ควรรู้คู่ครัว #2
ควรรู้คู่ครัว #2
ข้อมูลที่รวบรวมมานี้ ผมได้มาจากการฟังผู้หลักผู้ใหญ่ จากการอ่านค้นคว้า และจากการสังเกตเห็นเอง ไม่ใช่ได้มาจากการเข้าครัวปรุงอาหารนะครับ
คือผมตัวคนเดียว กินคนเดียว คิดว่าจะไม่ประหยัดและเปลืองแรงเปล่าๆ หากจะเข้าครัวหุงหาอาหารกินคนเดียว
แต่ลองอ่านดูก่อนซิครับ เผื่อจะชอบ
..สำหรับตอนที่ 1 เชิญกดที่นี่
เรื่องควรรู้ของเนื้อสัตว์
41. เก็บเนื้อสัตว์ให้สดและใช้งานสะดวกง่าย ทำโดย....เมื่อซื้อเนื้อสัตว์มาแล้ว ล้างน้ำให้สะอาด ตัดแบ่งเนื้อสัตว์เป็นชิ้นย่อยๆ ขนาดพอที่จะนำไปประกอบอาหารได้ 1 ครั้ง แล้วนำไปใส่ถุงพลาสติก แยกเป็นชิ้นๆ เก็บไว้ในช่องแช่แข็ง เมื่อจะใช้ก็นำเนื้อสัตว์เพียง 1 ชิ้นที่จะใช้งาน ออกมาละลายน้ำแข็ง และปรุงเป็นอาหาร ส่วนที่ยังอยู่ในช่องแช่แข็ง ก็จะยังคงสดใหม่
42. ดับกลิ่นเครื่องใน ทำโดย.... นำเหล้าขาว 28 ดีกรี มาคลุกกับเครื่องในที่มีกลิ่น ค่อยๆคลุกโดยเติมเหล้าลงทีละน้อยจนเครื่องในหมดกลิ่น เหลือแต่กลิ่นของเหล้า โฮะโฮะ ...แล้วจึงนำเครื่องใน ไปต้มหรือลวกหรือปรุงอาหารที่ชอบ กลิ่นของเครื่องในและกลิ่นของเหล้าก็จะหายไป
43. ชำแหละปลา ปกติตัวปลาจะลื่นด้วยเมือก ทำให้ชำแหละยาก ทำงานช้า และหากพลั้งพลาดมีดอาจบาดมือได้ วิธีแก้ไขทำโดย ...ก่อนจะชำแหละปลา ให้เอามือแตะเกลือป่นเล็กน้อย แตะให้ทั่วทั้ง 5 นิ้วที่จะใช้จับตัวปลา ก็จะทำให้มือจับตัวปลาได้ไม่ลื่น ทำงานได้เร็ว ชำแหละปลาได้สวย และป้องกันมีดบาดมือ แต่ห้ามใช้เกลือทาที่มีดเด็ดขาดนะ เพราะจะยิ่งทำให้มีดลื่น
44. ลดความเค็มของปลาเค็ม ทำโดย.... ใช้วิธีเกลือจิ้มเกลือ นำเกลือประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำสะอาด คนให้ละลาย จากนั้นนำปลาเค็มไปแช่ในน้ำเกลือ ประมาณ 30 นาที(แล้วแต่ความเค็มมากหรือน้อย) แล้วนำไปล้างน้ำอีกครั้ง ใส่กระชอนพักให้สะเด็ดน้ำ จึงนำไปทอด หรือปรุงอาหารตามชอบ ปลาที่เค็มมากจะลดความเค็มลงเพราะความเค็มไหลกลับออกสู่น้ำเกลืออีกครั้ง
45. ทำปลาตากแห้ง หากต้องการจะทำปลาตากแห้งที่สะอาดด้วยตนเอง จะเป็นปลากระบอก ปลาสลิด ปลากระดี่ ปลาช่อน ปลานิล หรือปลาอื่นๆ ควรเลือกปลาที่สด นำมาขอดเกล็ด ควักไส้ ตัดหัวออก จากนั้นตำสารส้มจนละเอียดใส่ลงไปในน้ำเกลือ แช่ตัวปลาในน้ำเกลือที่ผสมสารส้มนี้พอประมาณ แล้วจึงนำขึ้นตากแดดแรงๆ และเวลาที่จะนำไปปรุงอาหาร จะต้องล้างปลาตากแห้งนี้ก่อน เพื่อล้างน้ำสารส้มออก ปลาตากแห้งที่ทำด้วยวิธีนี้ ในขณะตากแดดจะมีแมลงมารบกวนน้อย หากแดดไม่แรงปลาที่ตากก็ไม่มีกลิ่นตุๆ และหนังของปลา จะแห้งดูวาวใสสวยน่ารับประทาน
