Brick ... สิ่งสุดท้าย ที่ได้ทำให้เธอ (2005)





เรื่องราว เกิดขึ้นในแถบตอนใต้ ของรัฐแคลิฟอร์เนีย และ เกิดขึ้นในรั้วไฮสคูลแห่งหนึ่ง

Brendan (Joseph Gordon-Levitt) เด็กหนุ่มผู้มีความเฉลียวฉลาดแต่รักสันโดษ ไม่ชอบที่จะเสวนาหรือสร้างสังคมกับผู้ใด แม้จะดูเหมือนมีลักษณะเป็นขบถเล็กๆอยู่ในตัว แต่เรื่องของความถูกต้องเขาก็ไม่เคยที่จะละเลยต่อการใส่ใจ

หลังจากที่หายหน้าหายตาไปจากโรงเรียนและไม่มาเข้าชั้นเรียนอยู่พักใหญ่

วันหนึ่ง Brendan ได้รับกระดาษโน้ตเล็กๆเสียบคาไว้ในล็อคเกอร์ส่วนตัวของเขาที่โรงเรียน ข้อความว่าให้ไปพบตามวันเวลาที่ระบุไว้ Brendan ไปรอตามเวลาและสถานที่ดังกล่าว เมื่อใกล้ถึงเวลา เสียงโทรศัพท์จากตู้สาธารณะก็ดังขึ้น Brendan รับสาย และเป็น Emily (Emilie de Ravin ) แฟนเก่าที่เลิกรากันไปนานแล้วโทรมา เขาได้ยินแต่เสียงระร่ำระลักและพูดจาแทบจะฟังไม่ได้ศัพท์ของเธอ ขณะที่เขากำลังไล่เรียงข้อมูลที่ได้ยิน Emily ก็ต้องรีบวางสายไป พร้อมๆกับที่เขาเห็นรถมัสแตงสีดำคันหนึ่งวิ่งพุ่งผ่านตู้โทรศัพท์ที่เขายืนใช้อยู่ เขาคิดและประเมินสถานการณ์ทันที

Brendan จดจำคำแปลกๆที่ได้ยินจาก Emily เอามาถาม The Brain (Matt O'Leary) เพื่อนสนิทของเขาเพื่อไขความหมายของแต่ละคำ เช่น frisco หรือ tuck หรือ brick หรือ pin หรือ The Pin เพื่อสืบสาวราวเรื่องว่าเธอหมายถึงอะไรและเกิดอะไรขึ้นกับ Emily กันแน่

Brendan กลับไปค้นตู้ล็อคเกอร์ของ Emily เขาพบสมุดบันทึก, รูปถ่ายของ Kara (Meagan Good) และบัตรเชิญงานปาร์ตี้ที่ Laura (Nora Zehetner) สาวสังคมชั้นสูงเป็นคนจัดขึ้น และรู้มาอีกว่ายังมี Dode (Noah Segan) เด็กหนุ่มร้าน coffee and pie..oh my! ซึ่งเป็นคนที่ Emily คบด้วยหลังจากเลิกกับเขา เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

Brendan ไปหาDode เพราะเชื่อว่า Emily อยู่กับเขาและก่อนที่จะได้คุยอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ก็ต้องมีออกแรงต่อสู้กันอยู่พักหนึ่ง จึงฝาก Dode ไปบอก Emily ว่าให้มาพบเขา ส่วนเรื่องสถานที่นั้น Emily รู้ดีว่าจะพบได้ที่ไหน

เป็นจริงอย่างที่ Brendan คิด ว่าทั้งสองยังเจอกันอยู่
เมื่อเขาสะกดรอยตาม Dode ไป เขาเห็น Dode ยื่นกระดาษแผ่นเล็กให้ Emily เธอรีบรับและเก็บมันไว้ในสมุดพกเล่มเล็กทันที

Brendan แอบขโมยสมุดพกเล่มนั้นไว้ได้และเห็นมีกระดาษแผ่นเล็ก ที่มีสัญลักษณ์แปลกๆ ซึ่งต้องให้ The Brain ช่วยตีความอย่างเคย และได้ความว่า อาจเป็นสถานนัดแนะ ที่เขียนขึ้นและใช้เฉพาะกับคนในกลุ่มเดียวกันเอง ป้องกันไม่ให้คนอื่นล่วงรู้

Brendan เฝ้าครุ่นคิดหาความหมายหรือสถานที่ตามสัญลักษณ์ลักษณะตามนั้น

เมื่อเขานึกออก และไปตามสถานที่ที่เขาคิดว่าใช่
สิ่งที่เขาได้พบคือ..............


