อริยสัจ ๔








วันนี้มาพูดถึงเรื่องธรรมหมวดสุดท้ายที่มีกล่าวอยู่ในสติปัฏฐาน ๔ คือ อริยสัจ ๔ กันต่อ...นะคะ

อริยสัจ หรือ จตุราริยสัจ หรือ อริยสัจ ๔ แปลว่า ความจริงอันประเสริฐ, ความจริงของพระอริยะ, ความจริงที่ทำให้ผู้เข้าถึงเป็นอิสระ ซึ่งเป็นหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า มีอยู่ ๔ ประการ คือ

๑. ทุกข์ คือสภาพที่ทนได้ยาก เป็นสภาวะบีบคั้น หรือภาวะที่ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ หรือแม้แต่การที่ประสบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รัก การพลัดจากสิ่งอันเป็นที่รัก การปรารถนาสิ่งใดแล้วไม่สมหวังในสิ่งนั้น พูดง่าย ๆ ก็คือปัญหาทุกอย่างที่ชีวิตเผชิญอยู่นั่นเอง

ทุกข์มีได้ ๒ ทาง คือทุกข์ทางกาย เกิดจากการเกิด-แก่-เจ็บ-ตาย ไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ที่เกิดมาในโลกนี้ ล้วนต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านี้อย่างหลีกหนีไม่พ้น บางคนเกิดทุกข์ทางกายเนื่องจากโรคภัยไข้เจ็บเท่านั้นไม่พอ ยังไปเพิ่มความทุกข์ทางใจให้ตัวเองเข้าไปอีก เพราะรู้ไม่เท่าทันว่าความเจ็บป่วยนั้นเป็นเรื่องธรรมดาของสัตว์โลก

เคยเห็นบางคนที่เขาเป็นโรคมะเร็ง แต่เขามีความเข้าใจดีว่าเรื่องความเจ็บป่วยเป็นสิ่งธรรมดาที่ย่อมเกิดขึ้นกับใครก็ได้ จึงพยายามดำเนินชีวิตตามคำแนะนำของแพทย์ผู้ทำการรักษา ใช้สติปัญญาศึกษาความเป็นไปของโรคนั้น แล้วก็ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโรคนั้นได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันก็ยังมีชีวิตอยู่ ซ้ำมะเร็งที่ว่าเป็นโรคร้ายนั้นก็หายไป นี่เป็นตัวอย่างที่ดีที่เราควรจะมองและทำความเข้าใจ

อย่างตัวของปอป้าเองก็เป็นโรคที่ทางการแพทย์ยังไม่สามารถหาตัวยาใด ๆ มารักษาให้หายขาดได้ โรค SLE อยู่กับปอป้ามานานร่วม ๔๐ ปีแล้ว ถามว่าเคยทุกข์ทรมานทั้งกายและใจไหม ตอบได้ทันทีว่า “ เคย “ แต่ไม่เคยให้ความทุกข์ใด ๆ มาอาศัยอยู่กับตัวเองนานหรอก หากเราเข้าใจข้อธรรมะอันเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าได้ดี ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้ดีเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ การเจ็บป่วยแต่ละครั้งจึงไม่สามารถมาบั่นทอนความสุขในชีวิตของปอป้าได้ อาการกำเริบก็ไปหาหมอรักษากินยาไป ถ้าไม่หายมันจะต้องเจ็บหนักกว่าเดิมหรือตายไปในที่สุด นั่นก็คือเรื่องปกติธรรมดาของสัตว์โลก

เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย แม้แต่พระพุทธองค์ก็ยังต้องพบกับสิ่งเหล่านี้ แต่สุดท้ายพระองค์ก็ทรงหาวิธีให้หลุดจากวัฏะนั้นไปได้ หยุดการเวียนว่ายตายเกิดได้อย่างสิ้นเชิง แล้วพระองค์ก็ทรงมีเมตตาสอนธรรมอันเป็นความจริงที่เป็นไปได้นั้นให้แก่มวลมนุษย์ อยู่ที่ว่าใครจะสามารถเรียนรู้และอดทนปฏิบัติตามวิธีของพระองค์ได้แค่ไหน มีพระอริยสงฆ์หลายท่านที่สามารถเดินตามรอยพระบาทพระศาสดาและหลุดพ้นวัฏะตามพระพุทธองค์ไปได้ ซึ่งเราก็เคยได้ยินเรื่องราวกันมาบ้างแล้วไม่มากก็น้อย

ทุกข์ทางใจ นับเป็นทุกข์ที่สาหัสมากกว่าทุกข์ทางกาย เพราะเมื่อใดที่ยึดมั่นถือมั่นในความเป็นตัวตน ไม่รู้จักปล่อยวาง ไม่ทำความเข้าใจขันธ์ ๕ ว่าทุกสิ่งมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับสิ้นสูญสลายไปในที่สุด เมื่อนั้นความทุกข์อย่างใหญ่หลวงย่อมเกิดขึ้นในจิตใจของตนเอง

คนบางคนอยู่ที่ไหนก็หาความสุขไม่ได้ มันร้อนอกร้อนใจไปหมด นี่ไม่ถูกใจนั่นก็ไม่พอใจ ทุกอย่างเป็น “ ตัวกู ของกู “ หมด คนที่ทุกข์ใจนั้น ถ้าจะสังเกตหรือศึกษาให้ดี คนเหล่านั้นมักมีความคิดไม่พ้นตัวเอง คือเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง จริงอยู่ในสังคมบางแห่ง คนบางคนทำตัวไม่ดีไม่น่ารัก แต่หากเราต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับพวกเขาในสังคมนั้น ๆ ถ้าเราสามารถตักเตือนได้ แต่ต้องเป็นการตักเตือนอย่างไม่เอนเอียงเข้าข้างความคิดของตัวเองเป็นหลัก เตือนได้เราก็เตือน เพื่อความสงบเรียบร้อยในสังคมนั้น ๆ แต่หากไม่สามารถเตือนได้ วิถีที่เราจะอยู่ในสังคมนั้นได้อย่างมีความสุขก็คือ “ อุเบกขา “ คือปล่อยวาง ไม่นำความไม่ดีของคน ๆ นั้นเข้ามาเก็บสะสมไว้ในใจตัวเอง เรียกว่าไม่เอาความทุกข์เข้ามาสุมตัวเอง มีคำกล่าวว่า “ สวรรค์ในอก นรกในใจ “ ก็อยู่ที่ว่าเราจะเลือกเอาสวรรค์หรือนรกมาอยู่กับตัวเรา

