A Soap … แล้วเราจะรักกันได้ไหม ( 2006 )



ถ้าได้ยินคำว่า ละครน้ำเน่า สิ่งแรกที่วูบเข้ามาในความคิดเดี๋ยวนั้นเลยก็คือ ละครหลังข่าวในช่วงไพร์มไทม์ และต้องเป็นช่อง 7 ด้วยนะไม่รู้ทำไม ทั้งๆที่ฟรีทีวีช่องอื่นๆ เค๊าก็ผลิตออกมาให้ชมเหมือนกัน คำว่า ละคร คำนี้เราพอเข้าใจความหมายว่าหมายถึงอะไร แต่ส่วนคำว่า น้ำเน่า ล่ะ ทำไมน้ำต้องเน่า เน่าแล้วดียังไงไม่ดียังไง ทำไมผู้ชมที่มีโอกาสได้สัมผัสและดูละครที่เราเรียกกันว่าน้ำเน่าแล้ว ถึงต้องติดตามดูกันตลอดไม่ให้คลาดซักตอน

เขาว่ากันว่า ละครน้ำเน่าที่เราเรียกขานกันนั้น มันก็เอามาจากชีวิตจริง ชีวิตประจำวันของเราๆท่านๆนี่แหละ ที่ต่างก็ต้องพบเจอกับการชิงดีชิงเด่น การกลั่นแกล้งอันมาจากความอิจฉาริษยาเกรงผู้อื่นจะได้ดีกว่าตน หรือการเห็นเงินเป็นพระเจ้า โลภมากอยากได้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของตน งานการไม่ทำ อยู่บ้านเฉยๆถลุงสมบัติที่มีและระรานเค๊าไปทั่ว อันนี้คือภาพลักษณ์ของผู้กระทำ ( ตัวร้าย / อิจฉา ) ส่วนผู้ถูกกระทำ ( นางเอก ) ก็มักจะเป็นคนดี ไม่ต่อปากต่อคำ และอ่อนแอ เพื่อให้คนดูสงสารและเอาใจช่วย ตรงนี้กระมังที่ว่าเน่าว่าเอียนว่าเหม็นเบื่อ เพราะเรื่องไหนเรื่องไหนนางเอกก็ร้องไห้เป็นเผาเต่าและมีขีดความอดทนมากกกเกินจนเป็นปกติ แล้วก็ทำออกมาแนวนี้ทั้งนั้น แต่ที่ต้องติดตามตามติดกันตลอดนั้นเพราะ แต่ละตอนมักจะจบด้วยเรื่องราวที่กำลังเข้มข้น มีลุ้น ว่าจะโดนจิกจะโดนตบหรือจะโดนรถชนหรือถูกจับได้หรือเปล่า ซึ่งทำไว้ดึงความรู้สึกของคนดู กระตุ้นให้อยากรู้ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

ละครน้ำเน่าบ้านเฮา น่าจะใกล้เคียงกับคำว่า soap opera ของภาษาอังกฤษ โดยในปี 1930 กลุ่มสื่อมวลชนในอเมริกาได้ตั้งชื่อ soap opera นี้ไว้สำหรับเรื่องราวหรือนิยายวิทยุที่ออกอากาศเป็นตอน โดยมักเป็นแนว drama

และหลังปี 1940 เป็นต้นมา 90 % มักเป็นผลงานของบริษัทโฆษณาสินค้าที่ผลิดละครหรือภาพยนตร์เพื่อนำมาฉายเป็นตอนๆต่อกัน ทั้งกระจายเสียงและออกอากาศทางวิทยุ - โทรทัศน์ในภาคเวลากลางวัน โดยมีกลุ่มแม่บ้านเป็นเป้าหมายสำคัญ และคำว่า soap ก็นำมาจากการที่บริษัทขายสบู่เป็นผู้สนับสนุนหลัก ส่วน คำว่า opera นั้นนำมาใช้ด้วยความประชดประชันในความที่เป็นเรื่องเล่าหรือนิยายเร้าอารมณ์ มีทั้งหัวเราะ ตลก โศกเศร้าเคล้าน้ำตา เหมือนกัน แต่การแสดง opera นั้น จะเพื่อคนในสังคมชั้นสูงและยกระดับจิตใจคนดู

