....OUR FAMILY'S JOURNEY....

+ 7 วันในเมียนมาร์ (6&7) .... มหาเจดีย์ชเวดากอง และเจดีย์โบตาทาวน์ +







การเดินทางท่องเที่ยวและไหว้พระของเราชาวก๊วนกอล์ฟก็มาถึงวันที่ 6 แล้ว ซึ่งก็คือวันที่ 28 ตุลาคม 2017 ... ผู้เขียนเลยขอรวบรัดเอา วันที่ 6 และวันที่ 7 เข้ามาอยู่บล๊อกเดียวกัน เพื่อให้เรื่องราวกระชับขึ้น ซึ่งวันที่ 7 หรือวันที่ 29 ตุลาคม 2017 เราจะบินออกจากพม่าในเวลาประมาณเกือบบ่ายโมงครับ

บล๊อกที่แล้วเราพาคุณๆไปเที่ยวชมวิถีชีวิตของชาวอินทา (Intha) ในทะเลสาบอินเลมานะครับ (คลิ๊กอ่าน) ... เช้านี้หลังอาหารเช้าที่โรงแรม Royal Inle Hotel เราก็เดินทางเพื่อไปขึ้นเครื่องที่สนามบินเฮโฮ เพื่อเดินทางกลับกรุงย่างกุ้งกันครับ




เมืองยองชเวยามเช้า



เส้นทางจากยองชเวไปเฮโฮในยามเช้า



บรรยากาศยามเช้ารอบๆเมืองยองชเวซึ่งเป็นจุดพักสำหรับนักเดินทาง ที่จะเดินทางโดยเรือเข้าสู่ชุมชนอินทาในทะเลสาบอินเลนั้น เรียบง่าย ไม่เร่งรีบ ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็คล้ายๆกับในชนบทบ้านเราแถวทางเหนือและอีสาน รถของเกษตรกรที่ใช้ก็จะมีทั้งรถอีแต๋น รถม้าลาก และรถหกล้อ รถดั้มป์ ประมาณนั้นครับ ... ตามเส้นทางจากยองชเวจะมีทุ่งนาที่ข้าวกำลังเหลืองอร่าม (แถวๆนี้ใช้น้ำเพื่อการเกษตรจากทะเลสาบอินเลด้วย) ... ระยะทางจากยองชเวไปเฮโฮ ไม่ไกลนัก คือประมาณ 23 กม. แต่รถต้องวิ่งเกือบชั่วโมงเต็มๆ เพราะสภาพถนนที่มีในปัจจุบัน แต่สุดท้ายเราก็มาถึงสนามบินก่อนเวลาครับ




คนงานรอรถเพื่ออกไปทำงาน




เจอเขาแห่กองกฐิน




เดินทางจากเฮโฮ - ย่างกุ้ง ด้วยเครื่องใบพัด Golden Myanmar


เรานั่งเครื่องแบบใบพัดจากสนามบินเฮโฮ - ย่างกุ้ง ซึ่งต้องใช้เวลา 1 ชั่วโมงกับ 10 นาที ก็ถึงสนามบินนานาชาติย่างกุ้งโดยปลอดภัย ที่พม่าเครื่องบินโดยสารในประเทศดูเหมือนจะเป็นแบบใบพัดหมดนะครับ มีหลายสายการบินให้เลือก ที่ดังๆหน่อยก็ KBZ ครับ ... รับกระเป๋าที่สนามบินเรียบร้อย ก็ออกเดินทางไปทานอาหารมื้อเที่ยงกันก่อน วันนี้มื้อเที่ยงเรามีนัดกับอาหารทะเลของพม่านะครับ ร้านที่เขาพาเราไปค่อนข้างดี (เวลาเราจองทริบกับตัวแทนในพม่า เราจะเป็นคนกำหนดว่าเราอยากทานอาหารประเภทไหน อย่างของเรามีผู้สูงอายุไปด้วย เราเลยของอาหารหนักไปทางปลา และขอเป็น Seafood สองมื้อ ... ส่วนโรงแรมเราก็เป็นคนคัดเลือกว่าเราจะเอาระดับไหน สะดวกกับกระเป๋าเราไหมเป็นต้น เพราะทริบนี้เป็นทริบส่วนตัว จัดกันเอง) ก็ดูดีครับพอเทียบชั้นกับร้านในบ้านเราได้ มีตู้โชว์กุ้ง ปลาเหมือนบ้านเรา เสียดายลืมถ่ายชื่อร้านมาให้ .... อาหารทะเลมื้อนี้เขาจัดมาแบบเหลือเฟือเลย คงคิดว่าคนไทยกินเยอะ แต่ที่ไหนได้ สว.กินแบบพอเพียง อิ่มก็หยุด เลยเหลือจนขอห่อไปตอนเย็น (เสียดายครับ) ... ขอบคุณ Meyanmar Delght Tour & Travel ที่จัดเต็ม (แต่เงินเรา...555)




