Bloggang.com : renton-renton : Waterborne … ( 2005 )

Waterborne … ( 2005 )

น้ำ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการดำรงชีวิตทั้งของพืช, สัตว์ และ มนุษย์
น้ำกับโลก โลกมีพื้นผิวน้ำ 70 % เป็นผิวดิน 30 %
น้ำกับมนุษย์ ร่างกายของมนุษย์ในภาวะปกติ น้ำหนักของร่างกายจะประกอบด้วย น้ำหนักของน้ำประมาณ 55 ถึง 75 % แยกส่วนที่เป็นเลือดก็ยังประกอบไปด้วยน้ำถึง 92 %

อาหาร เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างที่มนุษย์ต้องบริโภค แต่การขาดอาหารแม้เป็นเวลาหลายวัน ร่างกายก็จะยังสามารถอดทนอยู่ได้หากยังมีน้ำไว้ดื่มหรือจิบ มนุษย์ ที่ไม่เพียงแค่ใช้น้ำเพื่อดื่มและนำมาใช้ในกิจวัตรประจำวันเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการนำไปใช้เพื่อผลของส่วนรวมสังคมด้วย เช่น เพื่อการเกษตร เพื่องานทางด้านอุตสาหกรรม หรือ การใช้พลังงานน้ำจากเขื่อนเก็บน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า

น้ำ เป็นทรัพยากรที่มาจากธรรมชาติ แต่มันยังไม่บริสุทธิ์สะอาดเพียงพอต่อการดื่มกิน จึงต้องนำมาพักมากลั่นมากรอง มาผ่านกรรมวิธีหลายขั้นตอน ก่อนจะแจกจ่ายผ่านท่อลำเลียงใหญ่น้อย กระจายเข้าสู่บ้านพักอาศัยแต่ละหลังคาเรือน ให้มีดื่มมีใช้กันถ้วนหน้า

แต่หากวันใดวันหนึ่ง แหล่งน้ำเกิดปนเปื้อนสารพิษ มีข่าวการเสียชีวิตของผู้คน ที่สันนิษฐานว่ามาจากการใช้น้ำและดื่มน้ำจากแหล่งน้ำนั้นล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น กับผู้คนทั้งเมืองที่พึ่งรับรู้ข่าวร้ายชิ้นนี้

หนังเรื่อง Waterborne ก็วางประเด็นของเรื่องไว้อย่างนั้น โดยการเล่าผ่านชุดตัวละครหลักๆอยู่ 3 กลุ่ม

ที่เมือง ลอส แองเจอลิส, สหรัฐอเมริกา หลังจากมีรายงานข่าวแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างกระทันหัน ถึง 8 รายในวันเดียว และนักชีววิทยาได้ตรวจพบสารพิษปนเปื้อนอยู่ในกระแสเลือดของผู้เสียชีวตด้วย เบื้องต้นได้สันนิษฐานว่ามีสาเหตุมาจากการดื่มน้ำที่มาจากอ่างเก็บน้ำในเมือง จึงเตือนให้หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำจากก๊อกหรือสัมผัสในช่วงระยะเวลา 72 ชั่วโมง จนกว่าจะพิสูจน์หาข้อเท็จจริงได้

แซค ( Christopher Masterson ) และ โบดี้ ( Jake Muxworthy ) เด็กหนุ่มวัยรุ่น 2 คน ขับรถเดินทางจะไปเยี่ยมเยือนพ่อ แต่ระหว่างทางได้แวะหา โดโนแวน ( Noah Segan ) เพื่อนซี้เก่าแก่ของ เบน แต่คุยกันได้ไม่นานก็มีปากเสียงชกต่อย พอสร่างเมาจะเดินทางต่อจึงขอขวดน้ำดื่มที่ โดโนแวน กักตุนไว้ แต่ถูกปฏิเสธ ก่อนที่ เบน จะเป็นลมหมดสติ ทั้งสองเห็นร้านค้าสะดวกซื้อร้านหนึ่งเปิดอยู่จึงเข้าไปซื้อน้ำ