และหนังเรื่อง A Soap ( En Soap :: Danish Title ) นี้ เป็นหนังจากประเทศเดนมาร์ค ซึ่งผู้กำกับก็ได้ชื่อเรื่องโดยตัดตอนมาจากคำว่า soap opera นั่นแล เพราะตัวละครเอก 1 ใน 2 ของเรื่อง เธอติดละครน้ำเน่าภาคกลางวันอย่างงอมแงม และมีชีวิตส่วนตัวที่แสนจะเส็งเคร็ง ถึงยังงั้นก็ตาม แต่ก็ยังมีพลังเหลือพอเพื่อที่จะตะกายใคว่คว้าหาความโรแมนติคให้ได้บ้างอย่างนางเอกในละคร หรืออาจจะเป็นเพราะ ละครมันมีพลังบางอย่างที่จูงมือเธอเดินเข้าสู่สวนฝัน ดึงเธอให้หลุดพ้นจากโลกเน่าๆของเธอ ก็เป็นได้ ส่วนการดำเนินเรื่องในเรื่องนี้ ก็เป็นไปอย่างขนบของ soap opera คือมีจุดพลิกของเหตุการณ์เพื่อดึงอารมณ์ของคนดูให้ใจจดใจจ่อ หรือเอาใจช่วยอยู่บ่อยๆ โดยทำรวมออกมาเป็นทั้งแบบบรรยายเสียงเหมือนละครวิทยุและเห็นภาพเหมือนละครออกอากาศ ตัดสลับกันไป

ชาร์ลอต (Trine Dyrholm ) สาวอายุราว 32 ปี เธอพึ่งย้ายมาเช่าใหม่ที่แฟลตแห่งนี้ และปัญหาในตอนนี้ของเธอคือ เธอไม่สามารถย้ายเตียงเข้าห้องนอนได้ จึงโทรไปตามแฟนเก่าที่เธอพึ่งสลัดเขาทิ้ง ให้มาช่วยออกแรง แต่ไม่ทันไรเกิดพูดจาไม่เข้าหูกันเสียก่อน เตียงนอนก็เลยยังวางอยู่ที่เดิม

ที่ตึกเดียวกัน ห้องชั้นล่าง เวโรนิก้า ( David Dencik ) หญิงสาวในร่างชาย มีเพื่อนคู่ใจคือหมาน้อยที่เธอตั้งชื่อให้ว่า มิสเดซี่ เธอมีรายได้เล็กๆน้อยๆจากการให้บริการชายหนุ่มที่ขาดคนเอาใจในวิธิไม่ธรรมดา เมื่อว่างเว้นจากลูกค้า เธอก็ให้เวลากับการดูละครที่ฉายทางทีวีอย่างตั้งใจ และ ก็กำลังรอจดหมายตอบรับจากทางโรงพยาบาลว่าเธอจะได้รับอนุญาติให้ผ่าตัดแปลงเพศได้หรือไม่



วันหนึ่ง ชาร์ลอต ได้มาขอแรงให้ เวโรนิก้า ไปช่วยย้ายเตียง แม้เธอจะไปช่วยจนย้ายเรียบร้อยแล้ว แต่ด้วยความที่ชาร์ลอต เป็นคนที่พูดและทำแบบไม่ค่อยจะแคร์ความรู้สึกใคร จึงได้พูดเหน็บแนม เวโรนิก้า เรื่องวิกผมของเธอ