ภายในสนามบินนานาชาติย่างกุ้ง



สายๆในย่างกุ้งก็เริ่มจอแจเหมือนบ้านเราแล้ว...ดีที่ไม่มีมอเตอร์ไซต์ขับให้หวาดเสียวเหมือนบ้านเรา



ทานมื้อเที่ยงด้วย Seafood พม่าครับ



ไปเที่ยวตลาดสก๊อต (Bogyoke Aung San Maket)


ทานข้าวเที่ยงเสร็จก็โน่นเลยครับไปที่ละลายทรัพย์ที่ ตลาดสก๊อต หรือ ตลาดโบยก อองซาน (Bogyoke Aung San Market) สร้างโดยชาวสก็อต สมัยเมื่อครั้งพม่าเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ตลาดสก๊อต เป็นตลาดที่รวบรวมสินค้าทุกประเภท อาทิ ผ้าทอ งานไม้ อัญมณี และข้าวของเครื่องใช้ทุกชนิด ... เนื่องจากตลาดนี้มีมากมายหลายร้านที่พูดไทยได้ ทางที่ดีเราควรเดินดูหลายๆร้านก่อนนะครับ เช็คว่าของที่จะซื้อใช่ไหม เช่นหยก ผู้เขียนเคยไปฟังบริษัทขายหยกพม่าที่แม่สายมา เขาแนะนำว่าถ้าเป็นหยดจริงจะเย็นๆนะครับ ถ้าร้อนเมื่อไหร่ก็พลาสติก สำหรับวิธีดูก็ตามนี้นะครับ 

วิธีทดสอบหยกแท้-หยกเทียม

เคาะหยกเพื่อฟังเสียง
นำหยกมาเคาะกันดู หากเป็นหยกแท้นั้นจะมีเสียงดังกังวานเสนาะหู แต่ถ้าเป็นหยกปลอมนั้นจะออกเสียงทึบๆ ไม่ใสเท่าที่ควร ข้อแนะนำสำหรับวิธีนี้คือ ไม่ควรเคาะแรงจนเกินไป เพราะอาจทำให้เนื้อหยกนั้นแตกหรือบิ่นได้

รู้สึกเย็นเมื่อสัมผัส
ธรรมชาติของหยกนั้นมักจะมีเนื้อสัมผัสที่เย็น ดังนั้นเมื่อต้องการพิสูจน์ว่าเป็นหยกแท้หรือไม่ ควรนำมาวางไว้ในมือหรือกำไว้สักครู่ หากเนื้อหยกมีสัมผัสที่ไม่เย็น ให้ตีไว้ก่อนว่าเป็นของปลอม แต่วิธีนี้ก็ไม่แม่นยำเท่าไหร่นัก เพราะหยกก็คือหิน ที่สามารถเก็บความเย็นจากอุณหภูมิรอบตัวได้เท่านั้นเอง

