....OUR FAMILY'S JOURNEY....
ฟ้าสวยๆที่ห้วยน้ำดัง











ฟ้าสวยๆ
ที่ห้วยน้ำดัง

(เที่ยววงกลม เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ปาย.. ตอนจบ)





อ่านตอนที่ 1 ออบหลวง ถ้ำแก้วโมล (ที่นี่)
อ่านตอนที่ 2 ปางอุ๋ง (ที่นี่)
อ่านตอนที่ 3 ปาย (ที่นี่)
อ่านตอนที่ 4 ภูโคลน กะเหรี่ยงคอยาว วัดพระธาตุดอยกองมู (ที่นี่)
อ่านตอนที่ 5 ข้างถนนลอยฟ้า แม่ฮ่องสอนถึงปาย (ที่นี่)





13 ธันวาคม 2009 ... หลังจากที่เราจอดถ่ายภาพที่สะพานประวัติศาสตร์ในเช้ามืด เพราะลืมภาพคุณบุรุษไปรษณีย์ จากนั้นเราก็ไต่เขาขึ้นสู่ถนนลอยฟ้าอีกครั้ง โดยทิ้งให้ปายอยู่ในหุบเขาที่กำลังห่มคลุมด้วยไอหมอกยามเช้าอยู่เบื้องล่าง..

วานนี้เราคุยกับคนขับรถตู้ในพื้นที่ เขาบอกว่าจาก ปายไปห้วยน้ำดังน่าจะใช้เวลา 45 นาที แต่เราให้ 1 ชั่วโมงเพราะไม่ชินทาง ถนนช่วงนี้ยังอยู่ในระดับยอดเขาที่มีต้นสนมากมายตามไหล่ทาง..








อาทิตย์ทอแสงข้างทาง 1095 ...ก่อนเข้าที่ทำการห้วยน้ำดัง










สีฟ้าเริ่มจับบนท้องฟ้า









ซูมเข้าไปอีกนิด








พอเข้าเขต อช.ห้วยน้ำดัง เรามองเห็นพระอาทิตย์ลูกโตกำลังโผล่ยอดเขาขึ้นมา แต่ยังหาที่จอดไม่ได้ จนถึงจุดชมวิวนั่นแหละจึงมีที่จอดด้านขวามือ รีบกุลีกุจอลงไปถ่าย แต่พระอาทิตย์ลูกโตก็กลายเป็นสีส้มเสียแล้ว และกำลังจะเข้าไปซ่อนตัวในม่านเมฆ.... เอาเถอะได้แบบไหนก็เอาเพราะเราตื่นกันช้าเองนี่นา....









เดินไปจุดชมวิว กิ่วลม







เมื่อถ่ายภาพจนพอใจแล้ว เราก็เดินทางต่อเพื่อเข้า อช.ห้วยน้ำดัง ซึ่งต้องจ่ายค่าเข้าชมคนละ 40 บาท รถอีก 30 บาท หลังจากนั้นก็เข้าไปตามทางแคบๆแบบพอสวนกันได้ แต่ต้องระมัดระวังมาก โดยเฉพาะหน้าเทศกาลแบบนี้ ระหว่างทางก็มีจุดชมวิวทางซ้ายมือ แต่เราผ่านไปก่อน แล้วค่อยมาเก็บเอาทีหลัง

พอจะเข้ากิ่วลม เจ้าหน้าที่บอกเราว่ารถจอดเต็มหมดแล้ว ให้จอดไว้ด้านนอกแล้วเดินเข้าไป ซึ่งระยะทางก็ประมาณ 200 เมตรเอง นัดแนะกับคนขับว่าที่จอดรถว่างเมื่อไหร่ก็เข้าไปรับเราด้วย..