เฮร่า บาห์ตี (Shabana Azmi ) และ วิครัม บาห์ตี ( Ajay Naidu ) สองแม่ลูกเชื้อสาย อินเดียน-อเมริกัน วิครัม มี ลิลเลียน (Mageina Tovah ) เป็นแฟนสาวอเมริกันซึ่งแม่ไม่พอใจนัก เฮร่า เป็นเจ้าของร้านสะดวกซื้อ จึงฉวยโอกาสวิกฤตินี้ขึ้นราคาน้ำเปล่าเพิ่มอีก 3 เท่าตัว แม้ วิครัม จะไม่เห็นด้วย แต่ก็ขัดขวางแม่ไม่ได้ และน้ำยังขายได้หมดเกลี้ยง ขณะที่ วิครัมดูแลร้าน ก็มีเด็กหนุ่ม 2 คน วิ่งพรวดพราดเข้ามาซื้อน้ำดื่ม

ไซมอน นายทหารหนุ่ม ถูกเรียกตัวออกไปรักษาการณ์บ้านเมืองยามวิกฤติ จำต้องทิ้งให้ จัสมิน ( Lindsay Price ) ภรรยาสาว อยู่กับลูกสาวตัวน้อยเพียงลำพัง ขณะที่ ไซมอนและเพื่อนทหารหาญ กำลังแจกจ่ายน้ำให้กับประชาชนที่มารุมล้อมยื้อแย่งจัสมิน ก็ตัดสินใจพาลูกสาวออกมาซื้อน้ำที่ร้านสะดวกซื้อ ภายในร้าน เธอพบกับเด็กหนุ่ม 2 คน คนหนึ่งในมือถือปืน เธอจึงแกล้งเดินเลี่ยงและโทรบอกสามี

โกลาหล ทั้งข้างนอกร้าน และข้างในร้าน แต่ถึงทุกคนที่มาชุมนุม จะมาจากหลายครอบครัวหลายหลังคาเรือน แต่ทั้งหมดต่างก็มีจุดประสงค์เดียวร่วมกันคือ ต้องการน้ำดื่ม

เรื่องราวทั้งหมดนี้ มีตัวละครหลายตัวหลายกลุ่มมาคอยดำเนินเรื่อง ก็เพื่อให้เห็นว่าหลายคนหลายอาชีพต่างก็เดือดร้อนกับวิกฤติการงานนี้กันถ้วนหน้า เห็นทั้งความเห็นแก่ตัวเอง อย่าง โดโนแวน ที่ไม่ยอมแบ่งน้ำให้โบดี้ แม้จะเป็นเพื่อนซี้แค่ไหนก็ตาม หรือ ไซมอน บุกจับพวกแก็งค์ขโมยน้ำดื่ม แต่สุดท้ายตัวเองก็เอาถังน้ำดื่มนั้นไปให้ลูกเมียตัวเองซะอย่างนั้น และเห็นถึงการหาผู้ร้ายตามแนววิถีปฏิบัติของชนชาวอเมริกา แม้จะยังจับมือใครดมก็ไม่ได้ แต่ที่โดนหมายหัวไว้ก็หนีไม่พ้นกลุ่มก่อการร้ายทั้งจากอิรัก, อัฟกานิสถานและปาเลสไตน์ ด้วยการให้ผ่านคำพูดจากปากของพี่ทหารคนหนึ่ง หรือจากการที่ลูกค้าชาวอเมริกันคนหนึ่งไปซื้อน้ำที่ร้านของ วิครัม แต่เมื่อไม่ได้น้ำก็โมโห ด่าทอไล่ตะเพิดเหมารวมพวกชาติอื่นที่ไม่ใช่อเมริกา ให้ขนข้าวของกลับประเทศเดิมไปซะ …

