★ Breaking and Entering ... บุกเข้ามา แล้วคว้าเอาไป (2007)




วิล ฟรานซิส (จู๊ด ลอว์) หนุ่มนักออกแบบภูมิสถาปัตย์ ย้ายครอบครัวเข้ามาทำงานย่านสถานีรถไฟใต้ดินคิงส์ ครอส แถบตอนเหนือของลอนดอน และเขามีโครงการพัฒนาแหล่งชุมชนของย่านนี้อยู่ในการออกแบบของบริษัทเขาเองด้วย วิล มี ลีฟ (โรบิน ไรท์ เพนน์) แฟนสาวที่คบหากันมานานและ บี (พ็อพพี โรเจอร์) เด็กสาวพฤติกรรมพิเศษ (Autism) สองแม่ลูกนี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของเขาที่สำคัญ แต่ความผูกพันในปัจจุบันก็กำลังเคลื่อนไปในแนวนิ่งเนือยเช่นกัน

วันหนึ่งบริษัทของวิล ถูก มีโร่ (ราฟี เกฟรอน) เด็กหนุ่มแก็งค์ขโมยของและพวกเข้ามางัดแงะเอาทีวีจอยักษ์, คอมพิวเตอร์และอื่นๆ แถมยังคว้าคอมพิวเตอร์แลปทอปของเขาไปด้วย เมื่อมีโร่และพวกบุกเข้ามางัดอีกครั้ง วิลซึ่งดักซุ่มรออยู่ก็วิ่งตามไล่กวดมีโร่ไปจนถึงบ้าน และเขาได้พบกับแม่ของมิโร่

อมีร่า (จูเลียต บิโนช) ม่ายสาวชาวบอสเนียน อาศัยอยู่กับ มีโร่ ลูกชาย โดยตัวเธอทำงานอาชีพรับจ้างเล็กๆน้อยๆและ รับตัดเย็บเสื้อผ้า ปะชุน มีเปียโนไม้ไร้เสียงไว้คอยเล่นยามต้องการผ่อนคลาย เธอได้ วิล เป็นลูกค้าใหม่ ที่วนเวียนเอาเสื้อ กางเกงมาให้ปะมาให้สอย ทั้งสองได้พูดคุยกันบ้าง และเปิดรับใจกันและกัน ซึ่งประจวบเหมาะกับที่พักหลังๆ วิลและลีฟ กำลังระหองระแหงกันจากเรื่องหน้าที่การงานและเรื่องของ บี

จนวันหนึ่ง อมีร่า รู้เข้าว่าการที่ วิล มาใกล้ชิดกับเธอนั้นอาจเป็นเพราะเขารู้ว่าลูกชายเธอเป็นหนึ่งในเด็กแก็งค์ขโมยของของเขาและตามมาสืบให้แน่ใจแล้วคงแจ้งตำรวจ ด้วยการที่เธอเป็นคนต่างด้าว อพยพเข้ามาและอาศัยอยู่อย่างหวาดระแวง เลยไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เธอจึงต้องหาวิธีไม่ให้ วิล แจ้งจับลูกชายเธอ




แอนโธนี่ มิงเกลล่า ผู้กำกับหนังชาวอังกฤษ กลับมาให้นิยามของความรักอีกครั้งหนึ่งใน Breaking and Entering โดยก่อนหน้านี้เคยเล่าเรื่องราวรักระหว่างรบและจบแบบทำร้ายจิตใจคนดูมาแล้วจาก Cold Mountain (2003) และ ก่อนหน้านั้นย้อนไปปี 1999 ก็เป็นเรื่องของการเสแสร้งแกล้งรักใน The Talented Mr.Ripley และที่สำคัญ มิงเกลล่าเลือก จู๊ด ลอว์ ดารานำชายมาแสดงให้ทั้งสามเรื่องตามที่กล่าวไว้ในข้างต้น แถม จูเลียต บิโนช ดาราสาวชาวฝรั่งเศส ก็เคยมีโอกาสได้ร่วมแสดงในหนังของ มิงเกลล่า มาแล้วจากเรื่อง The English Patient (1993) ซึ่งเรื่องนี้ก็เล่าเรื่องราวรักรันทดเช่นกัน

ในหนังเรื่อง Breaking and Entering นี้อยากจะตั้งข้อสังเกตุว่า ชื่อของหนัง มีความสำคัญในการสื่อความหมายต่อเรื่องราวที่ถูกเล่าในหนัง ทั้งในระดับตัวบุคคล เรื่องการเมืองและรวมไปถึงระดับโลก!

