bloggang.com mainmenu search






ส่าเหล้าปัตตานีก้านดอกสีดำยาว สวยแปลกตา
Photo by : Dok Kaew


ชื่อวิทยาศาสตร์ Desmos cochinchinensis Lour.
ชื่อสามัญ Dwarf Ylang-Ylang Shrub
วงศ์ ANNONACEAE (วงศ์กระดังงา)

ชื่อพื้นเมือง ของส่าเหล้าปัตตานีมีเยอะมาก
เช่น พี้เขา พีพวนน้อย (นครพนม) นางดำ (นครศรีธรรมราช)
โยม (มลายู-ปัตตานี) ส่าเหล้าช้าง (ประจวบคีรีขันธ์)




//jpkc.sysu.edu.cn/zhiwuxue/web2004/source/bys/hua/pphua020.htm


ถ้าไม่ใช่คนในแวดวงไม้หอม คงงงกับชื่อนี้มาก โดยเฉพาะคอเหล้าคงจะคิดว่าไม่ใช่ดอกไม้หอมเป็นแน่แท้ ดอกอะไร
จะมีกลิ่นแบบส่าเหล้า แต่จริงๆแล้วถ้ารู้จักสายหยุดไม้หอมของไทยดี รู้จักกับส่าเหล้าปัตตานีอีกต้นหนึ่งก็คงไม่เสียหายอะไร


ส่าเหล้าปัตตานี มีชื่อสกุลเดียวกันกับสายหยุด คือ Desmos แค่คนละสปีชีส์
ทั้งนี้ก็อยู่ในวงศ์ Annonaceae หรือวงศ์กระดังงา ที่เราคุ้นเคยกันดี


ส่าเหล้าปัตตานีเป็นไม้รอเลื้อยเช่นเดียวกับสายหยุดและกระดังงา เถาเนื้อแข็ง เลื้อยพาดต้นไม้อื่นไปได้ไกล 5-10 เมตร
ถ้าปลูกกลางแจ้งตัดแต่งกิ่งจะเป็นพุ่ม หากมีค้างจะเลื้อยขึ้นค้าง หรือขึ้นต้นไม้ก็ได้ แตกกิ่งน้อย เปลือกเรียบ สีน้ำตาล
มีช่องอากาศเป็นจุดสีขาว เนื้อไม้เหนียว ใบรูปรีแกมรูปขอบขนาน กว้าง 5-8 ซม. ยาว 12-20 ซม. โคนใบมน ปลายใบแหลม
ใบหนา ใบด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน ใบด้านล่างสีเขียวอมเทา เส้นแขนงใบ 13-16 คู่ ก้านใบยาว 1-1.3 ซม. ออกดอกทั้งปี

 


//www.bansuanporpeang.com/node/10987
ส่าเหล้าปัตตานีก้านดำ


จุดเด่นของส่าเหล้าปัตตานี คือมีก้านดอกที่ยาวมากเมื่อเทียบกับพืชในวงศ์เดียวกัน คือประมาณครึ่งฟุตจนถึงฟุตก็มี
บางคนก็เลยเรียกส่าเหล้าปัตตานีว่า แม่ดอกก้านยาว ซึ่งมี 2 แบบ คือ แบบก้านดอกสีเขียว และ ก้านดอกสีม่วงเข้ม
หรือดำ
มีกลีบเลี้ยงรูปสามเหลี่ยม ดอกมีกลีบดอก 6 กลีบ กลีบดอกเรียงเป็น 2 ชั้น ชั้นละ 3 กลีบ กลีบชั้นนอกรูปหอก
กว้าง 1.5-2.5 เซนติเมตร ยาว 3.5 เซนติเมตร ชั้นในกลีบเล็กและสั้นกว่า




//www.magnoliathailand.com/webboard/index.php?topic=8467.0
ส่าเหล้าปัตตานีดอกแดง


เกสร
ของส่าเหล้าปัตตานีมีสรรพคุณทางยา คือใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ บำรุงกำลัง และบำรุงโลหิต
ในประเทศจีนมีการศึกษาโดยใช้สารสกัดจากรากของส่าเหล้าปัตตานีในการต้านมาลาเรีย




//www.magnoliathailand.com/webboard/index.php?topic=2813.0
ส่าเหล้าปัตตานีก้านเขียว


ส่าเหล้าปัตตานีชนิดก้านดอกสีเขียว ดอกมีขนาดเล็กถึงกลาง กลิ่นหอมอ่อน ๆ ส่วนส่าเหล้าปัตตานีก้านดอกดำ
หรือม่วงเข้ม ดอกมีขนาดกลาง กลิ่นหอมแรงกว่าชนิดก้านเขียวเล็กน้อย แต่ก้านดอกจะยาวกว่าชนิดก้านเขียว
 ดอกจะห้อย ดิ่งลงมา