ใช้แสงไฟพิสูจน์
ให้นำหยกขึ้นส่องดูกับไฟ ซึ่งโดยธรรมชาติเนื้อหยกจะดูใสและสามารถส่องผ่านทะลุโดยแสงไฟได้ แต่ของปลอมส่วนมากนั้นเนื้อจะทึบ ไฟที่ส่องผ่านนั้น ไม่สามารถทะลุได้ แต่ในสมัยนี้มีกรรมวิธีการปลอมแปลงที่เหนือชั้นมากขึ้น หยกปลอมบางชิ้นอาจจะมีลักษณะโปร่งแสง ให้ดูด้วยการใช้กล้องส่องพลอยจะสามารถมองเห็นเนื้อหยกได้ชัดมาก และเปรียบเทียบได้ง่ายขึ้น

ทดสอบกับกระจก
นำหยกไปขูดกับกระจก ทั้งนี้เนื้อหยกนั้นจะมีลักษณะแข็งมาก ให้ทดลองดูว่านำไปขูดกับกระจกแล้วจะเป็นรอยหรือไม่ ถ้าเป็นแสดงว่าหยกแท้ แต่ถ้าไม่มีรอยหรือเกิดรอยไม่สม่ำเสมอนั้น ให้ตีความว่าเป็นหยกปลอมได้เลย แต่ข้อควรระวัง ไม่ควรขูดแรงจนเกินไป เพราะกระจกจะแตกได้

ทดสอบกับเส้นผม
นำเส้นผมมาพันกับหยก แล้วจุดไฟลนที่หยก วิธีนี้ฮิตกันมากครับ เพราะสามารถทำได้ง่ายและร้านขายหยกส่วนใหญ่นั้นยอมให้ทดลองด้วยวิธีนี้ได้ ซึ่งถ้าลนไฟแล้วหยกร้อนขึ้น แต่เส้นผมไม่เป็นอะไร นี่คือหยกแท้ แต่ถ้าเส้นผมเกินไหม้ให้ตีความว่าหยกปลอมได้เลย

ทั้งนี้วิธีการที่จะดูหยกแท้หรือปลอมนั้น ไม่มีวิธีไหนที่ได้ผล 100% เพราะของปลอมในสมัยนี้ปลอมได้เหมือนของจริงมากๆ ครับดังนั้นควรสอบถามหรือหาข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญที่ไว้ใจได้จะดีที่สุด







หลายๆร้านเขียนชื่อภาษาไทยด้วย...ได้รับเงินบาทหรือดอลล่ายิ่งดี



เจดีโบตาทาวน์ หรือ Botataung Pagoda


เจดีย์โบตาทาวน์

เจดีย์โบตาทาวน์ แปลว่า เจดีย์นายทหาร 1000 นาย ตามตำนานเล่าขานว่า เมื่อราว 2000 ปีก่อน พระเจ้าโอกะลาปะ กษัตริย์มอญทรงบัญชาให้นายทหารระดับแม่ทัพตั้งแถวถวายสักการะแด่พระเกศาธาตุ ที่นายวาณิชสองพี่น้องอัญเชิญมาทางเรือและมาขึ้นฝั่งเมืองตะเกิงหรือดากอง ณ บริเวณนี้ จึงสร้างเจดีย์โบตะทาวน์ไว้เป็นที่ระลึก พร้อมทั้งแบ่งพระพุทธเกศา 1 เส้น มาบรรจุไว้ ก่อนนำไปบรรจุในมหาเจดีย์เวดากองและเจดีย์สำคัญอื่นๆ เจดีย์โบตาทาวน์จึงเป็นหนึ่งในมหาบูชาสถานของชาวมอญและพม่าเรื่อยมา จนกระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่2 เครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรได้ทิ้งระเบิดถล่มย่างกุ้ง ทำให้เจดีย์โบตาทาวน์องค์เดิมถูกทำลายพินาศ แต่ในระหว่างการบูรณะได้ค้นพบผอบทรงสถูปบรรจุพระเกศธาตุและพระบรมสารีริกธาตุ