เริ่มตั้งแต่
สถานีคิงส์ ครอส เป็นชุมชนแหล่งรวมของแรงงานต่างด้าว ที่มาจากทั่วทุกสารทิศ หลายเชื้อชาติ หลากวัฒนธรรม หลากอาชีพ

กลุ่มแก็งค์ของญาติฝ่ายพ่อของมีโร่ ก็ทำงานขายของแบบซื้อมาขายไปแต่นั่นแค่เป็นฉากเบื้องหน้า เบื้องหลังคือให้พวกเด็กหนุ่มในแก็งค์ไปตามงัดแงะเอาสินค้าที่ขายไปนั้นกลับมาและเอาไปขายต่อ, เอริก้า สาวชาวไนจีเรียน (entering) ทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดในบริษัทของ วิล, อวาน่า โสเภณีสาวสำเนียงการพูดแปลกๆ (entering) ก็แกร่วรอลูกค้ามาใช้บริการอยู่แถบแถวบริษัทของวิล (รับบทโดย เวอร์ร่า ฟาร์มิก้า, The Departed, Running Scared, 2006)





วิล และ ลีฟ (ลีฟเป็นชาวสวีดิช = entering) กับ บี มาจากที่อื่น ย้ายมาอยู่แถบสถานีคิงส์ ครอส (entering) และบริษัทของวิล ก็มีโครงการที่จะพัฒนาแหล่งชุมชนและสิ่งแวดล้อมนี้ให้ดีขึ้น โดยสร้างคลองผ่าตัวเมืองจัดภูมิทัศน์เสียใหม่ ซึ่งหมายถึงต้องมีการรื้อถอน (breaking+entering)

วิล กับ อมีร่า ได้พบเจอกันและได้คบหาสานสัมพันธ์กัน ต่างคนต่างยินยอมให้อีกฝ่ายเข้าไปนั่งในหัวใจ เรียนและรู้กันและกัน (breaking+entering)

อมีร่า เป็นสาวชาวบอสเนียนกลุ่มนับถือมุสลิม สามีเธอเป็นชาวเซิร์บ (เธอเอ่ยไว้อยู่ครั้งหนึ่ง)และเสียชีวิตในช่วงที่เกิดวิกฤตสงคราม (breaking) อมีร่า เข้ามาอาศัยอยู่ในลอนดอน (entering) โดยเข้ามากับกลุ่มของสภากาชาติอังกฤษ ซึ่ง ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีน่านั้นก็เป็นประเทศที่แยกตัวออกมาจากประเทศยูโกสลาเวีย (breaking)

สุนัขจิ้งจอก ที่เข้ามาป้วนเปี้ยนที่สนามหน้าบ้านของวิล (entering) ก็เกิดจากที่ปกติแล้วแถบชานเมืองลอนดอนที่เป็นพื้นที่ป่า จะมีฝูงสุนัขจิ้งจอกแดง (Red Fox) อาศัยอยู่ แต่เมื่อผู้คนต้องการใช้พื้นที่ แหล่งหาอาหารของสุนัขจิ้งจอกแดงก็ร่อยหรอ จนพวกมันต้องเข้ามาหาเศษอาหารในย่านที่คนพักอาศัย (breaking+entering)

มีโร่ ทุบกระจกด้านบนตัวอาคารของบริษัทของ วิล และเข้ามาขโมยของ (breaking+entering) ซึ่งชื่อบริษัทของ วิล ชื่อ Green Effect แล้วโดนทุบกระจกจากด้านบน ก็เทียบได้คล้ายกับการเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก (The Green House Effect ) ที่โลกของเรากำลังเผชิญกับมันอยู่

แต่แม้หนังจะแทรกเจือความหมายของชื่อหนัง ไว้ทั่วตลอดทั้งเรื่องแล้ว แต่หลักใหญ่จริงๆนั้น หนังให้ข้อคิดได้อย่างชัดเจนอย่างน้อยน้อยก็หนึ่งข้อ คือเรื่องของสถาบันครอบครัว