ผ่านยอดสน






ข้อมูลทั่วไป

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอแม่แตง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีสภาพป่าและธรรมชาติที่สมบูรณ์ ภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน เป็นป่าต้นน้ำลำธาร มีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามและจุดชมวิวที่สามารถชมบรรยากาศอันร่มรื่น โดยเฉพาะบริเวณห้วยน้ำดัง ที่มีชื่อว่าทะเลหมอกที่งดงามยิ่ง มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังมียอดดอยที่มีธรรมชาติงดงามอีกหลายแห่ง เช่น ดอยช้าง ดอยสามหมื่น รวมทั้งมีโป่งเดือดซึ่งเป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติ ส่วนการล่องแพในลำน้ำแม่แตงก็เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 782,575 ไร่ หรือ 1,252.12 ตารางกิโลเมตร









ลานจอดรถและที่ชมวิว







อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ได้ประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเชียงดาว และป่าแม่แตงในท้องที่ ตำบลเปียงหลวง ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง ตำบลกืดช้าง ตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และป่าแม่ปายฝั่งซ้ายตอนบนในท้องที่ตำบลเวียงเหนือ ตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 112 ตอนที่ 33ก ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2538 มีเนื้อที่ประมาณ 782,575 ไร่ หรือ 1,252.12 ตารางกิโลเมตร นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 80 ของประเทศ









มุมกว้างจากหน้าลานจอดรถ








ลักษณะภูมิประเทศ

สภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาและหุบเขาสลับกัน เป็นแนวยาวขนานกันในแนวเหนือ-ใต้ของเทือกเขาแดนลาว เทือกเขาถนนธงชัย และเทือกเขาผีปันน้ำ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีที่มีการแทรกดันของหินหนืด และแรงบีบอัดในแนวตะวันออก-ตะวันตก ทำให้พื้นผิวโก่งงอกลายเป็นภูเขาและเทือกเขา และมีหุบเขาที่เกิดจากรอยเลื่อนที่ทรุดต่ำลง รวมทั้งได้มีการสึกกร่อนที่เกิดจากกระบวนการทางฟิสิกส์และทางเคมี ตลอดจนการทับถมของตะกอนน้ำพาทำให้เกิดเป็นที่ราบแคบๆ ระหว่างภูเขาทั้งสองฝั่งของลำน้ำ มีความสูงตั้งแต่ 400-1,962 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีภูเขาที่สูงที่สุดคือ ดอยช้าง เป็นป่าต้นน้ำลำธารของลำน้ำสายสำคัญ คือ แม่น้ำแตงและแม่น้ำปาย จัดอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำตั้งแต่ชั้น A ถึงชั้น 1A มีลำห้วยน้อยใหญ่มากมาย ได้แก่ ห้วยเหี้ยะ ห้วยแม่ยะ ห้วยฮ่อม ห้วยน้ำดัง ห้วยแม่สลาหลวง ห้วยโป่ง น้ำงุม ห้วยแม่แพลม ห้วยงู ห้วยแม่เย็นหลวง ห้วยน้อย ห้วยฮ่อม ห้วยหก ห้วยแม่ฮี้ ห้วยขาน ห้วยแม่ปิง ห้วยแม่จอกหลวง เป็นต้น










เอาต้นสนและท้องฟ้าเป็นแบค








ลักษณะภูมิอากาศ

สภาพอากาศโดยทั่วไปเย็นสบายตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 20 องศาเซลเซียส อากาศหนาวเย็นในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยประมาณ 8 องศาเซลเซียส ช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยประมาณ 23 องศาเซลเซียส อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังคาบเกี่ยวพื้นที่ 2 จังหวัด คือ จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดแม่ฮ่องสอน พื้นที่ป่าอยู่ในเขตมรสุม กล่าวคือ พื้นที่นี้ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และลมมรสุมสะวันตกเฉียงเหนือนอกจากนั้นยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของลมพายุไซโคลน ด้วยจึงทำให้สภาพอากาศโดยทั่วไปมี 3 ฤดูดังนี้

ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 24 องศาเซลเซียสและ ต่ำสุดประมาณ 10 องศาเซลเซียส ปริมาณฝนเฉลี่ยตลอดปี 1,134 มิลลิเมตร ทิศทางลมมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้

ฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 20 องศาเซลเซียส ต่ำสุดเฉลี่ยประมาณ 2 องศาเซลเซียส ทิศทางลมมาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 28 องศาเซลเซียส ต่ำสุดเฉลี่ยประมาณ 12 องศาเซลเซียส ทิศทางลมมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้



ที่มา : กรมอุทยานแห่งชาติ










ไกลออกไปคือ ทะเลหมอก







ช่วงที่เราไปถึงจุดชมวิวกิ่วลม อากาศดีมากๆ ประมาณสิบกว่าองศา ท้องฟ้าใส สีคราม แดดอุ่นๆ กำลังส่องเข้ามาทางทิศตะวันออก ลอดปลายสนเข้ามา การเลือกมุมถ่ายภาพจึงยากขึ้นหุบเขาก้ออยู่ทางนั้นพอดี เราต้องการถ่ายออกไปให้เห็นทะเลหมอกในหุบเขาด้านหน้าด้วย ซึ่งสวนทางกับแสงพอดี (อันนี้ว่าตามมือสมัครเล่นแบบเรานะ) ...... แต่ถึงอย่างไรการได้เจอทิวทัศน์แบบนั้น ทำให้เรารักที่นี่มากขึ้นอีกโข..