หนังถ่ายทำด้วยการใช้กล้องดิจิตอลถ่ายทั้งเรื่อง ส่วนใหญ่มักเป็นภาพในระยะใกล้ ( close-up ) ซึ่งผลที่หวังได้คือเพิ่มความใกล้ชิดให้กับคนดูและตัวละคร ให้คนดูได้เอาใจช่วยวิบากกรรมที่พวกเขากำลังประสพอยู่ แต่ ด้วยความหนักแน่นหรือน้ำหนักในการที่จับเอาตัวละครทั้งหลายมาอยู่ในเหตุการณ์ตึงเครียดแล้วผลักให้สร้างปัญหาตามมานั้น มันยังไม่น่าเชื่อถือพอ และเมื่อมันไม่น่าเชื่อถือ ก็เลยกลายเป็นว่าตัวละครถูกปล่อยเลยตามเลย จะเจออะไรก็เจอไป จะตกทุกข์ได้ยากยังไงก็เชิญโดนไป เราเป็นผู้ดู ก็ได้แค่ดู ในเมื่อความรู้สึกผูกพันกับตัวละครมันไม่มี แล้วทีนี้ มันจะสนุกตรงไหนกัน

ส่วนหนึ่งที่ทำให้ความน่าเชื่อถือว่าตัวละครตกอยู่ในภาวะวิกฤติกดดันนั้นลดลงก็คือ ทำไมผู้คนทั้งหลายต้องแย่งกัน ตีกันเพราะเรื่องน้ำเปล่า ในเมื่อในตู้แช่ที่ขายน้ำยังมีเครื่องดื่มอีกตั้งหลายชนิดไว้ให้ดื่มดับกระหาย ทั้งโซดา น้ำอัดลม นม น้ำผลไม้ หรือเบียร์ รวมไปถึงเหตุผลที่ทำให้โบดี้ชกต่อยกับโดโนแวนนั้น ก็ดูหยุมหยิมเกินไป และก็ไม่เห็นว่า โบดี้ จะมีความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปเอ่ยปากขอน้ำดื่มสักขวดไว้ติดรถขณะเดินทางเลย ในเมื่อเขาสามารถไปซื้ออะไรมาดื่มแก้กระหายก็ได้ … แต่ตามเรื่องแล้วคือเมื่อไม่ได้น้ำ ก็ถือปืนหวังเข้าปล้นน้ำจากร้านค้าไง ตัวละครเลยต้องเดินเรื่องไปตามนั้น

อย่างไรก็ตาม Waterborne ยังมีดีน่าชมเชยอยู่อีกหลายส่วน ทั้งบทพูดที่แสดงถึงสามัญสำนึกที่ดีจากตัวละครหลายๆตัว และ ในวิธีมองความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น โดยมาเป็นเสียงบรรยายแทนความคิดของ แซค และเพลงธีมประกอบเพราะๆ ที่บรรเลงท่วงทำนองหม่นเศร้า คลอไปทั้งเรื่อง

Waterborne เป็นผลงานการกำกับและเขียนบทของ Ben Rekhi ที่กำกับหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก แต่งานก่อนหน้านี้ของเขาคือการเป็นผู้กำกับภาพนิ่งจาก Confessions of a Dangerous Mind (2002)

Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2550

Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2550 22:45:26 น.

13 comments

Counter : 1789 Pageviews.

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ...

* ร่างกายต้องการน้ำประมาณ 1 1/2 ถึง 2 ลิตรต่อวัน เพื่อให้ระบบต่างๆทำหน้าที่ได้ดีที่สุด
* การหายใจออก เหงื่อที่ออกมา และการขับถ่าย ให้สูญเสียน้ำ 1 1/2 ลิตรต่อวัน
* ช่วงที่อากาศร้อน การเสียเหงื่อ ยิ่งทำให้ร่างกาย ต้องการน้ำมากขึ้นเพื่อควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
*ท่านต้องการน้ำเพิ่มประมาณ 1/2 ลิตรต่ออุณหภูมิ ที่เพิ่มขึ้นหนึ่งองศา

โดย: renton_renton

วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:4:28:15 น.