เวโรนิก้า สาวผู้อ่อนไหว ที่ชีวิตปกติประจำวันก็หลักลอย จำเจและอุดอู้ ไม่ค่อยได้พบปะใครอยู่แล้ว ครั้นจะมีมาก็แค่ลูกค้า ไม่ก็แม่ที่แอบพ่อแวะมาหา แต่ว่าทุกครั้งก็ยังคงตอกย้ำความเจ็บปวดให้เธอด้วยการเรียก “ อุลริค ” ชื่อแมนแมนชื่อเดิมที่แม่ตั้งให้ แต่พอเจอเพื่อนบ้านใหม่ก็ปากดีพูดไม่คิดถึงใจคนฟังอีก หลายๆอย่างหลายๆเรื่องเมื่อพร้อมใจกันรุมเร้าประดังประเด เกินที่จะรับมันไหว เธอจึงตัดสินใจลาโลกด้วยยานอนหลับเต็มกำมือ และหวังไว้อย่างยิ่งว่ามันคงทำหน้าที่ของมันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

เข้ารูปเข้ารอยของการดึงความอยากรู้ของท่านผู้อ่าน และการมีลุ้นน่าติดตามของตัวละครตามแบบฉบับของละครน้ำเน่ากันแล้วใช่มั๊ย คราวนี้ก็มาดูต่อกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น

นานแค่ไหนก็ไม่รู้ ที่ เวโรนิก้า หลับไป แต่ด้วยความที่ชาร์ลอตทนรำคาญเสียงเห่าเจ้ามิสเดซี่ไม่ไหว จึงลงมาดูและพบว่าเวโรนิก้านอนแน่นิ่งไป จึงต้องนำส่งโรงพยาบาล และเมื่อ เวโรนิก้า ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ก็ขอตอบแทนน้ำใจชาร์ลอตที่ช่วยชีวิตเธอและช่วยเลี้ยงดูมิสเดซี่ ด้วยการเย็บผ้าม่านให้ แล้วชาร์ลอตจึงจัดให้มีปาร์ตี้เล็กๆ จิบไวน์แต่น้อยและเต้นรำนิดหน่อย ฉลองให้กับผ้าม่านใหม่ ที่งานนี้มีผู้เข้าร่วมงานกันแค่ 2 คน


แล้วด้วยความเคว้งคว้างของชาร์ลอตและชิวิตใหม่ของเวโรนิก้า บวกกับฤทธิ์แอลกอฮอร์เจือจาง ชาร์ลอตก็ได้มอบจุมพิต อันเบาบางแก่เวโรนิก้า

แต่ก็แค่นั้น เพราะหลังจากนั้นไม่นานเมื่อเวโรนิก้าเล่าให้ชาร์ลอตฟังว่าเธอกำลังจะแปลงเพศ โดยตัดนั่นแปะโน่นเสริมนี่ ก็ยังความสับสนให้กับชาร์ลอตจนถึงกับตะเพิดไล่เวโรนิก้าออกไปจากห้อง

แล้วคืนหนึ่ง ไครช์เตียน (Frank Thiel ) แฟนเก่าของชาร์ลอต เมามาหาเธอและลงมือทำร้ายร่างกาย ข้าวของหล่นแตกกระจาย เวโรนิก้าวิ่งขึ้นมาดู เห็นชาร์ลอตนอนได้รับบาดเจ็บอยู่ เธอจึงปล่อยหมัดลุ่นๆตั๊นหน้าของไครช์เตียนเข้าเต็มแรงและไล่เขากลับไป หลังจากนั้นจึงพาชาร์ลอตไปนอนพักและทำแผลที่ห้องเธอ

ช่วงเวลานี้ ชาร์ลอต รู้สึกซาบซึ้งในความช่วยเหลือของเวโรนิก้า และเวโรนิก้า รู้สึกเห็นใจและสงสารชาร์ลอต ความรู้สึกความผูกพันของคนทั้งสอง ได้เริ่มก่อตัวและสานต่อเป็นความรัก

แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน

ตัวละครของทั้งสองคนตอนนี้กำลังต่อสู้กับความขัดแย้งภายในใจของตน โดยมีสาเหตุมาจากทั้งกาย และ ใจ

ชาร์ลอต เป็นหญิงใจห้าว เป็นคนขี้เหงาและเอาแต่ใจตัวเอง ขอเลิกกับแฟนที่คบกันมา 4 ปีเพราะเบื่อ และเมื่ออยู่คนเดียวแล้วเหงาเลยต้องหาใครมานอนเป็นเพื่อน มากหน้าหลายตา แต่ก็ยังพร้อมที่จะตะเพิดเขาเหล่านั้นทุกครั้ง หลังจากเสร็จกิจธุระ ข้าวของที่อยู่ในห้อง ก็ยังไม่เคยได้ถูกนำออกมาจากกล่อง ราวกับว่าพร้อมที่จะ " ไป " อยู่ตลอดเวลา เหมือนหัวใจของเธอที่กำลังหาที่เกาะยึด แต่ก็ยังไม่กล้าที่ลงหลักปักฐานกับใคร และตอนนี้ มาอ่อนไหวกับคนร่างชายใจหญิงและกำลังจะแปลงเพศอยู่มะรอมมะร่อ ซึ่งประเด็นนี้ทำให้เธอเกลียดตัวเองที่ทำตัวเหมือนขาดผู้ชายไม่ได้ กระเทยก็ยังจะเอา แต่การเกลียดตัวเองของเธอ นั้น เธอกลับเอามันไปโยนใส่ให้เป็นความผิดของเวโรนิก้า ทั้งตำหนิ ด่าทอแบบจงเกลียดจงชัง

เวโรนิก้า ร่างเป็นชาย ใจเป็นหญิง รังเกียจเครื่องเพศของตนจนอยากตัดมันทิ้ง เป็นคนขี้เหงา ซึมเศร้า อ่อนไหว เปราะบาง เก็บตัวอยู่ในห้องที่บรรยากาศและสีสันอึมครึม มีโลกส่วนตัวสูง แม่มาหาก็ยังกักไว้ให้คุยได้แค่ตรงประตู งานบริการของเธอก็ทำกิจเฉพาะภายนอก ไม่ยอมให้ล่วงล้ำ ความหวังและความฝันคือการได้รับการผ่าตัดแปลงเพศ ที่เธอเชื่อว่าจะเป็นส่วนเติมเต็มให้กับชีวิตอันแหว่งวิ่นของเธอได้ดีที่สุด และตอนนี้ต้องมาหวั่นไหวกับผู้หญิงคุ้มดีคุ้มร้ายแต่ก็ได้มาเขย่าโลกอันเงียบเหงาของเธอให้สดใสขึ้น

ความขัดแย้งในตัวเองของตัวละครในเรื่อง จะเกิดขึ้นอยู่ทุกสถานการณ์ พลิกผันไปมา จนคนดูเองก็เดาไม่ถูกว่าแล้วต่อจากตอนนี้ชีวิตพวกเขาจะเป็นยังไง จะมีอะไรเกิดขึ้นต่อจากนี้บ้าง …….. มันช่างทำให้เรากระหายใคร่รู้ซะจริง



A Soap เป็นผลงานการกำกับของผู้กำกับหญิงชาวเดนมาร์ค Pernille Fischer Christensen ที่กำกับภาพยนตร์เรื่องยาวเป็นเรื่องแรก ( ก่อนหน้านี้มีผลงานการกำกับหนังสั้น เรื่อง Habibti min elskede (2002) ที่ได้รางวัล Best Short Feature มาจาก Odense International Film Festival ในประเทศบ้านเกิด ) และเขียนบทหนังเรื่องนี้ร่วมกับ Kim Fupz Aakeson โดยได้ทำหนังเรื่องนี้เพื่อเข้าร่วมโครงการ New Danish Screen ของสถาบันภาพยนตร์เดนมาร์ค โดยโครงการนี้มีวัตถุประสงค์คือ ส่งเสริมผลงานของคนทำหนังหน้าใหม่ เพื่อเป็นการฝึกฝนฝีมือและหวังให้หนังเดนมาร์คมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง

หนังมีโอกาสได้ไปฉายในเทศกาลหนังเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ที่จัดขึ้นช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และคว้ารางวัล Best Debut Film รางวัลผู้กำกับหน้าใหม่และผู้อำนวยการสร้างหน้าใหม่ และรางวัล Silver Berlin Bear ( รองชนะเลิศ ) ในประเภท Jury Grand Prix โดย Pernille Fischer Christensen รับรางวัลร่วมกับ Jafar Panahi ( Crimson Gold:2003, The Circle:2000, The Mirror:1997 ) ผู้กำกับชาวอิหร่านจากหนังอิหร่านเรื่อง Offside ( 2006 )

ส่วน David Dencik ที่แสดงเป็น เวโรนิก้า ก็ได้รับรางวัล Best Performance จากเทศกาล Transilvania International Film Festival 2006 ที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 5 แล้ว ที่ ประเทศ Romania


Format :: @ Lido




Create Date : 29 ตุลาคม 2549
Last Update : 29 ตุลาคม 2549 18:03:15 น. 17 comments
Counter : 1730 Pageviews.

 
น่าดู


โดย: ตี๋น้อย (Zantha ) วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:14:07:37 น.  

 
Looked like a promising movie na. But you haven't finnished this blog, right?
I will come back again


โดย: BloodyMonday on Somebody else's Computer IP: 58.252.70.156 วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:14:17:01 น.  

 
ไว้เขียนจบแล้วจะมาตอบอีกทีเน้อ
พรุ่งนี้เปิดเทอมแล้วง่า เซ็ง...


โดย: Moonlight Mile IP: 61.47.64.122 วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:17:51:21 น.  

 
เมื่อคืนดูบิ๊กซีนีม่า คน ผี ปีศาจ
น้องอเล็กซ์แบบว่า...




ปล. ปิ่นมุกสิ เน่าจริง!


โดย: Thebrightestsun... IP: 221.128.113.143 วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:18:00:40 น.  

 
ผมกลับคิดว่าเรื่องนี้มันไม่ค่อย Soap เท่าไหร่แฮะ..
มีส่วนที่ Soap ที่สุด (ตามความคิดผม) คือตอนที่จดหมายจากทางการไปอยู่ในกองโฆษณานั่นแหละ


โดย: nanoguy IP: 203.113.35.9 วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:18:01:20 น.  

 
เอ้าโอเคมาอ่านต่อจนจบแล้ว ฮ่าๆ

เรื่องนี้ก็คงเป็นอีกเรื่องที่ต๊ะเอาไว้ก่อน เอาไว้กลับไปจะหาซื้อ
ให้จงได้ พร้อมๆกับอีกหลายต่อหลายเรื่อง (เชื่อหรือไม่ ชาวบ้านชาวช่องเขาดู เดอะดีพาทเต็ด กันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้ว แต่ข้าพเจ้ายังไม่ได้ดูเลย)


โดย: BloodyMonday On Da Move IP: 211.139.145.21 วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:18:26:00 น.  

 
อืมมม น่าสนแฮะ หวังว่าตอนทำงานเสร็จมันจะยังอยู่เน้อ


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:19:23:56 น.  

 
อยากดูเรื่องนี้อ่ะ แต่ไม่มีเวลาไปดูเลยครับ ตอนนี้ candy เข้าแล้วด้วย คงได้ดู candy แทน

enjoy your day


โดย: Holden Caulfield วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:19:34:42 น.  

