|
เขียนนิยาย - เขียนรูป และ เขียนประเสริฐ
มีคนถามฉันเสมอว่า คุณใช้เวลานานเท่าไรในการเขียนนิยายหนึ่งเรื่อง
ฉันไม่เคยตอบตามความจริง...แล้วแต่....หนึ่งปี....บางทีสามหรือสี่ปี
คำตอบจริงๆ นั้นแน่นอนว่าคุณต้องใช้เวลาชั่วชีวิต
ฉันอายุสี่สิบสี่ปี และใช้เวลาสี่สิบสี่ปีเพื่อจะเขียนนิยาย
คุณจะไม่พูดถึงเรื่องนี้กับคนมากนัก เพราะคุณจะทำให้พวกเขารู้สึกเศร้าใจ
มองหน้าคุณแล้วคิดว่า พระเจ้าช่วย ! อายุสี่สิบสี่ปีได้มาแค่หนังสือนี้หรือ ?
แต่นั่นคือคำตอบสัตย์จริงที่สุด คุณไม่มีทางเขียนได้เร็วกว่านั้น
คุณเขียนนิยายเมื่อถึงเวลาที่จะเขียน และคุณนำเวลาที่ผ่านมาทั้งชีวิตเป็นข้อมูล
ไม่ว่าเวลาที่ผ่านมานั้นมากน้อยกี่ปีก็ตาม
James D.Houston
(จากหนังสือ เขียนนิยาย )
28 กันยายน 2549
ช่วงที่ผ่านมาผมยังเกาะติดกับหนังสือที่ชื่อ เขียนนิยาย ของรตชาอยู่ เท่าที่มีเวลาว่าง คือถ้ามือไม่ได้ทำอะไรอยู่ก็อ่านหนังสือเล่มนี้ ในหนังสือเล่มนี้นอกจากจะให้ความรู้เกี่ยวกับการเขียนนิยายอย่างละเอียดและมีแบบฝึกหัดให้เขียนแล้ว สิ่งหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นเสน่ห์ของหนังสือเล่มนี้ก็คือ ผู้เขียนได้เก็บคำคมจากนักเขียนต่างๆทั่วโลกมาปิดท้ายไว้ในแต่ละบท และมีหลายประโยคที่ผมอยากบอกว่าสามารถเป็นแรงบันดาลใจอย่างดีสำหรับคนที่ฝันอยากเป็นนักเขียนทีเดียว
หนังสือเล่มนี้ได้เปิดหูเปิดตาผมเกี่ยวกับนิยายเสียใหม่ ถึงแม้ผมจะอ่านนิยายมาไม่น้อย ผมก็เป็นเพียงผู้เสพผลงานของนักเขียนเท่านั้น ผมอาจจะรู้เรื่องราวของนิยายเรื่องนั้น ๆรู้ว่าชอบไม่ชอบ รู้ว่านักเขียนคนไหนเก่งไม่เก่ง เรื่องราวดำเนินเป็นไปอย่างไร แต่เอาเข้าจริงๆแล้วผมอาจจะยังไม่รู้จักคำว่า นิยาย ได้อย่างกระจ่างแจ้ง เมื่อได้มาอ่านหนังสือเล่มนี้ประกอบกับทบทวนเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองรู้มา ก็พบว่าหนั้งสือเล่มนี้ทำให้ผมรู้ว่าตัวเอง ไม่รู้อะไรบ้าง เกี่ยวกับนิยาย นอกเหนือจากความรู้ที่ได้รับแล้ว หนังสือเล่มนี้ยังอ่านสนุกอีกด้วย ประกอบกับบทสัมภาษณ์สั้นๆของนักเขียนนิยายไทย เราได้รับรู้มุมมองและความคิดของนักเขียนท่านนั้นๆ ผมคิดว่าหนังสือเล่มนี้น่าจะได้รับความสนใจจากห้องสมุดประชาชนทั่วประเทศและตามโรงเรียนด้วย และถ้ามีโอกาสพิมพ์ซ้ำก็น่าจะทำเป็นปกแข็ง นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้นนะครับ ปีกัสโซ่พูดว่า ศิลปะที่เกิดจากการสร้างสรรค์นั้น แท้จริงแล้วเกิดขึ้นระหว่างศิลปินกำลังสร้างงาน ระหว่างจิตกรกำลังระบายสีรูปภาพ และนั่นเป็นสิ่งที่สำคัญมากยิ่งกว่าสิ่งที่ตั้งใจจะทำแต่แรก และผลงานของทั้งสองสิ่งนั้นย่อมไม่เหมือนกัน คำพูดประโยคนี้ก็คงใช้ได้กับการเขียนนิยาย เช่นกัน เพราะนิยายก็ถือว่าเป็นวรรณศิลป์
