ตะพาบ..ฉึก..ฉึก
.. บืด ! ..
เสียงแตกดัง..โพล๊ะ..เพล้ง..ทำให้แต้วแว๊วสะดุ้งตื่น เหงื่อไหลโทรมกาย โดยเฉพาะหัวล้านน้อย ๆ
แต้วแว๊วค่อย ๆ เอามือปาดเหงื่อบริเวณหัวเหม่งแสนสวย โอ้..อนิจจา นี่แต้วแว๊วฝันไปหรือนี่..??
ในฝันนั้น...แต้วแว๊วนอนหลับ แล้วฝันไปว่า หลังจากที่สวดมนต์ทำวัตรเช้าเสร็จแล้ว ได้นั่งสมาธิ บรรยากาศในห้องพระช่างเงียบ..สงบ..เหมาะแก่การเจริญภาวนาเป็นอย่างยิ่ง ใช่..เหมาะมาก...เหมาะจนแต้วแว๊วนั่งสงบนิ่งตกภวังค์ สัปหงก
หัวไปโขกเอาแจกันดอกบัวดัง..โป๊ก..แต่เปล่าหรอก..นะ แต้วแว๊วไม่ได้สะดุ้งตกใจตื่นเพราะหัวโขกแจกัน
ในฝันนั้น...แต้วแว๊วเห็นตัวเองเอามือคลำหัวที่โนเล็กน้อยด้วยความตกใจพอประมาณ เมื่อเอามือลง..พลัน..มือเจ้ากรรมก็ไปปัดโดนจานแก้วเจียรในอย่างดี ที่ใส่หมากพลู วางถวายครูอาจารย์ไว้บนโต๊ะหมู่บูชา แต่..เอ๊ะ..จานแก้วมันอยู่ห่างจากแจกัน คนละชั้น คนละ step กันนี่..นา แล้วไฉนมือของแต้วแว๊วจึงไปปัดโดนได้..?? หรือ..โอ้..หรือว่า...ไม่..ไม่..นะ ไม่จริง ผี หรือจิตวิญญาณที่ไหนจะเข้ามาในห้องพระได้ ก็ป๊ะป๋าเคยบอกไว้ว่า ผีกลัวพระ..ไง
ในฝันนั้น...แต้วแว๊วตระหนกตกใจในความคิดที่แวบเข้ามาในสมองโดยขาดการไตร่ตรอง ท่าทางสมองซึกซ้ายของแต้วแว๊ว คงจะมีปัญหาเสียแล้ว มันต้องมีปัญหาแน่ ๆ เลย ไม่เช่นนั้น ความคิดเช่นนี้จะเกิดขึ้นมาได้อย่างไร แล้วนี่แต้วแว๊วจะทำอย่างไรดี โธ่..จานแก้วแตก แล้วสมองซีกซ้ายก็มีปัญหาอีก
ในฝันนั้น...แต้วแว๊วรีบลุกขึ้นด้วยความกลัวสุดขีด ใช่..แต้วแว๊วกลัวว่าสมองซีกขวาจะโกรธสมองซีกซ้าย แล้วพากันมาตบตีสมองซีกซ้าย ถ้าเป็นเช่นนั้น แต้วแว๊วคงจะหัวบวม ความสวยคงลดน้อยถอยลงไป ต๊าย..แต้วแว๊วต้องทนไม่ได้แน่ ๆ ถ้าความงามต้องมาลดน้อยถดถอยลงไป แต้วแว๊วจะทำอย่างไร...ต้องทำอะไรสักอย่าง ก่อนที่สมองทั้งสองซีกจะยกพวกตีกัน
ในฝันนั้น...แต้วแว๊วเปิดประตูห้องพระออกไป แล้วตะโกนเรียกให้คนช่วย...ช่วยด้วยจ้า..ช่วยด้วยจ้า...ช่วยกันมาห้ามสมองทั้งสองซีกของแต้วแว๊วหน่อย..จ้า อย่าให้สมองทั้งสองซีกทะเลาะตีกัน..นะคะ โอ้..อนิจจา ตะโกนเท่าไร ๆ ก็ไม่มีใครเข้ามาช่วยสักคน เออ...จริงสิ..นะ จะมีใครมาช่วยได้..ล่ะ ในเมื่อแต้วแว๊วอยู่บ้านนี้คนเดียวนี่หว่า...บืด !
