|
23 มิถุนายน 2553
|
|
|
|
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (2)
สวัสดีค่ะ วันนี้พาไปชม
" พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช "
ที่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา กันค่ะ
พระบรมราชานุสาวรีย์ฯ แห่งนี้ เป็นหนึ่งในพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ขององค์สมเด็จพระนเรศวรฯ ที่มีอยู่หลายแห่งในประเทศไทย ตั้งอยู่ในบริเวณทุ่งมะขามหย่อง ตำบลบ้านใหม่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นที่กระทำยุทธหัตถีระหว่างสมเด็จพระนเรศวรและพระมหาอุปราชา ในบริเวณใกล้เคียงกับทุ่งภูเขาทองและพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย
พระบรมราชานุสาวรีย์ฯ นี้ตั้งอยู่ด้านหน้าของเจดีย์ภูเขาทอง แห่งทุ่งภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จ. พระนครศรีอยุธยา บริเวณฐานพระบรมราชานุสาวรีย์มีรูปนูนต่ำเป็นเรื่องราวพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช รวมทั้งมีไก่เป็นฝูงใหญ่ตั้งอยู่ด้วย
เชื่อกันว่าบริเวณนี้เดิมเป็นทุ่งโล่งที่มีการตั้งทัพข้าศึก และเกิดการทำการยุทธหัตถีในหลายครั้งหลายสมัย องค์อนุสาวรีย์อยู่ในท่าที่สมเด็จพระนเรศวรทรงม้าศึก ประดิษฐานบนแท่นเป็นลานหินสีขาว
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ พระองค์ดำ เสด็จพระราชสมภพ ณ เมืองพิษณุโลก เมื่อปีเถาะ พุทธศักราช 2098 พระองค์เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชา และพระวิสุทธิกษัตรี ราชธิดาในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ และสมเด็จพระศรีสุริโยทัย ดังนั้น พระองค์จึงมีพระชาติ ทั้งราชวงศ์พระร่วงแห่งกรุงสุโขทัยทางพระราชบิดา และราชวงศ์อยุธยาทางพระราชมารดา พระองค์ทรงมีพระพี่นาง พระนามว่า พระสุวรรณเทวีหรือพระสุพรรณกัลยา และพระน้องยาเธอ พระนามว่า สมเด็จพระเอกาทศรถ
ภาพองค์พระนเรศวร ทรงชนไก่กับพระมหาอุปราชเมืองพม่า เมื่อครั้งที่พระองค์ประทับที่พม่าในวัยเยาว์
ภาพที่แสดงถึงองค์พระนเรศวรทรงฝึกซ้อมการต่อสู้ เมื่อครั้งอยู่ในเมืองพม่า
สมเด็จพระนเรศวรฯประทับอยู่ที่หงสาวดีได้ ๖ พรรษา จนกระทั่งเมื่อพระชนมพรรษาได้ ๑๕ พรรษา วันอาทิตย์ แรม ๑๑ ค่ำ ปีมะเส็ง พ.ศ.๒๑๑๒ ไทยก็เสียกรุงศรีอยุธยาให้แก่ข้าศึก พระเจ้าหงสาวดีให้ทำพิธีปราบดาภิเษกพระมหาธรรมราชาขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินครองกรุงศรีอยุธยา เมื่อพระมหาธรรมราชาเสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว ทรงทูลขอพระนเรศวรฯ คืนจากพระเจ้าหงสาวดี เพื่อให้กลับมาช่วยราชการบ้านเมือง สถาปนาให้เป็น "พระนเรศวร" ตำแหน่งสมเด็จพระโอรสผู้เป็นมหาอุปราชเสด็จไปครองเมือง พิษณุโลก และถวายพระสุพรรณเทวีพระราชธิดาให้กับพระเจ้าหงสาวดีแทน