46. ย่างปลาหมึก ก่อนย่างปลาหมึก ให้ใช้เกลือล้างให้สะอาดจนหมดเมือก แล้วจึงหมักเครื่อง เช่น เกลือ+พริกไทย จากนั้นนำไปย่างด้วยไฟอ่อนๆ อย่าให้สุกมาก เพราะยิ่งสุกมาก เนื้อปลาหมึกจะยิ่งแห้งและหดตัว ไม่สวย ถ้าย่างทั้งตัวอาจไม่ต้องใช้ไม้เสียบ
เรื่องควรรู้ของไข่
47. เก็บไข่ ถ้าเก็บไว้ในตู้เย็นจะรักษาความสดไว้ได้หลายวัน แต่ถ้าไม่มีตู้เย็น หรือไฟฟ้าดับ ...หรือ..อุอุ ตู้เย็นเต็ม มีวิธีเก็บไข่ให้สดแบบง่ายๆ ทำโดย.... ใส่ไข่ลงไปในน้ำเดือดสัก 1 ½ นาที แล้วนำขึ้น จากนั้นเก็บไข่ไว้ในอุณหภูมิธรรมดาของห้อง ก็จะสามารถเก็บไข่ให้สดได้นานถึง 3-4 สัปดาห์
48. ต้มไข่ไม่ให้แตก และไม่ให้ไข่ติดเปลือก ทำโดย.... ใส่ไข่พร้อมกับน้ำในหม้อต้ม ใช้ไฟปานกลางอย่าใช้ไฟแรง เมื่อไข่สุกตามที่ต้องการแล้ว(หากต้องการไข่แดงเป็นยางมะตูม สวยน่ากิน ควรใช้เวลาต้มประมาณ 8 นาที) ให้นำไข่ไปแช่ในน้ำเย็นทันที(น้ำธรรมดาก็ได้ แต่น้ำเย็นจะดีกว่า) เวลาปอกไข่ เปลือกไข่จะไม่ติดเนื้อไข่ ...และต้องไม่นำไข่ไปต้มในน้ำเดือดเด็ดขาด เพราะไข่จะเด้งไปมาตามน้ำเดือด ทำให้ไข่แตกได้
.แต่หากว่าไข่ที่จะนำลงต้ม มีเปลือกที่ร้าวแล้ว ให้ใส่เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ลงไปในน้ำที่จะต้มพร้อมไข่ด้วย ความเค็มของเกลือจะช่วยปิดรอยร้าวของไข่ ไม่ให้เนื้อไข่ทะลักออกมา
49. ผ่าไข่ให้สวย ทำโดย.....ใช้เส้นด้ายดึงให้ตึง นำไข่มาผ่านเส้นด้าย ห้ามใช้มีด เพราะมีดจะทำให้ไข่แดงที่ผ่าออกมาไม่สวย หลุดยุ่ย ......แต่หากจำเป็นต้องใช้มีดผ่า เพราะยุ่งยากกับการหาเส้นด้าย ควรจะนำมีดไปจุ่มในน้ำเดือดเสียก่อน แล้วจึงใช้มีดผ่า ...ระวังการผ่าไข่ แล้วไข่จะเบี้ยวไม่สวยละกัน
50. น้ำต้มไข่อย่าทิ้ง เมื่อพักน้ำต้มไข่ไว้ให้เย็นแล้ว นำไปรดน้ำต้นไม้ที่ปลูกในที่ร่ม จะทำให้ต้นไม้มีใบสีเขียวสด เพราะต้นไม้จะได้รับแคลเซียมจากน้ำต้มไข่ ...อุอุ เพราะต้นไม้ในที่ร่ม เป็นต้นไม้หวังใบ แต่มักจะมีใบไม่ค่อยเขียว
51. เจียวไข่ไม่ให้ด้าน แต่ให้ฟูนิ่ม ทำโดย.... เมื่อนำไข่ออกจากตู้เย็นแล้ว ยังไม่ควรนำไปเจียวไข่ทันทีในขณะที่ไข่ยังอยู่ในสภาพเย็น ควรวางไข่ไว้ในอุณหภูมิห้อง ให้หายเย็นเสียก่อน แล้วจึงจะนำไข่ไปตอกและตีให้ฟู จากนั้นบีบน้ำมะนาวลงไปเล็กน้อย ตีไข่ซ้ำอีกครั้ง แล้วจึงจะนำไข่ไปเจียวกับกระทะน้ำมันร้อนจัด ก็จะได้ไข่เจียวที่ฟูนิ่ม ...ปกติไข่ใหม่ เจียวแล้วไข่จะฟู เหตุที่ไข่ไม่ฟู อาจจะเป็นเพราะว่า ซื้อไข่แต่ได้ไข่เก่ามา วิธีแก้ทำโดย... ใส่เกลือป่นลงไปเล็กน้อยในถ้วยไข่ และใส่น้ำมะนาวด้วย แล้วตีไข่ให้ฟู ก่อนจะนำไปเจียว