แดดมาแล้ว











ตรงนี้ก็ดีนะ










ท้องฟ้า ต้นสน และแสงอุ่นๆ









สลับกับแปลงดอกไม้







ปกติเรามาที่นี่จะเจอแปลงดอกไม้เมืองหนาวที่สวยงามทุกครั้ง ครั้งนี้อาจจะน้อยหน่อย แต่ก็สวยดีครับ เขาปลูกตามขั้นบันไดที่ทำไว้ (สำหรับกันไม่ให้ดินพังทลายลงมาได้ง่ายๆ) ทำให้พื้นที่ว่างๆตรงนั้นเก๋ไปอีกแบบ

เลยทางที่ทำการออกไปทางตะวันตกจะมีต้นนางพญาเสือโคร่ง แต่วันไปยังไม่เห็นออกดอกซักดอก... คงปลายเดือนธันวา หรือไม่ก็กลางๆมกราโน่นแหละ








ขอตรงนี้บ้าง










เนินด้านล่างก็มีที่สวยๆสำหรับถ่ายภาพ










ตรงนี้บ้าง










แม้แต่ป้ายยังสวยเลย











ขอมุมนี้อีก











ท้องฟ้า... ฟ้า.. และ ฟ้า











ด้านบนนั้นคือพระตำหนัก











อีกภาพ ก่อนจาก






เราออกจากห้วยน้ำดังด้วยความอาลัย เพราะยังดื่มด่ำกับความสวยงามของที่นั่นไม่พอ แต่เพราะกลัวว่าจะประมาณเวลาการเดินทางในโปรแกรมต่อไปไม่ทัน จึงจำใจต้องลาที่นั่นเพื่อเดินทางต่อไปที่โป่งเดือดป่าแป๋ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ อช.ห้วยน้ำดังนี้เช่นกัน แต่ค่อนไปทางเชียงใหม่











ระว่างทางไปโป่งเดือดเราเจอทะเลหมอกอีก เห็นน้องกลุ่มหนึ่ง กับฝรั่ง 3-4 คนกำลังจอดรถถ่ายภาพกันอยู่ เราก็เอาด้วย เสียดายตรงที่มองเห็นชัดๆจอดรถไม่ได้เพราะป็นทางโค้งหักข้อศอกพอดี

ไม่นานนักเราก็ถึงทางแยกเข้าโป่งเดือด ต้องขับเข้าไปตามทางแคบๆอีก แต่เส้นทางที่เข้าไปก็สะดวกดี แม้จะมีที่ขลุขละอยู่บ้าง รถทุกชนิดสามารถเข้าถึงได้ไม่ยาก..

ถึงลานจอดรถก็ต้องเดินต่อไปอีก เขาทำสะพานไม้ไว้ให้เดินด้วย พื้นที่ก็ดูสงบ เงียบ เวลาเข้าชมเขาจะให้เข้าทางหนึ่งและวนออกอีกทางเป็นวงกลมครับ








ทางเดินไปชมโป่งเดือดจากที่จอดรถ






โป่งเดือดป่าแป๋

โป่งเดือดป่าแป๋ อยู่ในท้องที่ ตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่แตง ห่างจากเชียงใหม่ประมาณ 40 กิโลเมตร ใช้เส้นทางสายแม่มาลัย-ปาย ประมาณ 35 กม. ช่วงหลัก กม. 42 เลี้ยวขวาเข้าไปอีก 6.5 กม. ก็จะพบกับน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ เป็นน้ำร้อนที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นดินในอดีตน้ำพุแห่งนี้สูงถึง 5 เมตร ปัจจุบันสูงเพียง 1-2 เมตร โดยรอบๆ บริเวณซึ่งเป็นป่าทึบจะอบอวลไปด้วยกลิ่นกำมะถัน