ร่างของ Emily ในสภาพนอนคว่ำ นอนแน่นิ่งอยู่ข้างทางระบายน้ำ

จากเหตุการณ์ที่เขาพบ เขารู้สึกโทษตัวเองอยู่ในใจ ที่ไม่สามารถช่วยเธอได้ทัน และมันยังเป็นทั้งการผลักและดัน ทำให้เขาวิ่งเข้าสู่เรื่องอันตรายต่างๆอย่างถลำลึก และเข้าไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและเสี่ยงตายเป็นอย่างมาก

Brendan เริ่มสืบสาวราวเรื่องต่างๆ อย่างจริงจัง เขาวางแผน โดยเอาตัวเองเข้าแลก พยายามจะแทรกซึม และทำทุกวิถีทางเพื่อให้คนในกลุ่มของ The Pin ยอมรับในตัวเขาให้ได้ ยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้เข้าใกล้ the Pin คนเขารู้ว่าคือต้นตอของเรื่องราวและต้นเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ โดย Brendan มี The Brain ช่วยสมทบอีกแรง และ ยังมี Laura คอยตามและคอยช่วยเหลือเขาอยู่ห่างๆอีกที

หนังดำเนินเรื่องได้น่าสนใจ เปรียบได้กับเหมือนกำลังอ่านหนังสือ คือส่วนที่ยังเปิดไปไม่ถึงก็ไม่รู้ว่าเขาจะว่าไว้อย่างไร หรือจะเล่าอะไร ไอ้ส่วนที่อ่านไปแล้วดูไปแล้ว ก็มีหยอดเงื่อนงำทิ้งไว้ให้เราอยากรู้และคิดตาม และด้วยความที่เป็นหนังวัยรุ่นวัยคะนองที่พัวพันกับยาเสพติดและเรื่องราวฆาตกรรม ที่ไม่มีตัวละครตัวไหนดีที่สุด และเลวที่สุด ทุกคนต่างก็มีดีกับเลวได้อยู่ในตัว บรรยากาศที่ปรากฏจึงมักจะหม่นๆมัวๆ อึมครึม และการที่ตัวละครแต่ละตัวจะพบเจอกัน ก็มักจะเป็นการพบแบบ ไม่โจ่งแจ้ง นัดเจอแบบหลีกเร้นสายตาผู้คน

อย่างเช่น

Brendan กับ The Brain มักนัดเจอกัน หลังอาคารเรียน
Brendan กับ Dode เจอกันที่หลังร้านอาหาร
Brendan กับ Kara เจอกันในห้องแต่งตัว หลังเวที ไม่ก็หลังโรงละคร
Brendan กับ Emily เจอกันหลังโรงเรียน ซึ่งเป็นที่ที่เขามาหลบมุมกินข้าวเที่ยงคนเดียวเสมอ
Brendan กับ The Pin เจอกันก็เป็นห้องใต้ดินที่บ้านของ The Pin …. เป็นต้น

นั่นราวกับกำลังบอกใครต่อใคร ว่าพวกเราทั้งหมดทั้งมวล คือ คนไม่สำคัญของใครๆ หรือเป็นส่วนเกินของสังคมจริง ที่ไม่มีใครมองเห็นและใส่ใจ จะอยู่หรือเป็น จะเจ็บหรือตาย ต่างก็ไม่สามารถเรียกให้ใครๆเหลียวหลังมามองได้ทั้งนั้น

และในทางกลับกัน
เมื่อตัวละคร มีสิ่งที่รู้สึกจริงและต้องการเปิดเผยอย่างไม่ต้องการปิดบัง หนังเลือกใช้สถานที่ที่โล่งแจ้ง กว้าง และสามารถเป็นเป้าสายตาได้ง่าย นั่นคือ สนามฟุตบอล

