:: บ้านโฮจิมินห์..วิหารวรรณกรรม...ในวันอำลาฮานอย:: (ซาปา ฮานอย ฮาลองเบย์ ตอนจบ) อ่านตอนที่ 1 : จากสุวรรณภูมิ - ซาปา อ่านตอนที่ 2 : ฝ่าหมอก ลุยฝน ทนหนาวที่ Cat cat ซาปา-เขาฮามรอง อ่านตอนที่ 3 : ซาปา น้ำตกซิลเวอร์...ในวันที่แสนหนาว อ่านตอนที่ 4 : ฮาลองเบย์...ในวันที่ฟ้าไม่มีเมฆ วันนี้วันที่ 13 ธันวาคม 2554 เป้นวันที่ 5 ของทริปซาปา ฮาลองเบย์ และฮานอย ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนที่เราจะเดินทางกลับกรุงเทพฯประเทศไทย เราออกจากฮาลองเบย์หลังมื้อเช้าที่โรงแรม และแวะที่ร้านหัตถกรรมของคนพิการจากสงครามเวียตนาม ซึ่งในร้านมีทั้งการปักผ้าเป็นรูปต่างๆด้วยด้ายและไหม รวมไปถึงการแกะสลักหินอ่อนด้วย ไกด์สมชายบอกเราว่า สามารถซื้อหินอ่อนแกะสลักพวกนี้กลับบ้านได้ โดยที่ทางร้านจะส่งไปให้ถึงท่าเรือของแต่ละประเทศ โดยต้องจ่ายเงินก่อน 60% ที่เหลือจะต้องจ่ายเมื่อรับของแล้ว....สินค้าทั่วไปสวยงามครับ โดยเฉพาะการปักผ้าเป็นภาพต่างๆ. หลังจากนั้นเราเดินทางเข้าสู่ฮานอย เมืองหลวงของเวียตนามโดยพยามทำเวลาให้ได้ดีที่สุดเพราะจะได้มีเวลาไปเที่ยวอีก 2-3 แห่งที่เหลือและช้อปปิ้งก่่อนที่จะไปสนามบินครับ... จุดแรกที่กรุ๊ปเราจะไปชม คือบ้านพักและสุสานโฮจิมินห์ รวมทั้งจัตุรัสบาดิงห์ซึ่งเป็นที่ตั้งของสุสานโฮจิมินห์ด้วย.. สุสานโฮจิมินห์ ที่จตุรัสบาดิงห์ จตุรัสบาดิงห์และบ้านพักโฮจิมินห์ ณ ที่จตุรัสบาดิงห์ (Badinh) ถนนเดียนเบียนฟู ซึ่งเป็นที่โฮจิมินห์ได้อ่านคำประกาศอิสรภาพของเวียตนามจากฝรั่งเศส ในวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2488 หลังจากตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสอยู่ 84 ปี... และที่แห่งนี้จึงเป็ที่ตั้งของอาคารโดดเด่นสง่างามชื่อว่า "ลางจู่ติกโฮจิมินห์" (Lang Chu Tich Ho Chi Minh) สุสานโฮจิมินห์ ข้างในนั้นบรรจุศพอาบน้ำยาของโฮจิมินห์ นอนอยู่ในโลงแก้วในห้องปรับอากาศ...ซึ่งจริงๆแล้วขัดต่อความประสงค์ของของเขา คือเขาอยากให้เผา สุสานแห่งนี้สร้างใน พ.ศ. 2516 (หลังโฮจิมินห์เสียชีวิตได้ 4 ปี) และเสร็จเอาใน พ.ศ. 2518 การเข้าชมนักท่องเที่ยวต้องเดินแถวตอนเรียงสอง ห้ามไม่ให้ถ่ายภาพด้านใน มีทหารรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ที่นี่จะปิดเป็นเวลา 3 เดือน คือกันยายน - พฤศจิกายน และปิดไม่ให้เข้าชมในวัน จันทร์และวันศุกร์ของทุกๆสัปดาห์ ทำเนียบประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ทำเนียบประธานาธิบดีนี้ ทางการเวียตนามได้ปรับปรุงจากอาคารบัญชาการของฝรั่งเศสในยุคปกครองเวียตนาม มาเป็นที่ทำงานของท่านโฮจิมินห์ ซึ่งว่ากันว่าท่านไม่เข้าไปทำงานในนั้นหรอก เพราะโฮจิมินห์บอกว่าอาคารนี้สกปรก (คงหมายถึงการที่ฝรั่งเศสใช้วิชามารต่างๆปกครองคนเวียตนาม) ปัจจุบันใช้เป็นที่รับรองแขกบ้านแขกเมืองของเวียตนาม อาคารจะทาสีเหลืองทั้งหลัง และไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปใกล้เกินระยะเชือกกั้นไว้ แต่เราสามารถเลือกถ่ายภาพได้จากด้านข้าง บน : บริเวณบ้านพักโฮจิมินห์ ล่าง : ของใช้โฮจิมินห์ในพิพิธภัณฑ์ จากทำเนียบประธานาธิบดีโฮฯเล็กน้อย ก็จะเป็นบ้านพักของโฮจิมินห์ ที่เคยพำนักในช่วง พ.