น้ำพุเกิดจากปริมาณน้ำใต้ดินที่ส่วนใหญ่ได้จากน้ำฝนที่ซับสู่ใต้ดิน หากดินมีความพรุนมาก ความพรุนของดินนี้เกิดจากต้นไม้ น้ำพุร้อนที่นี่คาดว่ามีการเกิดแบบน้ำพุร้อนไกเซอร์ (Geyser type) ลักษณะของน้ำพุ่งขึ้นจากระดับผิวดินเป็นครั้งคราวตลอดเวลา และคุณสมบัติของน้ำพุร้อนอย่างหนึ่งคือ ช่วยรักษาโรคปวดตามข้อ









ไอน้ำที่กำลังพุ่งขึ้นมา







การเกิดน้ำพุร้อนป่าแป๋

น้ำพุร้อนแห่งนี้ เกิดขึ้นมาได้ ก็เนื่องจากใต้ดินบริเวณนี้ยังคงมีน้ำใต้ดินเพียงพอ น้ำใต้ดินที่มีอยู่ส่วนใหญ่ได้มาจากน้ำฝน น้ำฝนจะดูดซึมลงสู่ดินได้ หากดินบริเวณนั้นมีความพรุนมาก ความพรุนของดินจะมีมากหากบริเวณนั้นมีต้นไม้ และพื้นดินไม่ถูกเหยียบย่ำ

ดังนั้นถ้าปริมาณต้นไม้ลดลงพื้นดินบริเวณน้ำพุถูกเหยียบย่ำมากขึ้น ความพรุนของดินย่อมจะลดลง แน่นอนว่าปริมาณน้ำใต้ดินจะลดลงตามไปด้วย รอยแตกของผิวดินที่นำน้ำลงไปสู่แหล่งพลังงานความร้อนอาจเกิดการอุดตัน และถูกปิดไปในที่สุด เมื่อถึงวันนั้น น้ำพุร้อนที่ปรากฎในวันนี้ อาจเป็นเพียงตำนานให้กล่าวถึงเท่านั้น









สูงที่สุดที่มีในเมืองไทย







น้ำพุร้อนเกิดจากน้ำบาดาลหรือน้ำใต้ดินที่ไหลซึมลงสู่ผิวดินตามรอยแตกหรือช่องทางอื่นๆตามธรรมชาติ และไปรวมตัวกักขังอยู่ในส่วนที่ลึกลงไป หินอัคนีที่ยังร้อนอยู่หรือไอร้อนของหินเหล่านั้นจะทำให้น้ำที่กักขังอยู่ในส่วนล่างที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นและมีความดันไอเพิ่มขึ้น จึงทำให้น้ำในส่วนล่างนี้มีจุดเดือดสูงกว่าปกติที่ประมาณ 176-203 องศาเซลเซียล

จากนั้นน้ำจะกลายเป็นไอน้ำก่อให้เกิดการขยายตัวแล้วดันเอาน้ำส่วนบนและไอน้ำให้พุ่งขึ้นสู่ผิวดิน เมื่อกระทบกับความเย็นด้านบนอุณหภูมิของน้ำที่ผิวดินจึงลดลงเหลือประมาณ 90-99 องศาเซลเซียล หลังจากน้ำและไอน้ำพุ่งขึ้นมาแล้ว รอยแตกใต้ผิวดินนั้นจะมีน้ำไหลซึมเข้าไปอีกแล้วกระบวนการเกิดน้ำพุร้อนก็จะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง


ที่มา : จากแผ่นป้ายที่โป่งเดือด








ทางเดินออกมาที่ราวสะพานเต็มไปด้วยม้อส











แล้วเจอก้อนปริศนา ???






ตอนแรกเราเห็นก้อนด้านบน นึกว่าเป็นเห็ด ก็พากันดูตั้งนาน เดินไปอีกก็เจออีก ท้ายที่สุดก็มีการเฉลย ว่านี้เป็นพืชชนิดหนึ่ง..... ทำให้ระยะทางที่เราเดินออกมา (คนละทางกับตอนเข้าไป) สั้นลงอีกเพราะมัวคิดว่านี่คืออะไร








