<<
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
4 มีนาคม 2555

ทัวร์ 5 วัด (4. สัตตมหาสถาน ในวัดสุทัศน์ฯ )





สัตตมหาสถาน

สัตตมหาสถาน ในศาสนาพุทธ หมายถึง สถานที่สำคัญ 7 แห่ง
ที่พระพุทธเจ้าเสด็จประทับเสวยวิมุตติสุข หลังจากได้ทรงตรัสรู้ธรรมวิเศษแล้ว เป็นเวลาแห่งละ 1 สัปดาห์


สัตตมหาสถานในวัดสุทัศนเทพวราราม

หมายถึง สถานที่สำคัญ 7 แห่ง รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างจำลองขึ้นแทนพระธาตุเจดีย์
ตั้งอยู่บริเวณกำแพงวัดด้านทิศตะวันออกติดกับถนนอุณากรรณ เรียงเป็นแถวแนวทิศเหนือ ทิศใต้



ประกอบไปด้วย

สัปดาห์ที่ 1 โพธิบัลลังก์ หรือ บัลลังก์แห่งต้นโพธิ์ เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้ทรงประทับต่อที่ต้นศรีมหาโพธิ์ต่ออีก 7 วัน
แล้วเทวดาก็มาแสดงความยินดีกับพระพุทธองค์




ต้นโพธิ์ลังกา (สมมุติเป็นต้นมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้) นำกิ่งพันธุ์มาจากประเทศลังกาที่เมืองอนุราธปุระ
มาปลูกไว้ สมมุติเป็นต้นมหาโพธิ์ที่ประทับตรัสรู้ ปลูกอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมก่ออิฐถือปูน
ใต้ต้นโพธิ์มี พระรัตนบัลลังก์ ไว้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย




รวมทั้ง มีรูปพระแม่ธรณีบีบมวยผม และรูปปั้นพญามาร





รูปปั้นเสนามาร รูปร่างหน้าตาต่างๆ กัน ตั้งอยู่ด้านหน้าพระรัตนบัลลังก์
ตามพุทธประวัติกล่าวว่า พระพุทธเจ้าหลังจากตรัสรู้แล้ว
ได้เสด็จประทับเสวยวิมุตติสุขภายใต้ร่มโพธิ์เป็นเวลา 7 วันเป็นสัปดาห์ที่ 1





สัปดาห์ที่ 2 อนิมิสเจดีย์ หรือ เจดีย์ที่ไม่กะพริบตา
เพราะพระพุทธเจ้าประทับยืนและจ้องต้นโพธิ์ด้วยตาไม่กะพริบ ตลอด 7 วัน



เก๋งจีน ศิลาจีนสลักเป็นรูปปราสาท ตั้งอยู่บนฐานสูงมีบันไดทางขึ้น ประดิษฐานพระพุทธรูปปางถวายเนตร
รอบผนังฐานปั้นลายนูนต่ำรูปท้องฟ้า ก้อนเมฆ และเทวดารำล่องลอยอยู่บนฟ้า
ด้านหน้าเก๋งจีนเป็นรูปปั้นช้าง รูปปั้นสิงโต และรูปจำลองพระอนิมิสเจดีย์
(ศาลาที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงนำมาจากประเทศจีน)
เก๋งจีนนี้สมมุติเป็น พระอนิมิสเจดีย์ ที่ประทับยืนทอดพระเนตรดูต้นมหาโพธิ์

ตามพุทธประวัติกล่าวว่า หลังจากเสวยวิมุตติสุขเป็นเวลา 7 วัน จึงเสด็จออกจากต้นมหาโพธิ์ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
พระองค์ได้ไปประทับที่พระอนิมิสเจดีย์ แล้วหันกลับมาประทับยืน
เพื่อเพ่งดูพระรัตนบัลลังก์ บัลลังก์ใต้ต้นมหาโพธิ์ที่ประทับตรัสรู้ โดยมิได้กะพริบพระเนตรตลอด 7 วัน เป็นสัปดาห์ที่ 2
เพื่อแสดงถึงความกตัญญูต่อต้นมหาโพธิ์ ซึ่งเป็นควงไม้ที่พระองค์ประทับตรัสรู้
พระองค์ทรงประทับอยู่ที่พระอนิมิสเจดีย์เป็นเวลา 1 สัปดาห์





