายทีแล้ว แต่ไปไม่ถึงสักทีเลยครับ


โดย: joblovenuk วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:48:02 น.  

 
กรรมเป็นเครื่องนำทาง

.
.
.

ป้าแอ็ดกล่าวได้ตรงที่สุดเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:16:07:25 น.  

 
แวะมาทักทายครับ ขอบคุณมากนะครับเกี่ยวกับเรื่องพระธาตุ


โดย: Theratham วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:01:19 น.  

 
ขอตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ


โดย: Budratsa วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:4:26:07 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับป้าแอ็ด









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:21:00 น.  

 


เป็นที่แรกมั้งคะที่เคยไป
ครั้งหนึ่งพ่อเคยย้ายมาทำงานที่เมืองกาญจน์ 2 ปี
พ่อพาไปหลายที่ มีรูป แต่เป็นรูปที่เป็นฟิล์มอยู่เลยค่ะ

สวัสดียามเช้าค่ะป้าแอ๊ด
เช้านี้ที่บ้านนอกยังหนาวมากอยู่เลยค่ะ




โดย: ภูเพยีย วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:9:01:58 น.  

 


โดย: หนึ่งลมหายใจ วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:10:06 น.  

 
โอ้...

ภาพชุดช่องเขาขาดของป้าแอ๊ด

นี่ถ้าให้อิงค์ถ่าย พวกเส้นทางเดินอะไรเหล่านี้ คงไม่น่าสนใจเท่านี้น่ะค่ะ

ถ่ายยากมากค่ะ ในความไม่มีอะไรที่เราจะทำให้มีรายละเอียดขึ้นมา

แต่ป้าแอ๊ดทำได้ ทางดิน ทางกรวด ดูดีไปหมด

ขอชื่นชมนะคะ

ว่าแล้วก็ชวนไปดูชีวิตนายเรย์กันต่อค่า


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:41:32 น.  

 
หนูยังไม่เคยไปช่องเขาขาดเลยแฮะ


โดย: นางฟ้าจำแลง...ตะแคงเท้าเดิน (1stUpon ) วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:58:27 น.  

 
สวัสดีครับ

ผมชอบป่าเมืองกาญจน์เอามากๆครับ

ว่างๆต้องไปเดินเล่นอีกซักหน

------------

แสงสว่าง เหมือนคนโผงผาง ตรงไปตรงมา

ส่วนความมืด เหมือนคนลึกลับแอบจิตครับ



โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:02:41 น.  

 
สวัสดีครับ ป้าแอ๊ต
ความทุกข์ทรมาน ของบรรดาเชลยศึกเหล่านี้ นับว่าสามารถคาดเดาได้ว่า มากมายจริงๆ ดูจากหลักบานที่เหลืออยู่

ผมมีความรู้สึกว่า การตัดภูเขาโดยใช้มือคน เป็นงานที่แทบจะทำไม่สำเร็จ แต่ทหารเชลยศึก ที่มาทำงานที่นี่ ก็ได้พิสูจน์ให้เห้นแล้วว่า อะไรที่ว่ายาก แสนยาก มนุษย์เราทำได้ทั้งสิ้น การตัดภูเขานี้ ก็เหมือนการสร้างกำแพงเมืองจีน ต้องอาศัยความพยายาม เหลือหลาย
ขอยกย่อง บรรดาเชลยศึกเหล่านั้น แม้ว่ามันจะเป้น ผลงาน บนความทุกข์ยากมหาศาลก็ตาม


โดย: ทวีศักดิ์ ถาวรรัตน์ (คนตาพิการ ) วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:31:07 น.  

 
เดี๋ยวนี้เขาทำทางเดินดีขนาดนี้แล้วหรอ


โดย: endless man วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:12:12 น.  

 
สวัสดีครับ ป้าแอ๊ด
ขอมาเที่ยวด้วยคนนะครับ

และแวะมาส่งเข้านอน ด้วยครับ
หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ครับ






โดย: หมึกสีดำ วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:24:21 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับป้าแอ็ด









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:41:53 น.  