52. เจียวไข่ให้เป็นแผ่นใหญ่สวย ทำโดย....เมื่อตีไข่ อย่าตีให้ไข่ขึ้นฟูมาก ควรตีแค่พอให้ไข่เข้ากัน แล้วเติมน้ำมันพืชลงไปในถ้วยไข่สักครึ่งช้อน คนให้ส่วนผสมเข้ากันอีกครั้ง แล้วตั้งกระทะแบน ใส่น้ำมันไม่ต้องมาก แต่ใช้ไฟแรง จากนั้นก็ใส่ไข่ลงในกระทะแล้วเอียงกระทะให้ไข่ไหลวนในกระทะ เพื่อให้ไข่เจียวแผ่เป็นแผ่นใหญ่เต็มกระทะ รอให้ไข่ด้านล่างสุกเต็มที่ จึงค่อยกลับอีกด้าน และอาจจะต้องตักน้ำมันเพิ่มในการทอดอีกนิดหน่อย ไข่จึงจะเป็นแผ่น สุกสวยทั้ง 2 ด้าน
53. ใส่หอมแดงลงในไข่เจียว ไม่ควรจะหั่นซอยหอมแดงลงในถ้วยไข่ก่อนจะนำไปทอด แบบนี้เมื่อไข่เจียวสุก หอมแดงจะเป็นสีเขียว นิ่ม ไม่หอม(และอาจจะเหม็นเขียว) ....ควรจะเจียวหอมแดงด้วยไฟอ่อนๆเสียก่อน แล้วจึงนำขึ้นพัก จากนั้นเปิดไฟแรงเพื่อทอดไข่เจียว เมื่อไข่เจียวใกล้จะสุกกรอบได้ที่ จึงตักหอมแดงที่พักไว้โรยลงบนไข่เจียว แล้วจึงตักไข่เจียวขึ้น .....หากชอบรับประทานไข่เจียวบ่อยๆ ควรจะทอดไข่ด้วยน้ำมันพืชที่ไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกทานตะวัน ฯลฯ พยายามรีดน้ำมันออกจากไข่เจียวให้มากที่สุด ...ไข่เจียวจะอร่อย หากเจียวไข่แล้วรับประทาน ขณะที่ไข่เจียวยังร้อนๆ
54. ทอดไข่ดาวโดยไม่ต้องใช้น้ำมัน อาศัยไอเดียแบบไข่ต้ม ทำโดยตักน้ำลงในกระทะสัก 2 ช้อนโต๊ะ แล้วหยดน้ำส้มสายชูลงไปในน้ำ 2-3 หยด จากนั้นก็ตอกไข่ลงไปทอดไข่ดาวตามปกติ น้ำส้มสายชูจะทำให้ไข่จับตัวกันเป็นฟองสวย ไข่จะสุกในกระทะ คล้ายๆกับไข่ดาวต้ม
55. ตุ๋นไข่ให้ไข่นุ่ม ทำโดยปรุงไข่ตุ๋น ด้วยอัตราส่วน ไข่ 1 ถ้วยต่อน้ำซาวข้าวหรือน้ำข้าวต้ม 1 ถ้วย ตีให้เข้ากัน แล้วนำไข่ไปตุ๋น ก็จะได้ไข่ตุ๋นที่รสชาติและสัมผัสนุ่ม
เรื่องควรรู้ของการทอด
56. ทอดไม่ให้น้ำมันกระเด็น
ปัญหาของการกระเด็นของน้ำมัน อยู่ที่สิ่งที่จะนำลงทอดยังไม่สะเด็ดน้ำ หากพักจนสะเด็ดน้ำ น้ำมันก็จะไม่กระเด็น แต่หากไม่อาจทำให้สิ่งที่ทอดสะเด็ดน้ำได้ วิธีลดการกระเด็นของน้ำมัน ทำโดย... ใช้เกลือป่นคลุกหรือทาบนสิ่งที่ต้องการจะทอด หรือใช้แป้งสาลีโรยลงบนกระทะก่อนที่จะใส่น้ำมันลงไปทอด ก็จะช่วยลดการกระเด็นของน้ำมันลงได้บ้าง