เมื่อแตกออกมาจะเป็นแบบนี้...พืชชนิดหนึ่ง







ทางออกเราผ่านรีสอร์ทที่พัก และที่ผูคนเขาเข้าไปอาบน้ำแร่กัน แต่เราไม่ได้ใช้บริการ










เขาเขียนว่าบริเวณพระตำหนัก







ที่พักของอุทยานโป่งเดือด หลังล่ะ 3,000 บาท พักได้ 4 ท่าน ห้องนอนใหญ่มีแอร์ น้ำอุ่น หรือจะพักลานกางเต้นท์ก็ได้ รองรับได้ 300 เต้นท์ 30 บาทต่อคนต่อคืน ค่าเช่าเต้นท์ต่างหาก มีห้องบริการอาบน้ำแร่(แต่ไม่แช่น้ำนม) อ่างใหญ่ จุคนได้5-8 และ 15-20 คน ผู้ใหญ่ 50 เด็ก 20 บาท
(กรุณาตรวจสอบอีกครั้ง)







ธรรมชาติแสนสวย ตรงทางออกไปลานจอดรถ






ออกจากโป่งเดือดป่าแป๋ เราเดินทางเข้าสู่เชียงใหม่ตามเส้นทาง 1095 ไปสู่แยกแม่มาลัย แล้วเลี้ยวขวาเข้าเชียงใหม่ เพื่อไปทานมื้อเที่ยงกัน จากนั้นก็ไปซื้อของฝาก (ทั้งฝากตัวเอง และเพื่อนๆ) ที่ร้านวนัสนันท์

ครั้งแรกเราตั้งใจว่าจะขึ้นดอยไปไหว้พระที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ แต่ทีมลงความเห็นกันว่า รถคงแน่นมากๆ เลยตัดสินใจเดินทางต่อ เอาแบบค่ำไหนนอนนั่น แต่ไม่ลืมที่จะใส่โปรแกรมไหว้พระที่วัดลำปางหลวงที่เกาะคาไว้ด้วย...









ไปซื้อของฝากที่ร้านวนัสนันท์











ในรถโบราณคันนี้ เป็นร้านกาแฟ











ลากันด้วยภาพตะวันทอแสงที่ห้วยน้ำดังครับ





ขอบคุณที่ตามอ่านครับ




___________ END __________







Create Date : 26 มกราคม 2553
Last Update : 28 กรกฎาคม 2556 21:25:17 น. 30 comments
Counter : 4261 Pageviews.

 



ฟ้า กับ เส้นทางทะเลหมอก
งดงามสุดสุดเลยค่ะ


โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:8:04:08 น.  

 
ฟ้าที่ห้วยน้ำดัง สวยแจ่มจริงๆ


โดย: U can call me anytime วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:8:13:53 น.  

 

Comment Hi5 Glitter



แวะมาทักทายกันในวันอังคารแสนสุขใจจ้า
ห้วยน้ำดังยังคงน่าพิศมัยเหมือนเดิมนะคุณ Wic



โดย: หอมกร วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:8:20:21 น.  

 

อ้อ ยังคงเบื่อทหารไทย(ทหารการเมือง)เหมือนเดิม
ทำแต่สิ่งที่ไม่ใช่หน้าที่หละเก่งนัก



โดย: หอมกร วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:8:35:51 น.  

 
ฟ้าสวยจริงๆด้วย สวยทุกรูป... ฟ้าสวยๆดอกไม้สีสดๆหญ้าก็เขียวดีจัง มันช่างตัดกันดีจริงๆ..

ชอบรูปรถโบราณจังค่ะ สีสันซะใจวัยรุ่นจริงๆ 555+


โดย: อาราเล่ กะ กั๊ตจัง วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:9:14:48 น.  

 
รูปสวยจังคับ ชอบ ชอบ

ฝีมือดีนะเนี่ยคุณ


โดย: Link Corner วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:9:24:27 น.  

 


สวัสดีเช้าวันอังคารค่ะ คุณ wicsir

โชคดีจังที่ไปเที่ยวช่วงที่อากาศดี ฟ้าสวย แดดแจ่ม
ถ่ายภาพออกมาเลยดูสดใสมากๆเลยค่ะ

เห็นน้ำพุร้อนที่โป่งเดือดแล้วทำให้นึกอยากไปแช่บ้างค่ะ
เพราะเดี๊ยวนี้มีอาการปวดตามข้อ
ทั้งๆที่ไปตรวจแล้วก้อไม่พบว่าเป็นโรคอะไร

ช่วงนี้ที่กรุงเทพอากาศเริ่มร้อนขึ้นแล้วล่ะค่ะ
มีความสุขมากๆนะคะ


โดย: nLatte วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:9:31:21 น.  