ศ. 2501 - 2512 ท่ามกลางสวนที่มีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น มีสระน้ำขนาดกลาง ล้อมรอบด้วยอาคารหลายหลังที่ทาด้วยสีเหลือง.... ในนั้นคุณๆจะเห็นรถที่ท่านโฮฯ เคยใช้ 2 คันโดยมีประวัติการได้มาเขียนบอกไว้เสร็จ ถัดจากโรงเก็บรถ ก็เป็นห้องพักและที่ทำงาน พร้อมรูป คาลมาร์กซ์และสตาลินที่โฮจิมินชอบแขวนไว้ ไกด์สาวชาวจีน เดินอ้อมสระน้ำไปทางบ้านพัก ก็จะผ่านสวนมะม่วงที่เขาเขียนป้ายชื่อถนนตรงนั้นว่า "Mango Road" ซึ่งลุงสมชายไกด์ของเราเล่าว่า ในวันเกิดของท่านโฮฯ มีเพื่อนสนิทจากเมืองไทยฝากของมาให้ เมื่อเปิดดูแล้วกลายเป็นเมล็ดมะม่วง ผมจำจำนวนไม่ได้ น่าจะ 36 เม็ดหรือประมาณนั้น เมื่อมาปลูกที่นี่แล้ว กลับไม่ออกลูกแต่มีดอกดกมาก ซึ่งลุงสมชายก็บอกว่าเนื่องจากฮานอยมีพายุค่อนข้างบ่อยและแรง จึงทำให้ดอกมะม่วงร่วงหมด เราจึงเห็นแต่ต้นมะม่วงสวยงาม ริมๆทางเดินจะมีรากมะม่วงโผล่ขึ้นมาจากดิน ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นรากมะม่วง จนกระทั่งมีคนขออนุญาติพิสูจน์ รากมะม่วงที่โผล่ขึ้นมามีรูปร่างแปลกๆคล้ายๆพระพุทธรูปผุดขึ้นมา หลายๆคนจึงว่ามันเป็นเรื่องมหัศจรรย์... อันนี้ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน บ้านพักโฮจิมินห์ บ้านพักของโฮจิมินห์สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ยกพื้นด้วยเสาสูง ชั้นล่างโปร่ง ไม่มีผนังเป็นที่พักผ่อนและต้อนรับแขก ที่หน้าบ้านมีระเบียงลงไปในสระเพื่อให้อาหารปลา ที่บ้านมีบันไดขึ้นชั้นบน ซึ่งเป็นห้องสมุดและห้องทำงาน และถัดไปก็จะเป็นห้องนอนของโฮจิมินห์ หลังจากนั้นก็จะมีบันไดลงไปชั้นล่าง... ด้านหลังบ้านจะมีหลุมหลบภัย รวมทั้งห้องวางแผนการรบ.. ภายในบ้านพัก วัดเจดีย์เสาเดียว (จั่วโมดโกด .. Chao Mot Cot) วัดเจดีเสาเดียว ชาวเวียตนาจะเรียกว่า "จั่วโมดโกด" (Chua Mot Cot) บางคนเรียกว่า "เดียนหวู" (Dien Huu) วัดแห่งความรัก เราเดินเท้าไปไม่ไกลจากบ้านพักโฮจิมินห์ อาจจะซัก 3 - 5 นาทีเท่านั้น ศาลาเจดีย์เสาเดียว วัดแห่งนี้สร้างใน พ.ศ. 1592 ซ่อมแซมใน พ.ศ. 2465 ต่อมาถูกฝรั่งเศสเผาใน พ.ศ. 2497 และซ่อมแซมอีกครั้งในปี พ.ศ. 2498 สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง เป็นศาลาเก๋งจีนขนาดเล็ก ตั้งอยู่บนเสาเดียว ปักอยู่ในสระบัวขนาดกลางรูปสี่เหลี่ยม เชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของโลกในดอกบัว ภายในประดิษฐานรูปของเจ้าแม่กวนอิม ชาวเวียตนามเรียกกันว่า "กวานอัม" เป็นรูปแสดงอภินิหาร มี 10 กร แต่ละมือถือของมงคล 8 อย่าง ด้านหน้ามีบันไดปูนเดินขึ้นไปนมัสการได้ ด้านหน้าเจดีย์เสาเดียว ออกจากวัดเจดีย์เสาเดียว เราขอเข้าไปเก็บภาพหน้าสุสานโฮจิมินห์อีกครั้ง เพราะตอนแรกที่ไปถึง ต้องเข้าคิวเพื่อเข้าชมร่างของโฮจิมินห์กัน เลยไม่มีเวลาไปเก็บภาพ ร้าน Sen เป็นร้านอาหารแบบ Buffet ที่ใหญ่มากๆ ออกจากจตุรัสบาดิงห์ เราเดินทางไปทานมื้อเที่ยงแบบบัพเฟ่ท์ที่ร้านอาหาร Sen ซึ่งเข้าใจว่าทัวร์ต่างๆคงมาลงทานอาหารที่นี่กันก่อนกลับเมืองไทย ร้านนี้เป็นร้านค่อนข้างใหญ่ มีอาหารมากมายหลายอย่าง ทั้งพวกอาหารพื้นเมืองของเวียตนาม อาหารทะเเล และอาหารแบบทั่วไป รวมทั้งผลไม้และของหวาน ใครอยากลองอาหารเวียตนามก็ลองซะที่นี่ เพราะมีให้เลือกเกือบทุกอย่าง แถมยังมีไอศครีมให้ด้วย ข้างๆร้านอาหาร มีสวนสนุก แต่ลุงสมชายไกด์เราบอกว่าไม่ค่อยจะมีคนเท่าไหร่ อาจจะจริงของแกเพราะเจ้าชิงช้าสวรรค์หรือจะเรียกว่า ฮานอยอาย ก็ได้ ว่างเปล่าเกือบทั้งหมด..... อิ่มท้องแล้วเราก็ไปต่อโปรแกรมสุดท้ายที่วิหารวรรกรรมกัน พนักงานที่ร้าน Sen วิหารวรรณกรรม วิหารวรรณกรรมภาษาเวียตนามจะเรียกว่า "วันเหมียว" (Van Mieu) สร้างขึ้นใน พ.ศ. 1613 ในรัชสใัยของพระเจ้าหลีไทโตง (Ly Thai Tong) เพื่ออุทิศให้แก่ขงจื้อ วิหารนี้อยู่ติดกับ กว๊อกตื่อยาม (Quoc Tu Giam) โรงเรียนของพวกขุนนาง และเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติแห่งแรกของเวียตนาม ต่อมาในสมัยราชวงศ์ตรันได้ถุกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นกว๊อกช๊อกเวียน (Quoc Hoc Vien) วิทยาลัยแห่งชาติในปี พ.ศ. 1778 ตรงบริเวณหัวมุมทางด้านหน้า จะมีซุ้มแผ่นป้ายทำด้วยหินสลักข้อความว่า "ขอให้ผู้มาเยือนลงจากหลังม้าก่อนที่เข้าไปข้างใน" ทางเข้าด้านหน้าของวิหารวรรณกรรม ประตูทางเข้า บริเณอันกว้างใหญ่ของวิหารวรรณกรรมแบ่งออกเป็นลาน มีกำแพงล้อมรอบ 5 แห่งด้วยกัน ประตูทางเข้าด้านหน้าทำเป็น 2 ชั้น มีประตูทางเข้าใหญ่ 1 ประตู ทำเป็นรูปวงโค้ง มีประตูเล็กอยู่ 2 ข้างประตูใหญ่ ชั้นที่ 2 ทำเป็นรูปคล้ายเก๋งจีนซ้อนกัน 2 ชั้น มีประตูรูปวงโค้ง 3 ประตู สลักชื่อวิหารวรรณกรรมอยู่ชั้นบนสุด เมื่อเดินลอดซุ้มประตูทางเข้าด้านหน้าเข้ามา จะพบกับความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ ทางเดินปูลาดด้วยหินเป็นแผ่นๆ สองข้างมีบ่อน้ำสี่เหลี่ยมขนาดเล็กอยู 2 บ่อ คงคำนึงถึงหลักฮวงจุ้ยเช่นเดียวกับจีน เพราะจีนเคยปกครองเวียตนามมา.. บน : อักษรดอกไม้ในบริเวณ ล่าง : หนุ่มสาวชาวเวียตนามมาถ่ายภาพกับความสำเร็จในการศึกษา ภาพแห่งความสำเร็จ เมื่อผ่านกำแพงมา 2 แห่งแล้ว เราจะมาถึงอาคารชื่อตึกดาวลูกไก่ เคววันกั๊ก (Khue Van Cac) สถานที่นักอักษรศาสตร์มาท่องบทกวีของพวกเขา และมีประตูกำแพงใหญ่ "ได๋แถงห์โมน" (Dai Thanh Mon) อันเป็นสัญญลักษณ์ของกรุงฮานอย กับสระน้ำขนาดใหญ่ตรงกลางลานอยู่ด้านหลังประตูใหญ่ มีชื่อว่า สระแสงงาม เทียนกวางติงห์ (Thien Quang Tinh) เวลาแสงจากดวงอาทิตย์สาดส่องจะสะท้อนเข้าสู่ประตูใหญ่ ทำให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง ประตูกำแพงใหญ่ ได๋แถงห์โมน เป็นรูปพระอาทิตย์ส่องแสง หลังคาเป็นรูปมังกรคาบแก้ว ธง...ที่ปักอยู่ข้างสระแสงงาม บริเวณ 2 ข้างของสระแสงงามมีอาคารชั้นเดียวอยู่ 5 หลัง ภายในประดิษฐ์แผ่นหินจารึกรวม 82 แผ่น ที่หลงเหลือจากของเดิม 117 แผ่น แผ่นหินเหล่านี้จะตั้งอยู่บนหลังเต่าทำด้วยหิน จารึกชื่อผลงานประวัติทางวิชาการของผู้ที่สอบผ่านการศึกษาหลักสูตร 3 ปี ในระหว่างปี พ.