 
ว่าจะหาเวลาไปเก็บ soap (และ candy) ซะหน่อย

อ้อ! days of glory ด้วย


โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:20:05:45 น.  

 
น่าดูมั่ก ๆ เรนนี่น้อย ชอบ ๆ พล็อตแบบนี้ ดูสับสนทางเพศดี ตอนแรกนึกว่าหนังหญิงรักหญิง (555 พอดีอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบนี้อะ ชายไม่เป็นชาย หญิงไม่เป็นหญิง)

ขนาดอ่านยังมันส์เลยแฮะ ท่าจะเน่าจริง ถ้าไงอาจจะไปดู

พรุ่งนี้วันจันทร์แล้วน้า


โดย: unwell วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:20:26:19 น.  

 


คุณ ตี๋น้อย
หนังน่าดูจริงๆค่ะ มีโอกาสอย่าลืมแวะไปดูนะคะ และขอบคุณหลายที่แวะมาเยี่ยมเยียน กำเสี่ย กำเสี่ย ^_^

คุณ Moonlight Mile
หา.......เปิดเทอมแล้วเหรอ แล้วทำไมโรงเรียนเรา เอ้ย โรงเรียนน้องเรายังไม่เปิดหว่า......... เอ้า เปิดเทอมใหม่ขยันๆน๊า อย่าเซ็งเลย

Thebrightestsun
คนผีปีศาจ เราก็ว่าโอนะหนังเรื่องนี้ และน้องอเล็กซ์ก็ หล่อขาดใจ เหมียนเคย เห็นด้วยๆ ส่วนปิ่นมุกนี่ น้องซีน่ารัก แต่เราก็ยังไม่สามารถแช่ภาพไว้ที่เรื่องนี้ได้นาน ความอดทนมีน้อยอ่ะ.....หุ หุ....

คุณ nanoguy
แต่เราว่ามันคงเป็นความ soap แบบยุโรปอ่ะนะ และหยิบเอาเค้าโครงการดำเนินเรื่องแบบให้มีลุ้นในตอนต่อไปเหมือนละครวิทยุเหมือนละครทีวีมาใช้มากกว่า จิงๆแล้ว ผกก.เค๊าก็บอกว่าหนังตั้งใจพูดถึงเรื่องเซ็กส์และความรักที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้อ่ะ
แล้วก้อเห็นด้วยเลยไอ้เรื่องจดหมายนั่นน่ะ ประมาณว่าพอถึงฉากนี้ก็จะนึก......ตรูว่าแล้วเชียว.....ขึ้นมาทันที อิ อิ

BloodyMonday
แหม.....ใช้คำว่า..ต๊ะ....นี่ สะท้านใจเจ๊จิงจิง หุ หุ
แล้วทำไมไม่ทำตัวอย่างชาวบ้านชาวช่องเค๊าล่ะคะ รีบๆไปดูซ้า เดอะดีพาร์ทเตท สนุกเข้มข้นสมคำร่ำลือ แต่เรายังชอบเวอร์ชั่นเฮียเหลียงมากกว่าอ่ะ

คุณ ลูกสาวโมโจโจโจ้
หวังให้เป็นเช่นนั้นด้วยเหมือนกันค่ะ อยากให้หนังยืนโปรแกรมไปนานนานจะได้มีคนไปอุดหนุนเยอะๆ ว่าแต่ว่า หนังสือที่คุณลูกสาวโมโจโจโจ้ซื้ออ่ะ เยอะจิงๆนะเจ้าคะ เห็นแล้วอึ้งกิมกี่ไปเรยยยยยย

แล้วใคร๊ ที่ออกมาบอกว่าโพยการอ่านหนังสือของคนไทยเฉลี่ยตกคนละ แปด บรรทัดฟะ .......ไม่เห็นด้วยอย่างแรง