ผมมาเที่ยวบ้านทุ่งดาวของพิบูลศักดิ์ครั้งนี้ สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นความเปลี่ยนแปลงก็คือสีน้ำที่เขาเขียน ผมไม่ใช่นักวิจารณ์ศิลปะที่จะวิจารณ์ภาพเขียนสีน้ำได้ แต่จากการที่ได้เห็นกันมานาน เห็นรูปสีน้ำของเขามานาน จนมาถึงวันนี้ผมอยากพูดว่าผมชอบสีน้ำของเขามากกว่าแต่ก่อนนี้ และเห็นถึงความก้าวไปข้างหน้าอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเรื่องการใช้สี เขาขวนขวายที่จะเรียนรู้ สิ่งที่สอนเขามากที่สุดก็คือการลงมือทำ และจากนั้นยังเรื่องการเปิดใจกว้างที่จะรับฟังคำตำหนิวิจารณ์จากผู้ที่รู้มากกว่าแล้วเก็บคำนั้นมาแก้ไข นี่ต่างหากที่เรียกว่าการเรียนรู้ที่แท้จริง เขาเล่าให้ฟังว่าตอนแสดงงานภาพเขียนครั้งหนึ่งในเมืองหลวง มีศิลปินรุ่นพี่คนหนึ่งเอ่ยปากวิจารณ์จุดบกพร่องในรูปของเขาต่อหน้าผู้คนมากมาย เขายอมรับว่าตอนนั้นเขารู้สึกไม่พอใจที่ศิลปินรุ่นพี่คนนั้นพูดต่อหน้าคนมากมายในงานแสดง แต่รูปนั้นก็ถูกซื้อไปในราคาสูงพอสมควร ถึงแม้เวลาผ่านไปแล้วเขาก็เก็บคำวิจารณ์นำกลับมาพิจารณาในการทำงานครั้งต่อไป เขาพบว่าเพื่อนรุ่นพี่คนนั้นพูดถูก ในที่สุดเขาก้แก้ไขข้อบกพร่องนั้นได้ และรู้สึกขอบคุณเพื่อนรุ่นพี่คนนั้นอยู่ในใจ ถึงแม้ท่าทีเขาในตอนนั้นจะไม่ค่อยน่ารักนัก เมื่อคราวมีเพื่อนศิลปินรุ่นน้องมาเยี่ยมเยียนบ้าน และมองเห็นข้อด้อยบางด้านในการเขียนรูปของเขา และพูดทำนองว่าข้อด้อยข้อนี้จะหลบหรือจะแก้ไขดี ถ้าหลบก็จะต้องหลบอยู่เรื่อย ถ้าหากแก้ไขถึงแม้จะต้องใช้เวลาอยู่บ้างเมื่อทำสำเร็จแล้วเราก็ไม่ต้องหลบหลีกอีก นี่เขาก็ถือว่าเป็นคำชี้แนะที่มีประโยชน์ในการทำงานที่เขารัก ช่วงที่เราได้อยู่ด้วยกัน เราได้สนทากันคราวละนานๆ ในความรู้สึกของผมถึงแม้โดยวัยแล้วเขาจะเป็นรุ่นพี่ผม แต่ผมยังรู้สึกว่าเขามีความเป็นเด็กหนุ่มช่างฝันแฝงอยู่ในตัวเขาเสมอ อาการยินดีและลิงโลดเมื่อทำงานศิลปะได้อย่างที่ตัวเองต้องการจะเผยออกมา บางครั้งความเหงาเศร้าของเขาออกมาทางบทเพลง ไม่ว่าจะเป็นการเปล่งออกมาหรือเขียนมันขึ้นแล้วใส่ทำนอง เรารู้จักกันมายี่สิบกว่าปีแล้ว ผมรู้จักเขาจากผลงานก่อน ผมหลงใหลแม่ม่ฮ่องสอนจนกระทั่งถึงขั้นหอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่ที่นั่นก็เพราะได้อ่าน สู่อ้อมแขนแผ่นดินลานนา ของเขา หลงใหลบทกวีจาก บทกวีจากภูเขา ทั้งๆที่ยังอ่านบทกวีไม่แตก ตอนที่ไปอยู่แม่ฮ่องสอนผมก็พกบทกวีเล่มนี้ไปด้วย (นั่นเป็นเวลา 26 ปีผ่านมาแล้ว) แต่ตอนที่ผมเดินทางเข้าแม่อ่องสอนเขาเดินทางเข้าเมืองกรุงไปแล้ว และวันหนึ่งผมก็ได้พบกับเขาที่เมืองหลวง