ชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไป? หากตื่นขึ้นมาวันหนึ่งแล้วรับรู้ว่า คนรักของคุณได้จากโลกนี้ไปแล้ว...

นักจัดรายการวิทยุรายการ Street Walk สำหรับเมืองนิวยอร์ค เอริก้า เบน (โจดี้ ฟอสเตอร์) มีแผนการจะแต่งงานกับ เดวิด (นาวีน แอนดริวส์) หมอหนุ่มคู่หมั้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่วันหนึ่ง ขณะที่กำลังเดินทางกลับบ้าน ผ่านสวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์ค ทั้งเอริก้าและเดวิด ได้ถูกพวกนักเลงทำร้ายร่างกายอย่างหนักและขโมยสิ่งของมีค่าไป

เอริก้าสลบไสลไปร่วม 3 อาทิตย์ เมื่อฟื้นขึ้นมาเธอจึงได้รู้ความจริงว่า เดวิดเสียชีวิตแล้ว

จากเหตุการณ์เลวร้ายครั้งนั้นทำให้เอริก้าหวาดหวั่นและหวาดระแวงต่อสังคมรอบตัว ไม่กล้าออกจากบ้านไปไหน แม้วันใดจะรวบรวมความกล้าได้ แต่เมื่อต้องเดินผ่านทางแคบๆก่อนถึงประตูหน้าบ้าน มันทำให้ภาพของเธอกับเดวิดที่กำลังถูกทำร้ายร่างกายในอุโมงค์นั้นผุดขึ้นมาทันที

... ทุกบาดแผลย่อมต้องใช้เวลาเยียวยาเพื่อข้ามผ่าน ...

หลังจากนั้น เอริก้าพยายามเรียกร้องหาความถูกต้องจากกระบวนการยุติธรรม ด้วยการไปขอตรวจดูข้อมูลการบันทึกในคดีของเธอ แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสักเท่าไหร่ เธอจึงตัดสินใจที่จะจัดการเคลียเรื่องราวให้จบสิ้นด้วยตัวเอง

โจดี้ ฟอสเตอร์ รับบทเป็นหญิงสาวผู้โดดเดี่ยว เด็ดเดี่ยว และมักตกอยู่ในสถานการณ์ที่กดดันอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ใน Flight Plan (2005) เป็น ไคล์ คุณแม่ที่ต้องพิสูจน์กับทุกคนบนเครื่องบินว่าลูกสาวของเธอหายตัวไปบนเครื่องจริงๆ และเป็น เมก อัลท์แมน คุณแม่และลูกสาววัยราว12 ปี ต้องต่อสู้กับเหล่าโจรที่งัดบ้านเข้ามาขโมยของใน Panic Room (2002) ซึ่งดูดูแล้วน่าจะประมาณได้ว่าพักหลังนี้หนังที่เธอรับเล่นจะออกแนวแอคชั่นและพะบู๊กับเหล่าโจรผู้ร้ายโดยใช้ไหวพริบเข้าแก้ปัญหาเอาตัวรอด แต่ในการเป็น เอริก้า จะต่างออกไปเล็กน้อย ที่เผชิญหน้ากับผู้ร้ายบนความแค้นและเผยด้านมืดของจิตใจเธอด้วย

ใน The Brave One หนังใช้เวลาไม่นานนักช่วงต้นเรื่องในการปูพื้นแนะนำความเป็น เอริก้า ด้วยอาชีพการงาน ชีวิตประจำวันและคนรักของเธอ จนเรายังไม่ทันจะรู้สึกผูกพันกับตัวละครที่เป็น เดวิด ด้วยซ้ำ แต่เมื่อถึงฉากที่ เอริก้า ฟื้นขึ้นมาจากการสลบไสลอันยาวนาน คำแรกที่เธอพูดคือ ต้องการพบเดวิด และยิ่งเมื่อรู้ว่าเดวิดตายแล้ว นั้น เธอกลับทำให้เรารับรู้ถึงความรักอันมหาศาลที่เธอมีต่อคู่หมั้นหนุ่มได้อย่างสนิทใจ เธอทำให้เรามองเห็นคนที่กำลังทุกข์ทรมานและเจ็บปวดกับความจริง การแสดงของ ฟอสเตอร์ ในระหว่างอารมณ์นี้นั้น ต้องขอบอกว่า เธอ เหนือ จริงๆ

หลังจากเธอทำให้เราเชื่อว่าเธอต้องแก้แค้นลงมือเองเพราะการทำงานของตำรวจดูเหมือนว่าผู้ร้ายต้องลอยนวลแล้ว เรื่องราวหลังจากนั้น ก็ไม่ใช่ปัญหา ไม่มีอะไรกังขาใดๆว่าใครจะอยู่หรือตาย แม้สิ่งที่เธอทำจะเป็นเหมือนตั้งตนเป็นศาลเตี้ย ตัดสินเองว่าใครควรตายก็ตาม

หรืออาจเป็นเพราะว่า เราเองก็คงไม่ต่างกันกับเธอ ที่บางครั้งก็ปล่อยให้อารมณ์ลอยอยู่เหนือเหตุผล

แต่...บ้านเมืองมีขื่อมีแป มีกฏหมาย เมื่อมีคนตาย ผู้ร้ายลอยนวล ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวน นักสืบเมอร์เซอร์ (เทอร์เรนซ์ ฮาเวิร์ด) ต้องตามแกะรอยผู้ต้องสงสัย ในขณะเดียวกันที่ความผูกพันที่เขามีต่อเอริก้า ก็มีเพิ่มมากขึ้นตามลำดับด้วย

เพื่อความถูกต้องยุติธรรม หรือ แก้แค้น ? คือคำถามที่คนดูมีต่อ เอริก้า แล้วเป็นคนดูที่ตัดสิน
จะอยู่ข้างเพื่อนใหม่เอริก้า หรือต้องทำตามหน้าที่ ? คือคำถามที่เมอร์เซอร์ ต้องถามตัวเองและต้องตอบกับตัวเองให้ได้

และในท้ายเรื่องก็มีคำตอบทิ้งไว้อยู่ในตัว

The Brave One เป็นผลงานการกำกับของ นีล จอร์แดน ผู้กำกับชาวไอร์แลนด์ที่เคยมีผลงานกับหนังอย่าง Breakfast on Pluto (2005), Michael Collins (1996) รวมทั้ง The Crying Game (1992)

Create Date : 16 กันยายน 2550
Last Update : 16 กันยายน 2550 8:18:49 น.		19 comments
Counter : 1897 Pageviews.
Share Tweet