 
สวัสดีค่ะ....

ระยะนี้ เน็ตที่บ้านปอป้า มีปัญหามาก เข้าบล็อกได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
พอเข้าได้ วางเม้นท์ไม่ได้ เป็นอย่างนี้ประมาณ ๒-๓ อาทิตย์แล้ว..ค่ะ

อุตส่าห์คาดหวังว่า มาเข้าบล็อกที่ทำงานก็ได้
แต่ปรากฏว่า มีอาการเดียวกันเลย..ค่ะ
ไม่รู้ว่าเพื่อน ๆ เจอปัญหาแบบเดียวกันนี้บ้างหรือเปล่า

ยังไง ปอป้าต้องขอโทษด้วย ถ้าระยะนี้ไปเยี่ยมไม่ทั่วถึง
หรือไม่ได้ตอบเม้นท์ของบางท่าน ขออภัยในความไม่สะดวก..นะคะ

สุข สดชื่น รื่นเริง บันเทิงใจ ตลอดสัปดาห์นี้ และตลอดไป..นะคะ





โดย: พรหมญาณี วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:9:49:52 น.  

 
ช่องเขาขาด แต่ช่องเราไม่ขาดเนอะ

อิอิ...มุกแป้กค่ะ...

ต้นลีลาวดีที่เหลือแต่กิ่งก้านกะดอกสองสามดอก

ดูๆไปก็งามอีกแบบนะคะป้าแอ๊ด...

...........

ตอนใหม่มาแล้วค่า....


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:15:14 น.  

 
อ้าว...

ป้าแอ๊ดจ๋า......

เมนต์ไปแล้ว ไม่ผ่านอะค่ะ...

สงสัยมีคำที่บล็อกแก๊งคิดลึกอีกแระ

ป้าแอ๊ดไปพิณาดูแล้วกันนะคะว่าจะให้ผ่านมั้ย...

......

ตอนใหม่มาแล้วนะคะ


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:16:58 น.  

 
บางบล็อกก็เข้ายากมากครับป้าแอ็ด
เมื่อวานกว่าผมจะเข้าไปเม้นท์ที่บล้อกน้องมีนได้
ผมกดและนับดู
กดไป 22 ครั้งพอดีเลยครับ 55555


วันนี้ดูจะง่ายขึ้นครับ

เข้าใจว่าเป็นที่ระบบปฏิบัติการของบล้อกนะครับ

เพราะหลายคนก็บ่นเหมือนผมและป้าแอ็ดเลยครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:18:36 น.  

 
ครับแต่ก่อนไม่มีทางเดินไม้


โดย: endless man วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:22:53 น.  

 
ต้องหาเวลาไปบ้างแล้วค่ะ


โดย: nesumi IP: 203.152.39.67 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:16:57 น.  

 
ช่องเขาขาดเนี่ยไม่เคยแวะเลยค่ะ ป้าแอ๊ด บรรยากาศดูร่มรื่นดีนะคะ นึกถึงเชลยศึกที่ต้องสร้างทางรถไฟนะคะ

นั่นสิคะป้าแอ๊ดเสียดายค่ะ ใครๆก็เปื่อย สงสัยอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ป้าแอ็ดก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: แนน (wilanis_panda ) วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:16:20:33 น.  