ปีพ.ศ.๒๑๑๒ พระยาจีนจันตุ เป็นขุนนางจีนคนหนึ่งในกัมพูชา พาพรรคพวกหนีมาสวามิภักดิ์ต่อไทย สมเด็จพระ มหาธรรมราชาทรงรับเลี้ยงไว้ อยู่มาภายหลังพระยาจีนจันตุคงมีความผิดจึงลอบลงเรือสำเภาหนี จากพระนคร สมเด็จพระนเรศวรฯ ซึ่งประทับอยู่ที่กรุงศรีอยุธยา ทรงทราบจึงจัดเรือพายรีบตามไป ทันเรือสำเภาจีนจันตุที่ปากน้ำ เสด็จออกทรงยิงพระแสงปืนสับนก ในขณะนั้นเองข้าศึกยิงสวน มาถูกรางพระแสงปืนแตกอยู่กับพระหัตถ์ พระองค์ก็ไม่หลบเลี่ยง ทรงพยายามจะยิงข้าศึกต่อไป พระเอกาทศรถเกรงว่าสมเด็จพระเชษฐาจะเป็นอันตราย จึงตรัสสั่งเร่งเรือลำที่ทรงเอง เข้าไปขวางเรือสมเด็จพระเชษฐา พอเรือสำเภาพระยาจีนจันตุได้ลมจึงแล่นหนีออกทะเลไป
องค์สมเด็จพระนเรศวรทรงประกาศอิสระภาพ ณ เมืองแครง ดังความในพระราชพงศาวดารที่เขียนไว้ว่า
ทรงมีพระดำริเห็นว่า การเป็นอริราชศัตรูกับกรุงหงสาวดีนั้น ถึงกาลเวลาที่จะต้องเปิดเผยแล้ว จึงได้มีรับสั่งให้เรียกประชุมแม่ทัพนายกอง กรมการเมือง เจ้าเมืองแครง รวมทั้งพระยาเกียรติพระยาราม และทหารมอญมาประชุมพร้อมกัน แล้วนิมนต์พระมหาเถรคันฉ่อง และพระสงฆ์มาเป็นสักขีพยาน ทรงแจ้งเรื่องให้คนทั้งปวงที่มาชุมนุม ณ ที่นั้นทราบว่า พระเจ้าหงสาวดีคิดประทุษร้ายต่อพระองค์ จากนั้นพระองค์ได้ทรงหลั่งน้ำลงสู่แผ่นดินด้วยสุวรรณภิงคาร (พระน้ำเต้าทองคำ) ประกาศแก่เทพยดาฟ้าดินว่า
"ด้วยพระเจ้าหงสาวดี มิได้อยู่ในครองสุจริตมิตรภาพขัตติยราชประเพณี เสียสามัคคีรสธรรม ประพฤติพาลทุจริต คิดจะทำอันตรายแก่เรา ตั้งแต่นี้ไป กรุงศรีอยุธยาขาดไมตรีกับกรุงหงสาวดี มิได้เป็นมิตรร่วมสุวรรณปฐพีเดียวกันดุจดังแต่ก่อนสืบไป"
มีความในพระราชพงศาวดาร แสดงถึงความอัศจรรย์ตอนหนึ่งว่า ขณะเมื่อสมเด็จพระนเรศวร ประทับอยู่ที่ค่ายหลวง ตำบลมะขามหวาน ก่อนวันที่จะเสด็จยกกองทัพไปเมืองสุพรรณบุรี ในตอนกลางคืน พระองค์ทรงพระสุบินว่า มีน้ำท่วมป่า หลากมาแต่ทางทิศตะวันตก พระองค์เสด็จลุยน้ำไปพบจรเข้ใหญ่ตัวหนึ่ง ได้เข้าต่อสู้กัน ทรงประหารจรเข้นั้นสิ้นชีวิตด้วยฝีพระหัตถ์ สายน้ำนั้นก็เหือดแห้งไป ทรงมีรับสั่งให้โหรทำนายพระสุบินนั้น พระยาโหราธิบดีกราบทูลพยากรณ์ว่า เสด็จไปคราวนี้จะได้รบพุ่งกับข้าศึก เป็นมหายุทธสงคราม ถึงได้ทำยุทธหัตถีและจะมีชัยชนะข้าศึก
มีเรื่องของศุภนิมิตครั้งที่สองที่ได้กล่าวไว้ในที่บางแห่งว่า เมื่อใกล้ฤกษ์ยกทัพ สมเด็จพระนเรศวรและสมเด็จพระเอกาทศรถ เสด็จไปยังเกยทรงช้างพระที่นั่งตามพิชัยฤกษ์นั้น พระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นพระบรมสารีริกธาตุ ขนาดเท่าผลส้มเกลี้ยง ส่องแสงเรืองอร่าม ลอยมาในท้องฟ้าทางทิศใต้ แล้วลอยวนรอบกองทัพไทย เป็นทักษิณาวัตรสามรอบ จากนั้นจึงลอยขึ้นไปทางทิศเหนือ สมเด็จพระนเรศวร และพระอนุชาทรงปิติยินดีตื้นตันพระราชหฤทัยยิ่งนัก ทรงนมัสการและอธิษฐานให้ พระบรมสารีริกธาตุนั้น ปกป้องคุ้มครองกองทัพไทย ให้พ้นอันตรายจากผองภัยทั้งมวล