ครั้นเมื่อเจดีย์โบตาทาวน์องค์ใหม่สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2496 จึงนำพระเกศธาตุมาบรรจุในมณฑปครอบแก้วใส ประดิษฐาน ณ ใจกลางเจดีย์ และทำช่องทางให้พุทธศาสนิกชนเดินเข้าไปดูและสักการบูชาได้อย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่นาชมในอาณาบริเวณเจดีย์โบตาทาวน์คือ พระพุทธรูปทองคำ ประดิษฐานในวิหารด้านขวา ซึ่งเป็นพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีพุทธลักษณะงดงามยิ่งนัก ตามประวัติว่าเคยประดิษฐานอยู่ในพระราชวังมัณฑะเลย์ ครั้นเมื่อพม่าตกเป็นอาณานิคมอังกฤษในปี พ.ศ. 2428 ถูกเคลื่อนย้ายไปยังพิพิธภัณฑ์กัลกัตตาในอินเดีย ทำให้รอดพ้นจากระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรที่ถล่มวังมัณฑะเลย์ ต่อมาในปี 2488 พระพุทธรูปองค์นี้ถูกจัดไปแสดงที่พิพิธภัณฑ์วิกตอเรียและแอลเบิร์ต นอกจากพระพุทธรูปทองคำแล้ว ยังมี พระเขี้ยวแก้ว ซึ่งเก็บรักษาไว้ในตู้กระจก อยู่ใกล้ๆกับวิหารพระทองคำ และด้านซ้ายมื้อจะมีรูปปั้น นัตโบโบจี หรือ เทพทันใจ ซึ่งชาวมอญและพม่านิยมมากราบไหว้บูชา ด้วยเชื่อว่าอธิษฐานขอสิ่งใดแล้วจะสมปรารถนาทันใจ





พระเกศาธาตุเจดีย์โบตาทาวน์ กรุงย่างกุ้ง พม่า



พระพุทธรูปทองคำ



ซ้าย นัตโบโบจี หรือ เทพทันใจ    ขวา ผู้คนเข้าแถวเพื่อขอพร


วิธีการสักการะรูปปั้นเทพทันใจ (นัตโบโบจี) เพื่อขอสิ่งใดแล้วสมตามความปราถนาก็ ให้เอาดอกไม้ ผลไม้ โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อน กล้วย หรือผลไม้อื่นๆมาสักการะเทพทันใจจะชอบมาก จากนั้นก็ให้เอาเงินจะเป็นดอลล่า บาท หรือจ๊าด ก็ได้ (แต่แนะนำให้เอาเงินบาทดีกว่าเพราะเราเป็นคนไทย) แล้วเอาไปใส่มือของเทพทันใจสัก 2 ใบ ไหว้ขอพรแล้วดึกกลับมา 1 ใบ เอามาเก็บรักษาไว้ จากนั้นก็เอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของเทพทันใจ แค่นี้ท่านก็จะสมตามความปราถนาที่ขอไว้ครับ





เทพกระซิบ หรือ เมี๊ยะนานหน่วย เทพผู้ประทานพรแห่งความโชคดี พม่า
เวลาขอพรเขาจะกระซิบข้างหูเทพกระซิบ (ปัจจุบันล้อมรั้วไว้ ต้องกระซิบระยะไกลหน่อย)






ลิฟท์ขึ้นสู่มหาเจดีย์ชเวดากอง



พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง (The Shwedagon Pagoda)

พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เชื่อกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น  .... หนังสือ Guinness Book of Records ได้จัดให้พระเจดีย์ชเวดากองเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก











ประวัติ

ทางการพม่าให้ข้อมูลว่า พระเจดีย์ชเวดากองได้เริ่มสร้างมาเป็นครั้งแรกตั้งแต่สมัยที่พระพุทธเจ้าทรง ตรัสรู้ หรือเมื่อประมาณ 2,595 ปีมาแล้ว ในสมัยที่ย่างกุ้งยังเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ ที่ชื่อว่าเมืองอสิตันชนะหรืออีกชื่อหนึ่งคือเมืองโอกกะละ โดยได้มีพ่อค้าชาวมอญ 2 คนชื่อว่าตผุสสะและภัลลิกะได้เดินทางไปค้าขายยังประเทศอินเดีย ทั้งสองได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าซึ่งกำลังประทับอยู่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ และได้ถวายภัตตาหารแด่พระองค์ด้วย หลังจากเสวยเสร็จแล้ว พระพุทธเจ้าได้ประทานพระเกศาให้ 8 เส้น