57. ทอดปลาให้หนังปลาสวย ทำโดย... เมื่อล้างปลา ขูดเกล็ด ควักใส้ออกแล้ว ให้ซับเนื้อปลาให้แห้ง และใช้น้ำมะนาวทาผิวปลาให้ทั่ว จากนั้นคลุกด้วยเกลือ(การคลุกปลาด้วยเกลือจะทำให้ เมื่อทอดปลา น้ำมันจะไม่กระเด็น) ...วิธีทอดปลา นำปลาลงทอดในขณะที่น้ำมันร้อนเท่านั้น และห้ามรีบพลิกตัวปลา รอจนกว่าปลาเริ่มลอยตัวขึ้นจากน้ำมัน ซึ่งหมายความว่าปลาเริ่มสุกเหลืองและหดตัว จึงค่อยพลิกกลับตัวปลาอีกด้านหนึ่ง แต่ไม่ควรพลิกกลับตัวปลาบ่อยๆ เพราะจะทำให้หนังปลาถลอก เนื้อปลาหลุด ดูไม่สวย .... ทอดปลาที่แล่เอาก้างออกแล้ว ให้ทอดโดยเอาด้านที่เป็นหนังปลาลงกระทะก่อน ใช้ตะหลิวกดชิ้นปลาไว้จนกว่าจะปลาจะหยุดหดตัว ปลาจะได้ดูสวยไม่งอ จากนั้นจึงค่อยกลับเอาทางเนื้อปลาลงทอด จนเหลืองกรอบ
ทอดปลาทู ต้องใช้ไฟค่อนข้างแรง(แต่ไม่ต้องแรงขนาดผัดผักบุ้งไฟแดง) น้ำมันหากมีมากก็จะดีกว่าน้ำมันน้อย ไม่ควรกลับตัวปลาบ่อยๆ เพราะจะทำให้ผิวปลาถลอกดูไม่สวย ควรรอจนกว่าด้านที่ลงทอดเริ่มเหลืองจึงค่อยกลับไปทอดอีกด้าน
58. เจียวหอมแดงหรือเจียวกระเทียม ทำโดย.... ในขณะเจียวให้ใส่เกลือป่นลงไปในกระทะเล็กน้อย จะทำให้หอมแดงหรือกระเทียมที่เจียวแล้ว กรอบ เวลานำไปใช้จะไม่เกาะติดกันเป็นแพ ขณะเจียวต้องใช้ไฟค่อนข้างอ่อน และต้องหมั่นคน และให้ตักขึ้นเมื่อสีของหอมและกระเทียมใกล้จะเหลือง เพราะถ้าเป็นสีเหลืองแล้ว ก็จะได้หอมแดงและกระเทียมเจียวที่มีสีดำไหม้และขม ไม่หอมและเหลืองสวยอย่างที่หวัง
เรื่องควรรู้ของการปรุงน้ำพริก
59. คนเก่าคนแก่สอนมาว่า ตำน้ำพริกกะปิให้อร่อย จะต้องเริ่มตั้งแต่เลือกซื้อกะปิ คือต้องเป็นกะปิที่ทำจากเคย ไม่ผสมปลาเล็กปลาน้อย, เนื้อกะปิต้องละเอียด เหนียวพอควร ไม่แห้งหรือเปียก, เป็นกะปิใหม่ มีกลิ่นหอมตามธรรมชาติของกะปิ ไม่มีกลิ่นคาวปลา ไม่มีกลิ่นฉุนของแอมโมเนีย ไม่มีกลิ่นสาบ, มีสีตามธรรมชาติของกะปิ เช่น สีม่วงเทา สีชมพู สีม่วงแดง, รสชาติกลมกล่อม เค็มพอดี ไม่ขม, สะอาดไม่มีสิ่งแปลกปลอม เช่น มันสำปะหลัง แป้ง ดิน ทราย, บรรจุในภาชนะที่สะอาด แห้ง ทนทานต่อการผุกร่อน และปิดได้สนิท, สำหรับกระเทียมที่ใส่ในกระปิ จะต้องเป็นกระเทียมกลีบเล็ก เพราะจะหอมกว่ากระเทียมกลีบใหญ่, ส่วนพริกขี้หนูต้องเป็นพริกขี้หนูเม็ดเล็ก ....ทั้งนี้โดยก่อนจะนำกะปิลงตำในครก ให้นำใบตองมาห่อกะปิไปปิ้งจนหอม จากนั้นจึงเอาไปตำ ....ถ้าอยากจะให้น้ำพริกดูมีเนื้อและข้น ควรจะใส่กุ้งแห้งลงไปเยอะๆ ....รสชาติของน้ำพริกควรจะเปรี้ยว หวาน เค็มกลมกล่อม และมีเผ็ดตามหลัง ....และหากใส่น้ำส้มคั้นสดผสมลงไปด้วยนิดหน่อย ก็จะได้กลิ่นและรสที่แปลกออกไป ไม่จำเจแต่ก็ดูดี