ศ. 1985 - 2322 หลายคนจึงเรียกว่า "แผ่นหินจารึกชื่อจอหงวน" แผ่นหินจารึกชื่อจอหงวนบนหลังเต่า มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับการทำเต่าหินที่ใช้วางแผ่นจารึกชื่อจอหงวนโดยคุณลุงสมชาย ไกด์ชาวเวียตนามว่า เต่าตัวไหนที่ผงกหัว (เงยหัวขึ้นนั่นแหละ) จะเป็นสัญลักษณ์ว่าจอหงวนคนนั้นเรียนเก่ง ส่วนตัวไหนที่หัวแนบพื้นนั้น หมายความว่าจอหงวนคนนั้นเรียนไม่ดีหรือทำคะแนนไม่ดีครับ...ตอนเข้าไปชมลองสังเกตุดูละกันว่าหัวเต่าแต่ละตัวจะอยู่ในท่าที่ไม่เหมือนกัน ดอกไม้ที่แต่งเป็นรูปอักษร หนุม-สาว ชาวเวียต ขอนำชมวิหารวรรณกรรม วันเหมียวอีกซักหน่อย มีอาคารด้านในเป็นที่ประดิษฐานรูปของขงจื้ออันศักดิ์สิทธิ์พร้อมทั้งศิษย์ เพื่อใช้เป็นสถานที่บูชาขงจื๊อ เป็นที่ศึกษาของโอรสกษัติรย์และพวกขุนนาง ทางเดินเข้าจะผ่านประตูมีชื่อต่างๆ มีความหมายเป็นคติ เช่น คุณธรรม และความสามารถ ประดับด้วยธง 5 สี มีอักษรจีนเขียนไว้อ่านว่า "เหวิน" ถ้าออกเสียงแบบเวียตนามจะอ่านว่า "วัน หรือ ว่าน" แปลว่าวรรณคดี วรรณกรรม ภาษา ส่วนคำว่า "เหมียว" หรือ มิว" แปลว่าวัด ฝรั่งจึงเรียกว่า "Temple of Literature" บนประตูมีรูปสลักเป็นมังกรและเสือ ซึ่งมีความหมายว่า สติปัญญาพบกับความกล้าหาญ ทั้งยังมีแผ่นหินสลักข้อความเป็นคติไว้ ที่น่าสนใจบทหนึ่งมีใจความว่า "ผู้มีความสามารถเป็น อาวุธของชาติ ถ้าผู้กล้าหาญรุ่งเรือง ประเทศก็เข้มแข็ง ถ้าผู้กล้าหาญตกต่ำ ประเทศก็ตกต่ำ" (อ้างอิง : ไพรัตน์ สูงกิจบูลย์, ซินจ่าวเวียตนาม, กันยายน 2546) อาคารด้านในเป็นที่ประดิษฐานของรูปเคารพขงจื้อ ก่อนจาก... คำว่าฮานอย จะเขียนแยกกันเป็น 2 คำคือ คำว่า "ฮา" แปลว่า "แม่น้ำ" ซึ่งหมายถึงแม่น้ำแดง (ซงโห่ง - Song Hong) ที่ไหลผ่าน และเป็นเส้นเลือดสำคัญที่หล่อเลี้บงประชากรของฮานอย ส่วนคำว่า "นอย" แปลว่า "ข้างใน" โดยรวมแล้ว หมายถึง ดินแดนหรือเมืองที่ตั้งอยู่ด้านในของแม่น้ำแดง หรือซงโห่งนั่นเอง เราออกจากวิหารวรรณกรรม วันเหมียว แล้วไปจอดที่ถนน 36 สาย (เป็นถิ่นเมืองเก่าที่ฮานอย ถนนแต่ละสายไม่ยาวนัก นับรวมแล้วได้ 36 สาย เป็นที่ช้อปปิ้ง..จขบ.) เพื่อให้หลายๆคนได้ใช้เงินด่องให้หมด ก่อนที่เราจะเดินทางไปที่สนามบินนอยไบ เพื่อเดินทางกลับเมืองไทย ถ่ายกลับเข้าไปอีกครั้งตอนขากลับออกมา ตลอดระยะเวลาการเดินทาง 5 วัน 4 คืนของพวกเรา จากในบล๊อกที่เขียนไว้ตั้งแต่ตอนที่ 1 ถึงตอนที่ 5 นี้ ก็ผ่านไปด้วยความเรียบร้อยดี.... ขอบคุณ คุณๆที่เข้ามาอ่านและติดตามจนตลอด แม้ว่าจะค่อนข้างอืด เพราะไม่ค่อยจะมีเวลาเขียนมากนัก ขอบคุณ หนังสือ "ซินจ่าวเวียตนาม" ของไพรัตน์ สูงกิจบูลย์ ขอบคุณ เอกสารหลายๆแห่งจากเวบ ขอบคุณไกด์ทั้ง 2 ท่าน ทั้งไทยและเวียตนาม ที่ทำให้ จขบ. สามารถนำเรื่องราวทั้งหมดมาเรียบเรียงจนจบทั้ง 5 ตอนครับ. ลากันด้วยภาพนี้ครับ ____________END____________   Create Date : 30 มกราคม 2555 25 comments Last Update : 24 สิงหาคม 2556 17:58:29 น. Counter : 7920 Pageviews. Share Tweet