เมื่อตผุสสะและภัลลิกะเดินทางกลับ พระราชาแห่งอเชตตะได้ขอแบ่งพระเกศธาตุไป 2 เส้น พญานาคขอไปอีก 2 เส้น เมื่อเดินทางกลับถึงเมืองอสิตันชนะ พระเจ้าโอกกะละปะก็ได้ทรงประกอบพิธีต้อนรับพระเกศธาตุอย่างยิ่งใหญ่ และได้ทรงคัดเลือกสถานที่บนเขาสิงฆุตตระนอกประตูเมืองอสิตันชนะให้เป็นที่สร้างพระ เจดีย์เพื่อบรรจุพระเกศธาตุ 

แต่ขณะที่กำลังทำการขุดดินก่อสร้างนั้น ก็ได้ค้นพบ พระบริโภคเจดีย์ของอดีตพระพุทธเจ้าองค์อื่น ๆอีก 3 พระองค์ด้วย คือไม้ธารพระกร ภาชนะสำหรับใส่น้ำ และสบง จึงได้บรรจุของทั้งหมดนี้ในพระเจดีย์พร้อมกับพระเกศธาตุด้วย แต่ก่อนที่จะบรรจุ ก็ค้นพบด้วยว่า พระเกศธาตุกลับมี 8 เส้นดังเดิม พระเกศธาตุได้บรรจุไว้ภายในเจดีย์ทอง เงิน ดีบุก ทองแดง ตะกั่ว หินอ่อน และเหล็กตามลำดับ เสร็จแล้วจึงสร้างเจดีย์อิฐสูงประมาณ 66 ฟุตครอบไว้ภายนอก จากนั้นก็มีการสร้างเจดีย์ครอบองค์เดิมในรัชสมัยของกษัตริย์ต่าง ๆ รวมถึง 7 ครั้งด้วยกัน เจดีย์ชเวดากอง พม่าโดย ในสมัยพระนางเชงสอบูแห่งกรุงหงสาวดีก็ได้ทรงบริจาคทองคำถึง 40 กิโลกรัม ซึ่งเท่ากับน้ำหนักของพระองค์ในการก่อสร้างพระเจดีย์ที่มีรูปร่างเหมือนในปัจจุบันเป็นครั้งแรก ส่วนพระเจ้าธรรมเจดีย์ซึ่งครองราชย์ต่อจากพระนางเชงสอบู ก็ได้บริจาคทองในการก่อสร้างเพิ่มเติมเป็นน้ำหนักเท่ากับน้ำหนักของพระองค์ และพระมเหสีรวมกันด้วย ทั้งยังได้ทรงสร้างจารึกเล่าประวัติของพระเจดีย์ชเวดากองเป็นภาษาพม่า มอญและบาลีไว้ด้วย



















พระมหาเจดีย์จะมีศาลาอยู่โดยรอบ ในศาลาบ้างก็สร้างเป็นพระนอน พระพุทธรูปแบบพม่า และที่สำหรับนั่งทำสมาธิ .... ส่วนที่อยู่ติดฐานมหาเจดีย์และเลยเจดีย์บริวารออกมา ก็จะเป็นสัตว์ประจำวันเกิดให้เราได้สรงน้ำ วิธีการสรงน้ำเขาก็จะใช้ขันเล็กๆรดให้ได้เท่ากับจำนวนอายุเราและบวกเพิ่มไปหนึ่ง คนที่มีอายุก็อาจจะนานหน่อย เลยมีการลดขั้นตอนเอาเป็นเท่าจำนวนวันในหนึ่งสัปดาห์บวกหนึ่ง.