๒. สมุทัย คือสาเหตุแห่งการเกิดทุกข์ หรือสาเหตุของปัญหาชีวิตที่กำลังเผชิญอยู่ ซึ่งมักจะเกิดจากตัณหาหรือความทะยานอยาก ยังไม่มี ยังไม่ได้ ยังไม่เป็น, อยากมี อยากได้ อยากเป็น, ได้แล้ว มีแล้ว เป็นแล้ว เรียกว่าถ้าได้แล้ว-เป็นแล้ว-มีแล้ว ก็อยากให้มันคงอยู่กับตัวเองตลอดไป ในขณะที่บางครั้งก็เกิดไม่อยากได้-ไม่อยากเป็น-ไม่อยากมี ขึ้นมาอีก ก็จะพยายามหนีจากสิ่งที่ตัวเองได้อยู่-เป็นอยู่-มีอยู่ ล้วนแต่เป็นอวิชชา คือความไม่รู้เท่าทันตามความเป็นจริง เมื่อไรที่ดำเนินชีวิตด้วยตัณหา-ความอยากไม่มีที่สิ้นสุด ย่อมนำแต่ความทุกข์มาให้ไม่มีที่สิ้นสุดเช่นกัน

คนบางคนชอบนำชีวิตของตัวเองไปเปรียบเทียบกับผู้อื่น หากนำไปเปรียบเทียบเพื่อให้เกิดภาวะปล่อยวาง ย่อมนำแต่ความสุขมาให้ตัวเอง แต่ส่วนใหญ่แล้วชอบที่จะนำไปเปรียบเทียบกับคนที่ดีกว่าตัวเอง แล้วเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจที่ตัวเองไม่ได้ดี ไม่ได้มีอย่างคนอื่นเขา นั่นคือนำความทุกข์มาให้ตัวเอง ถ้าพิจารณาดูให้ดีทุกข์ที่เกิดขึ้นนั้นก็เนื่องมาจากตัณหาคือความอยากทั้งสิ้น เมื่อใดที่สามารถละความอยากได้ เมื่อนั้นชีวิตก็มีแต่ความสงบสุข

๓. นิโรธ คือความดับทุกข์ หมายถึงการแก้ปัญหาให้หมดไปโดยสิ้นเชิง ในการปฏิบัติก็หมายถึงการดับตัณหาทั้ง ๓ ให้หมดไปนั่นเอง แต่ในความเป็นจริงของคนหลาย ๆ คน แทนที่จะหาทางดับทุกข์ แต่กลับเพิ่มทุกข์ให้กับตัวเองมากขึ้นไปอีก เพราะมนุษย์ส่วนมากเข้าใจว่าเป้าหมายของการเกิดมานั้นคือ ต้องได้กิน ได้กาม และได้เกียรติ จึงต่างพากันแสวงหาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

อาหาร - พยายามสรรหาแต่สิ่งที่คิดว่าดี ว่าอร่อยที่สุด สนองตัณหาความอยากกินของตัวเอง บางคนเพียงแค่ต้องการทานอาหารสักมื้อหนึ่ง ลงทุนบินไปถึงสิงคโปร์ หรือฮ่องกง เพียงเพื่อทานอาหารมื้อเดียว ก็เพื่อสนองตัณหาความอยากของตัวเองนั่นแหละ สนองตัณหาโดยไร้สติ ไม่รู้จักคิดว่าอาหารต่าง ๆ ให้ดีหรือวิเศษเพียงใด สุดท้ายมันก็ต้องเป็นของเสียถูกร่างกายขับถ่ายออกมาอยู่ดี

กาม - ปัจจุบันนี้ปัญหาสังคมอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวันนั้น เนื่องมาจากกามตัณหา ไม่ว่าจะเป็นความต้องการทางกามารมณ์ ที่ไม่รู้จักคำว่า “ ผัวเดียว-เมียเดียว “ หรือความสำส่อนทางเพศ ซึ่งนอกจากทำให้เกิดปัญหาสังคมแล้ว ยังนำมาซึ่งโรคร้ายที่ระบาดอยู่อย่างไม่หยุดยั้ง หรือแม้แต่ความต้องการทางวัตถุ พวกวัตถุนิยม ใครมีอะไรฉันก็ต้องมีอย่างนั้นบ้าง โดยที่ไม่ได้ดูฐานะของตัวเองว่าสมควรหรือไม่ ก่อให้เกิดภาระหนี้สินรุงรัง เกิดหนี้ทั้งในและนอกระบบ เจ้าหนี้ตามล้างตามเช็ดกันถึงขั้นทำร้ายร่างกายหรือเอาชีวิตก็มีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ

เกียรติ - คนบางคนก็บ้าสถานะภาพทางสังคม มีเงิน มียศแล้วก็อยากมีเกียรติ มีชื่อเสียง ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้รับการยอมรับทางสังคม โดยไม่คำนึงถึงความถูก-ผิด หรือความเหมาะสมแต่อย่างใด คนเหล่านี้ลืมสัจธรรมที่ว่าเกิดมาแต่ตัว ตายไปอะไร ๆ ก็ไม่สามารถนำติดตัวไปได้ แม้แต่เงินเหรียญที่มีประเพณีใส่ในปากคนตายนั้น หรือแม้แต่เสื้อผ้าชุดสุดท้ายที่เขาสวมใส่ให้ก่อนนำสังขารลงโลง ก็ยังไม่สามารถเอาไปได้ เมื่อไม่เข้าใจพระสัทธรรม ก็ไม่รู้หรอกว่ามีแต่ “ กรรม “ และ “ ผลของกรรม “ เท่านั้นที่มันจะติดตัวติดดวงวิญญาณไปตลอด ไม่ว่าจะไปเกิดในภพใดภูมิใด

