|
14 ธันวาคม 2553
|
|
|
|
สูงสุดแดนสยาม
สวัสดีค่ะ
วันนี้แวะมาอัพบล็อก ก่อนที่จะไปนั่งเย็บกระเป๋าเป็นของกำนัลเพื่อนๆ ชาวบล็อก
ครั้งที่แล้ว เราจบตรงที่ไกด์สาวต้อนลูกทัวร์ขึ้นรถเพื่อเดินทางต่อไปยังยอดดอยอินทนนท์ จุดหมายต่อไป
ระหว่างทางที่รถโค้งซ้าย โค้งขวาไปเรื่อยๆ ก็ผ่านบริเวณที่ดินข้างทางถล่ม เพราะฝนตกหนักเมื่อเร็วๆ นี้ ช่างกำลังซ่อมแซมข้างทางกันอยู่อย่างเร่งด่วน เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวกำลังแห่มายอดดอยกันมากที่สุด
ผ่านจุดชมวิวแห่งหนึ่ง มีป้ายบอกว่า ณ ตำแหน่งนี้ อยู่สูงเท่าไหร่แล้ว นั่งรถมาสูงๆ แล้วรู้สึกหูอื้อไหมคะ
วิธีแก้หูอื้อ คือ ให้เคี้ยวหมากฝรั่ง หรือไม่ก็ทำท่าหาวๆๆ ให้อากาศในคอออกไปทางช่องหู
ภาพจากจุดชมวิว ที่ไม่ได้ลงไปถ่ายภาพข้างล่าง รถวิ่งเลยไปค่ะ ป้าแอ๊ดได้แต่ยกกล้องขึ้นมาถ่ายแช่บๆ เท่านั้นเอง
ขอลงประวัติดอยอินทนนท์ไว้พอเป็นสังเขปก็แล้วกัน ข้อมูลส่วนใหญ่มาจากเวปของกรมอุทยานแห่งชาติค่ะ
ดอยอินทนนท์ มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอสันป่าตอง อำเภอจอมทองและอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบไปด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน มีดอยอินทนนท์ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย สภาพป่าเป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสาย และเป็นส่วนหนึ่งของต้นน้ำปิงที่ให้พลังงานไฟฟ้าที่เขื่อนภูมิพล มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงาม เช่น น้ำตกต่างๆ โดยเฉพาะน้ำตกแม่ยะ ที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดของประเทศ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์มีเนื้อที่ประมาณ 482 ตารางกิโลเมตร หรือ 301,500 ไร่
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ แต่เดิมดอยอินทนนท์มีชื่อว่า ดอยหลวง หรือ ดอยอ่างกา ดอยหลวง หมายถึงภูเขาที่มีขนาดใหญ่ ส่วนที่เรียกว่าดอยอ่างกานั้น มีเรื่องเล่าว่า ห่างจากดอยอินทนนท์ไปทางทิศตะวันตก 300 เมตร มีหนองน้ำอยู่แห่งหนึ่งลักษณะเหมือนอ่างน้ำ แต่ก่อนนี้มีฝูงกาไปเล่นน้ำกันมากมาย จึงเรียกว่า อ่างกา ต่อมาจึงรวมเรียกว่า ดอยอ่างกา
นั่งรถมาจนกระทั่งเห็นยอดเจดีย์พระธาตุฯ โผล่ขึ้นมาจากเนินเขา เราจะผ่านทางขึ้นพระธาตุฯ ไปก่อน แล้วจะลงมาแวะชมภายหลังค่ะ
รถตู้พานักท่องเที่ยวขึ้นไปยังบริเวณจอดรถ แล้วลูกทัวร์ทั้งหลายก็เริ่มต้นเดินตามไกด์ ไปบนทางที่สร้างไว้
ข้างทางจะพบท่อนไม้ที่มีมอสเกาะอยู่เต็มไปหมด บ่งบอกถึงความชื้นที่มีอยู่บนยอดดอย
ไม่นานเราก็มาถึง สัญญลักษณ์ของยอดดอยแห่งนี้ นั่นคือป้ายบอกว่านี่แหละคือ "สูงสุดแดนสยาม" ถึงตรงนี้ทุกคนพยายามที่จะเข้าไปถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันทั้งน้าน น น รวมทั้งป้าแอ๊ดด้วย แหะ แหะ
"พี่แอ๊ดขา หนูจะถ่ายภาพคู่ให้ค่ะ" เสียงไกด์สาวบอกมา แหม..นานๆ จะมีสาวๆ เรียกว่าพี่สักครั้ง มีรึจะไม่รีบไปยืนแอ็คชั่น รู้สึกว่าจะมีภาพคู่เพียงภาพเดียวบนยอดดอยนะ เพราะป้าแอ๊ดกับคุณลุงใช้กล้องกันคนละตัว ถ่ายภาพกันตามใจชอบ
จากป้ายสูงสุดแดนสยาม เราเดินต่อไปอีกเพียงชั่วครู่ จะมาถึง "กู่" สถูปที่ประดิษฐานพระอัฐิของพระเจ้าอินทวิชานนท์ ผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 7
สถูปเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าเมืองเชียงใหม่องค์สุดท้ายซึ่งเล็งเห็นความสำคัญของป่าไม้และหวงแหนดอยหลวงเป็นอย่างมาก ต้องการที่จะอนุรักษ์ไว้จนชั่วลูกชั่วหลาน
ท่านผูกพันกับที่นี่มาก จึงสั่งว่าหากสิ้นพระชนม์ไปแล้วให้แบ่งเอาอัฐิส่วนหนึ่งมาไว้ที่นี่
ขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับภาพของท่านไว้ด้วยค่ะ ใต้ภาพท่านมีรายละเอียดไว้ด้วย ใครต้องการทราบรายละเอียดความเป็นมา ต้องไปอ่านเองค่ะ