ผู้คนที่ศรัทธาเข้ามากราบไหว้ไม่ขาด



แบบและสัดส่วนมหาเจดีย์ชเวดากอง





หลังจากไปไหว้พระมหาเจดีย์ชเวดากองและถวายปัจจัยเป็นค่าไฟให้กับทางวั 3 คืน (คิดเป็นเงินไทยคืนละประมาณ 650 บาท) โดยเรากำหนดอธิษฐานว่าจะให้เป็นวันไหน พอกลับถึงบ้านและถึงวันที่เรากำหนดไว้ก็ยกมืออนุโมทนาเอาที่บ้านครับ .... จากชเวดากองวันนี้เรามีนัดกับเจ้าของบริษัท Myanmar Delight Travel & Tour ที่เราซื้อทัวร์และให้เขาการเรื่องทัวร์ทริบนี้ให้ ที่ร้านอาหารในทะเลสาบกันดอว์ยี ในย่างกุ้ง โดยทาง Dr. Myint Shwe Zin (หมอซิน) ได้มาร่วมและมอบของที่ระลึกให้กับทุกคนโดยวิธีการจับสลากเอา เจ้าของบล๊อกได้กำไลหยก 2 อัน (ของคนใกล้ตัวด้วย) บรยยากาศเป็นไปด้วยดี .... ซึ่งก็คือบรรยากาศก่อนอำลาครับ



ถ่ายภาพร่วมกันที่ร้านอาหารในทะเลสาบกันดอว์ยี ย่างกุ้ง



จับฉลากรางวัลกัน


ตอนเช้าเราเช็คเอาท์จาก Mother Home Motel ที่ย่างกุ้งแล้วออกเดินทางไปสนามบินนานาชาติย่างกุ้ง แต่ระหว่าทางเราให้ไกด์คุณเอ็ดดี้พาไปถ่ายภาพมหาเจดีชเวดากองอีกครั้ง และไกด์เราก็พาไปแวะที่นี่ด้วยครับ วัดมหาวิชยเจดีย์ (Maha Wizaya Pagoda) ซึงอยู่ติดกับเจดีย์ชเวดากองทางทิศใต้ เจดีย์มหาวิชยเจดีย์ถูกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2523 มีความเชื่อของชาวเมืองว่า มีพระเกศาธาตุอีก สองเส้น ลักษณะเด่นของมหาวิชยเจดีย์ ห้องโถงอลังการ เจดีย์สีขาว-ทอง เพดานเป็นท้องฟ้า ผนังรอบๆเป็นภาพต้นโพธิ์ มีภาพพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า ตรงกลางประดิษฐานพระพุทธรูป 8 องค์ จึงทำให้ที่มหาเจดีย์แห่งนี้เป็นที่นับถือของชาวเมือง และนักเที่ยวมาสักการะกราบไหว้บูชากันอย่างเนืองแน่น




แวะไหว้พระที่มหาวิชยเจดีย์ (Maha Wizaya Pagoda) ... ภาพด้านในเจดีย์



ถ่ายภาพร่วมกันที่วัดมหาวิชยเจดีย์...เห็นยอดเจดีย์คือมหาเจดีย์ชเวดากอง



Maha Wizaya Pagoda, Yangon



แวะถ่ายภาพมหาเจดีย์ชเวดากองจากด้านนอก



อีกมุมของมหาเจดีย์ชเวดากอง



ถนนในย่างกุ้ง



สาวๆพม่าพักเที่ยงจากการทำงาน



ถ่ายกับ Driver และ Helper ที่พาเราตระเวณย่างกุ้ง พระธาตุอินทร์แขวนและหงสาวดี



ถ่ายภาพกับหมอซิน (Dr. Myint Shwe Zin) เจ้าของ Myanmar Delight Travel & Tour







ถ่ายภาพกับไกด์ผู้อัธยาศัยดี Edward Zeya (Eddy)


งานเลี้ยงต้องมีการเลิกลา...วันที่ 29 ตุลาคม Dr. Myint Shwe Zin ได้มาส่งเราที่สนามบินนานาชาติย่างกุ้งด้วย และตามธรรมเนียมของนักท่องเที่ยวสายบุญ ก็ได้มอบสินน้ำใจจำนวนหนึ่งกับไกด์ผู้น่ารักของเรา Edward Zeya ผู้นำพาเราไปเกือบครึ่งประเทศเมียนมา ตลอดถึงคนขับรถบัสและผู้ช่วยก็ได้รับสินน้ำใจจากชาวคณะกอล์ฟ & ครอบครัวของเราเช่นกัน

ทริบนี้เราไปถึงเมียนมาวันที่ 29 ตค. 2017 ด้วยสายการบิน air asia เที่ยวเช้า 8.00 น.  