 
ไปช่องเขาขาด ไม่เลยมาทองผาภูมิ ไม่กี่นาทีเอง

ทองผาภูมิ กาญจนบุรี มิใช่ ณ ชายแดนปิล๊อกบ้านป้าเกล็นแห่งเดียว( //www.parglen.com )แต่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเที่ยวได้ทั้งปี ตั้งแต่เข้าเขตทองผาภูมิก็มีวัดท่านมิตสุโอะ น้ำตกผาตาด น้ำพุร้อนหินดาด น้ำตกผาสวรรค์ ขี่ช้างล่องแพลิ่นถิ่น มีโฮมสเตย์ของนักทำโป่งเทียม เป็นบ้านเรือนไทยที่สวยงามสร้างโดยไม่มีการเขียนแบบ มีของเก่าของโบราณมาตกแต่งไว้ให้เรียนรู้ ชื่อภูผาตาด โฮมสเตย์(www.panoramatown.com/phuphatat ) มีกิจกรรมนมัสการพระพม่าอายุ 90 ปี สวดมนต์แบบพม่า พาไปสำรวจน้ำตกใหม่ที่นักข่าวไทยพีบีเอสบอกว่าสู้ทีลอซูได้สบายมาก รายการทีวีไทยสุดสัปดาห์ยืนยันได้ในความงาม

ไปอีกนิดถึงเมืองทองผาภูมิ มีร้านแนวๆชื่อลูนู๋( //www.lunu.biz ) มีร้านทอง(แดงสดใส)ที่ดูเหมือนจะเป็นเอกลักษณ์ของตลาดทองผาภูมิ มีตลาดนั่งยองในแบบชาวบ้าน มีขนมทองโย๊ะขนมแปลกแห่งทองผาภูมิ มีแม่น้ำข้ามได้ สะพานแขวน และศพไม่เน่าเปื่อยของหลวงปู่สายที่ลือชื่อเรื่องปาฎิหาร มีพระเจดีย์คีรี ที่ดูวิวทองผาภูมิ 360 องศา ณ วัดท่าขนุน มีพระขาวภปร.องค์ใหญ่มากเป็น 1 ใน 10 และเป็นองค์สุดท้ายที่ในหลวงทรงสร้าง

ออกจากเมืองไปไม่ไกลชมวิวทิวเขื่อนและทะเลาะกับลิงที่เขื่อนเขาแหลม( //vrk.egat.com )ที่พักติดเขื่อนเขาแหลมที่ใกล้ๆอัธยาศัยดีและราคาถูกมากๆสร้างในแนวที่ฝรั่งชอบมากๆก็ได้แก่ บ้านเก็บตะวัน โฮมสเตย์ ( //keptawan.siam2web.com )บ้านของลุงยศ ไกด์ผู้บุกเบิกฝรั่งเดินป่าแห่งกาญจบุรี ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความงามของวิวทะเล กิจกรรมพายเรือคยัค แคนนูข้ามเขื่อน และความงามของพระอาทิตย์ตก บริเวณนั้นมีวิถีชาวบ้านของหมู่บ้านท่าแพ ใกล้ๆมีจุดชมวิวทะเลที่เหมือนวิวเกาะกลางทะเล

เลยไปอีกไม่กี่กิโลเมตร มีหมู่บ้านห้วยเขย่ง หมู่บ้านที่เคยเลี้ยงช้างเพื่อชักลากไม้ มีสวนป่า พุปลิง ปูราชินีที่เดียวของโลก ค้างคาวกิตติสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เล็กที่สุดในโลก ณ ถ้ำหินงอกหินย้อย ถ้ำ 28 มีบึงน้ำทิพย์ที่ป่าไม้เพิ่งจะไปบุกเบิกใหม่ ถ่อแพข้ามไป มีต้นไม้ยักษ์ น้ำตกสายรุ้ง มีหมู่บ้านพูดเหนือเหมือนเมืองเชียงใหม่ มีหมู่บ้านพูดลาวด้วย มีชาวกระเหรี่ยง พม่ามากมายอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข มีที่นั่งห้างดูช้าง หรือวันดีคืนดีเห็นตัวเป็นๆเย็นๆมากันเป็นโขลงก็พบกันอยู่บ่อยๆ

