ไง เนื้อเรื่องจากหนังมันเหมือนในการ์ตูนมั๊ย:: ก็คล้ายๆอ่ะนะแล้วถ้าคนที่ไม่ได้อ่านการ์ตูน เค๊าจะดูรู้เรื่องป่าว:: รู้ดิ เพราะมันเข้าใจได้ไม่ยากหรอก และอีกอย่าง การ์ตูนตอนเป็นเล่ม 1 นี่ มันตั้งกะเดือนธันวา ปี 04 นะเฟ้ย นานมาก เราจำไม่ได้ชัดเท่าไหร่หรอก ก็ยังดูรู้เรื่องเลยหนังตัวอย่างดูน่ากลัวมาก ตอนฉายจริงมันเป็นงั้นป่ะ:: โหย..ตัวอย่างหนังอ่ะมันเว่อร์ ทำซะยังกะหนังผีรวมกะหนังฆาตกรรมสยองขวัญ แต่เนื้อความโดยรวมของหนังแล้วมันไม่ซาดิสต์เลือดนองขนาดนั้นซักหน่อยดูจบแล้วเป็นไง :: หนุกดิ อยากดูภาค 2 ต่อไวๆแล้วดูเวอร์ชั่นไหน ไทยหรือญี่ปุ่น:: ดูเวอร์ชั่น L พูดญี่ปุ่นน่ะ เพราะคิดว่ามันน่าจะได้อารมณ์ความรู้สึกที่แท้จริงของตัวละครได้ดีกว่าพูดไทย คือสีหน้าและคำพูดมันลิ้งค์กันน่ะ ชอบแบบนี้มากกว่า เห็นว่ามีคนรู้จักไปดูเวอร์ชั่น L พูดไทยได้มา เค๊าว่าไงมั่ง:: อือ น้องเราเองแหละ เค๊าฝากบอกว่าถ้าอยากดู Death Note แบบตลก ขำๆ ฮาๆ ก็ให้ไปดูพากย์ไทยโดยน้าๆพันธมิตรเจ้าเดิมยกตัวอย่างดิ๊ นึกไม่ออกอ่ะว่ามันจะตลกไปได้ยังไง:: เอ้าอย่างตอน ลุค เอาหัวโขกฝ้าเพดานหลายๆทีอ่ะ ลุคบ่นเรื่องไม่ได้กินแอปเปิ้ล และในพากย์ไทย น้าแกพูดแทนลุคว่า จน เครียด กินแอปเปิ้ล, จน เครียด กินแอปเปิ้ลเฮ้..ก็ขำดีออก ไม่เห็นเป็นไรเลย :: !แล้วมีอะไรที่ทำให้รู้สึกติ๊ดๆจิ๊ดๆเวลาดูป่ะ:: อ๋อ..ก็ไอ้เจ้าไลท์คุง ( ยางามิ ไลท์ ) น่ะ มันหน้าบานเป็นกระด้งเกินการ์ตูนไปเยอะ เลยตะหงิดๆอยู่บ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปซักพัก ก็จะเลิกสนใจในความกว้างของใบหน้ามัน หันมาสนใจเนื้อเรื่องแทนเพราะหนังมันหนุก อ้อ..แล้วมีอีกอย่างที่กระตุกใจ คือคนบ้านนี้ เวลามีใครล้มลงตายหรือใกล้ตาย เค๊าจะกรีดร้องเรียกชื่อฟูมฟายอยู่ข้างกายคนเจ็บหรือคนใกล้ตายกันอ่ะ ไม่ยักกะพยายามช่วยชีวิตปั๊มหัวใจผายปอด หรือกระทั่งโทรเรียกรถพยาบาลหรือเรียกเบอร์ฉุกเฉินกันเลย แต่เราคงสังเกตุมากเกินเหตุและคงติดมาจากหนังฝรั่งแหละแล้ว ตกลงจะเล่าเรื่องย่อมั๊ยน่ะ:: เราว่า..เราไม่สามารถเหมาเอาทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านได้ว่า ทุกท่านเคยอ่านการ์ตูนเรื่องนี้แล้ว หรือไปดูเรื่องนี้มาแล้วได้หรอก เพราะงั้น เล่านิดๆพอเป็นสังเขปละกันเรื่องมีอยู่ว่าเฮ้ย ตอนนี้มะไหวอ่ะ เดี๋ยวค่อยมาเล่าละกัน
DeUsynlige (2008) Erik Poppe : : หนึ่งเป็นผู้ทำลาย หนึ่งเป็นฝ่ายสูญเสีย เวลาผ่านต่างฝ่ายต่างเริ่มชีวิตใหม่แต่ที่สุดแล้วโชคชะตาก็นำพาให้ทั้งสองต้องมาเผชิญหน้ากัน ~ ถึงพล็อตจะสามัญแบบนี้แต่หนังวางสถานการณ์ที่แสดงและเหตุการณ์ที่ซ่อนอยู่ได้หมาะกันดีมาก การถ่ายโอนตัวละครจุดศูนย์กลางของเรื่องจากคนหนึ่งไปคนหนึ่งก็ไหลลื่น เรื่องราวที่บรรจุความกดดันต่อสู้กับตัวเองของตัวละครก็เข้มข้น และ "โอกาส" เป็นสิ่งที่หนังขอให้เราเห็นเป็นสำคัญเพราะที่สุดแล้วเราจะเห็นว่าฝ่ายที่เคยสูญเสียกลับด้านมาเป็นผู้ทำลายบ้าง ทั้งหมดเป็นความละเอียดในอารมณ์ของผกก.ที่ทำออกมาได้น่าชื่นชมจริงๆ