วีรกรรมของสมเด็จพระนเรศวรในภาพนี้ มีดังนี้ ทรงเสด็จออกปล้นค่ายพม่าซึ่งเป็นทัพหน้าของหงสาวดี ข้าศึกแตกพ่ายถอยหนี พระองค์จึงไล่ตีมาจนถึงค่ายหลวงของพระเจ้าหงสาวดี ทรงเสด็จลงจากม้าคาบพระแสงดาบ แล้วนำทหารปีนบันไดขึ้นกำแพงข้าศึก แต่ถูกพม่าใช้หอกแทงตกลงมาข้างล่างหลายครั้ง จึงทรงเสด็จกลับพระนคร พระแสงดาบนี้มีนามว่า " พระแสงดาบคาบค่าย "
สมเด็จพระนเรศวรทรงยกกองทัพข้ามแม่น้ำสะโตง จวนจะถึงหงสาวดี ก็ทราบข่าวว่าพระเจ้าหงสาวดีรบชนะพระเจ้าอังวะ และกำลังยกทัพกลับกรุงหงสาวดี สมเด็จพระนเรศวรทรงคิดพิจารณาแล้วว่า การจะตีหงสาวดีครั้งนี้คงไม่สำเร็จ จึงให้ทหารเที่ยวไปกระจายข่าวบอกชาวไทยที่ถูกพม่ากวาดต้อนมา ให้เดินทางกลับเมืองไทยได้จำนวนหมื่นเศษ สมเด็จพระนเรศวรทรงให้ชาวบ้านข้ามแม่น้ำสะโตงไปจนหมด แล้วพระองค์ทรงอยู่คุมกองหลังข้ามแม่น้ำสะโตงเป็นชุดสุดท้าย(แสดงถึงความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมและกล้าหาญมาก) ขณะนั้นพระมหาอุปราช(มังสามเกียด)ได้จัดทัพติดตามมา ให้สุรกรรมาเป็นกองหน้า แล้วมาทันกันที่แม่น้ำสะโตง ซึ่งมีความกว้างประมาณ ๔๐๐ เมตร ทางพม่าก็ยิงปืนข้ามมาแต่ไม่ถูก สมเด็จพระนเรศวรทรงประทับอยู่บนคอช้างริมแม่น้ำทรงประทับพระแสงปืนยาว ๙ คืบหรือ ๒ เมตร ๒๕ เซ็นติเมตร (แล้วทรงอธิฐานถ้าการกู้ชาติสำเร็จขอให้ยิงถูกข้าศึก) ทรงยิงไปถูกสุรกรรมาตายอยู่บนคอช้าง ทำให้พม่าเกรงกลัวและถอยทัพกลับไป พระแสงปืนต้นนี้มีนามว่า พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง หลังจากนั้นสมเด็จพระนเรศวรทรงเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา
สมเด็จพระนเรศวรจึงโปรดให้สร้างพระเจดีย์ขึ้นองค์หนึ่ง ตรงที่ได้กระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา ณ ตำบลท่าคอย ซึ่งปัจจุบันเป็นตำบลดอนเจดีย์ อยู่ห่างจากหนองสาหร่ายไปประมาณ 100 เส้น พระเจดีย์ทิ้งร้างมานานหลายร้อยปี เพิ่งมาพบเมื่อปี พ.ศ. 2456 วัดฐานเจดีย์ได้ด้านละ 10 วา ความสูงประมาณ 20 วา ต่อมา ได้มีการบูรณะเป็นรูปแบบที่สมบูรณ์ ตามแบบอย่างเจดีย์ที่วัดใหญ่ชัยมงคล ซึ่งสันนิษฐานว่า สมเด็จพระนเรศวรทรงให้สร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์ แห่งชัยชนะครั้งนั้น ตามคำกราบทูลแนะนำของสมเด็จพระพนรัตน์วัดป่าแก้ว เป็นเจดีย์กลมแบบลังกา ดังที่ปรากฎอยู่ปัจจุบันนี้
ภาพพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร ที่มองมาจากบนเจดีย์ภูเขาทอง ที่อยู่ด้านหลัง