สัปดาห์ที่ 3 รัตนจงกรมเจดีย์ หรือ เจดีย์แห่งทางจงกรมที่ประดับด้วยเพชรพลอย
พระพุทธเจ้าทรงเดินจงกรมตลอด 7 วันหลังจากตรัสรู้



แผ่นศิลาปูนบนฐานสี่เหลี่ยมสูง แผ่นศิลานี้สมมุติเป็น พระรัตนจงกรมเจดีย์
ตามพุทธประวัติกล่าวว่า เมื่อประทับยืนเพื่อเพ่งดูต้นมหาโพธิ์ 7 วัน
แล้วจึงทรงเนรมิตที่จงกรมขึ้นระหว่างต้นมหาโพธิ์กับพระอนิมิสเจดีย์ แล้วเสด็จจงกรม ณ ที่ตรงนี่ตลอด 7 วัน เป็นสัปดาห์ที่ 3
บนแผ่นศิลาปูนประดิษฐานพระพุทธรูปปางเสด็จจงกรม





สัปดาห์ที่ 4 รัตนฆรเจดีย์ หรือ เจดีย์แห่งอาคารที่ประดับไปด้วยเพชรพลอย หรือ เรือนแก้ว
โดยพระพุทธเจ้าประทับอยู่ในเรือนแก้วซึ่งเทวดาบรรดาลถวาย แล้วจึงทรงพิจารณาธรรมในเรือนแก้วนั้นตลอด 7 วัน



ศาลาศิลาทรงโรงแบบจีน
ศิลาจีนสลักรูปอาคารหรือเรือนอีกหลังหนึ่งที่มีฐานเตี้ยกว่าหลังแรก
สมมุติเป็นเรือนแก้วหรือ พระรัตนฆรเจดีย์ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางรำพึง

ตามพุทธประวัติกล่าวว่า หลังจากเสด็จจงกรม 7 วัน
แล้วทรงเนรมิตเรือนแก้วขึ้นทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของต้นมหาโพธิ์
แล้วพระองค์ประทับนั่งพิจารณาพระอภิธรรมตลอด 7 วัน เป็นสัปดาห์ที่ 4





สัปดาห์ที่ 5 อชปาลนิโครธ หรือ ต้นไทรของผู้เลี้ยงแพะ
โดยพระพุทธเจ้าประทับอยู่ใต้ต้นไทรของคนเลี้ยงแพะตลอด 7 วัน ในช่วงนี้มีธิดามารสามตนมาผจญพระพุทธเจ้า



ต้นไทรบนฐานสี่เหลี่ยมก่ออิฐถือปูน ประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทับนั่งยกพระหัตถ์ขวาห้ามธิดาพญามาร
มีรูปกระบือสลักจากศิลาจีน 4 ตัว และรูปปั้นธิดาพญามาร คือ นางตัณหา นางราคา และนางอรดี ตั้งอยู่บริเวณต้นไทร
ต้นไทรนี้สมมุติเป็น ต้นอชปาลนิโครธ

ตามพุทธประวัติกล่าวว่า หลังจากทรงพิจารณาพระอภิธรรม
พระองค์ได้เสด็จไปทางทิศตะวันออกแห่งต้นมหาโพธิ์ ประทับนั่งใต้ควงไม้ไทร อันเป็นที่อาศัยของคนเลี้ยงแพะ
เพื่อเสวยวิมุตติสุขเป็นเวลา 7 วัน เป็นสัปดาห์ที่ 5 ได้มีพญานาคมาอาราธนาให้เสด็จเข้าสู่ปรินิพพาน แต่ทรงปฏิเสธ
พระองค์ทรงให้รอจนกว่าพุทธบริษัทสี่จะสืบพระศาสนาก่อน





สัปดาห์ที่ 6 มุจลินท์ หรือ ราชาแห่งต้นมุจละ โดยพระพุทธเจ้าทรงทำสมาธิใต้ต้นมุจลินท์ตลอด 7 วัน
ในขณะนั้นเกิดฝนหลงฤดู พญานาคมุจลินท์จึงได้ใช้พังพานของตนปกป้องพระพุทธเจ้าจากฝนตลอด 7 วัน



ต้นจิกบนฐานสี่เหลี่ยมก่ออิฐถือปูน ประดิษฐานพระพุทธรูปปางนาคปรก
มีอ่างรูปสี่เหลี่ยมสลักด้วยศิลาจีนปลูกบัวใส่ปลาและเต่าในอ่าง
ต้นจิกนี้สมมุติเป็น ต้นมุจลินทพฤษ์