๔. มรรค คือวิธีการแก้ปัญหา หรือแนวทางในการปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ อันได้แก่ มรรค ๘ ซึ่งรวมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า
“ มัชฌิมาปฏิปทา “ หรือ ทางสายกลาง
โดยทั้งหมดนี้ก็อยู่ในไตรสิกขา (ศีล สมาธิ ปัญญา) นั่นเอง กล่าวคือ

๑) ศีล คือการควบคุมกาย-วาจา-ใจ ให้เรียบร้อยสอดคล้องกับความรู้นั้น ๆ ได้แก่ สัมมาทิฐิ-ความเห็นชอบ, สัมมาสังกัปปะ-ความดำริชอบ

๒) สมาธิ หรือจิต คือการควบคุมจิตให้แน่วแน่มั่นคงต่อเป้าหมาย ได้แก่ สัมมาวาจา-เจรจาชอบ, สัมมากัมมันตะ-การทำงานชอบ,
สัมมาอาชีวะ-การเลี้ยงชีพชอบ

๓) ปัญญา มีความรู้ความเข้าใจ ได้แก่ สัมมาวายามะ-ความพยายามชอบ, สัมมาสติ-ความระลึกชอบ, สัมมาสมาธิ-ความตั้งใจชอบ

ชีวิตจะมีความสุขได้ ต้องเริ่มจากความคิด คือสัมมาทิฐิ, สัมมาสังกัปปะ เมื่อคิดดี-เห็นดี-ดำริดี ย่อมนำมาซึ่งการพยายามในการปฏิบัติดีต่อไป เมื่อรู้จักอริยสัจทั้ง ๔ แล้ว สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องรู้ด้วยว่า ต้องทำอย่างไรกับอริยสัจ ๔ นี้ กล่าวคือ

๑. ปริญญา-ทุกข์ หมายถึง ความกําหนดรู้, ความหยั่งรู้, ความรู้รอบ คือควรรู้หรือทำความเข้าใจในปัญหาหรือสภาวะของทุกข์ตามความเป็นจริง เป็นการเผชิญหน้ากับปัญหา

๒. ปหานะ-สมุทัย - ละ หรือกำจัดสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นตอของเหตุ

๓. สัจฉิกิริยา-นิโรธ-ทำให้แจ้ง คือการเข้าถึงภาวการณ์การดับทุกข์

๔. ภาวนา-มรรค-ทำให้เจริญ คือการฝึกอบรมปฏิบัติตามทางเพื่อให้ถึงความดับแห่งทุกข์

สิ่งที่จะต้องทำทั้ง ๔ ประการนี้ ต้องปฏิบัติให้ตรงกับมรรคแต่ละข้อให้ถูกต้อง การรู้จักกิจหรือสิ่งที่ต้องทำในอริยสัจ ๔ นี้เรียกว่า
“ กิจญาณ “ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของญาณ ๓ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ ญาณทัสสนะ “ หมายถึงการหยั่งรู้ครบสามรอบ

ญาณทั้ง ๓ เมื่อเข้าคู่กับกิจในอริยสัจทั้ง ๔ จึงได้เป็นญาณทัสสนะ มีอาการ ๑๒ ดังนี้ คือ

๑. สัจญาณ คือความรู้เรื่องแห่งความจริง, ในพระพุทธศาสนาหมายเอาความปรีชาหยั่งรู้อริยสัจว่า

ทุกข์ = นี่คือทุกข์
สมุทัย = นี่คือเหตุแห่งทุกข์
นิโรธ = นี่คือความดับทุกข์
มรรค = นี่คือทางแห่งความดับทุกข์

๒. กิจญาณ คือความหยั่งรู้หน้าที่ต่ออริยสัจว่า

ทุกข์-----------------------ควรรู้
เหตุแห่งทุกข์---------------ควรละ
ความดับทุกข์--------------ควรทำให้ประจักษ์
ทางแห่งความดับทุกข์-----ควรฝึกหัดให้เจริญขึ้น

๓. กตญาณ คือความหยั่งรู้ว่าได้ทำกิจที่ควรทำได้เสร็จสิ้นแล้ว

ทุกข์------------------------ได้กำหนดรู้แล้ว
เหตุแห่งทุกข์---------------ได้ละแล้ว
ความดับทุกข์---------------ได้ประจักษ์แจ้งแล้ว
ทางแห่งความดับทุกข์------ได้ปฏิบัติแล้ว

เป็นไงมั่งคะ อ่านข้อธรรมที่มีการกล่าวถึงในสติปัฏฐาน ๔ มาหมดแล้ว อย่าเพิ่งมึนนะคะ ค่อย ๆ อ่านทำความเข้าใจไปเรื่อย ๆ ถ้าอ่านครั้งแรกยังไม่ค่อยเข้าใจหรืออ่านไม่หมด ก็ย้อนกลับมาอ่านใหม่ได้ บทความทั้งหมดที่เขียนไว้ ไม่หนีไปไหนแน่นอน การศึกษาข้อธรรมต่าง ๆ ต้องอยู่ที่ชอบหรือไม่ชอบด้วย บางคนชอบที่จะอ่านหรือศึกษาเพราะอยากรู้ ในขณะที่บางคนเห็นทุกข์แล้วจึงเห็นคุณค่าของธรรม เมื่อเห็นคุณค่าของธรรมแล้ว ก็อยากจะศึกษาเรียนรู้ให้กระจ่างขึ้นไปอีก อันจะนำไปสู่ความเข้าใจในการปฏิบัติต่อไป พูดถึงการปฏิบัติก็ไม่ได้หมายความว่าปฏิบัติธรรมเพียงอย่างเดียว การเข้าใจข้อธรรมต่าง ๆ อย่างถ่องแท้ สามารถนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาในการเลี้ยงดูบุตรหลาน หรือแม้กระทั่งปัญหาในชีวิตการทำงานหรือชีวิตส่วนตัว หากเราเข้าใจอริยสัจ ๔ เป็นอย่างดี เราก็สามารถพิจารณาถึงที่มาที่ไปของปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน รวมถึงวิธีการแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน

คราวหน้าจะได้พูดถึงเรื่องสติปัฏฐาน ๔ กันเสียที เพราะข้อธรรมต่าง ๆ อันเป็นพื้นฐานนำไปสู่การปฏิบัติในแนวสติปัฏฐาน ๔ ได้พูดกันมาหมดแล้ว หากผู้อ่านทำความเข้าใจได้ดีแล้ว เมื่อถึงคราวปฏิบัติภาวนาจริง ๆ ข้อธรรมเหล่านี้จะสามารถช่วยให้เจริญก้าวหน้าได้เร็วยิ่งขึ้น




ขอบคุณ
ภาพประกอบเรื่อง จาก กูเกิ้ล
โดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆสิตพิพัฒน์





เพลงบังใบ โดย ชัยภัค ภัทรจินดา
พะพู เอื้อเฟื้อ




























หนังสือสวดมนต์แปล






Create Date : 04 ธันวาคม 2552
Last Update : 9 กรกฎาคม 2553 9:50:42 น. 55 comments
Counter : 2301 Pageviews.