ในสมัยก่อนที่ยังไม่มีถนน การเดินทางขึ้นยอดดอยอินทนนท์เป็นเรื่องยากมาก แต่พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ก็ทรงดั้นด้นขี่ม้าบุกป่าฝ่าดงขึ้นไป ท่ามกลางอากาศที่ชื้นและหนาวเย็น เพื่อนำอัฐของพระบิดาคือ เจ้าหลวงอินทวิชยานนท์ ขึ้นไปประดิษฐานที่กู่บนยอดดอย ต่อมาจึงเรียกขานดอยแห่งนี้ ตามพระนามของเจ้าหลวงว่า " ดอยอินทนนท์ "
บริเวณหน้ากู่สถูป เป็นบริเวณกว้างให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสักการะองค์สถูปได้อย่างทั่วถึง
ด้านซ้ายมือของสถูป จะมีป้ายบอกทาง และมีทางเดินเท้าไปยังจุดหมายต่อไป
จะเห็นว่า มอสขึ้นปกคลุมทั่วไป แม้กระทั่งป้ายบอกทางและขอนไม้ทั้งหลาย
เพียง 10 เมตร ก็ถึง " หมุดหลักฐาน จุดสูงสุดแดนสยาม"
เป็นธรรมดาเนียม ที่นักท่องเที่ยวต้องถ่ายภาพกับสถานที่ได้ชม เพื่อเป็นหลักฐาน ว่าได้มาที่นี่แล้ว
จากนั้นก็เดินเท้าต่อไปบนทางไม้ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น เสียงนกร้องดังไปทั่วทั้งป่า
จนกระทั่งถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และร้านค้าของที่ระลึกกับร้านกาแฟ
ขณะที่คุณลุงกำลังเดินเล่น รอรถที่จะมารับทางด้านนี้ ก็มีหมอกจำนวนมากพัดมาปกคลุมบริเวณที่พวกเรายืนอยู่ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ เราสามารถที่จะมองเห็นทิวทัศน์ด้านหน้าได้อย่างแจ่มชัด
ป้าแอ๊ดรีบคว้ากล้องขึ้นมาแทบไม่ทัน เพียงพริบตาเดียวหมอกก็มาปกคลุมตัวเราทุกคน แล้วก็พัดกระจายหายไปอย่างรวดเร็ว นักท่องเที่ยวหลายๆ คนที่อยู่ตรงนี้ร้องอู้ฮู กันอย่างชอบใจเพราะถ่ายภาพไม่ทัน
ดูอุณหภูมิ ที่ติดไว้ในที่นั้น ลงมาถึงขนาดนี้ค่ะ ขนาดว่าใกล้เที่ยงแล้วนะคะ หนาวมากทีเดียว
จากจุดสูงสุดแดนสยาม เราจะไปยังจุดท่องท่องเที่ยวต่อไปคือ พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
ไกด์กวาดต้อนลูกทัวร์ ขึ้นรถตู้ไปยังที่จอดเฮลิคอปเตอร์ เพื่อนั่งรถ "ลิมูซีน" เข้าไปยังองค์พระธาตุ ค่ะ
Create Date : 14 ธันวาคม 2553 |
Last Update : 4 มีนาคม 2554 12:21:27 น. |
|
17 comments
|
Counter : 2426 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: ชายผู้หล่อเหลา...กว่าแย้นิดนึง. (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:13:23:22 น. |
|
|
|
โดย: กุ้ง (kungviyada ) วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:13:27:15 น. |
|
|
|
โดย: addsiripun วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:13:41:24 น. |
|
|
|
โดย: น้อย (มี้นำโชค ) วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:14:04:02 น. |
|
|
|
โดย: Gunpung วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:14:24:43 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:15:11:07 น. |
|
|
|
โดย: VET53 วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:15:11:28 น. |
|
|
|
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:19:25:53 น. |
|
|
|
โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:19:41:09 น. |
|
|
|
โดย: แม่สามข้าว (sinaporn ) วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:19:57:28 น. |
|
|
|
โดย: โสดในซอย วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:0:40:50 น. |
|
|
|
โดย: quilt วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:0:59:52 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:7:37:34 น. |
|
|
|
โดย: P (cutie_p ) วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:9:20:57 น. |
|
|
|
โดย: ลูกสาวเมืองโอ่ง (fuzz_zi3 ) วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:16:12:29 น. |
|
|
|
| |
|
|
addsiripun |
|
|
|
|
เห็นหมอกบางๆด้วยล่ะค่ะ
ทริปหน้า "ลีมูซีน" เลยเหรอคะ จะรอดูค่ะป้าแอ๊ด
--
ป้าแอ๊ดชมฝีมือการเย็บกระเป๋าของหนูจริงๆใช่ป่ะคะ ดีใจจัง ถ้ามีอะไรที่ยังไม่เรียบร้อยหรือพอจะแนะนำได้ป้าแอ๊ดแนะนำได้เลยนะคะ จะได้เย็บได้ดีขึ้น ทำงานแต่ละอย่างมันต้องมีการพัฒนา ^^ ขอบคุณค่ะ