สวัสดีเช้าวันจันทร์ค่ะคุณ wicsir   โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 30 มกราคม 2555 6:37:09 น.

เพิ่งเคยเห็นชุดรับปริญญาของเวียดนามเป็นครั้งแรกเลยค่ะ ชุดสาวๆเวียนนาม ก็น่ารักดีนะคะ เพลินกับเรื่องราว และภาพเลยค่ะ   โดย: d__d (มัชชาร ) 30 มกราคม 2555 7:02:49 น.

สวัสดีเช้าวันจันทร์ วันที่อากาศขมุกขมัว สุดๆ ค่ะ ตามไปเที่ยวต่อค่ะ.. จบทริปแล้วเหรอคะ..แฮะๆ ..ไม่ได้แวะมาซะนานเลย คุณ Wic สบายดีนะคะ .. ช่วงนี้อากาศมันร้อนๆ อบอ้าว บอกไม่ถูก..แถวโน้น เป็นยังไงบ้างคะ.. ดูและสุขภาพนะคะ   โดย: Nongpurch 30 มกราคม 2555 9:12:43 น.

สวัสดีเช้าวันจันทร์ค่ะ คุณวิก ปวดข้อมือเลยไม่ได้เข้ามาทักทาย ตอนนี้ก็ยังปวดอยู่เป็นข้างขวาเสียด้วย คิดถึงเลยเข้ามาทักทายก่อนจ้ะ   โดย: KeRiDa 30 มกราคม 2555 9:21:32 น.