ตามพุทธประวัติกล่าวว่า ในสัปดาห์ที่ 6
พระพุทธองค์เสด็จไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของต้นมหาโพธิ์ ประทับนั่งใต้ควงไม้จิก เพื่อเสวยวิมุตติสุขเป็นเวลา 7 วัน
ตลอดสัปดาห์มีฝนตกตลอด พญานาคมุจลินทร์จึงแผ่พังพาน ปกพระเกษกันฝนและลมมิให้ต้องพระวรกาย
ครั้นฝนหายแล้ว ก็คลายขนาดจำแลงเพศเป็นมานพ ยืนเฝ้าพระพุทธเจ้าเฉพาะพระพักตร์





สัปดาห์ที่ 7 ราชายตนะ หรือที่อยู่แห่งพระราชา โดยพระพุทธเจ้าประทับใต้ต้นไม้ชื่อว่า ราชายตนะ (ต้นเกด) ตลอด 7 วัน

โดยในตอนนี้มีเหตุการณ์ 5 เหตุการณ์เกิดขึ้น คือ

1. พระอินทร์ถวายผลสมอ
2. พ่อค้าสองคนคือ ตปุสสะ และภัลลิกะ ได้รับการเชิญชวนโดยเทวดาให้พ่อค้าสองคนนี้ไปถวายอาหารพระพุทธเจ้า
3. ตปุสสะ และภัลลิกะ เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เพื่อถวายอาหารคือขา้วมธุปิณฑิกา ในตอนนั้นพระพุทธเจ้าไม่มีบาตร
4. ท้าวจตุโลกบาลทั้ง4 จึงถวายบาตร 4 ใบแก่พระพุทธเจ้า เมื่อพระพุทธเจ้ารับบาตรจึงรวม 4 บาตรให้เป็นบาตรเดียว
5. เมื่อรับอาหารแล้ว พ่อค้าทั้งสองจึงขอปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะให้เป็นคนแรกของโลก
และพระพุทธเจ้าทรงลูบพระเศียรและประทานพระเกศาแด่พ่อค้า
ต่อมา เมื่อถึงยังบ้านเมืองของตนแล้วพ่อค้าทั้งสองได้สร้างสถูปบรรจุพระเกศธาตุนั้น



ต้นเกดบนฐานสี่เหลี่ยมก่ออิฐถือปูน ประดิษฐานพระพุทธรูปปางรับผลสมอนั่งสมาธิ หัตถ์ขวาถือผลสมอ
ด้านข้างมีศิลาจีนสลักรูปม้าเทียมเกวียน ต้นเกดนี้สมมุติเป็น ต้นราชายตนพฤกษ์

ตามพุทธประวัติกล่าวว่า ในสัปดาห์ที่ 7 นี้
พระพุทธองค์เสด็จออกทางทิศใต้ของต้นมหาโพธิ์ ไปยังต้นราชายตนะ ประทับเสวยวิมุตติสุขเป็นสัปดาห์สุดท้าย
ณ ที่นี้ พระองค์ทรงได้ปฐมอุบาสก 2 คน ชื่อตปุสสะและภัลลิกะ ซึ่งเดินทางมาค้าขาย
เห็นพระองค์เข้าเกิดความเลื่อมใส จึงนำข้าวสัตตุผงและข้าวสัตตุก้อนซึ่งเป็นเสบียงเดินทางถวาย
พ่อค้าทั้งสองคนได้แสดงตนเป็นอุบาสก อ้างพระพุทธกับพระธรรมเป็นสรณะ
นับเป็นอุบาสกคู่แรกในพระพุทธศาสนา แล้วเดินทางค้าขายต่อไป






เมื่อพระพุทธองค์ทรงออกจากประทับเสวยวิมุตติสุขแล้ว ได้เสด็จไปยังป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
เพื่อโปรดเบญจวัคคี ซึ่งในตอนแรกไม่ยินยอมรับพระพุทธองค์ แสดงท่าทีต่างๆ นาๆ
แต่ในที่สุดพระพุทธองค์ทรงปฐมเทศนาให้เหล่าเบญวัคคีฟัง
และท่านอัญญาโกณฑัญญะ ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์สาวกองค์แรก
นับแต่นั้นพุทธศาสนาก็ครบองค์ 3 คือ พระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์





ในสมัยรัชกาลที่ 3 รัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 บริเวณสัตตมหาสถานนี้ใช้เป็นที่สำหรับเวียนเทียนในวันวิสาขบูชา

แต่ปัจจุบันพิธีเวียนเทียนในวันวิสาขบูชา ใช้บริเวณพระวิหารหลวงแทน







Create Date : 04 มีนาคม 2555
Last Update : 26 พฤษภาคม 2555 14:11:45 น. 7 comments
Counter : 11342 Pageviews.  