 

นู๋ดาว
นู๋ดาวนู๋ดาว
นู๋ดาวนู๋ดาวนู๋ดาว
นู๋ดาวนู๋ดาวนู๋ดาวนู๋ดาว
นู๋ดาวนู๋ดาวนู๋ดาวนู๋ดาวนู๋ดาว
นู๋ดาวนู๋ดาวนู๋ดาวนู๋ดาวนู๋ดาวนู๋ดาว

นู๋ดาวคนซน ขอเจิมบล็อก ปอป้า พรหมญาณี ค่ะ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:9:48:21 น.  

 
สวัสดีวันศุกร์...ค่ะ

สุขกาย สุขใจ ไร้กังวล หมดทุกข์ หมดโศก หมดโรคภัยมาเบียดเบียน
มีความสุขและสมหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนาตลอดไป....นะคะ





โดย: พรหมญาณี วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:10:14:23 น.  

 
นู๋ดาวมาแว๊วววคร่า..

เรื่องทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค.......ฯดาวเคยได้ยินนะคะ..
เรียนมาตั้งกะเด็ก..
แล้วก็เจอแต่ทุกข์มาบ๊อยบ่อยอ่ะ..เลยซึ้งงงง...ฮิๆ

***


พรุ่งนี้ปอป้าไปเที่ยวเผื่อนู๋ดาวด้วยน๊า
แล้วนู๋ดาวจะไปเที่ยวเพชรบุรีเผื่อปอป้าค่ะ...
ส่วนทั่นวันก็ทำงานไป...คุณก๋าก็ทำงาน
ถ้านู๋ไม่พักที่เพชรบุรี...นู๋จะไปลั๊ลลาที่ราชดำเนินเดินดูไฟค่ะ ..

ว่าแล้วก็รีบไปทำงานต่อ..จะได้รีบไปเที่ยวห้างก่อนค่ะ..
วันนี้เลิกงานเวลาปรกติไม่ได้ ...เพราะรถจะติดมหาศาลเลยเนาะ

...

ขอให้ปอป้าเดินทางปลอดภัย...ไปเที่ยวสนุกสนานนะคะ..
การพักผ่อนด้วยการเที่ยว..แม้จะลำบากบ้าง..แต่มานก็สนุกเนอะ..


**

ตอนนี้พี่สาวคนสวยของนู๋หายไปสองวันแระค่ะ..
นู๋ไปตามหาพี่สาวคนสวยก่อนนะคะ ...




โดย: นู๋ดาว คนซนๆค่ะ (satineesh ) วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:10:46:45 น.  

 
สาธุกับธรรมค่ะปอป้า

มีกายก็มีทุกข์จริงๆค่ะ กิ่งไม้ไทย มีความรู้สึกผิดปกติกับกาย ก็เกิดวิตกจริต ว่า เราจะติดไข้หวัด 2009 รึปล่าว ไม่อยากเป็นจะได้เดินทางได้สะดวก ตามต้องการค่ะ

Have a nice day naka...


โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:12:04:31 น.  

 
สวัสดีบ่ายวันศุกร์ค่ะคุณปอป้า
อ่านช้าๆ อ่านไปคิดตามไปด้วยค่ะ

++
โถ..น่าสงสารคุณนายซิ้มเธอนะคะนั่น
ขอให้ขาหายเร็วๆ ฮี่ๆ
กิมจิพูเดิ้ลที่บ้านก็ชอบกระโดดค่ะ
ไม่ค่อยเจียมสังขารเหมือนกัน




โดย: coji วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:13:28:13 น.  

 


มาฝากความคิดถึงค่ะปอป้าจ๋า

มาดื่มชากันนะ หมดแก้วเลย

พรุ่งนี้ ไอไปต่างจังหวัดจ้า เดี๋ยวจะเที่ยวเผื่อนะจ๊ะ

ขอให้ปอป้ามีสุขภาพแข็งแรง มีความสุขมาก ๆ ตลอดไปค่ะ


โดย: I_sabai วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:15:14:51 น.  

 
อิอิ ไม่หายค่ะ คราวก่อนส่งป้ายหมีพูมาบอกคิดถึง เพราะกำลังยุ่งมากๆ ทำงานที่คอมฯอีกตัวอยู่

แล้วพอดีแม่บ้านเข้ามาส่งข้าว มี่เลยใช้ให้ส่งป้ายทักต่อจนครบคน เพราะบังเอิญนึกงานที่ทำค้างต่อได้ แกก็กลัวเหมือนกัน ดีแต่มี่ฝึกให้ก็อปปี้ต่อหน้าจนเข้าใจ

มี่เลยวานแกส่งต่อจนครบคน เพราะทิ้งค้างเดี๋ยวมี่ลืมว่าทักยังไม่หมดพอดีงานมากสักหน่อยใช้คอมสองตัวเลยค่ะคุณป้า 555 พอคิดงานไม่ออกก็เเว๊บเครื่องส่วนตัวเล่นเวบต่างๆสักพัก พอคลายเครียดค่อยต่องานอีก

ปรกติแกไม่เคยมายุ่งและจะจับแตะคอมฯมี่ได้ก็ต้องมี่นั่งอยู่ด้วยเท่านั้น ส่วนใหญ่มี่ทำเอง วานบ้างสามสี่เดือนครั้ง ค่ะ ส่วนมากเป็นช่วงปลายปีค่ะ

......................
สวัสดีค่ะ ช่วงนี้มี่หายนานไม่ได้มาทักทุกวันดังเคย เพราะงานเข้าสารพัดอย่างเลยค่ะ อิอิ

พอว่างก็รีบเผ่นมาก่อนเลยค่ะ สบายดีนะคะพี่ๆทุกคน

ใกล้สิ้นปีแล้ว มีอะไรที่หวังอยากได้แล้วมีคนรีบเสนอมาให้ทันใจเลย มีไหมคะ อิอิ


โดย: y@mie วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:16:33:14 น.  