แวะมาทักทายกันในวันสบายใกล้สิ้นเดือนจ้าคุณวิก อย่างงี้ต้องโหวตๆ โหวตท่องเที่ยวแล้วค่ะ   โดย: หอมกร 30 มกราคม 2555 10:45:28 น.

มาตามเที่ยวครบทริปเลยค่ะ   โดย: tuk-tuk@korat 30 มกราคม 2555 15:10:54 น.

คุณ wic คะ จะเข้าไปดูตอนที่ ๔ เหมือนยังไม่ได้ดู ไม่แน่ใจ เข้าไม่ได้ค่ะ เค้าบอกว่า ขออภัยค่ะ ไม่พบ Blog ที่คุณระบุ... วิหารวรรณกรรม เคยดูในทีวีค่ะ เห็นแล้วอยากไปบ้าง...   โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 30 มกราคม 2555 15:43:31 น.

ชุดเค้าสวยจังเลยนะคะ   โดย: kwan_3023 30 มกราคม 2555 16:22:52 น.

โอ้โห! สถานที่สวยภาพสวยมากเลยค่ะ อากาศน่าจะดีมากๆดูจากภาพแล้ว แวะมาทักทายคุณ WIC ยามเย็นค่ะ ขอให้คุณและครอบครัวมีความสุขมากนะคะ สวัสดีค่ะ ^_^   โดย: andrex09 30 มกราคม 2555 17:32:46 น.

ดูแล้วค่ะ นึกว่าพลาด กำลังคิดว่าส่วนมากจะตามคุณ wic แบบเกาะแจนะคะ ไม่น่าพลาด   โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 30 มกราคม 2555 17:47:05 น.