 
ภาพสวย เห็นแล้วอยากไปเที่ยว....


โดย: lovely_ung วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:10:15:29 น.  

 
ฟ้าสวยๆได้ใจจริงๆค่ะ


โดย: ณ มน วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:10:44:53 น.  

 
สวัสดีค่ะ...

หนึ่งเคยไปหลงกับเพื่อนๆ ที่ห้วยน้ำดังด้วยค่ะ
ตอนนั้นเดินกันเพลินเค้านัดกินข้าวกันในห้องอาหาร
แต่หากันไม่เจอ เดินลงมาถึงข้างล่าง
แล้วก็ต้องย้อนกลับขึ้นไปใหม่
โทรศัพท์ก็ติดต่อกันไม่ได้ เพราะไม่มีสัญญาณอีกต่างหาก
เล่นเอาใจตุ๊มๆ ต๋อมๆ เลยค่ะ

ครั้งนี้ได้ไปแช่เท้าที่น้ำพุร้อนมาหน่อยนึงค่ะ
แต่แช่ได้แค่แป๊บเดียวเอง เท้าแดงแจ๋เลย....


โดย: chenyuye วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:10:56:14 น.  

 
ภาพสีสวยมากค่ะ ลุ้นอยู่สักพักว่าไอ้ก้อนกลม ๆ มันคืออะไร


โดย: behappybecool วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:10:56:26 น.  

 
เสียดายไปไม่ทันดูพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกห้วยน้ำดังนะครับ เพราะสวยมากๆ ผมเคยไปดูมาแล้วสองครั้ง สวยทั้งสองครั้งเลยครับ

โป่งเดือดป่าแป๋ ดูจากรูปนี้เหมือนน้ำพุ่งไม่ค่อยสูงนะครับ หรือยังไม่ได้จังหวะของมันก็ไม่รู้ ตอนผมไปนี่มีบางจุดน้ำพุ่งสูงเกือบเมตรเลยครับ น่าประทับใจดีเหมือนกันครับ


โดย: NET-MANIA วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:14:26:42 น.  

 


นึกถึงห้วยน้ำดังทีไร
นึกถึงทะเลหมอก กับลานที่ชวนให้กางเต็นท์มากเลยค่ะ


โดย: JinnyTent วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:14:58:01 น.  

 
คุ้มค่ากับการรอคอยเลยครับ ฟ้าสวยมาก

ขอบคุณสำหรับข้อมูลต่างๆ นำความรู้มาสู่

ไปไหนมา ก็อย่าลืมเอารูปมาฝากกันนะครับ


โดย: ขึ้นเป้ วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:15:02:16 น.  

 
พระตำหนักที่ห้วยน้ำดัง ชื่อ พระตำหนักเอื้องเงิน ตามชื่อดอกเอื้องเงิน เป็นทรงสวิส สวยงามมากค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:15:19:04 น.  

 
ภาพสวยมากเลยค่ะ .... เห็นแล้ว อยากไปเที่ยวมั่งจัง


โดย: หนูชล วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:17:34:48 น.  

 
แวะมาหลอก..เอ๊ย..มาทักทายยามดึกค่ะ

ฟ้าสวยๆทั้งนั้นเลยนะคะเนี่ย..
ข้อมูลการท่องเที่ยวปึ๊กจริงๆบ้านนี้ เยี่ยมไปเลย
ที่สำคัญมีนางแบบเยอะเลย..คริคริ.. น่าจะถ่ายภาพคู่
มาด้วยนะคะเนี่ย..


เด๋วคืนนี้หงส์จะจิกหมาป่าให้ตายไปเลยยย.. ฮ่าๆๆๆ





หลับฝันดีนะคะ


โดย: Nongpurch วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:21:47:57 น.  

 
สวยจริงๆ ครับ ฟ้าแหล่มมาก ๆ

อยากไปเหนืออีกครั้ง แต่ไม่รู้เป็นไงผมไปเหนือคราใด เจอฝนตกตลอดเลย สงสัยไม่ถูกกับทางภาคเหนือซะแระ อิอิ



โดย: นายหัวเด่น วันที่: 27 มกราคม 2553 เวลา:9:20:51 น.  