//www.magnoliathailand.com/webboard/index.php?topic=52.0
ส่าเหล้าปัตตานีก้านดำ


ดอกอ่อนมีสีเขียวพอบานเป็นสีเหลือง บานได้สัก 2-3 วัน กลิ่นหอมอ่อนตั้งแต่เช้าและหอมมากขึ้นในตอนกลางคืน
ออกดอกตลอดปี และแน่นอนถ้าอยู่ในวงศ์กระดังงาจึงเป็นพวกไม้พุ่มรอเลื้อย สามารถเลื้อยพาดไปได้ไกล
เป็นสิบเมตร แตกกิ่งไม่มาก เปลือกนั้นเรียบมีสีน้ำตาล มีจุดสีขาว เนื้อไม้เหนียว โคนใบมน ปลายใบแหลม




//www.magnoliathailand.com/webboard/index.php?topic=6820.30
ส่าเหล้าปัตตานีก้านดำ


ดอกเดี่ยว ออกนอกซอกใบ ดอกอ่อนสีเขียว เมื่อบานแล้วเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ก้านดอกเรียวยาว 10-16 ซม.
มีใบประดับขนาดเล็ก ยาว 4 มม อยู่ค่อนมาทางโคนก้านดอก กลีบเลี้ยงรูปสามเหลี่ยม กว้าง 5 มม. ยาว 7 มม. แผ่กางออก
 กลีบดอกเรียงเป็น 2 ชั้น กลีบชั้นนอกรูปหอก กว้าง 1.5-52.5 ซม. ยาว 3-5 ซม. ปลายกลีบโค้งงอเข้า โคนกลีบดอก
ใกล้ฐานดอกคอดเล็กน้อย กลีบชั้นในมีขนาดเล็กและสั้นกว่า บางดอกก้านยาวถึงฟุตได้ แล้วแต่ความสมบูรณ์
กลิ่นจะหอมมากขึ้นในตอนกลางคืนแล้วร่วงโรยในตอนเช้าของวันถัดมา

ผลของส่าเหล้าปัตตานีเป็นผลกลุ่ม มีผลย่อย 6-15 ผล รูปทรงกระบอก สีดำ ผิวผลเรียบเป็นมันและมีรอยคอด
ในแต่ละช่วงเมล็ด แต่ละผลย่อยมี 2-6 เมล็ด ก้านช่อผลยาว เหมือนก้านดอก ผลอ่อนสีเขียว เมื่อแก่กลายเป็นสีดำ




//www.magnoliathailand.com/webboard/index.php?topic=2813.0
Variation (การกลายพันธุ์) ของส่าเหล้าปัตตานี


ตามธรรมชาติสามารถพบส่าเหล้าปัตตานีขึ้นตามป่าดิบชื้นและป่าเบญจพรรณทั่วประเทศ ที่ระดับความสูง
100-600 เมตร ปัจจุบันสามารถหาซื้อมาปลูกกันได้ตามร้านขายต้นไม้หอมไทย อาจจะปลูกเป็นไม้กระถางไว้เลื้อย
ไปตามต้องการ หรือถ้าจะปลูกส่าเหล้าปัตตานีลงดินต้องทราบว่าเป็นพืชที่ชอบอยู่ในที่ร่มชอบแสงรำไร จะแตกต่าง
จากต้นสายหยุดที่ชอบแสงแดดและชอบอยู่ที่กลางแจ้ง




ส่าเหล้าปัตตานีก้านดำ


การกระจายพันธุ์
:

ถิ่นกำเนิด จีนตอนใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทยพบขึ้นกระจายตามป่าดิบชื้น และป่าเบญจพรรณ
ที่ระดับความสูง 100-600 เมตร ออกดอก เกือบตลอดปี การปลูกเลี้ยง ดินร่วน แสงแดดจัดถึงร่มรำไร น้ำปานกลาง

การขยายพันธุ์ โดยการเพาะเมล็ดและการตอนกิ่ง



ด้วยเสน่ห์ของ ส่าเหล้าปัตตานี ทำให้เริ่มรู้สึกเมารักแม่ดอกก้านยาวนี้ซะแล้ว
กลิ่นดอกเหมือนส่าเหล้าหรือเปล่า ใครเคยสัมผัสของจริงช่วยบอกด้วยนะคะ ^^

ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืนฯ 

                                               จาก นิราศภูเขาทอง


อ้างอิง :
//www.baanpud.net/forum/viewtopic.php?f=7&t=450
//www.magnoliathailand.com/webboard/index.php?topic=52.0
//www.doctor.or.th/article/detail/7868


Kevin Kern - Light Spirit


สนใจดอกไม้อื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกัน :

ดอกนมแมว คลิกที่นี่
บุหรงสามสี คลิกที่นี่
สายหยุดแดง คลิกที่นี่
กระดังงาสงขลา คลิกที่นี่
ดอกลำดวน ... เจ้าเอย คลิกที่นี่
บุหงาแต่งงาน คลิกที่นี่
แสดสยาม คลิกที่นี่
ข้าวหลามดง คลิกที่นี่

 

Create Date :05 กันยายน 2555 Last Update :27 กรกฎาคม 2559 20:29:23 น. Counter : 13829 Pageviews. Comments :89