|
|
 |
| | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
| 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
| 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
| 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
| 28 | |
|
|
 |
2 กุมภาพันธ์ 2553
|
|
|
|
|
อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์
สวัสดีค่ะ
21-23 มกราคม 2553 ไปเที่ยวกาญจนบุรีมาค่ะ
สถานที่แห่งหนึ่งที่ต้องไปคือ อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์
อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์
เมืองสิงห์เป็นเมืองโบราณที่เกิดขึ้นภายใต้อิทธิพลของอารยธรรมขอม
อยู่สุดชายแดนทางด้านตะวันตกของไทย มีกำแพงเมืองขนาด 800x900ม. เนื้อที่ 641 ไร่ 1 งาน 65 ตารางวา
ในเมืองมีสระน้ำหกสระและโบราณสถานสำคัญสี่แห่ง ผังเมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ทิศเหนือ ตะวันออก และตะวันตกของเมืองล้อมรอบด้วยคูน้ำ คันดินเจ็ดชั้น แต่ละชั้นห่างกันไม่มากนัก
บางส่วนยังมีร่องรอยเหลือให้เห็นได้ชัดเจน
ประวัติ ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเมืองสิงห์และโบราณสถานภายในเมืองสร้างขึ้นเมื่อใด
จากโบราณสถานที่เหลืออยู่ ซึ่งเป็นศิลปกรรมแบบขอมสมัยบายน
(มีอายุในช่วงสมัยพุทธศตวรรษที่ 18 ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7)
ผสมผสานกับศิลปะทวารวดีโดยฝีมือช่างพื้นเมืองซึ่งหยาบกว่าฝีมือช่างขอมที่ปราสาทบายน นครธม มาก
ทำให้สันนิษฐานว่า เมืองสิงห์มีอายุ ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18-19
ซึ่งพุทธศาสนานิกายมหายานจากกัมพูชา
แพร่หลายเข้าสู่ดินแดนในลุ่มน้ำเจ้าพระยาก่อนหน้าพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์
ได้รับการขึ้นทะเบียนโบราณสถานเมื่อ พ.ศ. 2478 กรมศิลปากรขุดแต่งบูรณะตั้งแต่ พ.ศ. 2517-2529
และเปิดเป็นอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2530
โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธี
ในวันที่คณะของพวกเราไปถึง มีเจ้าหน้าที่มาบรรยาย และนำชมสถานที่ด้วย
เริ่มจากแนะนำสถานที่จำลอง ป้ายบอกว่ามีอะไรอยู่ตรงไหน
จากนั้นพาเข้าชมและบรรยายในอาคารจัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุ
อาคารจัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุ
จัดแสดงภาพถ่ายและเรื่องราวในการบูรณะอุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้
รวมทั้งจัดแสดงโบราณวัตถุหลายชื้นที่หักพังและค้นพบในช่วงบูรณะ
เช่นลวดลาย ปูนปั้น เศษกระเบื้อง บราลี กลีบขนุน ภาชนะดินเผา
รูปจำลองพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร พระนางปรัชญาปารมิตา
ชิ้นส่วนพระพักตร์ของพระพุทธรูปหินทรายขนาดใหญ่
และพระพุทธรูปนาคปรกหินทรายอีกหลายองค์(องค์จริงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร)
เทวรูปส่วนใหญ่เป็นศิลปะขอมในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นำมาจากกัมพูชา
ส่วนพระพุทธรูปส่วนใหญ่เป็นศิลปะลพบุรีฝีมือช่างพื้นเมือง
จากนั้นเจ้าหน้าที่พาไปชมโบราณสถานที่สำคัญๆ
ทางเดินเป็นศิลาแลง เข้ากับบรรยากาศโดยรวม ถึงโบราณสถานหมายเลข 2 ก่อน
โบราณสถานหมายเลข 2
อยู่มุมตะวันตกเฉียงเหนือของปราสาทเมืองสิงห์
สร้างด้วยศิลาแลงประดับลวดลายปูนปั้น ลักษณะพื้นเมืองคล้ายศิลปะทวารวดี
ประกอบด้วยปรางค์ประธานตั้งอยู่ตรงกลาง มีโคปุระสี่ด้านเชื่อมกันด้วยระเบียงคด
โคปุระตะวันออกอยู่ห่างจากปรางค์ประธานมากกว่าด้านอื่นๆ