ในเขตหมู่บ้านนี้ยังมีบ้านไร่วิมานดิน ออร์แกนนิค ฟาร์มสเตย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยให้เข้าเยี่ยมชมและเข้าพัก( //www.vimandin.com )ขอบอกว่าที่นี่โรแมนติคมากๆ อยู่ติดกับลำน้ำห้วยเขย่งสถานที่สำหรับถ่อแพ ล่องแก่งกันมาหลายสิบปี มีโป่งพุร้อนที่อยู่ไม่ไกล ที่นี่ได้ยินเสียงช้างป่าและสัตว์ต่างๆร้องอยู่บ่อยๆ บนยอดเขาที่ใกล้กับวิมานดินมีวิวทะเลหมอก ทะเลสาป วิวพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก 4 อย่างในจุดเดียวกัน มีสระอโนดาตที่มีผู้ค้นพบใหม่ มีหอยโลกล้านปีแบริโอพอทที่มีอายุกว่า 280 ล้านปีที่หาดูยากมากๆอยู่บนยอดเขา แต่ไม่มีหน่วยงานไหนให้ความสนใจปล่อยให้ชาวบ้านเก็บเอาไปขายทำเครื่องรางของขลังชิ้นละ 50 สตางค์น่าเสียดายมาก

เลยจากเส้นนี้ไปไกลสักนิดก็เป็นอช.ทองผาภูมิกับเจ้านกเงือกที่คอยต้อนรับ หรือจะขึ้นเขาช้างเผือกยอดเขาที่สูงที่สุดของทองผาภูมิ หรือจะไปไกลนิดลำบากหน่อยด้วยรถ4x4 สู่เหมืองปิล๊อก บ้านอีต่อง เนินเสาธง ถือว่ามาได้ไกลสุดเขตชายแดนพม่า-ทองผาภูมิเลยทีเดียว

จะเห็นได้ว่ามีสถานที่มากมายที่การท่องเที่ยวไม่เคยรู้ ไม่เคยไปดูและไม่รู้จัก ซึ่งอยู่ใกล้ๆกรุงเทพมากๆเพียง 2 ชั่วโมงกว่าก็ถึงแล้ว แต่ไม่ได้ถูกประชาสัมพันธ์ให้คนไทยได้รับรู้ จึงอยากให้ช่วยกันแจ้งข่าวออกไป เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกการท่องเที่ยวไทยให้หันมาสนใจทองผาภูมิบ้าง

ท้ายสุด สำหรับผู้ที่ชื่นความหนาวเย็นข้อความข่าวนี้คงยืนยันได้ว่าความหนาวเย็นของทองผาภูมิว่าไม่แพ้เชียงใหม่แน่นอน

ข่าวโดยสำนักข่าวไทย 15 มกราคม " กาญจนบุรีเย็นจัดชายแดนทองผาภูมิ 4 องศาฯ "
//news.impaqmsn.com/articles.aspx?id=244367&ch=lc2



โดย: สำนักข่าวซินหัวเราะ IP: 203.144.144.164 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:01:00 น.  

 
......มาแอบดูจ้ะ......


โดย: jetsada.999 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:35:02 น.  

 
แวะมาทักทายป้าแอ๊ดค่ะ
ป้าแอ๊ดเที่ยวเก่งจังเลย
คิดถึงป้าแอ๊ดนะคะ


โดย: สเลเต วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:14:43 น.  

 
วันนี้วางเม้นท์ได้เหมือนเดิมแล้ว เยยยยย



โดย: วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:42:17 น.  

 
ช่องเขาขาด พอไปถึง ก็เห็นทางเดินบันไดสวย กับกอไผ่เขียว อากาศร้อนเล็กน้อย

แต่ ผมก็อดไม่ได้ว่าสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง คงจะไม่น่าเดินแบบนี้ คงจะเป็นป่า งานขุดหิน ขุดดิน นอนกลางป่า ท่ามกลางไข้ป่า โอ น่าสงสารมาก

และมาสิ้นสุด นะตรงจุดนี้เอง เพราะญี่ปุ่นแพ้สงครามพอดี

ป้าแอ๊ด ถ่ายรูปสวยครับ ของผม ผมไม่ค่อยกล้านำมาลงในบล็อก


โดย: yyswim วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:4:09:09 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับป้าแอ็ด









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:36:01 น.  