คุณ Holden Caulfield
แคนดี้ก้อหนุกค่ะ......พี่ฮีท จี๊ดมากกกกกกก

น้าพล
อ้าว...... ยังม่ายได้ไปเก็บสบู่อีกเหรอคะ อ่ะ อ่ะ อ่ะ หมายถึงหนังเรื่องสบู่น่ะ แหะ แหะ ........ แคนดี้ ก็ จี๊ด .....ชอบนักแล เรืองเด็กติดยาหรือพวกขี้ยานี่ แต่พี่ฮีทในเรื่องนี้สภาพความเป็นอยู่ก้อ ออกจะดูดีกว่าเรนตั้น...อยู่หลายขุมนะ หุ หุ
ส่วน เดย์ส ออฟ กลอรี่นี่ นึกถึงว่าถ้าตัวเองรู้เรื่องการเมืองหรือสงครามมากกว่านี้ เหมือนน้า คงซึมลึกกับหนังได้อีกเยอะมากมาก

แม่นางอันเวล
เรนนี่น้อย สอ วอระพินด้วยป่าว หุ หุ
ถ้ามีโอกาสก็แวะไปดูน๊า
แล้ว........รู้ได้ไงอ่ะ ว่าพรุ่งนี้วันจันทร์ หุ หุ



โดย: renton_renton วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:22:50:24 น.  

 
หึ เราเดาเอาน่ะ หรือว่าพรุ่งนี้วันศุกร์ (ยะ)

ดู Riding home for a thousand mile มั้ย (ระหว่างรอปลาหมึก) เพิ่งดูจบเมื่อกี้ ชอบมากเลย ดูเปล่า ๆ (หรือว่าดูไปแล้ว?)


โดย: unwell วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:23:15:37 น.  

 
เห็นประโยคที่ว่า "ว่าจะหาเวลาไปเก็บ soap" ของคุณ แค่เพียงรู้สึกสุขใจ แล้วรู้สึกตกใจเล็กน้อย
ก็ค่อยๆเก็บนะครับ เดี๋ยวหลุดมือ soap มันลื่นอ่ะ


โดย: sTRAWBERRY sOMEDAY วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:0:22:36 น.  

 


จี๊ดอย่างแรงเลยครับเรื่องนี้


โดย: เจ้าชายไร้เงา วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:2:11:09 น.  

 
โห เรียกว่าพล็อตไม่ซับซ้อน แต่กลับโดนและถูกใจอย่างแรงค่ะ
เราว่าบางทีน๊าเรื่องราวแบบง่ายๆ แบบนี้เป็นเสน่ห์ชวนติดตามนะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:20:26:03 น.  

 
โห...ไปดูแล้วหรอคุณ renton อิจฉาง่ะ
บ่นๆในบล็อกว่าอยากดูเรื่องนี้ blue ก็ยังไม่ได้ดู
นี่ช้านจะได้ดูเรื่องอะไรกับเค้ามั่งนิ
น่าหนุกนะเรื่องนี้


โดย: i_am_redangel วันที่: 31 ตุลาคม 2549 เวลา:1:59:09 น.  

 
soap ไม่ได้ย่อมาจาก snakes on a plane หรอ อิอิ


โดย: duldb วันที่: 5 พฤศจิกายน 2549 เวลา:17:35:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