แต่ระเบียงคดด้านตะวันออกมีเพียงฐาน ไม่มีผนังและหลังคาคลุมตามแบบแผนที่ควรเป็น
เมื่อทำระเบียงคดระหว่างโคปุระด้านทิศเหนือกับทิศใต้แล้ว ทำให้ดูเหมือนเป็นปรางค์สามองค์เรียงกัน
โบราณสถานหมายเลข 1
สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร นิกายมหายาน
ปราสาทตั้งอยู่เกือบกึ่งกลางเมือง
มีทางเดินรูปกากบาทเชื่อมระหว่างประตูเมืองด้านทิศตะวันออกกับซุ้มประตูด้านหน้า
แต่ก่อสร้างเยื้องกันเล็กน้อย ไม่ตรงพอดีเหมือนที่อื่น
ตัวปราสาทก่อด้วยศิลาแลง ฉาบปูน ประดับลวดลายปูนปั้น
มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันหน้าไปทางทิศตะวันออก
ศิลาแลงที่ใช้ก่อสร้างได้มาจากเมืองครุฑ ซึ่งเป็นแหล่งตัดหินริมแม่น้ำแควน้อย
ห่างจากเมืองสิงห์ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 5 กม.
ด้านหน้าปราสาทมีลานศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส สันนิษฐานว่าเป็นสถานที่ที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
ที่มุมทั้งสี่ของลานแอ่งตื้นๆ ขนาดเล็ก รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส
รอบแอ่งเป็นหลุมสี่เหลี่ยมตื้นๆ ขนาดเท่าก้อนศิลาแลงเรียงกันอยู่เป็นคู่
สันนิษฐานว่า ใช้สำหรับวัดระยะในการสร้างโบราณสถานแห่งนี้
ปรางค์ประธาน ตั้งอยู่ตรงกลางฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีมุขยื่นออกไปรับกับมุขของโคปุระ(ซุ้มประตู) ทั้งสี่ทิศ
หน้าปรางค์ด้านตะวันออก สันนิษฐานว่าทำเป็นระเบียงเครื่องไม้รูปกากบาท มุงหลังคาด้วยกระเบื้องกาบกล้วย
แต่ปัจจุบันเหลือเพียงฐานอาคาร เนื่องจากปรางค์ส่วนยอดพังทลายลงมาหมดแล้ว
พบเพียงกลีบบัวส่วนยอดสลักด้วยหินทราย ตกอยู่ใกล้โคปุระทางทิศตะวันตก
ภายในปรางค์ ค้นพบรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปางเปล่งรัศมี พระนางปรัชญาปารมิตา
พระพุทธรูปนาคปรกหินทราย ซึ่งเป็นรูปเคารพในศาสนาพุทธ นิกายมหายาน
ปัจจุบันกรมศิลปากรได้นำรูปจำลองของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรมาประดิษฐานไว้
ส่วนองค์จริงนำไปประดิษฐานที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
โคปุระ (ซุ้มประตู) และระเบียงคด อยู่ล้อมรอบปรางค์ประธานทั้งสี่ทิศ
ด้านทิศเหนือและทิศใต้พังทลาย เหลือเพียงเรือนธาตุ
ด้านทิศตะวันตกที่สมบูรณ์ มากที่สุด ปัจจุบันประดิษฐานรูปจำลองของพระนางปรัชญาปารมิตา
โคปุระทุกด้านมีระเบียงทางเดินเชื่อมต่อกัน มีผนังสองด้าน
หลังคาเป็นศิลาแลงเรียงซ้อนเหลี่ยมเป็นเส้นโค้ง
มีบราลีดินเผาประดับอยู่บนสันหลังคาเพื่อป้องกันไม่ให้นกมาเกาะสันหลังคา
ระเบียบด้านที่สมบูรณ์ที่สุดคือด้านที่เชื่อมระหว่างโคปุระด้านทิศเหนือ
ซึ่งมีภาพสลักนูนต่ำรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร
บรรณาลัย สร้างขึ้นเพื่อเก็บคัมภีร์ทางศาสนา
อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของปรางค์ประธาน เป็นอาคารสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็ก
ประตูทางเข้าอยู่ด้านตะวันตก ผนังด้านทิศเหนือและทิศใต้มีช่องหน้าต่างเล็กๆ
ตำแหน่งการสร้างเช่นนี้พบในศาสนสถานอีกหลายแห่งที่สร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7
กำแพงแก้ว เป็นกำแพงล้อมรอบตัวปราสาท ส่วนใหญ่พังทลายเกือบหมด มีลักษณะเป็นกำแพงศิลาแลงสูง
มีศิลาแลงคล้ายใบเสมาวางเรียงกันอยู่บนสันแนวกำแพง
ขอลาด้วยภาพนี้นะคะ คำบรรยายเหนือคำพูดใดๆ แล้วค่ะ
   
| Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2553 |
