จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
กันยายน 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
25 กันยายน 2549
 
All Blogs
 

จะเอานิยายอะไรกับชีวิต ?




ถ่ายรูปหน้าต่างไม่สวย แต่ของจริงนอกหน้าต่างสวย






ทุ่งนา มองไม่เบื่อ






เสียดายที่ร้านปิด ตั้งใจจะไปซื้อเรือรบเสียหน่อย




------------------------------------------








25 กันยายน 2549


ในที่สุดผมก็หยิบหนังสือในตู้ของพี่ปอนมาเล่มหนึ่ง แทนที่จะเป็นนิยายของนักเขียนชื่อดังท่านใดท่านหนึ่ง หรือเป็นวรรณกรรมหัวกะทิระดับโลก แต่ผมกลับเลือกหนังสือที่มีความยาวประมาณห้าร้อยกว่าๆหน้าที่มีชื่อว่า “เขียนนิยาย” เขียนโดย “รตชา”


อันที่จริงผมเคยคิดจะซื้อหนังสือเล่มนี้อยู่เหมือนกัน แต่ก็ลูบๆคลำๆอยู่ เพราะราคา 350 บาท เวลาไม่ค่อยมีเงินในกระเป๋าก็คิดมากเหมือนกัน ทั้งที่เรื่องนี้เคยทยอยตีพิมพ์ในขวัญเรือนทุกๆปักษ์ก่อนที่จะนำมารวมเล่ม ผมก็อ่านแบบตกๆหล่นๆ คือไม่ได้ติดตามอ่านอย่างทุกตอน

มาวันนี้ถือว่าเป็นโอกาสดีอันดีที่ได้หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน เห็นลายเซ็นเขียนมอบหนังสือให้พี่ปอนแล้วรู้นี้ว่านามปากกานี้คือใคร เธอมีนามปากกาที่ใช้เขียนนิยายอีกนามหนึ่ง ซึ่งผมก็พอจะรู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่าเป็นเธอ ผมจำได้ว่าสมัยที่ผมทำนิตยสาร ผมเคยพบเธอเพียงครั้งสองครั้งและยังจำเธอได้ดี เพียงแต่ไม่ได้ติดตามผลงานของเธอเป็นประจำ รู้แต่ว่าเธอก็เขียนนิยายออกมาเป็นระยะๆ

ที่ผมหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน อาจเป็นเพราะว่าช่วงนี้ผมสนใจและมีความอยากที่จะเขียนนิยาย เรื่องนี้ผมพล่ามมานานแล้วว่าอยากจะเขียนนิยาย แต่ก็ไม่ได้เขียนออกมาสักที ที่ผ่านมาผมอาจจะมีนิยายรวมเล่มออกมามาบ้าง แต่ถึงวันนี้ผมกลับรู้สึกไม่อยากพูดถึงนิยายที่ผมเขียนอีก อาจจะเป็นเพราะว่ามันยังไม่อาจนับได้ว่าเป็นนิยายที่แท้จริงนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นเพราะเนื้อหาหรือวิธีการเขียน หรือด้วยอะไรก็แล้วแต่ ผมรู้สึกว่าสิ่งที่ผมเขียนขึ้นนั้นยังถึงขั้นเรียกว่านิยายได้

อันที่จริงผมก็พอจะเคยอ่านหนังสือแนวนี้มาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนนักเขียน หรือ อื่นๆอีกหลายเล่มที่เกี่ยวกับการเขียน แต่อ่านแล้วก็ผ่านไปไม่ได้นำมาปฏิบัติอย่างจริงจัง ก็ยังดั้นด้นเขียนหนังสือไปด้วยใจรักเป็นกำลังสำคัญ

แต่สิ่งที่ยังอยู่คงค้างใจผมมาตลอดก็คือการเขียนนิยาย ที่อยากเขียนนิยายก็เพราะคิดว่ามีเรื่องราวอีกหลายอย่างที่อยากเล่าเป็นนิยาย แต่ถึงวันนี้ผมก็ยังไม่เคยได้เขียนนิยายอย่างแท้จริง ทั้งที่ผ่านมาก็เขียนนหนังสือมาพอสมควร ใช้พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ อักษรไทยที่มีอยู่ไปจำนวนมากโขแล้ว แต่ผมก็ยังไม่ได้เขียนนิยาย

ก่อนหน้านี้ผมก็ซื้อหนังสือเกี่ยวกับการเขียนนิยายมาสองเล่ม พลิกๆดูแล้วยังไม่ได้อ่านอย่างละเอียดก็ออกเดินทางเสียก่อน ด้วยความคิดว่าเราน่าจะเรียนรู้ในสิ่งที่เราอยากจะทำบ้าง

