bloggang.com mainmenu search
 


https://goo.gl/AaZcpr




ดุสิตา

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Utricularia delphinioides Thor. ex Pell. 
วงศ์ : Lentibulariaceae (วงศ์สร้อยสุวรรณา)
ชื่ออื่น ๆ : หญ้าข้าวก่ำน้อย, หญ้านกขาบ, ดอกขมิ้น 


ดุสิตา เป็นดอกไม้ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานชื่อไว้ เป็นไม้ล้มลุกกินแมลง
อายุปีเดียว ขึ้นเป็นกอเล็ก สูง 10-20 ซม. มีใบที่เปลี่ยนเป็นถุงสำหรับดักจับแมลงขนาดเล็ก
ดอกออกเป็นช่อ ดอกย่อย 3-5 ดอก กลีบเลี้ยงสีเขียวอมน้ำเงิน ปากด้านบนของกลีบดอกสีม่วงอมน้ำเงิน
ปากด้านล่างมีลักษณะเป็นถุงคล้ายเรือ ส่วนท้องเรือสีฟ้า จงอยกลีบสีขาว
ออกดอกเดือนตุลาคม-ธันวาคม

ผลเป็นผลแห้งชนิดแตกเมื่อแก่ พบในอินเดีย เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลีย
 ในประเทศไทยพบตามพื้นที่โล่งและชุ่มชื้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
โดยเฉพาะที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี

อ่านเพิ่มเติม :  https://goo.gl/zZS73b



---------------------------


 


https://goo.gl/OvZTKD




สร้อยสุวรรณา

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Utricularia bifida L.
วงศ์ : Lentibulariaceae
ชื่ออื่น ๆ : เหลืองทอง, หญ้าพิศมร, หญ้าสีทอง


สร้อยสุวรรณา เป็นไม้ล้มลุก กินแมลง ขึ้นเป็นกอเล็ก ๆ สูง 10-15 ซม. อายุปีเดียว มีอวัยวะจับแมลง
เกิดตามข้อของไหลหรือบนใบ รูปกลมขนาดเล็ก มีก้านชูสั้น ๆ ดอกสีเหลือง ออกเป็นช่อ
ผลเป็นผลแห้งชนิดแตกเมื่อแก่

 พบในอินเดีย เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และอินโดนีเซีย ในประเทศไทยพบตามพื้นที่โล่งและชุ่มชื้น
ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน พบมากที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อุบลราชธานี
 เป็นดอกไม้ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานชื่อไว้



----------------------



 
https://goo.gl/OvZTKD




มณีเทวา

ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : ManeeDheva Eriocaulon sp.
วงศ์ : ERIOCAULACEAE
ชื่ออื่น ๆ : กระดุมเงิน, หญ้าหัวหงอก, หญ้าผมหงอก, จุกนกยูง, หญ้าดอกขาว


มณีเทวา เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่งขึ้นเป็นกอ เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เติบโตแพร่พันธุ์
อย่างรวดเร็ว ... มณีเทวา เป็นดอกไม้ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานชื่อไว้
 ลักษณะเป็นกอขนาดเล็กคล้ายหญ้า สูง 2-6 ซม. ดอกสีขาว กลมเหมือนกระดุม มองคล้ายแก้วมณี
สีขาวใสเป็นที่มาของชื่อ "มณีเทวา"

ผลเป็นผลแห้ง ชนิดเมื่อแก่แล้วไม่แตก ขึ้นตามพื้นที่โล่งชุ่มชื้นหรือชายป่าโปร่ง
ในภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย

อ่านเพิ่มเติม :  https://goo.gl/akp9a9



-------------------
 

 


https://goo.gl/UAcQN8




สรัสจันทร

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Burmannia coelestis D.Don
วงศ์ : Burmanniaceae
ชื่ออื่น ๆ : หญ้าหนวดเสือ, กล้วยมือนาง


สรัสจันทร หรือ Sarassa Chandhorn เป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก สูง 10-30 ซม. ลำต้นเล็ก เรียว บอบบาง
 ดอกสีม่วงแกมน้ำเงิน กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็น 3 ปีก ส่วนปลายมีสีเหลืองหรือสีครีม ออกเป็นช่อกระจุก
ที่ปลายยอด ใบเป็นใบเดี่ยว มีใบย่อยขนาดเล็กมากเกือบมองไม่เห็นแนบติดตามข้อ


 


https://goo.gl/njlZRw



 ออกดอกช่วง เดือนกันยายน ถึง ธันวาคม ผลเป็นผลแห้งไม่แตกเมื่อแก่ พบตามบริเวณ
ทุ่งหญ้าเปิด ริมหนองน้ำและบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำ จัดเป็นพืชหายาก 
เป็นดอกไม้ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานชื่อไว้ 

  อ่านเพิ่มเติม :  https://goo.gl/o5Lwd8

 