 
ไม่น่าเชื่อว่าปอป้าเพิ่งอัพ อริยสัจ 4

ทุกข์ สมุทัย นิโรจ มรรค...น่าจะเป็นอะไรที่เบื้องต้น นึกว่าปอป้าพูดถึงไปว้ว

ตอนเรียนหนังสือ...อันนี้ต้องท่องจำให้ได้เป็นอันแรกๆเลยค่ะ

แต่มาอ่านของปอป้าอีกที...ก็มีมุมมองใหม่ๆเพิ่มเติมให้ได้คิดนะคะ

คิดถุงจ้า...เปล่าอู้ ...อัพแระ


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:17:11:52 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณปอป้า มาขอแอ็ดไปด้วยค่ะ

เรื่องอริยสัจ4 ดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายที่ใครๆ ก็ท่องจำได้ แต่ให้ทำจริงๆ ไม่ง่ายเลย


โดย: uter วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:19:07:57 น.  

 
สวัสดีค่ะ ป้าแอ๊ดหายไปหลายวันหน่อย
ไปทำธุระเรื่องลูกชายมาค่ะ เขาเพิ่งเดินทางไปเรียนต่อดอกเตอร์ทางเคมีเภสัชฯ ที่อิตาลี
ช่วงก่อนที่เขาจะเดินทาง ก็เป็นทุกข์มากมาย แสนสาหัส
จิตตก จนไม่อยากจะทำอะไรเลย
อ่านหนังสือพระก็แล้ว สวดมนต์ก็แล้ว ยังไม่หายเป็นห่วง
คงเป็นเพราะไม่เคยที่จะจากกันไปไกล และนานขนาดนี้ค่ะ

วันนี้ได้พูดคุยกับเขาแล้ว ทางเนต ได้ยินทั้งเสียงและได้เห็นหน้าลูก
ค่อยคลายความห่วงและความเศร้าไปได้เปลาะหนึ่ง
คนเป็นแม่ก็อย่างนี้แหละค่ะ รู้ทั้งรู้ว่าความรักคือความทุกข์ ก็ยังรักอยู่อ่ะนะ

ต้องขอขอบคุณคุณปอป้าเป็นอย่างมากที่เป็นหาวงว่าป้าแอ๊ดหายไปไหน

และขอขอบคุณที่ติดตามไปเที่ยวหลวงพระบางกับป้าแอ๊ดอย่างต่อเนื่อง



มาถึงวันสุดท้ายที่อยู่ในลาวแล้วค่ะ


โดย: addsiripun วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:19:42:26 น.  

 
สวัสดียามดึกค่ะปอป้า...
ขอบคุณปอป้ามากๆ นะคะที่แวะไปเยี่ยมที่บล็อกแม่มารูนเสมอ...ทำให้บรรยากาศไม่เงียบเหงา...


โดย: แม่มารูน Devonshire IP: 58.8.80.186 วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:22:12:44 น.  

 
แวะมาส่งเข้านอนคร่า
ฝันดีราตรีสวัสดิ์นะคะ


และขอให้ป้า เดินทางปลอดภัย
ทั้งไปและกลับค่ะ

เลิฟจะรอรับบุญอยู่บ้านนะคะ


โดย: อาลีอา วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:22:29:21 น.  

 
วันนี้วันพ่อแต่ไม่มีพ่อแล้วก็ขอมากราบผู้ใหญ่ที่น่ารักและเป็นห่วงนะค่ะยังอยู่ต่างประเทศค่ะไม่ได้แวะเวียนมาความรักและความคิดถึงมีส่งมาให้ตลอดเวลานะคะ



โดย: นู๋ดีค่ะ (kun_isara ) วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:6:34:04 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ปอป้า

นี่เป็นหลักธรรมที่สำคัญมากเลยครับ










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:7:29:47 น.  

 
title=

๐ เบิกฟ้าเข้าวันใหม่............น้อมฤทัยประณตนอบ
เิทิดคุณสนองตอบ..............มโนมอบด้วยภักดี

๐ แด่องค์พระราชัน.............พระมิ่งขวัญได้สุขี
ทวยราษฎร์สดุดี.................พระภูมีทรงพระเจริญ ฯ

สุขสันต์วันพ่อค่ะ ปอป้า


โดย: พ่อระนาด วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:10:19:18 น.  

 
หวัดดีค่ะ คุณปอป้า ไม่ได้เข้ามาทักหลายวัน ที่บ้านเน๊ตเล่นไม่ค่อยได้ สัญญาณไม่ดี แต่ไม่ได้บ้านนอกนะคะ มีข้อความดีๆมาฝากกันทุกวันเลย ขอบคุณนะคะ ยังงัยก้อขอให้คุณป้าร่างกายแข็งแรง สบายกายและใจ เป็นสาวตลอดไปนะคะ สมหวังทุกประการ และก้อทุกเรื่องที่หวังแล้วกันนะคะ ขออวยพรปีใหม่ไปด้วยเลยดีก่า เห่อนิดหนึงนะคะ คิดถึงป้านะคะ ห่วงใยนะคะ


โดย: หนึ่งลมหายใจ วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:14:39:12 น.  