วิล เก็บภาพของครอบครัวเขาเองทั้งภาพลีฟและบี ไว้ในคอมพิวเตอร์แลปทอป ซึ่งโดนขโมยไป วิลโวยวายและเสียดายว่านั่นคือชีวิตของเขา นั่นหมายถึง วิลไว้ใจและให้ความสำคัญกับภาพ กับคอมพิวเตอร์ซึ่งพูดไม่ได้ ไม่มีชีวิตจิตใจและปราศจากความรู้สึก แทนที่จะเป็นการแสดงออกกับคนในครอบครัวจริงๆที่คอยรับความเอาใจใส่จากเขาอยู่

วิล ลิฟ และ บี เป็นครอบครัวเล็กๆที่ยังพยายามก่อร่างให้เป็นครอบครัวที่แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา แต่ในตอนนี้ที่ยังโงนเงนอยู่ก็เป็นเพราะ วิลมุ่งมั่นทำงาน ลีฟต้องดูแลลูกสาวอย่างใกล้ชิดเพราะ บีเป็นเด็กพิเศษ ก็เลยเหมือนว่าทั้งสองคนนี้มีโลกส่วนตัวที่บางครั้งวิลก็ไม่สามารถเข้าไปอยู่ด้วยได้ แล้วเมื่อเขาได้พบกับอมีร่า ความซื่อตรง ความเจียมตนและความอ่อนหวานมีน้ำใจของเธอ จึงทำให้เขารู้สึกดีและอยากใกล้ชิด ต่อเมื่อเกิดอุบัติเหตุกับคนในครอบครัวนั่นแหละ วิลถึงรู้สึกตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่

นั่นคือสิ่งที่แย่ที่สุด หากวงจรชีวิตแบบนี้ได้เกิดขึ้นกับครอบครัวใดๆอีกหลายครอบครัว

เมื่อสิ่งที่เรารัก (จะ) จากเราไป เราจึงเริ่มมองเห็นและตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งนั้น ถ้าโชคดี ก็จะได้มันกลับคืนมาทัน

แต่ถ้าไม่…ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย






 

Create Date : 23 กันยายน 2550
21 comments
Last Update : 25 กันยายน 2550 11:45:53 น.
Counter : 2078 Pageviews.

 

ผมมา Entering ครับ อิอิ

ไม่นึกว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้มองได้หลายแง่มุมขนาดนี้(แต่ผมยังไม่ได้ดูนะ)

โปสเตอร์หนัง ดูไว้ใจใึครไม่ค่อยได้เลยแฮะ

 

โดย: คำห้วน-lopzang-เฉือนคำรัก 23 กันยายน 2550 16:08:13 น.  

 

น่าดูจริงๆเรื่องนี้

 

โดย: nanoguy 23 กันยายน 2550 18:17:46 น.  

 

มาเยี่ยมค่ะ
อยากดูๆๆๆ เรื่องนี้ ... อิ อิ ใจง่ายจัง จขบ. มารีวิวเรื่องไหน เราก็อยากดูหมด ชอบจูเลียต บินอช แต่เล่นทีไรทำไมเธอถงชอบได้บทม่ายสาวลูกติดก็ไม่รู้สิ

มีความสุขในเย็นวันอาทิตย์นะคะ

 

โดย: the Vicky 23 กันยายน 2550 20:01:35 น.  

 

jude Law พ่อหนุ่มหน้าหวาน
มีเสนห์ ที่สาว ๆ ต้องไม่ควรพลาด
ผมเองก็ยังไม่เคยดูเรื่องนี้เหมือนกัน
แต่จากที่เคยดูหนังที่หมอนี่เล่น แต่ละเรื่อง
ก็ออกเเนวเปรียวๆ และฉีก เเบบหวาน
ยังงัยพิกล นะ

ต้องรีบหามาดูเล้ว ง่ะ

 

โดย: haro_haro 24 กันยายน 2550 10:54:53 น.  