renton-renton
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Photobucket.Just wait until night then switch the light off
DeUsynlige (2008) Erik Poppe : : หนึ่งเป็นผู้ทำลาย หนึ่งเป็นฝ่ายสูญเสีย เวลาผ่านต่างฝ่ายต่างเริ่มชีวิตใหม่แต่ที่สุดแล้วโชคชะตาก็นำพาให้ทั้งสองต้องมาเผชิญหน้ากัน ~ ถึงพล็อตจะสามัญแบบนี้แต่หนังวางสถานการณ์ที่แสดงและเหตุการณ์ที่ซ่อนอยู่ได้หมาะกันดีมาก การถ่ายโอนตัวละครจุดศูนย์กลางของเรื่องจากคนหนึ่งไปคนหนึ่งก็ไหลลื่น เรื่องราวที่บรรจุความกดดันต่อสู้กับตัวเองของตัวละครก็เข้มข้น และ "โอกาส" เป็นสิ่งที่หนังขอให้เราเห็นเป็นสำคัญเพราะที่สุดแล้วเราจะเห็นว่าฝ่ายที่เคยสูญเสียกลับด้านมาเป็นผู้ทำลายบ้าง ทั้งหมดเป็นความละเอียดในอารมณ์ของผกก.ที่ทำออกมาได้น่าชื่นชมจริงๆ
Adventureland (2009) Greg Mottola : : เด็กหนุ่มพรหมจรรย์และเด็กสาวเมียเก็บนายช่างของสวนสนุกเกิดลังเลในความรู้สึกที่มีให้แก่กัน ครั้นจะจูนกันติดกลับมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันซะงั้น ~ ปั๊ปปี้เลิฟสนุกๆ ประสาวัยรุ่นวัยเรียน ฉากหลังเป็นยุค 80 ที่มีกัญชาเป็นสื่อกลางสร้างความสัมพันธ์ เพลงดิสโก้ ฟังก์ พั้งค์ จากยุคนั้นก็อัดกันขนกันมาเพียบ เพลิน และมองว่า คริสเตน สจ๊วต นั้นดูทื่อมะลื่อไงไม่รู้
Mutum (2007) Sandra Kogut : : เด็กชายคนหนึ่งแถบบ้านนาของบราซิล ต้องเผชิญกับความดุดันของพ่อ สนิทกับอาแต่เหมือนเขาจะมาจีบแม่ ถูกเพื่อนวัยเดียวกันเหน็บแนมและที่สำคัญคือสูญเสียเพื่อนรักที่สุดในชีวิต ~ อะไรจะแกร่งเกินนี้ไม่มีอีกแล้ว เจ้าหนูไม่ได้อยู่ในร่างของคนมองโลกในแง่ดี หากแต่ให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยความเข้าใจและมองถึงสิ่งที่ตนต้องทำ ... ชอบเรื่องที่แทรกอยู่เล็กๆ อย่างความผิดปกติทางสายตา (สายตาสั้น) เมื่อมันเกิดขึ้นกับคนในชนบทซึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร จะเห็นความแตกต่างก็ต่อเมื่อได้ลองสวมแว่นตาเท่านั้น
Dalkomhan insaeng (2005) Ji-woon Kim : : มือขวาของเจ้าพ่อฝีมือสุดเนี้ยบทำการใดไม่เคยล้มเหลว ตีรันฟันแทงเตะต่อยขอให้บอก แต่จะมาตายเอาก็เพราะริอาจมีใจให้ “เด็ก” ของเจ้าพ่อ ~ หนังแก็งส์เตอร์ของพี่ๆ เกาหลีเขาต้องบอกว่าออกแบบท่าทางกันมาดี ดูแล้วเพลิน นึกถึง Transpotter ที่ เจสัน สเตแธม ในชุดสูทหรูระยับแต่ยกแข้งขาถีบยันได้ดีเอาเรื่อง ทรยศหักหลังยังเป็นชนวนหลักที่สร้างสีสันให้กับหนังแนวนี้ สนุกดีแม้จะชวนสับสนนิดหน่อยว่าใครอยู่ฝ่ายไหนลูกน้องใคร (ก็หน้าตาเขาคล้ายกันน่ะ)
Noise (2007) Matthew Saville : : หนังมีส่วนผสมของความเป็นหนังเขย่าขวัญอยู่เพียงส่วนหนึ่งทั้งๆ ที่มีเหตุสะเทือนขวัญรุนแรง แต่... อ่านต่อ ที่นี่
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
29 ตุลาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add renton-renton's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.