 
เจอความทุกข์เยอะมากค่ะ ป้าขรา ทุกข์กาย ก็บ่อยมาก เพราะเป็นคนขี้โรคตั้งแต่ เด็กๆอะค่ะ ตั้งแต่จำความได้ ก็ต้องเจ็บตัวตลอดค่ะ

ส่วนทุกข์ใจ ยิ่งหนักหนากว่าค่ะ เป็นคนแบบทีป้าว่ามาเลยค่ะ ตัวกู ประจำ ไม่ได้ดั่งใจโมโหมากๆๆๆๆ ฮ่าๆๆ

พยายามอยู่ค่ะ ตอนนี้ดีมากขึ้นแล้วค่ะ แต่ก็จะ เผลอ บ่อยค่ะ ลืมตัว อิอิ เด๋วตัวกู กำเริบอีกแระฮ่าๆๆ

ขอบคุณค่ะ ปอป้า ที่คอยเตือนสติค่ะ และช่ายเลยค่ะ ต้อง หมั่นอ่านบ่อยๆค่ะ ไม่งั้นมันจะลืมทุกทีเลย

มีความสุขในวันพ่อแห่งชาตินะค่ะ

ขอให้สุขภาพดีนะค่ะ


โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:15:14:44 น.  

 


วันนี้วันพ่อขอให้มิตรน่ารักของคุณแคท
มีความสุขกับคุณพ่อนะค่ะ



พฺรหฺมาติ มาตาปิตโร ปุพฺพาจริยาติ วุจฺจติ
อาหุเนยิยา จ ปุตฺตานํ ปชาย อนุกมฺปกา

มารดาบิดาผู้เกื้อกูลลูก ท่านกล่าวว่า เป็นพระพรหมของลูก
เป็นครูคนแรกของลูก
และเป็นพระอรหันต์ของลูก





โดย: catt.&.cattleya.. วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:17:16:33 น.  

 
สวัสดีค่ะ ปอ ป้า ขา

ลูกปัดแวะมาส่งเข้านอนนะค่ะ

พักผ่อนเยอะ ๆ นะค่ะ

ขอบคุณ ปอ ป้าค่ะ ที่ช่วยทำบุญให้กับโรงเรียนของลูกปัด

ขออานิสงส์ ในครั้งนี้ช่วยหนุนให้ ปอ ป้า สุขภาพแข็งแรง โรคภัยใด ๆ อย่าได้มาเบียดเบียน

คืนนี้ หลับฝันดีนะค่ะ


โดย: LooKPat วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:22:06:17 น.  

 
เหมือนเป็นอะไรที่ง่ายๆ

แต่ปฏิบัติจริงๆ ก็ยากเอาการเหมือนกันนะคะ อิอิ

สวัสดีวันพ่อแห่งชาติค่ะคุณป้า ฉัตรไม่ค่อยได้มาจุ๊บุ จุ๊บุ นะคะ แต่คิดถึงคุณป้าใจดีที่บล๊อกนี้ไม่เคยเสื่อคลาย(เหมือนเป็นคารมไงก้อไม่รุสิ)

เข้ามาบล๊อกนี้ได้ธรรมะไปขัดเกลาจิตใจทุกครั้งเลยทีเดียวเชียว ฮิฮิ

รักพ่อ เดินตามรอยเท้าพ่อ และทำให้พ่อสบายใจกันเถอะค่ะ


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:22:52:25 น.  

 
รักพ่อ..ทุกๆวันค่ะ...



โดย: คนชุมแสง วันที่: 6 ธันวาคม 2552 เวลา:0:50:13 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ปอป้า










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 ธันวาคม 2552 เวลา:6:57:18 น.  

 
ขอให้วันหยุดวันนี้คุณปอป้า..มีความสุขมากๆๆนะค่ะ


โดย: catt.&.cattleya.. วันที่: 6 ธันวาคม 2552 เวลา:7:53:41 น.  

 



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 6 ธันวาคม 2552 เวลา:12:05:17 น.  

 
ผมเชื่อว่า "การให้ธรรมะเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง"

เพราะหมายถึงการทำให้ชีวิตของผู้รับดีขึ้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสองอย่างด้วย คือผู้รับซึมซับได้เพียงใด และอีกอย่างคือธรรมะนั้นเหมาะสมกับผู้รับเพียงใด

ผมมีความรู้สึกว่า ชาวไทยพุทธส่วนใหญ่ปัจจุบันคิดว่าการทำบุญคือการตักบาตรเท่านั้น ซึ่งแสดงถึงความไม่สนใจในเนื้อหาของศาสนาเลย

การที่ "พราหมญาณี" นำธรรมะมาแสดง โดยประกอบกับความคิดและประสบการณ์ ก็จะเป็นทางหนึ่งสำหรับผู้สนใจจะได้ศึกษา ทำความเข้าใจเพิ่มเติม ก็นับเป็นการให้ทานที่ควรอนุโมทนายิ่ง

......อย่างน้อยก็มีผมเข้ามารับทานนี้อยู่เรื่อยๆ


โดย: นายแจม วันที่: 6 ธันวาคม 2552 เวลา:20:29:39 น.  

 


มามี้เจ้าค๊ามาแล้ววน๊า
แพมเนด้วยกับความเห็นคุณ..นายแจม..เย้
การให้ธรรมมะมาแสดงคือการทำทานวิธีหนึ่ง




มามี้สงสัยต้องตีแพมแทนแระเพราะมะวาน
แพมงอลป๊าๆแหละ...คิดถึงนะค๊า

มาส่งมามี้เข้านอนห่มผ้า...หลับฝันดีนะค่ะ

> > ..*☆。..。'. .*。ㅇ' Miss Miz Mizzzz.*。☆。。..。* *
> '.+。 *'.+。mastana * :.+。mastana '.+ (¸,•´  (¸,•´ (¸*♥♥




โดย: mastana วันที่: 6 ธันวาคม 2552 เวลา:22:58:54 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ปอป้า










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:7:57:53 น.  

 
สวัสดียามสาย
มารายงานตัวแล้วค่า....
กลับจากหัวหินมาเมื่อวาน
สนุกๆๆๆมากรอบนี้

รอชมภาพนะคะ^^


โดย: mayday (savita29 ) วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:9:00:17 น.  

 
คุณป้าขา..นู๋ธัญมาส่งความคิดถึงค่ะ
ช่วงนี้นู๋ธัญอาจห่างหายไปบ้างนะคะ
คิดถึงคุณป้าเสมอนะคะ



โดย: tanjira วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:13:48:25 น.  

 
สวัสดีค่ะปอป้าจ๋า

แวะมาส่งความคิดถึงให้ปอป้าค่ะ

ช่วงวันหยุด ขอปอป้าเดินทางเที่ยวสนุกเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพค่ะ ^__^


คิดถึง คิดถึง คิดถึง


โดย: นางฟ้าฯ IP: 125.25.103.197 วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:17:12:40 น.  