 

อืมม...ยังไม่ได้ดูเลยแหะ แต่ก็เห็นด้วยน่ะกับคนนึงจากบล็อคที่แล้วของเรนตั้น (บล็อคไหนหว่า) ที่ว่ายิ่งเขียนก็ยิ่งดีจริงๆเลย โดยเฉพาะเรื่องการอ่านความหมายระหว่างบรรทัดในหนังเนี่ย เป็นเราคงคิดหัวระเบิดตายไปเลย

หนังที่ซื้อมาเหรอ...ก็ไม่เยอะเท่าไหร่อ่ะ ดูไปสามสี่เรื่องแล้ว
Evening
Lucky You ---> ดูแล้ว แล้วก็อัพวันนี้เอง
Bug
If....
Serenity ---> ซื้อเก็บ
The Last Picture Show
The Hoax
Aqua Teen Hunger Force ---> ดูแล้ว หนังนรกจริงๆ คนสร้างมันต้องเมาแน่ๆ
Pusher: Trilogy
Fido
The TV Set
In the Land of Woman
Ocean's Thirteen ---> เชยอ่ะ เพิ่งดู ดูแล้วก็...เฉยๆ

 

โดย: BloodyMonday 24 กันยายน 2550 11:08:28 น.  

 

หนังแอนโทนี่ มิงเกลล่า ไม่เคยผิดหวังเลยครับ
ละเมียดละไมมากๆ

enjoy your day

 

โดย: Holden Caulfield 24 กันยายน 2550 14:07:16 น.  

 

เป็นหนังของมิงเกลล่าที่ดูเงียบๆ มากเลยครับ เป็นธรรมดาเพราะหนังดังของเขามันเยอะ คงต้องมีฟอร์มแรกบ้าง ผมมีแผ่นยังไม่ได้ดูเลยแต่คิดว่าจะเปิดดูสักที

 

โดย: Johann sebastian Bach 24 กันยายน 2550 19:18:48 น.  

 

มาแล้วจ้าคุณเรนตั้น ยังรีวิวหนังได้น่าสนใจเหมือนเดิมเลยนะค่ะ
เนื้อเรื่องน่าสนใจดีจัง เป็นสิ่งที่เกิดกับทุกๆครอบครัวเลยล่ะ
แหะๆ ชอบjude Lawด้วยล่ะ คนอะไรตามีเสน่ห์ดีจัง

 

โดย: i_am_redangel 25 กันยายน 2550 0:15:09 น.  

 

ถอดรหัสความหมายได้น่าสนใจดีครับ

ยังไม่ได้ดูเลย ไว้หาเช่ามาดูครับ

 

โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ 25 กันยายน 2550 2:08:17 น.  

 

อืมม น่าสนใจแฮะ
ไม่ได้ดูหนังของ จูเลียต บิโนช มานานแล้วเหมือนกันล่ะ

 

โดย: สะเทื้อน 25 กันยายน 2550 18:13:37 น.  

 


อยากดู เพราะได้ข่าวว่าเพลงประกอบเพราะ

 

โดย: merveillesxx 26 กันยายน 2550 2:06:28 น.  

 

คุณ คำห้วนฯ
^_^

nanoguy
^_^

คุณ the Vicky
^_^ ขอบคุณค่าที่แวะมาเยี่ยมเยือน

คุณ haro_haro
^_^

BdMd
หนังใหม่เพียบเลยสิ ^_^
..ขอบใจสำหรับคำชม ^_^

คุณ Holden Caulfield
^_^

คุณ Johann sebastian Bach
^_^

นางฟ้าสีแดง
^_^
(ดีใจด้วยค่ะ 2-0 เชลซี)

น้าเอ้
^_^

พี่หนุ่ม
^_^

เมอร์
^_^

 

โดย: renton_renton 26 กันยายน 2550 7:58:26 น.  

 




World Film Fes' in Bangkok 2007

หนังที่มาฉายแน่ๆคือ 4 luni, 3 saptamani si 2 zile (2007)
4 Months, 3 Weeks and 2 Days

Cannes Film Festival 2007
Won + Golden Palm
Won + FIPRESCI Prize
Won +Cinema Prize of the French National Education System




และ...นอกจากนี้ เท่าที่เห็นตัวอย่างในทีวี (ซึ่งน่าจะเป็นไตเติลสำหรับโปรโมทเทศกาลนี้อ่ะนะ)

Krisana (2005)
Fallen :: Latvia / Germany




Alice(2005)
Country:: Portugal




Bikur Ha-Tizmoret (2007)
The Band's Visit
Country :: Israel / France




Meduzot (2007)
Jellyfish
Country :: France / Israel


 

โดย: renton_renton 26 กันยายน 2550 8:26:47 น.  