 
ไม่ได้แวะเข้ามาซะนานเลยค่ะ..เวลาไม่เอื้ออำนวยเอาซะเลย

...
แอบอ่านข้อความด้านขวามือ ที่บอกว่า
ชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ ...
ซึ่งเป็นข้อความที่ขัดแย้งกับภาพถ่ายของคุณ wicsir มากๆ เลยค่ะ
...

เพราะว่าเข้ามาที่บล็อกนี้ทีไร...
โอโห ...ทำไมถ่ายภาพได้สวยอย่างนี้เนี่ย...
คริคริ ชมแล้วอิ่มตาอิ่มใจจังค่ะ

ขอให้คุณ wicsir อยู่คู่ bloggang ตลอดไปนะคะ อิอิ


โดย: น้ำค้างเดือนหก วันที่: 27 มกราคม 2553 เวลา:10:29:14 น.  

 
ชอบรูปที่2มากเรยคร่า งามแท้แลตะลึง...สีทองตัดกับสีฟ้าได้งามจริงๆ

ดูรูปไล่ลงมาเรื่อยๆ เหมือนไม่ใช่ที่เมืองไทยเรยค่ะ ดูสวยอินเตอร์ๆ 5555+


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 27 มกราคม 2553 เวลา:23:08:37 น.  

 
เจ้าก้อนปริศนาทำให้ต้องติดตามดู
พอแปลงกายแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นต้นเดียวกัน
เหมือนกับพลุเลยค่ะ

รักษาสุขภาพนะค่ะ
อากาศร้อนแล้วจริง ๆ



โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:7:14:58 น.  

 
หวัดดี ยามบ่าย จ้า เพลงเพราะเข้าบรรยากาศจัง เหนือสุดเนี่ยไม่มีโอกาศไปกะเขาเลย อาศัยดูของคนอื่น อ่านของคุณ ก็เหมือนได้ไป จริงๆ นะ...เข้ามาติดตามค่ า.. ภาพสวยงาม ไม่มีที่ติ ..


โดย: tifun วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:13:45:49 น.  

 
แวะมาชมภาพงามๆเหมือนเดิมค่ะ


โดย: babyL' วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:16:04:08 น.  

 
สวัสดีครับเพื่อนๆชาวบล๊อกแก๊งค์......

จากตอนนี้ถึงเย็นวันอาทิตย์ หรือเช้าวันจันทร์
คงไม่ได้ตามไปเยี่ยมกันนะครับ
เพราะมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนต้องเดินทาง
แต่ไม่ได้ไปถ่ายภาพหรอกครับ...

ขอบคุณที่ชาวบล๊อกแก๊งค์แวะมาทักทาย
จะรีบกลับไปทักทายเมื่อธุระเสร็จครับ


โดย: wicsir วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:21:42:37 น.  

 
เดินทางปลอดภัยนะค่ะ


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 29 มกราคม 2553 เวลา:7:45:36 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


แวะมาทักทายกันวันศุกร์สุดท้ายของเดือนจ้า
ภาพสวยคมชัดเหมือนเคยนะคุณ Wic



โดย: หอมกร วันที่: 29 มกราคม 2553 เวลา:9:58:53 น.  

 
แหม...เพลงก็เพราะ ภาพก็สวยจริงๆค่ะ


โดย: noinanai วันที่: 29 มกราคม 2553 เวลา:23:48:44 น.  

 
ภาพสวยจังเลยค่ะ

ตั้งแต่ดูพระอาทิตย์ขึ้นมาหลายๆ ที่

สุว่าที่ภูชี้ฟ้ากับห้วยน้ำดังนี่แหละ สวยสุดๆ

ตอนสุไปสุวนคนละทางค่ะ

สุเริ่มที่โป่งเดือด ห้วยน้ำดัง ปาย ปางอุ๋ง แล้วก็ลงทางถ้าแก้วโกมล ออบหลวงค่ะ


โดย: นู๋สุ วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:8:46:51 น.  

 
เข้ามาเก็บตะวันตอนเที่ยงคืนครึ่งคร่า

ฝันดีนะคร้า


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:29:52 น.  

 


สวัสดีค่ะ

ขอให้คุณ wicsir มีความสุข

กับวันแรกของเดือนแห่งความรักนี้มากมายนะค้า



โดย: nLatte วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:30:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
26 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.