 
สวัสดีค่ะป้าแอ็ด
ช่วงนี้ติ๊งไม่ได้อัพบล็อคเลยค่ะ โปรเจค 108 แต่ยังไม่ลงมือเลยป้าแอ๊ดขา


โดย: thinkcraft วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:33:43 น.  

 
น่าเที่ยวจริงๆเลยค่ะป้าแอ็ด คิดว่าแคทน่าจะได้ไปเที่ยวกาญเร็วๆนี้ตั้งใจว่าจะไปเที่ยวหาญาติที่กาญค่ะ จะไปดูที่ๆป้าแอ็ดพาชมน่ะค่ะ


โดย: ใครก็ทำได้ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:21:29 น.  

 
ตามไปเที่ยวช่องเขาขาดด้วยคนค่ะ


โดย: oRanGIsM วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:15:56 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ตามมาเที่ยว ช่องเขาขาด ค่ะ

ได้ยินเพื่อน พูดถึง ความน่าชม
น่าเที่ยวของที่ืนี่บ่อยเลยค่ะ
โดยเฉพาะส่วนของพิพิธภัณฑ์
ที่สมบูรณ์ด้วยข้อมูล
และความน่าสนใจในการนำเสนอ
เที่ยวกับ ป้าแอ๊ด
ก็เหมือนได้ไปเที่ยวด้วยตัวเอง
แบบ สนุกจัง ตังค์อยู่ครบ
ขอบคุณนะคะ


โดย: หนิงค่ะ (Heart&Home ) วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:23:34 น.  

 
เค้าจัดทางเดินได้สวยมากๆ ดูสะอาดน่าเที่ยวจังค่ะ
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: sawkitty วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:30:23 น.  

 
ตามมาดูอดีตครับ

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือเลยครับ



โดย: ชายผู้หล่อเหลา...กว่าแย้นิดนึง. (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:11:20 น.  

 
เข้ามาทักทายป้าแอ๊ด

และเก็บตกช่องเขาขาดอีกรอบค่ะ...


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:25:15 น.  

 
ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ มีเงินทองใช้เยอะๆ สุขภาพแข็งแรงนะค๊า....


โดย: ก้าวก้าว IP: 180.210.216.67 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:17:38 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับป้าแอ็ด








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:44:52 น.  

 
หวัดดีค่ะป้าแอ๊ด

สถานที่หลายแห่งที่กลายเป็นที่ท่องเที่ยวในปัจจุบัน

มักจะแลกมาด้วยชีวิตคนนะคะ...เศร้าเล็กๆ

..........

ป.ล. ตอนใหม่มาแร้วค่า



โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:12:49 น.  

 
พระอวโลกิเตศวร เป็นเสมือนปุคคลาธิษฐานแห่งมหากรุณาคุณของพระพุทธเจ้าทั้งปวง

ขอบารมีแห่งพระอวโลกิเตศวร โปรดดลบันดาลให้เพื่อนบล็อกทุกท่าน
ประสบแต่ความเจริญ ปรารถนาสิ่งใดให้ได้สมความปรารถนาทุกประการ
มีสุขภาพกายและใจที่เข้มแข็ง แข็งแรง ปราศจากทุกข์ใด ๆ มากล้ำกราย
พรั่งพร้อมด้วยโภคทรัพย์และอริยทรัพย์ ตลอดจนเหล่ากัลยาณมิตรที่ประเสริฐ
มึความสุขกาย สุขใจ ตลอดกาลและตลอดไป...




โดย: พรหมญาณี วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:55:46 น.  

 
แวะเข้ามาอ่าย ขนลุกเลยค่ะ เศร้าจัง


โดย: mymph วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:29:46 น.  

addsiripun
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 78 คน [?]




ลบบล็อกงานตัดเย็บทิ้งหมดแล้วนะคะ
[Add addsiripun's blog to your web]