แรกสุด สนามฟุตบอล ถูกใช้ คราวที่ Brendan บอกกับ Emily ว่าเขารักเธอห่วงใยเธอและต้องการปกป้องคุ้มครองเธอ และ Emily ก็พูดถึงความรู้สึกจริงๆที่เธอมีต่อ Brendan เช่นกัน นี่ถือเป็นการเปิดใจ

ครั้งที่สอง สนามฟุตบอล ถูกใช้ คราวที่ Dode ถือหนังสือพิมพิ์ที่ลงข่าว เรื่องการเสียชีวิตของ Emily มายื่นให้ Brendan ดู หลังจากทุกคนที่รู้จักเธอต่างก็เคลือบแคลงและสงสัยอยู่ว่าเธอหายไปไหน ซึ่งการลงข่าวก็คือ ทุกคนก็รู้กันทั่วแบบเปิดเผย

และครั้งสุดท้าย ในท้ายเรื่อง ที่ Brendan เจอกับ Laura ทั้งสอง ต่างพูดความจริงต่อกัน อันเป็นความจริง ที่ เคลียร์ ไม่มีค้างคาคำใดใดให้ตกและติดค้างในใจอีกต่อไป

และทั้งหมด ก็เป็นสิ่งสุดท้าย ที่ Brendan ได้ทำไปเพื่อ Emily จริงๆ



หนังเรื่องนี้ เป็นการกำกับหนังยาวเรื่องแรกของ Rian Johnson และได้รับรางวัล Special Jury Prize สำหรับด้าน “แนวความคิดสร้างสรรค์” จากเทศกาล Sundance 2005 และได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัล JOHN CASSAVETES AWARD ของ Independent Spirit Awards ปี 2006 ซึ่งมอบให้กับหนังที่ใช้ทุนสร้างไม่เกิน $500,000

Rian Johnson เฝ้าปั้นบทหนังเรื่องนี้มาเป็นเวลาถึง 6 ปี และได้ทุนรอนในการสร้างหนังเรื่องนี้ให้เป็นจริงได้จากการหยิบยืมญาติสนิทและเพื่อนฝูง ถึงแม้จะเป็นหนังยาวเรื่องแรกของเขา ก็อย่าพึ่งได้ดูถูกฝีมือกัน เพราะตั้งแต่เขาอายุ 12 ปี จนถึงเรียนระดับไฮสคูล เขาทำหนังสั้นมาแล้ว 90 กว่าเรื่อง !



Create Date : 22 สิงหาคม 2549
Last Update : 27 สิงหาคม 2549 19:50:44 น. 13 comments
Counter : 2731 Pageviews.

 
อ้าว ๆ ๆ หลอกกันนี่หว่า อุตส่าห์รีบ click มาดู


โดย: unwell วันที่: 23 สิงหาคม 2549 เวลา:9:44:45 น.  

 
dammit! You tricked me.

By the way, I was just back to Gunagzhou, so i can't watch that now.

Dammit!


โดย: BloodyMonday วันที่: 23 สิงหาคม 2549 เวลา:20:31:54 น.  

 
แวะมาอ่านเรื่องย่อครับผม


โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 24 สิงหาคม 2549 เวลา:0:10:30 น.  

 


คุณ unwell * คุณ BloodyMonday * คุณ ดำรงเฮฮา
แวะมาอ่านเต็มๆได้เลยน๊า



โดย: renton_renton วันที่: 24 สิงหาคม 2549 เวลา:2:32:13 น.  