 



สวัสดีวันจันทร์ที่สดใส...ถึงจะเย็นไปหน่อย!

เข้าบ้านปอป้าแล้ว...เย็นกายเย็นใจจังเลยจ่ะ...

ขอบคุณ...ที่ไม่ทอดทิ้งป้าหู้นะคะ

ป้าหู้เพิ่งมีเวลามาทักทายจ้า

พักนี้ต้องวุ่นวายกะป้าแมวมากเลย

มีความสุขมากๆนะคะ




โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:18:34:39 น.  

 
สวัสดีเพื่อนๆบล็อกแกนตอนนี้ปฐพีหอมอยูในชว่งของการฝึกงานเลยไม่คอยมีเวลาอับบล็อก...ก็พยายามหาเวลาเช่าอินเตอเนตในตลาดแถวอำเภอแจ้ห่ม จ.ลำปาง...นำรูปมาฝากครับ...ลำปางหนาวมากครับ...หนาวแล้วขอให้เพื่อนๆบล็อกแกนทุกท่านรักษาสูขภาพดว้ยนะครับ........


โดย: ปฐพีหอม วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:19:54:57 น.  

 
สวัสดีคร่า ปอป้า

จันทร์ขอบคุณมากๆสำหรับความห่วงใยและความคิดถึงนะคะ

ช่วงนี้จันทร์ยุ่งมากเรยค่ะปอป้า กลับบ้านมาก้อเหนื่อยเรยนอนเรยคร่า บอลก้อไม่ค่อยได้ดู นี่ก้อเจ็บคออีกแล้วค่ะ ดูแลตัวเองเต็มที่ค่ะตอนนี้

วันนี้เรยแวบมๆมาหาปอป้าคร่า ปอป้ารักษาสุขภาพด้วยนะคร้า


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:22:47:30 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ปอป้า









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:6:55:28 น.  

 


สวัสดีเช้าวันอังคาร
มาพร้อมกับลูกโป่งใบโต
ที่ใส่ความคิดถึงกันเสมอมาฝากค่ะปอป้า


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:7:23:10 น.  

 



นู๋ดาวกลับมาแว๊วววว

ไปตะลอนทัวร์มาค่ะ ... หนุ๊กหนุกค่ะปอป้า

ช่วงนี้อากาศเย็นๆ...เลยเที่ยวสนุกเนาะ

เด๋วทำงานอีก 2วันก็จะได้หยุดอีก... คริคริ




นู๋ดาว ยกกาแฟจาก "เพลินวาน" มาฝากค่ะ

ให้ปอป้ามีความสุขกับวันดีดี ของเดือนแห่งความสุขนี้ทุกๆวันนะคะ







โดย: satineesh วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:7:52:07 น.  

 


มามี้ขา

มากอดมามี้ที่นี่แทนนะคะ
ด้วยความคิดถึงมามี้ค่ะ



โดย: พธู วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:11:09:00 น.  

 


ปอป้าไปไหนน๊อ?...

สงกาสัย จาไปเที่ยว...คริคริ

นู๋ดาวไปซนที่อื่นต่อแระค่ะ



โดย: satineesh วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:13:06:26 น.  

 
ดีค่ะ ปอป้า แวะมาเยี่ยมนะค่ะ





โดย: นู๋หญิงจ๋า วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:18:16:31 น.  

 
แวะมาสวัสดีปอป้าค่ะ สบายดีนะคะ


โดย: อ้อ (sandseasun ) วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:20:33:57 น.  

 
ตกลงก็ไม่ได้เปลียนคะป้า ทนต่อไป
แต่คงต้องหางานเพิ่มคะ
แขกหายหมดเลย

-----
พี่ดาวฝากบอกว่าคอมมีตัณหา เอ้ย
ปัญหาคะป้า คงเงียบสักระยะ


โดย: cbreeze21 วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:21:23:29 น.  

 
ย่อง..ย่อง...ย่อง

ปอป้าขาาาา นู่อิมมารายงานตัวแล้วค่ะ..แหะ..แหะ... ไม่มีข้อแก้ตัวอันใด้ทั้งสิ้น มายืนแบมือให้ปอป้าทำโทษแต่โดยดีค่ะ ที่หายไปไม่บอก....

แต่ยังงัยนู่อิมก็คิดถึงปอป้าซาเหมอเลยนะคะ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนบ่อย ปอป้าระวังสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: SaKaNaJang วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:21:30:35 น.  

 



สวัสดีค่ะปอป้า


เข้ามารับข้อธรรมค่ะ

มีความสุขกับวันแรกของการทำงานในสัปดาห์ที่สองของเดือนส่งท้ายปีนะคะ
วันนี้บล็อกอืดดดดดดดดดดจัง ….กว่าจะเปิดได้แต่ละหน้ารอแทบหลับ
ที่นี่เป็นอย่างป้าไหม???


ป่านนี้ปอป้าคงหลับไปแล้ว
รักษาสุขภาพ และอยู่กับสุขที่อิ่มเย็นนะคะ


อยากถึงที่หมาย ทางโลกบอกว่าให้เดิน …. ทางธรรมบอกว่าให้หยุด




โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:22:39:58 น.  

 
สวัสดียามดึกค่ะปอป้า...
สงสัยว่าป่านนี้ปอป้าหลับไปแล้วแน่ๆ เลย
นี่แม่มารูนก็ยังติดลมอยู่ทั้งๆ ที่เริ่มมึนศีรษะแล้วค่ะ..
สุขสันต์วันพุธนะคะปอป้า..


โดย: Devonshire วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:0:52:17 น.  