60. น้ำพริกกะปิถ้าจิ้มกับผักต้ม น้ำพริกจะต้องเหลวหน่อย มีรสเค็ม เปรี้ยว หวาน ให้มาก ...แต่ถ้าจิ้มกับผักดอง ก็ต้องลดเปรี้ยวลง ...และถ้านำไปจิ้มกับผักดิบ หรือผักชุบแป้งทอด หรือจะใช้คลุกข้าว น้ำพริกก็ต้องข้นหน่อย มีรสเปรี้ยว เค็ม หวาน สมดุลเท่ากัน ....ถ้ากลัวคนกินจะเหม็นกะปิของน้ำพริก ท่านสอนว่า ควรบีบมะนาวใส่ลงไปในกะปิก่อนจะนำกะปิลงไปตำในครก
เรื่องควรรู้ของมะนาว
61. เลือกมะนาวมาใช้ปรุงน้ำจิ้ม น้ำพริก ต้มยำ หรือยำ ให้เลือกมะนาวที่สด ผิวเขียว มีเปลือกบาง ผิวตึง เพราะจะมีน้ำมันหอมระเหยที่ผิวและมีน้ำมะนาวมาก หากเลือกมะนาวผิวเหลือง ผลเก่า แม้จะเจอลูกที่มีน้ำมากก็จริง แต่จะไม่ค่อยมีกลิ่นหอมของมะนาวเมื่อนำมาทำอาหาร
62. เก็บมะนาว ถ้าต้องการเก็บผลมะนาว ทำโดย....นำไปหมกทรายหรือหมกถังข้าวสาร ก็จะสามารถเก็บผลมะนาวได้สดและนาน และในทางเอื้อประโยชน์กัน การนำผลมะนาวไปหมกไว้ในถังข้าวสาร ยังจะช่วยป้องกันมอด ไม่ให้เกิดขึ้นในข้าวสารอีกทางหนึ่ง...... สำหรับน้ำมะนาวที่คั้นแล้วและใช้ไม่หมด ให้เก็บไว้ในช่องแช่แข็ง เมื่อถึงเวลาจะใช้ ก็ตักแบ่งออกมาเท่าที่ต้องการ เมื่อนำออกมาวาง ณ อุณหภูมิห้องสักครู่ น้ำมะนาวก็จะใช้งานได้เป็นปกติ ยังไม่เสียรสชาติ
เรื่องควรรู้ของผู้ทำครัว
63. หุงข้าวกล้องให้ข้าวนุ่ม
หุงข้าวกล้องให้ข้าวนุ่ม ทำโดย..... ตวงข้าวกล้องใส่หม้อในอัตราส่วน 1 ต่อ 3 คือ ข้าวกล้อง 1 ส่วน น้ำ 3 ส่วน แล้วแช่พักไว้ 30 นาที จึงค่อยนำมาหุง กับอีกวิธีหนึ่ง คือ ผสมข้าวขาวลงไปในข้าวกล้อง ในอัตราส่วน 1 ต่อ 4 จะทำให้ข้าวกล้องที่หุงนุ่มขึ้น
64. แก้ปัญหาข้าวแฉะ
แก้ปัญหาข้าวแฉะ ทำโดย .....ใส่ขนมปังแผ่น 2-3 แผ่น ลงไปในหม้อหุงข้าวไฟฟ้าที่มีข้าวแฉะ ปิดฝาแล้วกดปุ่มอุ่นข้าว หรือหากเป็นหม้อข้าวธรรมดา ก็ตั้งบนเตาถ่านไฟอ่อนๆหรือแก๊สอ่อนๆ พักไว้อย่างนั้นประมาณ 10 นาที ข้าวในหม้อก็จะสวยขึ้น ข้าวลดอาการแฉะลง เพราะแผ่นขนมปังจะช่วยดูดซับความชื้นออกมาจากข้าว
65. น้ำซาวข้าวอย่าเพิ่งรีบทิ้ง
น้ำซาวข้าวอย่าเพิ่งรีบทิ้งลงท่อน้ำ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ทำโดย ....ใส่น้ำซาวข้าวลงในกะละมัง เพื่อใช้ล้างคราบคาวของจานชาม ก่อนที่จะนำจานชามไปล้างด้วยน้ำยาล้างจาน หรือเพื่อใช้ล้างกุ้ง หอย ปู ปลา เพื่อลดกลิ่นคาวก่อนที่จะนำไปปรุงอาหาร แล้วจากนั้นจึงนำน้ำซาวข้าวในกะละมังไป รดโคนต้นไม้ รดได้ทั้งไม้ผลและไม้ดอก ซึ่งจะเป็นปุ๋ยของต้นไม้ได้อย่างดี
66. ลวกเส้นสปาเกตตี้ให้เส้นนิ่ม