วันที่ 1 ย่างกุ้ง- ไจก์ติโย แวะเที่ยวชมเจดีไจท์ปุ่น พระนอนยิ้มหวาน มหาเจดีย์ชเวมอดอว์ พระราชวังบุเรงนอง และพระธาตุอินทร์แขวน พักที่ Hotel Kyaikhto ใกล้ๆพระธาตุ
วันที่ 2 ไจก์ติโย-ย่างกุ้ง เรากลับมาเที่ยวที่ย่างกุ้ง โดยแวะทำบุญทีวิทยาลัยสงฆ์หงสาวดีก่อน แล้วเข้าย่างกุ้งไปไหว้พระที่พระนอนตาหวาน พระพุทธรูปหินอ่อน และชมช้างเผือกพม่า พักที่ย่างกุ้ง Mother Home Motel
วันที่ 3 ย่างกุ้ง-ยองอู เราบินสู่พุกาม ชมตลาดยองอู เจดีย์ชเวซิโกน และทะเลเจดีย์พุกาม ชมการแสดงชักรอกหุ่นแบบพม่า พักที่พุกาม Sky view Hotel
วันที่ 4 บินจาก ยองอู-มัณฑะเย์ ชมวัดเจดีย์นมสาวที่เมืองสะกายน์ ไหว้พระมหามัยมุนี วัดชเวนันดอว์ วัดกุโสดอว์ สะพานไม้อูเบ็ง พักที่ Nova Hotel มัณฑะเลย์ 
วันที่ 5 บินจากมัณฑะเลย์ไปเฮโฮ จากเฮโฮนั่งรถเข้าเมืองยองชเว แล้วนั่งเรือไปชมวิถีชีวิตชาวอินทาที่ทะเลสาบอินเล เช่นการประมง การทอผ้าใยบัว และไปกราบพระบัวเข็ม พักที่ยองชเว Royal Inle Hotel
วันที่ 6 เราบินกลับย่างกุ้ง เพื่อไปเที่ยวตลาดสก๊อต เจดียโบตาทาวน์ และมหาเจดีย์ชเวดากอง  พักที่ย่างกุ้ง Mother Home Motel
วันสุดท้าย วันที่ 7 เราไปไหว้พระที่มหาวิชยเจดีย์ ก่อนกลับกรุงเทพฯ

พม่าเป็นเมืองที่เคร่งพุทธมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก ฉะนั้นสิ่งก่อสร้างที่เกี่ยวกับศาสนาพุทธ เช่น วัด เจดีย์ จึงมีมากมายทั่วประเทศ และชาวพุทธในพม่าจะเข้าวัดไหว้พระทำบุญกันอย่างจริงจัง บางสถานที่ๆอยู่ไกลๆเช่นพระธาตุอินทร์แขวน พวกเขาก็พากันไปนอนพักเพื่อสักการะกันที่ตรงนั้นเลย...เราได้ไปเห็นโบราณสถานที่ยิ่งใหญ่อย่างเช่นทะเลเจดีย์ที่พุกาม จึงถึงกับทึ่งในความสามารถและความศรัทธาของผู้คนในสมัยนั้น นี่ถ้าพุกามไม่เจอภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวหลายครั้งหลายคราแล้ว เราคงได้เห็นความยิ่งใหญ่และงดงามของเจดีย์ทั้ง 4000 แห่งคงอยู่ให้เราได้ชื่นชม ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมพม่าในอดีตถึงยิ่งใหญ่และมีอำนาจมากในดินแดนอุษาคเนย์ .... 7 วันในเมียนมาทำให้เราพบเห็นและเข้าใจประเทศเมียนมามากขึ้น ไม่แปลกใจหรอกที่จะพูดว่าดินแดนที่พุทธทำนายว่าศาสนาพุทธจะเจริญรุ่งเรืองที่สุด ก็คือดินแดนแห่งสุวรรณภูมินี้ และในความหมายนั่นคือเมียนมาหรือพม่านี่เอง