 
อ่าน ๆ แล้วเหมือนมันเป็น romantic thriller ใช่ปะ? จริง ๆ เราไม่ได้แคร์เรื่องแนวหนังมากหรอก (ยกเว้นหนังผี ไม่ดู) แต่ที่ถามเพราะตอนชวนเพื่อน เพื่อนบอก brick น่ากลัว เราก็เอ้ย น่ากลัวตรงไหนฟะ บ้าเปล่า เดี๋ยวจะบอกให้มันมาอ่านที่นี่ดีกว่า

ผู้กำกับน่าสนใจมั่ก ๆ เราว่าน่าดูมั่ก ๆ ต่อให้รู้เรื่องหมด เราก็ว่าควรไปดูอยู่ดี............แต่จะได้ดูมั้ยน้อ อาทิตย์นี้วุ่น ๆ ขอให้มันยืนโรงนาน ๆ เถอะ (ไปบอกเค้าให้หน่อยสิ
)


โดย: unwell วันที่: 24 สิงหาคม 2549 เวลา:8:25:26 น.  

 
symbol ดีครับ

เราว่า"ความไม่ชัดเจน"ในหนังมันสร้างอารมณ์ดีนะ ยิ่งพอเราได้รู้รายละเอียดตัวละครมากขึ้นๆ มันดันหันกลับมาตั้งคำถามกับคนดูอีกกลายๆว่า "เราไม่รู้จักใครจริง" ยิ่งฉากสุดท้ายด้วยแล้วเราว่ามันสร้าง motif ได้ลงตัวดี


โดย: kurt IP: 58.9.185.20 วันที่: 24 สิงหาคม 2549 เวลา:9:41:21 น.  

 
Reading yours, It made me more furious about how the hell did I choose Snake on a Plane over this movie before I came back here.

Damn!


โดย: BloodyMonday วันที่: 24 สิงหาคม 2549 เวลา:20:31:34 น.  

 
ตอนแรกที่เห็นตัวอย่างหนังเรื่องนี้ โมนอึมครึมมากๆ เหมือนมีความลับมากมายรอให้เราไปพิสูจน์ แต่ผมก็ไม่ได้ไปพิสูจน์ เพราะเงินหมด ผมคงต้องรอแผ่นแล้วล่ะครับ





ปล. มาชวนไปเม้นต์เพลงบัลลาดหวานเลี่ยนครับผม


โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 25 สิงหาคม 2549 เวลา:13:34:29 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ weekend นี้มีโปรแกรมดูหนังอะไรบ้างจ๊ะ
เรายังไม่รู้เลยว่าจะได้ดู brick มั้ย เฮ้อ

have fun and have a nice weekend naaa.


โดย: unwell วันที่: 25 สิงหาคม 2549 เวลา:18:02:45 น.  

 
แวะมาทักทายจ้า เอ๊ะ หนังเรื่องนี้ไม่คุ้นเท่าไหร่ เราดูหรือยังหว่า

เจ้าของกระทู้สบายดีนะครับ เห็นแวะไปเยี่ยมเยียนที่บล๊อคผมสม่ำเสมอเลย


โดย: ตี๋หล่อมีเสน่ห์ วันที่: 26 สิงหาคม 2549 เวลา:9:22:11 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปบล็อคหน้าใหม่อย่างผม
เข้ามาดูเลยรู้ว่าคุณดูหนังที่ผมไม่ได้ดูทั้งนั้นเลย ดีครับหากผมอยากดูหนังเพิ่มขึ้น ต้องมาบล็อคนี้ อ่านแล้วได้เนื้อหาดีมาก
บล็อคก็สวยมากครับ


โดย: คนขับช้า วันที่: 26 สิงหาคม 2549 เวลา:15:40:59 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปบล็อคหน้าใหม่อย่างผม
เข้ามาดูเลยรู้ว่าคุณดูหนังที่ผมไม่ได้ดูทั้งนั้นเลย ดีครับหากผมอยากดูหนังเพิ่มขึ้น ต้องมาบล็อคนี้ อ่านแล้วได้เนื้อหาดีมาก
บล็อคก็สวยมากครับ


โดย: คนขับช้า วันที่: 26 สิงหาคม 2549 เวลา:15:41:10 น.  