ลวกเส้นสปาเกตตี้ให้เส้นนิ่มพอดี ไม่เละแต่ก็ไม่แข็ง ทำโดย.... ใส่เกลือลงไปเล็กน้อยในน้ำที่จะใช้ลวก พอน้ำเดือด ก็ใส่เส้นสปาเกตตี้ลงไป ลวกจนเส้นอ่อนตัว ลองตักเส้นขึ้นชิม หากสังเกตว่าเส้นกรุบๆอยู่ตรงกลางเล็กน้อย ก็แสดงว่าใช้ได้แล้ว ยกหม้อลง ช้อนเส้นสปาเกตตี้ขึ้น แล้วแช่ลงในน้ำเย็นทันที พอเส้นเย็นแล้วจึงค่อยตักขึ้นมาให้สะเด็ดน้ำ เคล้าด้วยน้ำมันเล็กน้อย เป็นอันเสร็จ พร้อมที่จะนำไปปรุงอาหารได้
67. ทำแป้งขนมเบื้องไทยให้สีสวย
แป้งขนมเบื้องไทยถ้าใส่ผงกาแฟลงไปผสมด้วย เมื่อละเลงแป้งบนกระทะจนสุกกรอบ จะมีสีสวย และมีกลิ่นหอม น่ารับประทาน แต่ถ้าแป้งไม่ได้ผสมผงกาแฟ หรือผสมสีอาหารแทน เมื่อละเลงแป้งบนกระทะจนสุกกรอบ สีจะยังดูจืด ซีด ไม่มีกลิ่นหอม
68. รักษาสีของพริกสดแม้ผ่านการปรุง นำพริกทั้งที่บุบหรือตำ หรือยังเป็นเม็ด ใส่ลงในภาชนะ บีบน้ำมะนาวลงไปเล็กน้อย แล้วคนพริกให้ทั่ว สีของพริกก็จะสวยสดได้นานๆ และอีกวิธีหนึ่งคือ แช่พริกไว้ในน้ำเกลือที่ต้มสุกแล้ว แต่อย่ามากจะกลายเป็นรสเค็ม เพียงเท่านี้สีของพริกก็จะคงสีสันสดใส ไม่หมองคล้ำ เมื่อนำไปประกอบอาหาร
69. ดองผักกาดดองให้อร่อยและได้รับประทานเร็ว วิธีดองผักกาดเขียวให้อร่อยและได้รับประทานเร็ว ทำโดยล้างผักกาดเขียวกับน้ำให้สะอาด ผึ่งลมให้ผักกาดเขียวสลด แล้วจึงนำไปขยำเกลือให้น้ำผักออก จากนั้นเทน้ำผักทิ้ง นำผักไปบรรจุในขวดแก้ว โดยหั่นมะเขือเปราะลูกแก่ๆใส่ลงไปนิดหน่อย แล้วจึงเทน้ำซาวข้าว หรือน้ำข้าว หรือน้ำแป้งลงไปให้ท่วมผักกาดเขียว ถ้าจะให้ผักกรอบ ให้เติมสารส้มลงไปนิดหน่อยด้วย ทิ้งผักกาดเขียวไว้ประมาณ 2-3 วัน ก็จะเป็นผักกาดดองที่พร้อมจะนำไปต้มกับกระดูกหมู หรือผัดกับไข่ ....อุอุ อร่อย
ขนมจีนเส้นสีแดง ทำจากน้ำแตงโม, สีเหลือง จากฟักทอง, สีฟ้า จากดอกอัญชัน, และสีน้ำตาล จากข้าวกล้อง
70. ขนมจีนเหลืออย่าทิ้ง
เส้นขนมจีนทำมาจากแป้งข้าวเจ้า ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับทำแป้งเส้นก๋วยเตี๋ยว หากบังเอิญสั่งเส้นขนมจีนมาที่บ้านเยอะ แล้วรับประทานไม่หมด ของเหลืออย่ารีบทิ้ง สามารถนำขนมจีนมาใช้ประโยชน์ในครั้งต่อไปได้ ทำโดย ....นำขนมจีนที่เหลือ ใส่ในถุงพลาสติกมัดปากถุงให้แน่น ห่อถุงพลาสติกอีกชั้นด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ แล้วนำไปแช่ในตู้เย็น เมื่อจะรับประทาน ก็ให้นำมานึ่ง จะช่วยให้เส้นขนมจีนนิ่มไม่แข็งและไม่บูด ....หรืออย่างที่สอง นำเส้นขนมจีนออกตากแดดให้แห้ง เมื่อแห้งแล้วนำมาทอดกรอบ เพื่อเอาไว้รับประทานแทนเส้นหมี่กรอบของก๋วยเตี๋ยวราดหน้า หรือแทนเส้นข้าวซอย หรือใช้โรยหน้าข้าวต้มโจ๊กตอนเช้า หรือจะนำไปแปรรูปเป็นอาหารคาวหวานอื่นๆตามชอบ