Smileyขอบคุณที่ตามอ่านมาตลอดครับSmiley




ลาด้วยภาพมหาเจดีย์ชเวดาดากอง (ภาพนี้ถ่ายไว้เมื่อปี 2014)








 

Create Date : 13 ตุลาคม 2561
8 comments
Last Update : 17 ตุลาคม 2561 16:38:10 น.
Counter : 3158 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณSweet_pills, คุณKavanich96, คุณtuk-tuk@korat, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณหอมกร, คุณRinsa Yoyolive, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณเริงฤดีนะ

 

ภาพสวยมากค่ะคุณวิค

พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง วัดมหาวิชยเจดีย์และเจดีย์โบตาทาวน์งดงามมากค่ะ
นอกจากได้ชมภาพสวยๆและทราบประวัติวัดแล้วยังได้เห็นวิถีชีวิตและบรรยากาศแถวเมืองยองชเว
ได้รู้จักตลาดสก๊อตและวิธีทดสอบหยกแท้ หยกเทียมอีกด้วย
ขอบคุณคุณวิคมากค่ะ

 

โดย: Sweet_pills 13 ตุลาคม 2561 18:48:33 น.  

 

ขอบคุณที่แบ่งปัน

 

โดย: Kavanich96 15 ตุลาคม 2561 1:32:08 น.  

 

ขอบคุณคุณวิคที่แวะชมนะคะ
แล้วจะตามเที่ยวกับคุณวิคต่อค่ะ

 

โดย: Sweet_pills 17 ตุลาคม 2561 0:12:51 น.  

 

ตามข้ามไปเที่ยวพม่าด้วยคนค่ะ

ป.ล. ภาพสวยมากค่ะ

 

โดย: โอน่าจอมซ่าส์ 18 ตุลาคม 2561 10:58:22 น.  

 

รูปสวยมากค่ะ

 

โดย: sawkitty 21 ตุลาคม 2561 11:59:44 น.  

 

wicsir Travel Blog ดู Blog
ภาพงดงามบ้านเมืองของเขาช่างดูราวกับภาพฝัน
บรรยากาศผู้คนในบ้านเขาคล้ายในเมืองอินเดียมากเลยคุณวิก

 

โดย: หอมกร 22 ตุลาคม 2561 11:19:09 น.  

 

ไปพม่าเน้นไหว้พระถูกต้องแล้วค่า
ทริปสายบุญกันเลยแบบนี้ ไปกันยาวๆ มากเพราะแต่ละที่ห่างกันต้องใช้เวลาในการเดินทางกันมากจริงๆค่า
อยากไปเจอตอนฟ้าสวยๆ นี่แดดก็แรงเอาเรื่อง พอเจอฟ้าหม่นก็มีอวสานสายแลนด์อีกแหน่ะ
แต่ยังไง ก็คือได้ออกเดินทางท่องโลก รินไปเองนี่สองวันได้แค่ไม่กี่ที่เท่านั้นค่า
เที่ยวตอนมีแรงนี่ดีที่สุด จริงๆ

 

โดย: Rinsa Yoyolive 23 ตุลาคม 2561 10:19:37 น.  

 

จริงแท้แน่นอนค่ะ
เมียนมาร์เป็นพุทธศาสนิกชนที่เคร่งมากที่สุดในโลก

เวลามีงานบุญ วัพระใหญ่ ในพุทธศาสนา
ที่วัดวาอารามต่างๆในเมืองไทย
มีแต่ชาวเมียนมาร์
ทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน นุ่งโสร่งปลิว
บ้างก็ แต่งธรรมดา ล้นวัดไปหมด


ทริปเมียนมาร์งวดนี้ ได้เที่ยวทั่วเลย
เพื่อนบล็อคเลยได้อานิสงค์ ตามชมความงามของมหาเจดีย์
และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่งามวิจิตร
ขอบคุณมากๆค่ะ

 

โดย: เริงฤดีนะ 27 ตุลาคม 2561 8:57:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2561
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
13 ตุลาคม 2561
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.