ในห้องผมมีต้นฉบับเก่าๆที่เป็นกระดาษก็อปปี้อีกหลายปึก มีทั้งที่ไม่จบเรื่องและจบเรื่อง มีทั้งที่เคยขายได้เงินไปแล้วก็มี แต่เมื่อพลิกๆอ่านดูแล้วมีหลายปึกที่ผมต้องโยนทิ้งไปกับรถซาเล้ง แม้แต่คนถีบซาเล้งผมก็ยังไม่อยากให้เขาอ่าน ผมอยากให้เขาเอาไปชั่งกิโลขายมากกว่า

ส่วนงานเขียนอื่นๆของตัวเองนั้นผมค่อนข้างพอใจตามสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสั้นหรือบทความ แต่ถ้าเป็นนิยายแล้วผมถือว่าผมยังไม่เคยมีนิยายที่ผมรู้สึกภาคภูมิใจ

ช่วงปีสองปีที่ผ่านมาในใจผมคิดอยู่เสมอว่า ผมอยากเขียนนิยาย เพราะทุกอย่างก็พร้อมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลา สถานที่ หรือสิ่งต่างๆที่คิดว่านักเขียนคนหนึ่งควรจะพร้อม แต่จนแล้วจนรอดผมก็ยังไม่ได้ลงมือ ผมจะไม่อ้างว่างานเขียนประจำที่ทำอยู่แย่งเวลาไป เพราะงานเขียนประจำของผมทุกวันนี้ก็ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับนักเขียนท่านอื่นๆ

ผมทบทวนถามตัวเองอีกครั้งว่าทำไมผมจึงไม่ลงมือเขียนนิยายเสียที ผมรู้จักนิยายดีหรือยัง ? ผมเข้าใจสิ่งที่ตัวเองจะทำจริงๆแล้วหรือ เรารู้จักพ้อยท์ ออฟ วิว เรารู้จักพล็อต เรารู้จักคาแรคเตอร์ของตัวละครมากพอหรือยัง ? เรามีเรื่องที่จะเขียนอย่างจริงจังหรือยัง ?

การรู้จักคาร์แรคเตอร์ตัวละคร รู้จักพล็อตนิยายจากการรอ่านของคนอื่นรู้ว่านี่คือพล็อต รู้มุมมองชัดเจนนั้น เมื่อเราอ่านนิยายของคนอื่น เราอาจะรู้จัก เหมือนเราฟังเพลงรู้ว่าเพลงนี้เพราะ เราดูหนังรู้ว่าหนังเรื่องนี้ดี พอจะวิจารณ์ได้บ้าง แต่ถ้าเราเป็นผู้สร้างพล็อตเอง สร้างคาแรคเตอร์เอง นี่ไงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

แต่กระนั้นเราเคยลงมือทำมันอย่างจริงจังหรือยัง ? เราทำความรู้จัก ทำความเข้าใจกับสิ่งที่เราบอกว่าอยากจะเขียนหรืออยากจะทำจริงๆแล้วหรือยัง ?

เมื่อผมได้หยิบหนังสือชื่อ “เขียนนิยาย” ขึ้นมาอ่าน ทำให้ผมได้พบว่า ผมมีเนื้อสดเนื้อสันมากมายที่แช่อยู่ในตู้เย็นอย่างดี แต่ทว่าผมไม่รู้วิธีที่จะทำให้แกงเขียวหวานอร่อยได้อย่างไร มันจึงแช่อยู่ในตู้เย็นอย่างนั้น อย่างดีก็เอาไปปิ้งไปย่างบ้างตามจังหวะและโอกาส ซึ่งจะว่าไปแล้วเรื่องปิ้งย่างๆก็ไม่ได้ใช้ฝีมืออะไรนัก เพียงแค่ทำให้มันสุกก็พอแล้ว มันก็จะหอมอร่อยตามธรรมชาติ ถ้าเนื้อนั้นสดและดีอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นแกงเขียวหวานหรือพะแนงเนื้อนั้น แน่นอนว่ามันต้องการเครื่องปรุงและฝีมือคนแกงไม่น้อยทีเดียว ไม่เช่นนั้นแกงเขียวหวานก็จะเป็นแกงเหม็นเขียวเหมือนที่เราเคยกินแกงเหล่านี้จากคนที่คิดว่าแกงเป็น แต่ก็พอแค่แกงได้เท่านั้น