 
สวัสดีค่า ป้าแอ็ด

มารับความรู้ค่า
เคยนั่งรถผ่าน ไม่เคยเข้าไปเลยค่า

ป้าแอ็ดได้อัพบล๊อกวัดพิชัยญาติหรือยังค่า
เด๊ยวนู๋ไปดูบล๊อกเก่า ๆ ก่อน

รักษาสุขภาพนะค่า


โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 4 มีนาคม 2555 เวลา:16:46:30 น.  

 
ขอบคุณค่ะป้าแอ๊ด


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 4 มีนาคม 2555 เวลา:17:35:11 น.  

 
สวัสดีค่ะป้าแอ๊ด ขอตามมาเที่ยวสัตตมหาสถาน ในวัดสุทัศน์ฯ กับป้าแอ๊ดด้วยคนนะคะ ขอบคุณมากค่ะ


โดย: เอื้องใบไผ่ วันที่: 5 มีนาคม 2555 เวลา:10:46:24 น.  

 
โย สหสฺสํ สหสฺเสน สงฺคาเม มานุเส ชิเน
เอกญฺจิ ชฺยมตฺตานํ ส เว สงฺคามชุตฺตโม

ถึงผู้ใดจะชนะเหล่าชน ได้พันคนพันครั้งในสงคราม ก็หาชื่อว่าเป็นผู้ชนะยอดเยี่ยมไม่
ส่วนผู้ชนะตนคนเดียวได้ ผู้นั้นแล ชื่อว่าผู้ชนะยอดเยี่ยมในสงคราม

มีความสุขกับการชนะกิเลสในใจตนได้ ตลอดไป...นะคะ



มาชมภาพสวย พร้อมรับความรู้มากมายจากป้าแอ๊ด...ค่ะ

หัวใจ...เค้าไม่มีให้เราแปะอีกแล้ว
แต่หัวใจของปอป้ามีให้ป้าแอ๊ดทุกวัน ไม่เคยขาดหาย...นะคะ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 5 มีนาคม 2555 เวลา:12:42:36 น.  

 
เป็นหนึ่งในที่น่าสนใจ แต่น้อยคนที่จะเดินไปชมเนอะ

นอกจากที่นี่รู้สึกว่าจะมีที่วัดอุโมงค์? เชียงใหม่ อีกแห่ง

แต่แน่นอนว่า ไม่สวยและสมบูรณ์เท่าที่นี่อย่างแน่นอน


โดย: VET53 วันที่: 5 มีนาคม 2555 เวลา:16:40:54 น.  

 
อาสึเสเถว ปุริโส น นิพฺพินฺเทยฺย ปณฺฑิโต
เป็นคนควรหวังเรื่อยไป บัณฑิตไม่ควรท้อแท้

สมหวังในทุกสิ่งอันเป็นสัมมาทิฐิ ตลอดไป...นะคะ



สวัสดีค่ะ ป้าแอ๊ด...

อากาศร้อนมาก ตับใกล้สุกเต็มที...อิ อิ

รักษาสุขภาพด้วย...นะคะ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 6 มีนาคม 2555 เวลา:15:09:27 น.  

 
สวัสดีค่ะป้าแอ๊ด
ตามมาเที่ยววัดด้วย
ชอบจัง วัดนี้ออกแบบเป็นแบบใช้แนวจีน ไม่ได้ไปนานมากจนลืมไปหมดแล้ว และคิดว่าคงเปลี่ยนไปพอสมควรเลยนะคะ

วันก่อนได้ไปทำบุญที่วัดระฆังโฆสิตารามด้วย ข้ามน้ำไปจากฝั่งสนามหลวง เดินเยอะมาก ๆๆๆ

คนแยะจริง ๆ ค่ะ เพราะไปวันอาทิตย์ เลยไม่ได้ดูอะไรเท่าไหร่ ร้อนมาก


โดย: secreate (secreate ) วันที่: 6 มีนาคม 2555 เวลา:21:33:50 น.  

addsiripun
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 78 คน [?]




ลบบล็อกงานตัดเย็บทิ้งหมดแล้วนะคะ
[Add addsiripun's blog to your web]