บังเอิญเหลือเกินเขาเป็นเพื่อนกับคุณปกรณ์ พงศ์วราภา หรือ กรณ์ ไกรลาส ซึ่งเป็นเจ้านายของผมในตอนนั้น จากนั้นก็รู้จักกันเรื่อยมา ห่างบ้างใกล้ชิดบ้าง ตามแต่โอกาส แต่ไม่เคยลืมเลือน สำหรับวันนี้ผมต้องขอขอบคุณที่เปิดโอกาสให้ผมมานั่งอยู่ที่บ้านของเขา และใช้โต๊ะทำงานของเขาเขียนเรื่องราวเหล่านี้อย่างมีความสุข ต้องยอมรับสมญานาม เจ้าชายโรแมนติค ของพิบูลศักดิ์ ละครพลนั้นไม่ใช่ได้มาลอยๆหรือโชคช่วยแต่อย่างใด ไม่ใช่แค่เขียนเรื่องโรแมนติคเท่านั้น แต่มันเป็นทั้งชีวิตของเขาทีเดียว ที่บ้านผมมีผลงานสีน้ำเล็กๆของเขาอยู่สามสี่ชิ้น ทั้งที่เคยอุดหนุนไว้ตอนแสดงงานและเขาเคยมอบให้ในช่วงที่เดินทางด้วยกัน ผมนำไปส่กรอบเรียบร้อยแล้ว มาครั้งนี้เขาก็มอบให้ผมอีกรูปหนึ่ง เป็นภาพทุ่งนาข้างบ้านที่มองผ่านหน้าต่างออกไปก็เห็น
ถึงแม้มันอาจจะไม่ใช่รูปที่สวยหรือที่ดีที่สุดของเขา .แต่ผมก็ยินดีและมีความสุขที่ได้เป็นเจ้าของภาพนี้ ไม่ใช่เป็นเพราะรูปสวยหรือไม่ แต่เป็นความสุขที่เกิดจากได้รับจากความรู้สึกเต็มใจให้
----------------------------------
ซ้าย - พิมพ์ครั้งแรก ขวา - พิมพ์ครั้งที่ 2 (ล่าสุด)
บทกวีจากภูเขา อ่านทีไรคิดถึงแม่ฮ่องสอน
สีน้ำ โดย พิบูลศักดิ์ ละครพล
Create Date : 28 กันยายน 2549 |
|
7 comments |
Last Update : 28 กันยายน 2549 14:03:05 น. |
Counter : 1091 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: nobody IP: 202.57.189.4 28 กันยายน 2549 14:05:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.136.85.68 28 กันยายน 2549 17:13:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: rebel 28 กันยายน 2549 20:39:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.144.195 29 กันยายน 2549 5:39:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: hnon IP: 202.28.180.201 29 กันยายน 2549 13:33:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: เธเธฒเธ IP: 203.113.33.9 25 มกราคม 2551 21:16:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตาพรานบุญ IP: 117.47.104.218 24 กันยายน 2551 19:17:13 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]
|
ด้วยความยินดี... หากมีผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่าย,บทความ หรือข้อเขียนต่างๆ ใน Blog นี้ไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด สามารถทำได้เลยทันที โดยไม่ต้องขออนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
เว้นเสียแต่ว่า
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย
|
|
|
|
|
|
|
Plz go on writing kha : )