 
กล่าวกันว่า พระเจดีย์เกศแก้วจุฬามณี อยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
เป็นที่ประดิษฐานพระทันตธาตุที่พระอินทร์นำมาจากพระบรมธาตุ
ที่โทณพราหมณ์ได้แอบซ่อนไว้ เมื่อครั้งมีการแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ
ของพระพุทธเจ้าให้เจ้าเมืองต่าง ๆ

สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นสถานที่ที่ยากแก่มนุษย์อย่างเรา ๆ จะไปถึงได้
วันนี้ปอป้า จึงมาชวนกราบบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ที่วัดจุฬามณี แทน
เนื่องจากวัดนี้ ได้ตั้งชื่ออิงตามพระเจดีย์เกศแก้วจุฬามณี ที่ดาวดึงส์

ตามปกติโบสถ์ที่วัดจุฬามณี จังหวัดสมุทรสงครามนี้ ไม่เปิดให้เข้าชม
แต่เมื่อวันพ่อที่ผ่านมา ทางวัดได้เปิดโบสถ์ให้สาธุชนได้เข้าเยี่ยมชม
พร้อมทั้งกราบไหว้บูชาพระบรมสารีริกธาตุ





อะหัง วันทามิ ธาตุโย

ข้าพเจ้าขอน้อมนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุทั้งหลาย
ที่สถิตอยู่ในจักรวาล ทั้งพรหมโลกและดาวดึงส์

อะหัง วันทามิ สัพพะโส

ข้าพเจ้าขอน้อมนมัสการพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และพระอรหันตสาวกทั้งหลายทั้งปวงด้วย

พุทธัง ธัมมัง สังฆัง เอวังธาตุโย จัตตารี สะสะ
มาทันต เกสา โลมา นะขา ขีจะ อะหัง วันทามิ ธาตุโย

-------------------------------------------------------------

มีความสุข สมหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนาตลอดไป....นะคะ


โดย: พรหมญาณี วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:6:30:07 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ปอป้า

อนุโมทนาบุญด้วยครับพี่ปอป้า

ส่วนหมวกนั้น
ผมจะนำไปถวายให้ครับพี่
เมื่อวานผมเช็คไฟล์ท
ผมต้องไปสนามบินตั้งแต่ตี 4 ครับ 5555
บินไปก่อนหลวงพ่ออีกครับ 55555









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:7:06:37 น.  

 


โดย: เซียนกระบี่ลุ่มแม่น้ำวัง วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:9:43:07 น.  

 
สวัสดีตอนสายๆค่ะคุณปอป้า
แวะมาส่งความระลึกถึงค่ะ




โดย: coji วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:10:34:22 น.  

 

ค่ะปายเดี๋ยวนี้เหมาะกับหนุ่มสาวยุคใหม่
เขาว่าตอนหนาวๆนี่ในเขตชุมชน
เดินไม่ได้ต้องไหลกันไปเหมือนสายน้ำ



ขอให้ ป.ป้าเดินทางไป-กลับโดยสวัสดิภาพนะคะ



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:11:51:19 น.  

 
ไปเที่ยวกลับมา.. คอมเดี้ยงไปซะแระค่ะ

นู๋ดาวออนมาจากเนตคาเฟ่..

ตอนนี้กำลังคิดว่าจะทำอะไรกับคอมดีอ่ะค่ะ..ฮือๆๆ

นู๋ดาวกำลังเล็งเครื่องตีไข่อันใหม่ กับกล้องDSLR อยู่..
แล้วพอกาตังเหลือ.. นู๋ดาวจะไปเที่ยว ปาย ..

โครงการพันแปดร้อยล้านของนู๋ จะเป็นฉันใดหนอ 555

คิดถึงปอป้า หมิงหมิง พี่สาวคนสวย เสมอค่ะ..เลยออนจากเนตคาเฟ่มาหา

ตอนนี้ทั่นbms เธอไม่มีกะจิตกะใจมาตอบปัญหาอะไรให้นู๋ดาว
เพราะงานของเธอกับ ราคาทองคำที่ผันผวน ทำเอาเธอหัวหมุนไปแว๊ววว ... คริคริ


ให้ปอป้ามีความสุขมากๆนะคะ


โดย: satineesh วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:11:55:11 น.  

 
สวัสดีค่ะปอป้าที่น่ารัก
ทานกลางวันหรือยังคะ
วันหยุดที่ผ่านมา
ขากลับวันจันทร์แวะดูงานเทศกาลปลาทูที่
แม่กลอง (สมุทรสาคร) ปลาทูตัวอวบ ๆ น่าหม่ำมาก
เลยแวะซื้อมาไว้หลายตัวเลย
สงสัยอาทิตย์นี้ได้หม่ำแต่ปลาทู อิอิ
จะ แชะ ๆ ถ่ายรูป ก็อายผู้คนมีเพียบเลย
คิดถึงปอป้ามาก ๆ ค่ะ
และขอบคุณที่ปอป้านำบุญมาฝาก
สุขสดใสสบายใจในวันพุธนะคะ


โดย: I_sabai วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:12:46:11 น.  

 
ขอบคุณสำหรับความสุขที่มอบให้ด้วยค่ะ^^
สงสารคุณนายซิ้มจริงๆ คราวนี้เธอคงไม่ได้กระโดดอีกแล้วสินะคะ


โดย: coji วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:13:51:14 น.  

 


โดย: เซียนกระบี่ลุ่มแม่น้ำวัง วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:14:02:51 น.  

 
ชีวิตคนเรา ทุกอย่างผ่านมา วันหนึ่งก็ต้องผ่านเลยไป
เมื่อมีสิ่งดี ๆ ผ่านเข้ามา เราก็อย่าไปคาดหวังว่าจะอยู่กับเราตลอดไป
เพียงแต่ทำหน้าที่รักษาสิ่งดี ๆ นั้นให้อยู่กับเราให้นานที่สุดเท่านั้นก็พอ
ให้บอกใจตัวเองเสมอ ๆ ว่าทุกอย่างมาแล้วก็ไป
เมื่อใจชินกับคำที่เราพูดบ่อย ๆ แล้ว
เมื่อถึงวันที่สิ่งนั้นต้องจากไป เราจะได้ไม่มานั่งเสียใจ....

....ขอบคุณค่ะป้าจ๋า....รักป้า...ที่สุดเลย.....

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ...


โดย: นะ...โมเม วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:16:22:26 น.  

 


เอิงทำเค๊กส้มมาฝากค่ะ...


โดย: Madam_Hatyai วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:17:42:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พรหมญาณี
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 49 คน [?]








Prommayanee Tansukchai




ส่งอีเมล์ถึงป้า
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
4 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add พรหมญาณี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.