Adventureland (2009) Greg Mottola : : เด็กหนุ่มพรหมจรรย์และเด็กสาวเมียเก็บนายช่างของสวนสนุกเกิดลังเลในความรู้สึกที่มีให้แก่กัน ครั้นจะจูนกันติดกลับมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันซะงั้น ~ ปั๊ปปี้เลิฟสนุกๆ ประสาวัยรุ่นวัยเรียน ฉากหลังเป็นยุค 80 ที่มีกัญชาเป็นสื่อกลางสร้างความสัมพันธ์ เพลงดิสโก้ ฟังก์ พั้งค์ จากยุคนั้นก็อัดกันขนกันมาเพียบ เพลิน และมองว่า คริสเตน สจ๊วต นั้นดูทื่อมะลื่อไงไม่รู้
Mutum (2007) Sandra Kogut : : เด็กชายคนหนึ่งแถบบ้านนาของบราซิล ต้องเผชิญกับความดุดันของพ่อ สนิทกับอาแต่เหมือนเขาจะมาจีบแม่ ถูกเพื่อนวัยเดียวกันเหน็บแนมและที่สำคัญคือสูญเสียเพื่อนรักที่สุดในชีวิต ~ อะไรจะแกร่งเกินนี้ไม่มีอีกแล้ว เจ้าหนูไม่ได้อยู่ในร่างของคนมองโลกในแง่ดี หากแต่ให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยความเข้าใจและมองถึงสิ่งที่ตนต้องทำ ... ชอบเรื่องที่แทรกอยู่เล็กๆ อย่างความผิดปกติทางสายตา (สายตาสั้น) เมื่อมันเกิดขึ้นกับคนในชนบทซึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร จะเห็นความแตกต่างก็ต่อเมื่อได้ลองสวมแว่นตาเท่านั้น
Dalkomhan insaeng (2005) Ji-woon Kim : : มือขวาของเจ้าพ่อฝีมือสุดเนี้ยบทำการใดไม่เคยล้มเหลว ตีรันฟันแทงเตะต่อยขอให้บอก แต่จะมาตายเอาก็เพราะริอาจมีใจให้ เด็ก ของเจ้าพ่อ ~ หนังแก็งส์เตอร์ของพี่ๆ เกาหลีเขาต้องบอกว่าออกแบบท่าทางกันมาดี ดูแล้วเพลิน นึกถึง Transpotter ที่ เจสัน สเตแธม ในชุดสูทหรูระยับแต่ยกแข้งขาถีบยันได้ดีเอาเรื่อง ทรยศหักหลังยังเป็นชนวนหลักที่สร้างสีสันให้กับหนังแนวนี้ สนุกดีแม้จะชวนสับสนนิดหน่อยว่าใครอยู่ฝ่ายไหนลูกน้องใคร (ก็หน้าตาเขาคล้ายกันน่ะ)
Noise (2007) Matthew Saville : : หนังมีส่วนผสมของความเป็นหนังเขย่าขวัญอยู่เพียงส่วนหนึ่งทั้งๆ ที่มีเหตุสะเทือนขวัญรุนแรง แต่... อ่านต่อ ที่นี่
มีให้เลือกทั้งเวอร์ชั่นไทยกะอังกฤษด้วย เห็นพี่ที่ทำงาน
จะไปดูโรงเฮ้าส์อ่ะ
แหะๆ เราว่าเวอร์ชั่นที่เป็นหนังเนี่ยน่าจะดูง่ายกว่า
ตอนอ่านการ์ตูนนะ เราอ่านแต่ละหน้าใช้เวลานานทีเดียว
ปกติพวการ์ตูนเนี่ย เปิดแป๊บๆก็หมด ก็ค่อยอ่านๆ
เสียดายกลัวจบเร็วอ่ะ ฮิๆ เราตามอ่านDeath Note จบ
ภาคแรกเองมั้งค่ะ เสียดายริวซากิชอบอ่ะ แปลกดี ชอบ
หล่อแบบแปลกๆ ฮ่าๆๆ Lคุงในการ์ตูนหล่อกว่าอ่ะ เท่าที่ดู
ต้องไปพิสูจน์ก่อนล่ะว่าเวอร์ฯหนังจะหล่อแค่ไหน
ขอบคุณสำหรับแง่คิดจ้ะ อ่านคอมเม้นท์แล้วทำให้คิดและปลง
ได้เยอะขึ้น ว่างๆก็มานอนมานั่งเล่นกับโซฟา
เขียวได้อีกนะ มีคนมานั่งมานอนเยอะล่ะ โซฟามหาชน ฮ่าๆ
แปลกที่ปกติเราไม่ชอบสีเขียวเท่าไหร่ แต่ไหงโซฟาตัวนี้
มันทำให้เราชอบได้ขนาดนี้ บรรยากาศก็น่านอน
โอ๊ะ...มารายผลฮะ แมนยู๙นะ2-0