 

4 Months, 3 Weeks and 2 Days ---> I wanna watch

 

โดย: BloodyMonday 26 กันยายน 2550 13:12:50 น.  

 

สปอยเลอร์ อเฮต...



หลังเครดิต Bug ก็ไม่มีอะไรมากอะน่ะ นอกจากเค้าโชว์ให้เห็นของ
เล่นและเสื้อผ้าของลูกนางเอกอ่ะ บางทีผกก.เค้าก็อยากให้เราแน่ใจว่า
เธอมีลูกจริงๆ ตัวของหมอ ตัวของปีเตอร์เองก็มีจริง การเผาในตอน
สุดท้ายก็เป็นจริง เพียงแต่บางทีเรื่องของแมลงอาจจะไม่ใช่ก็เท่านั้น

เราว่าหนังมันก็ดีน่ะในส่วนที่แสดงให้เห็นความเหงา ความโดดเดี่ยว
และความรู้สึกผิดในการหายไปของลูกของนางเอก จนเมื่อคุณปีเตอร์
มาเติมเต็มในส่วนที่เธอขาดหายไป เพียงแต่ว่าเค้าคนนั้นมาเติมใน
เส้นทางที่หลุดออกไปเลย ผลลัพท์มันก็กลายเป็นอย่างที่เห็น
แบบนี้แหละ...

บางที นี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นหนังโรแมนติคเรื่องหนึ่งก็ได้น่ะ

 

โดย: BloodyMonday @ H.O.M.E. IP: 124.120.64.235 27 กันยายน 2550 10:28:08 น.  

 

หนังเรื่องนี้ออกเป็นเเผ่นได้ซักพักแล้วหนิหน่า
เอ้ นี่เราลืมไปได้ไงอะ

ว่าแต่อ่านดู มันน่าสนใจมาก

 

โดย: haro_haro 27 กันยายน 2550 14:40:19 น.  

 

World Film Fes' in Bangkok 2007

หนังที่มาฉายแน่ๆคือ 4 luni, 3 saptamani si 2 zile (2007)
4 Months, 3 Weeks and 2 Days

Cannes Film Festival 2007
Won + Golden Palm
Won + FIPRESCI Prize
Won +Cinema Prize of the French National Education System


ตอบ เรื่องนี้น่าดูค่ะ มีฉากทำแท้ง ลองช๊อต ไม่ตัด

น่ากัว น่ากัว

 

โดย: Bernadette 27 กันยายน 2550 18:33:44 น.  

 

เอ๋ เรื่องนี้เข้าตั้งนานแล้วไม่ใช่เหยอ
พอฟังชื่อเรื่องแล้วมันแหม่งๆนะ

 

โดย: แป๊กก 30 กันยายน 2550 6:07:43 น.  

 

วู้ วีแกน 0-1 ลิเวอร์พูล
นึกว่าจะเสมออีกซะแล้ว อึดอัดแต่เชียร์ต่อไป

 

โดย: getterTu 30 กันยายน 2550 16:04:05 น.  

 

โอ้ว ไม่น่าเชื่อว่าหนัง 2 เรื่องที่ผมดูแล้วชอบ มาจากผู้กำกับคนเดียวกัน (Cold Moutain / The Talented Mr.Ripley)

ไม่เคยทราบชื่อผู้กำกับมาก่อนเลย พึ่งรู้ว่าชื่อแอนโธนี่ มิงเกลล่า ก็ใน Blog แหละ เขิลจัง

 

โดย: Tony KooN (tk_station ) 30 กันยายน 2550 22:53:30 น.  

 

มิงเกลล่าเป็นคนที่กำกับหนังได้ละเมียดละไม สละสลวยเสมอ ที่อบากดูเพราะเป็นหนังของมิงเกลล่านี่ล่ะค่ะ

และพ่อหนุ่มลอว์ก็ยังหล่อเหมือนเดิม ......