71. เศษขนมปังเหลืออย่าทิ้ง
นำขนมปังที่เหลือ ไปตากแดด แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำเข้าเตาอบ อุณหภูมิ 375 องศาเซลเซียส อบประมาณ 15 นาที ก็จะได้ขนมปังกรอบไว้ปรุงอาหาร หรือไว้ผสมเนย เกลือ น้ำตาล แล้วนำเข้าอบอีกครั้ง เพื่อไว้ทานเล่นกับน้ำชา ซึ่งอร่อยไม่แพ้คุกกี้
72. เก็บมะพร้าวขูด
มะพร้าวขูด ที่ใช้ผสมในขนมถั่วแปบ โรยบนขนมถังแตก ขนมกล้วย ขนมเผือก หรือขนมมัน มักจะพบว่าบางแม่ค้า ขายขนมนั้นทั้งวันแต่มะพร้าวไม่ค่อยเสีย ทั้งๆที่อากาศร้อน เพราะเคล็ดลับที่แม่ค้าใช้คือ เมื่อขูดมะพร้าวแล้ว นำมะพร้าวนั้นไปนึ่งในน้ำเดือดสักครู่ แล้วจึงนำมาผสมกับขนมหรือโรยบนขนม มะพร้าวจะไม่มีกลิ่นหืนและไม่ค่อยเสีย เก็บไว้นานๆได้หลายชั่วโมง
73. เก็บกุ้งแห้ง
กุ้งแห้ง ที่ซื้อมาจากต่างจังหวัด แถวเมืองชายทะเล มักจะซื้อมาครั้งละมากๆ จำเป็นที่จะต้องเก็บไว้นานๆ ก่อนจะเก็บ ให้นำกุ้งแห้งที่ซื้อมาแต่ยังดูชื้นๆ ไปตากแดดให้แห้งจริงๆเสมอ ขณะตากควรระวังแมลงวัน นก และสัตว์เลี้ยง เมื่อกุ้งแห้งแห้งจริงๆจึงนำใส่ขวดแก้วหรือขวดพลาสติกเก็บไว้ในตู้เย็น และวางไว้นอกตู้เย็นเพียงขวดแก้วเล็กๆก็พอ ...กุ้งแห้งปริมาณเยอะๆก็จะไม่เหม็นและไม่มีราขึ้น
74. เก็บมะขามเปียก
การเก็บมะขามเปียกให้อยู่ได้นานโดยไม่ดำ ทำโดย นำมะขามเปียกใส่ภาชนะที่เป็นแก้วที่มีฝาปิด(ใช้พวกขวดกาแฟก็ได้) ใส่จนเกือบเต็มภาชนะ นำเกลือเม็ดใหญ่โรยทับมะขามเปียกก่อนปิดฝา แล้วปิดฝาขวดให้แน่น มะขามเปียกที่ไม่ถูกอากาศเข้า ก็จะเก็บไว้ใช้ได้นานหลายขวด และไม่ดำ ....หมายเหตุ :ห้ามใช้ภาชนะที่เป็นอลูมิเนียม เพราะความเปรี้ยวของมะขามเปียกจะกัดอลูมิเนียมเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
75. แก้ไขน้ำมันใช้แล้ว
น้ำมันที่ใช้ทอดโน่นทอดนี่ หากมีกากหรือเศษสิ่งของที่ทอดติดอยู่ในน้ำมัน หากต้องการแก้ไข ทำโดย นำกระดาษทิชชูรองไว้บนกระชอน แล้วเทน้ำมันขณะที่ยังร้อนๆ ลงบนกระชอนผ่านกระดาษทิชชู น้ำมันก็จะถูกกรองเศษสิ่งของออกจากน้ำมันได้ ....และหากมีกลิ่นของสิ่งที่ทอดแล้ว ติดอยู่ วิธีแก้ไขกลิ่นวิธีหนึ่ง ทำโดย ใช้ใบเตยตัดเป็นท่อนยาวๆ ใส่ลงไปในกะทะร่วมทอดกับน้ำมันนั้น ก็จะช่วยลดกลิ่นได้ หรือวิธีที่สอง ทำโดย ทุบหัวหอมแดงลงไปคลุกเคล้ากับน้ำมัน หัวหอมแดงก็จะช่วยดูดกลิ่นในน้ำมันออกได้
76. แก้ไขปัญหามือแสบร้อน
แก้ไขปัญหามือแสบร้อนเพราะพริกขี้หนู