ทันทีที่คำว่า บืด หลุดกระเด็นออกมาจากไหนก็ไม่รู้ มันทำให้แต้วแว๊วสะดุ้งตื่น...โอ้..ช่างเป็นฝันร้ายเสียนี่กระไร นอนหลับอยู่ดี ๆ ดันฝันซ้อนฝันได้น่ากลัวขนาดนี้ เห็นทีจะต้องไปหาพระ ให้ช่วยทำพิธีปัดรังควาน ล้างซวยสักหน่อย
อืมมม..พระสงฆ์สมัยนี้เก่งรอบตัว ให้ทำอะไรก็ได้ ความสามารถล้นเหลือ จริงสิ..นะ แต้วแว๊วยังเคยเห็นพระเต้นเป็นโคโยตี้เลย ได้การ..ล่ะ ไปหาพระดีกว่า
ในฝันนั้น...แต้วแว๊วเห็นตัวเองรีบแต่งตัวอย่างสวยงาม ใช่..ไปหาพระ ต้องแต่งตัวให้สวยงาม บรรดาเครื่องประดับมีค่า
มีเท่าไร ต้องขนออกมาใส่ให้หมด พระเห็นจะได้ให้การต้อนรับอย่างดี ขืนแต่งตัวมอซอไปซิ พระดูถูกตายเลย
ในฝันนั้น... แต้วแว๊วขับรถไปได้ครึ่งทาง โอ๊ย...ทำไมหิวอย่างนี้.. ก็จะไม่ให้หิวได้อย่างไร ตื่นมายังไม่มีอะไรตกถึงท้องกลมมนอันสวยงามเลยสักนิด แวะหาอะไรกระแทกปาก ฟาดลงท้องสักหน่อยดีกว่า อา..นั่นไง ร้านอาหารร้านนั้นน่าเข้าไปนั่งมากเลย บรรยากาศดูร่มรื่นดีจัง
ในฝันนั้น...แต้วแว๊วเดินเข้าไปนั่งโต๊ะมุมสุดในร้าน เจ้าของร้านหน้าตาหล่อ คงเหลาเสร็จพอดี เดินถือเมนูอาหารเข้ามา ก้มหัวให้แต้วแว๊วเล็กน้อย พร้อมกล่าวคำ " สวัสดีครับ รับอะไรดีครับ "
ในฝันนั้น..แต้วแว๊วเห็นตัวเอง แหงนหน้าอ้าปากค้าง ตะลึงในความดูดีของเจ้าของร้านหนุ่ม พอนึกขึ้นได้ ก็รีบอ่านรายการอาหาร ในขณะที่หนุ่มมาดเท่ห์เดินกลับไปนำน้ำแข็งและน้ำมาเสิร์ฟ ดูท่าเดินของเขาช่างแมนเหลือหลาย
อุ๊บ..นึกชมไม่ทันไร หนุ่มหล่อของแต้วแว๊วก็เดินขาขวิด ขาขัดฟัดกันเอง หัวทิ่มคะมำ ทั้งถาด แก้วน้ำและขวดน้ำ
ลอยละลิ่ว หล่นลงพื้นแตกดัง...โพล๊ะ...เพล้ง..เสียงอุทานลั่นออกจากปากพ่อรูปหล่อของแต้วแว๊ว...ว๊ายยยย...ตาเถร ยายชีตก... แต้วแว๊วสะดุ้ง ตกใจตื่นทันที
โอ้..นี่แต้วแว๊วนอนหลับ แล้วฝันไปหรือนี่ โธ่..ฝันร้ายอีกแล้ว ชีวิตของแต้วแว๊ว ทำไมมันช่างวกวนเช่นนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดเศียร แต้วแว๊วเห็นตัวเองตกใจตื่น เปล่า..นะ แต้วแว๊วไม่ได้ตกใจตื่นเพราะเสียงแตกของภาชนะหรอก แต่แต้วแว๊วตกใจตื่นเพราะคำอุทานนั่นต่างหาก..
ใช่..ในฝันนั้น แต้วแว๊วตื่นขึ้นมา ท่ามกลาง..ความงงงวย..ของตัวเอง ว่าแต้วแว๊วยังอยู่ในความฝันของความฝันของความฝัน...หรืออย่างไร ใครก็ได้ช่วยบอกแต้วแว๊วที ว่าแต้วแว๊วจะออกจากความฝันนี้ได้อย่างไร
แต้วแว๊วไม่อยากฝันร้ายอีกแล้ว...อ่ะ
ท้ายเรื่อง...
บืด แปลว่าอะไร หาความหมายจนหัวบวม ก็ไม่มีใครตอบได้ เฉกเช่นเดียวกับความฝัน ที่แม้แต่กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ก็ไม่สามารถพิสูจน์หรือให้คำตอบได้ว่า ทำไมมนุษย์ถึงฝันเป็นเรื่องเป็นราวได้
รำพึง..ถึงเพื่อนผู้ปรารถนาดีทุกท่าน...
ปอป้า ขอเรียนว่า บล๊อกของปอป้ายังยึดแนวธรรมะเป็นหลัก ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่การที่ปอป้าเข้าร่วมโครงการถนนสายมิตรภาพนั้น เพราะต้องการมีส่วนร่วมกับเพื่อน ๆ ในบล๊อก และคิดว่าสิ่งที่ทำ ไม่ได้เสียหายอะไร เพียงแค่อยากให้เพื่อน ๆ ที่เข้ามาติดตามอ่านธรรมะ ได้พักผ่อน อ่านเรื่องที่แตกต่างไปจากปกติของ
ปอป้าบ้างเท่านั้น อย่าคิดมาก..นะคะ
ขอบคุณในทุกความปรารถนาดีที่มีให้ปอป้าเสมอมา
จากใจของ สอวอ ปอป้า..ค่ะ
ปอป้า...ขออนุญาตส่งตะพาบตะกายขึ้นบกก่อนเวลานัดหมาย..นะคะ
เหตุเพราะ พรุ่งนี้ต้องออกเดินสายแต่เช้า
เขาหยุดกัน ๓ วัน ปอป้าก็หยุดเหมือนกัน
แต่ไม่อยู่สักวัน...อิ อิ
ขอความสุข สวัสดี จงมีแก่เพื่อนบล๊อกทุกท่าน..นะคะ