แอฟริกันไวโอเล็ต (African Violet) https://goo.gl/Oxvn06ชื่อวิทยาศาสตร์ : Saintpaulia hybridวงศ์ : Gesneriaceaeถิ่นกำเนิด: ตอนเหนือของประเทศแทนซาเนีย และตอนใต้ของประเทศเคนยาแอฟริกันไวโอเล็ต เป็นไม้ที่มีความงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ เป็นไม้ขนาดเล็ก ดอกมีสีสันสวยงามรูปทรงของดอกหลายรูปแบบ นิยมปลูกประดับลงกระถางขนาดกะทัดรัด เพื่อตั้งประดับโต๊ะ หรือมอบให้คนพิเศษ คนที่นับถือ มีความหมายและมีคุณค่าดีมากhttps://goo.gl/MH4xtKแอฟริกันไวโอเล็ต ชอบอยู่ในที่โล่งแจ้ง มีลมพัดผ่านได้ดี และที่สำคัญอย่ารดน้ำด้วยการรดแบบทั้งต้นหรือรดให้น้ำโดนใบและดอก ให้ใช้วิธีพ่นน้ำจากกระบอกฟ็อกกี้ ฉีดพ่นเฉพาะหน้าดินพอชุ่มเล็กน้อยวันละครั้งเช้าหรือเย็นก็ได้ อย่าให้น้ำถูกใบและดอกโดยตรง พร้อมบำรุงปุ๋ยละลายช้า "ออสโมโค้ท" เดือนละครั้งเท่านี้ก็จะทำให้ แอฟริกันไวโอเลต มีใบและดอกดกสวยงาม อยู่ได้นานและมีอายุหลายปีสามารถนำไปตั้งประดับโต๊ะทำงานบางเวลาได้https://goo.gl/zi6xe2 ลักษณะ เป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี เป็นไม้เนื้ออ่อน ลำต้นกลม รากเป็นกระจุก แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มคลุมหน้าดิน ต้นสูงเต็มที่ระหว่าง 10-15 ซม. ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ก้านใบยาว มีขนละเอียด อวบน้ำรูปใบจะมีหลายลักษณะ เช่น รูปกลม รูปหัวใจ รูปไข่ ขอบใบจักรเป็นฟันเลื่อย หรือหยักมน เนื้อใบหนา อวบน้ำแผ่นใบมีทั้งชนิดเรียบและบิดเป็นคลื่นตามแต่สายพันธุ์ มีขนละเอียดนุ่มปกคลุมตลอดทั้งใบใบดกแผ่และกางออกคลุมหน้าดิน เป็นสีเขียวน่าชมยิ่งhttps://goo.gl/1397zPดอก ออกเป็นดอกเดี่ยว หรือเป็นช่อกระจุก มีทั้งชนิดที่เป็นดอกชั้นเดียว และดอกซ้อน กลีบดอกมี 2 รูปแบบคือ รูปดาว และ รูประฆัง มีหลายสี เช่น สีขาว ชมพู ม่วง ม่วงอมน้ำเงิน หรือ สองสีในกลีบเดียว ดอกเมื่อบานเต็มที่ เส้นผ่าศูนย์กลางระหว่าง 2-4 ซม. เวลามีดอกแต่ละสีจะดูสวยงามสดใสประทับใจมาก ในต่างประเทศนิยมปลูกประดับแพร่หลาย ดอกออกตลอดปี ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด - แยกหน่อ - ตัดใบชำhttps://aveggiegarden.wordpress.com/tag/african-violet/วัสดุปลูก แอฟริกันไวโอเล็ตต้องการดินผสมที่เบา และระบายน้ำได้ดี รากจะได้แผ่กระจายและน้ำไหลผ่านได้สะดวก ดินปลูกต้นไม้ที่มีขายตามตลาดอาจไม่เหมาะ เราอาจผสมดินขึ้นใช้เอง โดยใช้ส่วนผสมของพีทมอส(Peat Moss) หินภูเขาไฟ (Perlite) และสิ่งที่ได้จากการสังเคราะห์แร่ไมก้า(Vermiculite) หรืออาจใช้ขุยมะพร้าวผสมกับแกลบ ทรายหยาบ และปุ๋ยคอกเล็กน้อยก็ได้ แต่ส่วนผสมต้องเบาและไม่อุ้มน้ำ(ขุยมะพร้าวมักจะผุเปื่อย เกิดราและเพลี้ยแป้งได้ง่าย)การให้น้ำ สาเหตุหลักที่ทำให้แอฟริกันฯ ตายเพราะเครื่องปลูกแฉะเกินไป ควรรดน้ำที่เครื่องปลูกพอเปียกเมื่อรู้สึกว่าเครื่องปลูกเริ่มแห้ง ไม่ควรรดน้ำเป็นกิจวัตร เช่นทุกวัน หรือ ทุกสองวัน อาจใช้การยกดูว่ากระถางเริ่มเบาจึงค่อยรดน้ำ และไม่ควรรดน้ำที่ใบและดอก จะทำให้น้ำขังบนใบซึ่งเป็นสาเหตุของโรคราอย่าลืมว่าน้องแอฟชอบชื้นแต่ไม่ชอบแฉะนะจ๊ะhttps://en.wikipedia.org/wiki/Saintpauliaแสงสว่างและอุณหภูมิ น้องแอฟต้องการแสงสว่างเพียงพอไม่น้อยกว่าวันละ 8 ชั่วโมง เพื่อพัฒนาตาดอก แต่ต้องไม่ถูกแสงแดดโดยตรง จะวางไว้ริมหน้าต่างหรือใต้แสงไฟนีออน (ฟลูออเรสเซ้นท์)ที่สว่างเพียงพอ ควรจะหมุนกระถางให้น้องแอฟได้รับแสงทุก ๆ ด้าน มิฉนั้นต้นไม้จะเอียงไปด้านที่มีแสงมากสำหรับอุณหภูมิที่น้องแอฟชอบ ประมาณ 20-25 องศาเซลเซียส และไม่ชอบที่ที่มีลมโกรกมากบางท่านเข้าใจว่าต้องปลูกในที่เย็น ๆ จึงจะมีดอก จริง ๆ แล้วไม่จำเป็น อ้างอิง :https://goo.gl/t6vwPYhttps://kaewpanya.rmutl.ac.th/2552/index.php?https://goo.gl/OnmEjv Create Date :25 มกราคม 2554 Last Update :24 มกราคม 2564 18:48:04 น. Counter : Pageviews. Comments :2 twitter google Comment * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก ชอบค่ะแม้จะเลี้ยงยาก ทำตายหลายต้นแล้วแต่ก็เพาะใหม่ได้เรื่อย ๆ โดย: sunnyorchids 27 มกราคม 2554 10:42:12 น.ขอบคุณข้อมูลดีๆค่ะ...กำลังหาอยู่เลย..ที่บ้านมี 2-3 ต้น อยากจะขยายพันธุ์เหมือนกัน แต่กลัวมันจะน้อยใจหนีตายไปซะก่อน...เลยยังไม่กล้าไปทำอะไรกับมัน...แต่เด๋วลองชำใบ มันดูตามข้อมูลข้างบนดูค่ะ..ไว้ได้ผลดีๆ จะแวะเก็บภาพมาฝากด้วยจ๊ะ... โดย: ชาลีเบบี้ 30 มกราคม 2554 16:04:23 น.
โดย: sunnyorchids 27 มกราคม 2554 10:42:12 น.
ที่บ้านมี 2-3 ต้น อยากจะขยายพันธุ์เหมือนกัน แต่กลัวมันจะน้อยใจหนีตายไปซะก่อน...เลยยังไม่กล้าไปทำอะไรกับมัน...
แต่เด๋วลองชำใบ มันดูตามข้อมูลข้างบนดูค่ะ..ไว้ได้ผลดีๆ จะแวะเก็บภาพมาฝากด้วยจ๊ะ...
โดย: ชาลีเบบี้ 30 มกราคม 2554 16:04:23 น.