.. ทำโดย นำเกลือป่นถูไปถูมาบนมือแล้วค่อยล้างออก หรือใช้แป้งเด็ก หรือแป้งที่ใช้ทำอาหาร ถูไปมาบนมือก็ได้ มือก็จะหายแสบร้อนจากการทำครัวแล้วเจอพริกขี้หนู
77. กำจัดกลิ่นสะตอติดปาก
รับประทานสะตอครั้งใด จะมีมีกลิ่นสะตอติดปากด้วยทุกครั้ง การลดกลิ่นสะตอในปาก ทำโดย.....รับประทานมะเขือเปราะตบท้าย และหากสะดวกแปรงฟันด้วย ก็จะกำจัดกลิ่นสะตอออกไปได้หมด
78. เก็บกาแฟผง
กาแฟผงแม้จะเก็บไว้ในขวดแก้ว แต่หากไม่ได้ใช้นานๆ กาแฟมักจะแข็งตัว จับกันเป็นก้อน แถมมีรสเหม็นเปรี้ยว วิธีป้องกัน ทำโดยใส่น้ำตาลปอนด์ลงไปในขวดกาแฟสัก 1-2 ก้อน แล้วปิดฝาให้สนิททุกครั้งที่เปิดใช้ จะทำให้กาแฟไม่ชื้น ไม่แข็งตัวจับกันเป็นก้อนอีกต่อไป
79. เก็บนมข้นหวาน
เมื่อซื้อนมข้นหวานแบบกระป่องมา แต่ไม่สามารถใช้นมข้นหวานได้หมดภายในวันเดียว ส่วนใหญ่จะมักเก็บรักษาโดยนำไปแช่ตู้เย็น ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถทำได้สะดวก แต่หากไม่มีตู้เย็น ก็ยังมีอีกวิธีหนึ่ง ทำโดย หาโถพลาสติกชนิดปากกว้างที่พอจะนำกระป๋องนมข้นหวานขึ้นและลงจากโถได้ง่ายๆ และมีฝาเกลียวหมุนปิดสนิท แล้วเทน้ำตาลทรายลงไปที่ก้นของโถ สูงขึ้นมาจากก้นโถประมาณ 1 ซ.ม. จากนั้นนำนมข้นหวานที่ยังมีนมเหลือเก็บใส่ลงในโถพลาสติก วางบนน้ำตาลทราย แล้วหมุนฝาเกลียวปิดสนิทไม่ให้อากาศเข้า แบบนี้ก็จะสามารถเก็บนมข้นหวานได้นาน ไม่ขึ้นรา ...และเมื่อนมข้นหวานในกระป๋องหมด จะเปลี่ยนกระป่องใหม่ลงไปเก็บ ตอนนี้ให้นำน้ำตาลทรายเก่าออกมาใช้งาน แล้วนำน้ำตาลชุดใหม่ใส่ลงไปในโถแทน เพื่อเก็บนมข้นหวานกระป่องใหม่ต่อไป
80. เก็บถุงมือใช้งานครัว
บางคนจะแพ้น้ำยาล้างจาน แพ้พริก แพ้กระทียม ฯลฯ รวมทั้งกลัวกลิ่นติดมือ หรือไม่อยากจะให้เล็บสวยๆหลุดลอกเสียหาย ก็จึงถนัดที่จะใช้ถุงมือใช้งานในครัว แต่เมื่อจะใช้ถุงมือเดิมในครั้งต่อไป มักจะปัญหาที่ ถุงมือติดกัน สวมเข้าไปในมือยาก วิธีแก้ไขทำโดย ทุกครั้งที่ใช้ถุงมือเสร็จ ให้ทำความสะอาดถุงมือแล้วนำไปตากโดยใช้ไม้หนีบส่วนที่เป็นนิ้วไว้กับราวตาก เมื่อถุงมือแห้ง ก็โรยแป้งฝุ่นลงในถุงมือก่อนจะนำเข้าจัดเก็บในลิ้นชัก เมื่อจะนำถุงมือเดิมมาใช้งานอีก ถุงมือจะสวมได้ง่ายไม่เหนียวหนืดสร้างความรำคาญต่อไป.
Create Date : 24 กรกฎาคม 2550 |
Last Update : 24 กรกฎาคม 2550 1:57:57 น. |
|
47 comments
|
Counter : 6254 Pageviews. |
|
|
|
โห ขอบพระคุณความรู้ดี ๆ เหล่านี้มาก ๆ ครับผม กราบงาม ๆ เลยครับ เจ๋งจริง ๆ ครับ ถูกใจว่าที่แม่บ้านผมมากมายครับ