สวัสดีวันอังคาร ส่งท้ายเดือน ม.ค. ด้วยความสุขตลอดวันค่ะคุณ wicsir   โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 31 มกราคม 2555 7:27:40 น.

วัดแปลกนะคะ มีเสาร์เดียว ชอบชุดประจำชาติสาวเวียดนามจัง สวัสดีตอนเช้า have a great day นะคะ เทคแคร์ค่ะ   โดย: mambymam 31 มกราคม 2555 8:22:25 น.

แวะมาทักทายกันด้วยความห่วงใยจ้าคุณวิก   โดย: หอมกร 31 มกราคม 2555 9:25:48 น.

ตามมาเที่ยวตอนจบค่า ชอบจัง เที่ยวไปได้ความรู้ไป แบบนี้เที่ยวสนุกขึ้นจริงๆค่ะ   โดย: AdrenalineRush 31 มกราคม 2555 11:59:36 น.

ดูภาพเพลิน สวยจริง ๆ การแต่งกายรู้สึกเขาชอบสีสดใส เพิ่งรู้ความหมายของ "ฮานอย" วันนี้เอง   โดย: ไวน์กับสายน้ำ 31 มกราคม 2555 13:59:53 น.

หวัดดี ค่ะคุณ wic .. ตาม มาเที่ยว ด้วย ค่ะ .. โห ตั้ง หลายตอน แล้ว .. ชม เพลิน เลย ..เด๋ว มาใหม่ พักนี้ ไม่ค่อย ได้ แวะ มา ..สบายดี นะคะ .. มีความสุขกับการ เที่ยว ดีจัง .. สาวเวียด นาม ..น่ารัก น๊า..   โดย: tifun 31 มกราคม 2555 14:54:14 น.

จุใจไปกับการตามเที่ยวเลยค่ะคุณ wicsir พูดถึงที่เวียดนาม วาก็คงจะคิดถึงบ้านโฮจิมินห์ แต่วิหารวรรณกรรมนี้ เพิ่งได้ตามเที่ยวไปกับคุณ wicsir หล่ะคะ เที่ยวเวียดนามครั้งนี้จุใจจริงๆ วาเลยขอเก็บข้อมูลอัดไว้แน่นๆ เลย อยากมีโอกาสไปบ้างค่ะ อยากให้เป็นเร็วๆ นี้ ขอบคุณคุณ wicsir ที่แบ่งปันกันนะคะ ช่วงนี้คุณ wicsir สบายดีนะคะ   โดย: Sweety-around-the-world 31 มกราคม 2555 15:14:27 น.

สวัสดีค่ะ มาชวนไปเที่ยวค่า   โดย: AdrenalineRush 31 มกราคม 2555 21:01:22 น.

HAVE A GOOD DREAM..^_^   โดย: andrex09 31 มกราคม 2555 22:10:23 น.

สวัสดีเช้าวันแรกของเดือนก.พ. มีความสุขตลอดวันค่ะคุณ wicsir   โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 1 กุมภาพันธ์ 2555 8:07:46 น.

อรุณสวัสดิ์ค่ะ เช้านี้อากาศดี มีความสุขสดชื่นตลอดวันนะคะ   โดย: mambymam 1 กุมภาพันธ์ 2555 8:13:08 น.

อรุณสวัสดิ์ค่ะ..^^   โดย: Lika ka 1 กุมภาพันธ์ 2555 8:26:40 น.

สาวชาวเวียต กับสาวชาวจีน ใกล้เคียงกันมากเลยนะคะ   โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 1 กุมภาพันธ์ 2555 17:34:47 น.

แวะมาทักทายยามค่ำค่ะ มีความสุขมากๆนะคะ สวัสดีค่ะ ^_^   โดย: andrex09 1 กุมภาพันธ์ 2555 19:11:17 น.

แวะมาทักทายกันจ้าคุณวิก   โดย: หอมกร 1 กุมภาพันธ์ 2555 21:10:13 น.