 
smile * smile * smile

for everyone



โดย: renton_renton วันที่: 27 สิงหาคม 2549 เวลา:21:07:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

renton-renton
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Photobucket.Just wait until night then switch the light off
DeUsynlige (2008) Erik Poppe : : หนึ่งเป็นผู้ทำลาย หนึ่งเป็นฝ่ายสูญเสีย เวลาผ่านต่างฝ่ายต่างเริ่มชีวิตใหม่แต่ที่สุดแล้วโชคชะตาก็นำพาให้ทั้งสองต้องมาเผชิญหน้ากัน ~ ถึงพล็อตจะสามัญแบบนี้แต่หนังวางสถานการณ์ที่แสดงและเหตุการณ์ที่ซ่อนอยู่ได้หมาะกันดีมาก การถ่ายโอนตัวละครจุดศูนย์กลางของเรื่องจากคนหนึ่งไปคนหนึ่งก็ไหลลื่น เรื่องราวที่บรรจุความกดดันต่อสู้กับตัวเองของตัวละครก็เข้มข้น และ "โอกาส" เป็นสิ่งที่หนังขอให้เราเห็นเป็นสำคัญเพราะที่สุดแล้วเราจะเห็นว่าฝ่ายที่เคยสูญเสียกลับด้านมาเป็นผู้ทำลายบ้าง ทั้งหมดเป็นความละเอียดในอารมณ์ของผกก.ที่ทำออกมาได้น่าชื่นชมจริงๆ
Adventureland (2009) Greg Mottola : : เด็กหนุ่มพรหมจรรย์และเด็กสาวเมียเก็บนายช่างของสวนสนุกเกิดลังเลในความรู้สึกที่มีให้แก่กัน ครั้นจะจูนกันติดกลับมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันซะงั้น ~ ปั๊ปปี้เลิฟสนุกๆ ประสาวัยรุ่นวัยเรียน ฉากหลังเป็นยุค 80 ที่มีกัญชาเป็นสื่อกลางสร้างความสัมพันธ์ เพลงดิสโก้ ฟังก์ พั้งค์ จากยุคนั้นก็อัดกันขนกันมาเพียบ เพลิน และมองว่า คริสเตน สจ๊วต นั้นดูทื่อมะลื่อไงไม่รู้
Mutum (2007) Sandra Kogut : : เด็กชายคนหนึ่งแถบบ้านนาของบราซิล ต้องเผชิญกับความดุดันของพ่อ สนิทกับอาแต่เหมือนเขาจะมาจีบแม่ ถูกเพื่อนวัยเดียวกันเหน็บแนมและที่สำคัญคือสูญเสียเพื่อนรักที่สุดในชีวิต ~ อะไรจะแกร่งเกินนี้ไม่มีอีกแล้ว เจ้าหนูไม่ได้อยู่ในร่างของคนมองโลกในแง่ดี หากแต่ให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยความเข้าใจและมองถึงสิ่งที่ตนต้องทำ ... ชอบเรื่องที่แทรกอยู่เล็กๆ อย่างความผิดปกติทางสายตา (สายตาสั้น) เมื่อมันเกิดขึ้นกับคนในชนบทซึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร จะเห็นความแตกต่างก็ต่อเมื่อได้ลองสวมแว่นตาเท่านั้น
Dalkomhan insaeng (2005) Ji-woon Kim : : มือขวาของเจ้าพ่อฝีมือสุดเนี้ยบทำการใดไม่เคยล้มเหลว ตีรันฟันแทงเตะต่อยขอให้บอก แต่จะมาตายเอาก็เพราะริอาจมีใจให้ “เด็ก” ของเจ้าพ่อ ~ หนังแก็งส์เตอร์ของพี่ๆ เกาหลีเขาต้องบอกว่าออกแบบท่าทางกันมาดี ดูแล้วเพลิน นึกถึง Transpotter ที่ เจสัน สเตแธม ในชุดสูทหรูระยับแต่ยกแข้งขาถีบยันได้ดีเอาเรื่อง ทรยศหักหลังยังเป็นชนวนหลักที่สร้างสีสันให้กับหนังแนวนี้ สนุกดีแม้จะชวนสับสนนิดหน่อยว่าใครอยู่ฝ่ายไหนลูกน้องใคร (ก็หน้าตาเขาคล้ายกันน่ะ)
Noise (2007) Matthew Saville : : หนังมีส่วนผสมของความเป็นหนังเขย่าขวัญอยู่เพียงส่วนหนึ่งทั้งๆ ที่มีเหตุสะเทือนขวัญรุนแรง แต่... อ่านต่อ ที่นี่
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2549
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
22 สิงหาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add renton-renton's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.