| Last Update : 7 พฤษภาคม 2555 12:00:51 น. |
|
33 comments
|
| Counter : 6107 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: กะว่าก๋า   วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:06:21 น. |
|
|
|
| โดย: น้ำเปรี้ยวsp วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:50:56 น. |
|
|
|
| โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:01:43 น. |
|
|
|
| โดย: lastmoon วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:12:30 น. |
|
|
|
| โดย: ooyporn วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:53:07 น. |
|
|
|
| โดย: pafun.p วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:25:18 น. |
|
|
|
| โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:10:30 น. |
|
|
|
| โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:30:09 น. |
|
|
|
| โดย: แม่น้องข้าวฟ่าง+ข้าวกล้า (twokao ) วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:44:16 น. |
|
|
|
| โดย: ลิงกัง..ขี้เก๊ก.. (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:42:02 น. |
|
|
|
| โดย: หนิงค่ะ (Heart&Home ) วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:16:59:41 น. |
|
|
|
| โดย: maistyle วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:09:55 น. |
|
|
|
| โดย: jetsada.999 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:01:14 น. |
|
|
|
| โดย: - Dachsie - วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:43:55 น. |
|
|
|
| โดย: นู๋อ้อ (pinuaoo2006 ) วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:23:20 น. |
|
|
|
| โดย: Jang_Akbas วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:09:26 น. |
|
|
|
| โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:26:20 น. |
|
|
|
| โดย: หมึกสีดำ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:34:38 น. |
|
|
|
โดย: yyswim  วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:1:58:00 น. |
|
|
|
| โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:53:38 น. |
|
|
|
| โดย: พรหมญาณี วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:23:33 น. |
|
|
|
| โดย: หมึกสีดำ วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:54:06 น. |
|
|
|
| โดย: bingo123 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:35:33 น. |
|
|
|
โดย: โสดในซอย  วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:40:32 น. |
|
|
|
| โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:06:22 น. |
|
|
|
| โดย: แนน (wilanis_panda ) วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:53:51 น. |
|
|
|
| โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:54:31 น. |
|
|
|
| โดย: หน่อยจิง (jackkyjing ) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:29:09 น. |
|
|
|
| โดย: ภูเพยีย วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:9:04:07 น. |
|
|
|
| โดย: นักล่าน้ำตก IP: 203.144.144.165 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:19:14 น. |
|
|
|
|
|
|
|
addsiripun |
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 78 คน [
ปล. ผมรบกวนป้าแอ็ดติดต่อผมทางอีเมลล์นะครับ
เพราะหลังไมค์เค้าห้ามขายของครับ
ขอบคุณครับ