พระบรมราชานุสาวรีย์มีพื้นที่ทั้งหมด 1,075 ไร่ ประกอบด้วยสระเก็บน้ำ พื้นที่จัดกิจกรรม มีภูมิทัศน์บริเวณรอบอนุสาวรีย์สวยงาม สวนสาธารณะพักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชน พื้นที่รับน้ำทำการเกษตร
เป็นที่น่าสังเกตว่า ที่ฐานองค์ราชานุสาวรีย์ฯ นี้ ไม่มีภาพการกระทำยุทธหัตถี
แต่ป้าแอ๊ดจะนำภาพการกระทำยุทธหัตถีอีกรูปแบบหนึ่งมานำเสนอในบล็อกหน้านะคะ
วันนี้ลากันด้วยภาพนี้ค่ะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่ได้ไปถ่ายภาพจากสถานที่จริงๆ มาให้ชม
ขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Create Date : 23 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 29 กรกฎาคม 2553 16:06:41 น. |
|
29 comments
|
Counter : 10418 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: พี่นู๋อ้อ (pinuaoo2006 ) วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:14:21:35 น. |
|
|
|
โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:14:33:03 น. |
|
|
|
โดย: cd2lucky วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:14:41:00 น. |
|
|
|
โดย: chadapha วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:14:46:56 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:15:23:23 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:15:44:18 น. |
|
|
|
โดย: VET53 วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:16:33:16 น. |
|
|
|
โดย: jetsada.999 วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:18:50:02 น. |
|
|
|
โดย: ปลาทอง9 วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:20:15:51 น. |
|
|
|
โดย: ป้าเกรซ (BabyGreace ) วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:20:19:02 น. |
|
|
|
โดย: kim (นกน้อยจงแกร่ง ) วันที่: 24 มิถุนายน 2553 เวลา:7:29:53 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 24 มิถุนายน 2553 เวลา:11:43:59 น. |
|
|
|
โดย: ภูเพยีย วันที่: 24 มิถุนายน 2553 เวลา:11:44:33 น. |
|
|
|
โดย: iampp วันที่: 24 มิถุนายน 2553 เวลา:20:20:42 น. |
|
|
|
โดย: อิ ส ร ะ ช น ตั ว โ ต เ ต็ ม วั ย . . ไม่ ใ ช่ ใ ค ร . . . มัน คื อ . . (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 24 มิถุนายน 2553 เวลา:23:28:31 น. |
|
|
|
โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 25 มิถุนายน 2553 เวลา:6:23:01 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 มิถุนายน 2553 เวลา:8:05:07 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 25 มิถุนายน 2553 เวลา:11:16:02 น. |
|
|
|
โดย: ju IP: 113.53.115.127 วันที่: 14 กรกฎาคม 2553 เวลา:12:27:03 น. |
|
|
|
| |
|
|
addsiripun |
|
|
|
|