 ----------------------


 


https://goo.gl/k8najb




 ทิพเกสร

ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Utricularia minutissima
วงศ์ : Lentibulariaceae
ชื่ออื่น ๆ : หญ้าฝอยเล็ก


ทิพเกสร เป็นไม้ล้มลุกกินแมลง สูง 10-30 ซม. ลำต้นเล็กมากอยู่ใต้ดิน
ใบเดี่ยว และมีใบที่เปลี่ยนเป็นถุงสำหรับดักจับแมลงเป็นอาหาร ดอกสีม่วงอ่อนแกมชมพู

ผลเป็นผลแห้งชนิดแตกเมื่อแก่ พบในอินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลีย
ขึ้นตามบริเวณพื้นที่โล่ง ชุ่มชื้น ในประเทศไทยพบมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
 เป็นดอกไม้ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานชื่อไว้



--------------------------


 

 
https://goo.gl/k8najb




นิมมานรดี

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Eria amica Rchb. f.
วงศ์ : ORCHIDACEAE


นิมมานรดี เป็นกล้วยไม้อิงอาศัย ออกดอกเป็นช่อ ยาว 12-15 ซม. ก้านดอกมีขนนุ่มสีขาว กลีบเลี้ยง
และกลีบดอกสีขาว มีขีดตามยาว สีแดงเข้ม กลีบปากที่ปลายมีพื้นสีเหลืองเข้มและมีแต้มสีแดงเข้มที่โคนกลีบ
พบในอินเดียและเอเซียตะวันออกเฉียงใต้

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานชื่อไว้เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตร
พรรณไม้ที่บริเวณโคกนกกะบา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จังหวัดเลย เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2534



---------------------


 


https://goo.gl/1lR9Qf




แก้มอ้น

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pavonia rigida (Wall. ex Mast.) Hochr.
 วงศ์ : Malvaceae 
ชื่ออื่น ๆ : ขี้อ้น, อ้นแดง, หงอนไก่, หัวไก่โอก (อุบลราชธานี)


แก้มอ้น เป็นไม้พุ่ม ทอดเลื้อยไปตามพื้นดิน ชูยอดตั้งขึ้น ดอกช่อกระจุกออกที่ซอกใบหรือปลายกิ่ง
 กลีบดอกสีชมพูหรือสีชมพูอมแดง ขนาด 4 เซนติเมตร กลีบดอกมี 5 กลีบ ปลายมน โคนเรียว ส่วนโคนกลีบ
ดอกเชื่อมกับฐานหลอดเกสรตัวผู้ กลีบเลี้ยงมี 5 กลีบ ด้านนอกมีขน ริ้วประดับรูประฆัง ปลายแยกเป็นเส้นห้าแฉก
 เกสรเพศผู้มีจำนวนมาก เชื่อมกันเป็นกลุ่มเดียว เกสรเพศเมีย มีก้านชูเกสรแยกเป็น 10 แฉก

ผล เป็นผลแห้งแตกได้ ผิวมีขนเป็นริ้วประดับรูปถ้วยปกคลุม เมล็ดรูปไต
พบตามป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง ออกดอกราวเดือนตุลาคมถึงมกราคม



--------------------------------


 


https://goo.gl/1lR9Qf




หญ้าบัว 

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Xyris indica L.
วงศ์ : Xyridaceae

ชื่ออื่น ๆ : หญ้าขนไก่ (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), หญ้าบัว หญ้าขี้กลากน้อย
 (อุบลราชธานี), หญ้าขี้กลาก (สระบุรี), หญ้ากระเทียม (ปราจีนบุรี),
กระจับแดง (นราธิวาส), กุง, กระถินนา, กระถินทุ่ง


หญ้าบัว เป็นไม้ล้มลุกมีลำต้นใต้ดิน ใบเดี่ยว เรียงสลับ แตกจากลำต้นเป็นกระจุกใกล้พื้นดิน เป็นกอเจริญ
ขึ้นมาเหนือดิน ลักษณะกอหญ้า ใบรูปแถบแคบ ห่อขึ้นเล็กน้อย ยาว 10-60 เซนติเมตร ปลายแหลมหรือทู่
ค่อนข้างอวบหนา แต่เปราะหักง่าย ดอกรูปไข่หรือกลมรี ยาว 1-1.5 เซนติเมตร ใบประดับซ้อนกันแน่น
 สีน้ำตาลทองหรือน้ำตาลแดง ดอกสีเหลืองสด 3 กลีบ ปลายกลีบจักเป็นครุย ทยอยบานวันละ 1-3 ดอก
เมื่อแก่ใบประดับจะแห้งหลุดออก มีเมล็ดอยู่ภายใน




------------------------------------------

 
Chamras Saewataporn

Create Date :27 มกราคม 2560 Last Update :12 มกราคม 2564 8:15:49 น. Counter : 11689 Pageviews. Comments :18