อื่มมม...
พล็อตโดยรวมๆก็น่าดูดีนะครับ

โดย: nanoguy IP: 203.113.35.6 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:06:30 น.

มีหนังหลายเรื่องนะครับที่ชอบฉายภาวะกดดันของมนุษย์ในยามที่เกิดเหตุขาดแคลน หรือภาวะที่บีบคั้นต่อการเอาตัวรอด

ผมชอบฉากหนึ่งของเรื่อง War of the World ที่มีคนแย่งรถของ Tom Cruise แต่สุดท้าย คนที่แย่งได้ก็ถูกยิงตายโดนคนที่แย่งอีกคนหนึ่ง

อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่า เวลาเกิดเหตุคับขัน
สัตว์ป่าในตัวมนุษย์ก็จะออกมา

โดย: Tony KooN (tk_station

) วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:12:10 น.

หนังแปลกดีครับ
ถ้าบ้านเราต้องทำเรื่องเกษตรกรทะเลาะกันเพื่อแย่งน้ำ

ปล.1 ได้ข่าวว่า litte miss sunshine จะออกดีวีดีลิขสิทธิ์ต้นเดือนหน้า
ปล.2 เซ็งหงส์

โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ

วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:4:03:14 น.

เอ แล้วจะเหมือน28days later ไหมนี่
นั่นก็สร้างโดยDanny boyleนะครับ

โดย: แป๊กก

วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:7:48:59 น.

อืม ทำไมอ่านแล้วคิดไปถึงแถบอีสานที่แล้งๆก็ไม่รู้ แหะๆ

ส่วนตัวดื่มน้ำเปล่าวันนึงเยอะมากเลย ถ้าเข้าไปอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นต้องตายแน่ๆ

โดย: DropAtearInMyWineGlass

วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:15:58 น.

กลิ่นแนวๆจัง หาดูได้ที่ไหนล่ะคร้าบบบบบบบ

enjoy your day

โดย: Holden Caulfield

วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:11:50:26 น.

หนังเรื่องนี้น่าสนใจคือประเด็นการแย่งทรัพยากรน้ำครับ ไม่ค่อยมีใครทำแนวนี้เท่าไร แต่ก็สะท้อนภาพดิบ ๆของมนุษย์ได้ดีเหมือนกัน

โดย: Johann sebastian Bach

วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:28:03 น.

วิกฤตการณ์ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ และมันก็คงจะมีบรรยากาศกรุ่นๆ
แบบนี้ล่ะค่ะ และน่ากลัวดีเหมือนกันว่า เกิดเหตุมาแล้วทุกคนก็มุ่งแต่จะได้
ประโยชน์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะได้มายังไงก็ตาม เรียกว่าความดิบของเราได้ฉาย
ออกมาอย่างช่วยไม่ได้นะค่ะ

โดย: JewNid

วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:19:59:37 น.

คุณ 2เรนทอนครับ ผมส่งไปแล้ว แต่เมล์มันตีกลับอ่ะครับ คงเกิดปัญหาอะไรซักอย่าง ยังไงก็ขอบคุณไว้ละกันครับ

โดย: strawberry machine gun

วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:8:53:56 น.

แฮปปี้วันวาเลนไทน์ครับ

โดย: than (ราม-ไทย-จีน

) วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:11:50:17 น.

คือ...อยากดูอ่าครับ

โดย: เจ้าชายไร้เงา

วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:11:33 น.

หนังมีประเด็นที่น่าสนใจดีจัง อย่างนี้ตอ้งตามไปดูแล้วล่ะ

โดย: pnottimez

วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:10:25 น.