 

โดย: Michiru 4 ตุลาคม 2550 16:27:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


renton-renton
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Photobucket.Just wait until night then switch the light off
DeUsynlige (2008) Erik Poppe : : หนึ่งเป็นผู้ทำลาย หนึ่งเป็นฝ่ายสูญเสีย เวลาผ่านต่างฝ่ายต่างเริ่มชีวิตใหม่แต่ที่สุดแล้วโชคชะตาก็นำพาให้ทั้งสองต้องมาเผชิญหน้ากัน ~ ถึงพล็อตจะสามัญแบบนี้แต่หนังวางสถานการณ์ที่แสดงและเหตุการณ์ที่ซ่อนอยู่ได้หมาะกันดีมาก การถ่ายโอนตัวละครจุดศูนย์กลางของเรื่องจากคนหนึ่งไปคนหนึ่งก็ไหลลื่น เรื่องราวที่บรรจุความกดดันต่อสู้กับตัวเองของตัวละครก็เข้มข้น และ "โอกาส" เป็นสิ่งที่หนังขอให้เราเห็นเป็นสำคัญเพราะที่สุดแล้วเราจะเห็นว่าฝ่ายที่เคยสูญเสียกลับด้านมาเป็นผู้ทำลายบ้าง ทั้งหมดเป็นความละเอียดในอารมณ์ของผกก.ที่ทำออกมาได้น่าชื่นชมจริงๆ
Adventureland (2009) Greg Mottola : : เด็กหนุ่มพรหมจรรย์และเด็กสาวเมียเก็บนายช่างของสวนสนุกเกิดลังเลในความรู้สึกที่มีให้แก่กัน ครั้นจะจูนกันติดกลับมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันซะงั้น ~ ปั๊ปปี้เลิฟสนุกๆ ประสาวัยรุ่นวัยเรียน ฉากหลังเป็นยุค 80 ที่มีกัญชาเป็นสื่อกลางสร้างความสัมพันธ์ เพลงดิสโก้ ฟังก์ พั้งค์ จากยุคนั้นก็อัดกันขนกันมาเพียบ เพลิน และมองว่า คริสเตน สจ๊วต นั้นดูทื่อมะลื่อไงไม่รู้
Mutum (2007) Sandra Kogut : : เด็กชายคนหนึ่งแถบบ้านนาของบราซิล ต้องเผชิญกับความดุดันของพ่อ สนิทกับอาแต่เหมือนเขาจะมาจีบแม่ ถูกเพื่อนวัยเดียวกันเหน็บแนมและที่สำคัญคือสูญเสียเพื่อนรักที่สุดในชีวิต ~ อะไรจะแกร่งเกินนี้ไม่มีอีกแล้ว เจ้าหนูไม่ได้อยู่ในร่างของคนมองโลกในแง่ดี หากแต่ให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยความเข้าใจและมองถึงสิ่งที่ตนต้องทำ ... ชอบเรื่องที่แทรกอยู่เล็กๆ อย่างความผิดปกติทางสายตา (สายตาสั้น) เมื่อมันเกิดขึ้นกับคนในชนบทซึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร จะเห็นความแตกต่างก็ต่อเมื่อได้ลองสวมแว่นตาเท่านั้น
Dalkomhan insaeng (2005) Ji-woon Kim : : มือขวาของเจ้าพ่อฝีมือสุดเนี้ยบทำการใดไม่เคยล้มเหลว ตีรันฟันแทงเตะต่อยขอให้บอก แต่จะมาตายเอาก็เพราะริอาจมีใจให้ “เด็ก” ของเจ้าพ่อ ~ หนังแก็งส์เตอร์ของพี่ๆ เกาหลีเขาต้องบอกว่าออกแบบท่าทางกันมาดี ดูแล้วเพลิน นึกถึง Transpotter ที่ เจสัน สเตแธม ในชุดสูทหรูระยับแต่ยกแข้งขาถีบยันได้ดีเอาเรื่อง ทรยศหักหลังยังเป็นชนวนหลักที่สร้างสีสันให้กับหนังแนวนี้ สนุกดีแม้จะชวนสับสนนิดหน่อยว่าใครอยู่ฝ่ายไหนลูกน้องใคร (ก็หน้าตาเขาคล้ายกันน่ะ)
Noise (2007) Matthew Saville : : หนังมีส่วนผสมของความเป็นหนังเขย่าขวัญอยู่เพียงส่วนหนึ่งทั้งๆ ที่มีเหตุสะเทือนขวัญรุนแรง แต่... อ่านต่อ ที่นี่
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
23 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add renton-renton's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.