เพราะฉะนั้นผมเชื่อว่านิยายที่พิมพ์เผยแพร่ในท้องตลาดทุกวันนี้ คงต้องมีทั้งคนที่แกงเขียวหวานเก่งมาก และพอเป็น และแกงไม่เปนหรอกแต่ถือว่ามีเครื่องแล้วทำให้สุกก็พอแล้วก็คงมีอยู่บ้าง เมื่อวานผมจึงลุยอ่านเรื่อง “เขียนนิยาย” อย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน และตั้งใจว่าสัปดาห์หนังสือแห่งชาติที่จะถึงนี้น่าจะหาไว้เป็นสมบัติส่วนตัวสักเล่ม

ฝากบอกถึงคนที่อยากเขียนนิยายว่า ถ้าอยากเขียนแต่ยังมะงุมมงาหราว่าจะออกเดินทางอย่างไร หนังสือเล่มนี้นับว่าเป็นแผนที่ในการเดินทางที่ไม่เลวทีเดียวแหละ

ถึงวันนี้พอจะหาข้อสรุปให้กับตัวเองได้ว่า ไม่ว่าจะทำอะไร “ใจรัก”อย่างเดียวนั้นยังคงไม่พอแน่ นอกจากใจรักแล้วเราต้องเรียนรู้และเข้าใจในสิ่งที่รักด้วย เพื่อที่จะได้ทำในสิ่งที่เรารักให้ได้ดีขึ้น รอบๆตัวเราจึงมีคนที่ทำอะไรด้วยใจรักไปได้สักระยะหนึ่งแล้วก็พบว่าเขาไม่สามารถอยู่กับมันได้จริง เขาจึงต้องทำอย่างอื่นเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตแล้วหาเวลาเล็กๆน้อยๆมาทำสิ่งที่ตัวเองรักอย่างเจียดหัวใจให้

มีคนเสียงดีมากมายที่ได้แค่เพียงร้องเพลงในร้านคาราโอเกะ ทั้งที่เขาอยากจะเป็นนักร้องตัวจริง แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปเขาก็ได้วนเวียนอยู่ตามร้านคาราโอเกะจนกระทั่งแก่เฒ่า (ส่วนคนที่ชอบร้องเพลงเพราะชอบร้องเพลงเพื่อผ่อนคลายนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง) จึงมีนักเขียนที่เขียนเพราะใจรักอยู่อีกมากมายและมองว่าการเขียนหนังสือนั้นยังชีพไม่ได้ จึงต้องอาศัยอาชีพอื่น จึงมีอะไรอื่นๆอีกมากมายที่บอกว่าทำด้วยใจรักแต่ไม่สามารถอยู่ได้ ฯลฯ

บางทีเราต้องหันกลับมาถามตัวเองที่ว่า “ใจรัก”น่ะรักจริงหวังแต่งหรือรักเพียงชั่วคราวข้ามคืนเท่านั้น
อย่างไรก็ต้องขอบคุณ “รตชา”ผู้เขียน “เขียนนิยาย” ที่อุตส่าห์รวบรวมเรียบเรียงและบทสัมภาษณ์นักเขียนนิยายไทยมากมายที่ทำให้ได้มุมมองและข้อคิดเกี่ยวกับการเขียนนิยาย ถึงแม้ตอนนี้ผมยังอ่านไม่ถึงครึ่งเล่ม แต่ทว่าเพียงช่วงแรกของหนังสือและบางถ้อยคำในหนสังสือเล่มนี้ก็จุดไฟการเขียนนิยายของผมให้ลุกโพลงขึ้นอีก

คาถาดั้งเดิมประจำใจในการเขียนหนังสือชองผมเสมอมาก็คือ “ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้น” ไม่ว่าปีนี้คุณจะอายุเท่าไรก็ตาม ยังไม่สายเกินไปที่จะลงมือเขียนนิยาย
-------------------------------------------------------











 

Create Date : 25 กันยายน 2549
9 comments
Last Update : 25 กันยายน 2549 12:34:38 น.
Counter : 1037 Pageviews.

 

สวัสดีครับทุกท่านๆ

ทั้งท่านที่ทิ้งคอมเม้นต์ไว้และที่ไม่คอมเม้นต์ไว้

รู้สึกยินดีที่มีคนเข้ามาอ่าน

เพราะเขียนหนังสือ ไม่ว่าจะเขียนไว้ตรงไหนก็เพื่อการอ่าน
ไม่ว่าจะอ่านคนเดียวหรือให้คนอื่นอ่าน

แต่ต้องขอโทษที่ไม่ได้ไปเม้นต์กลับ หรือไม่ได้ตอบ

เพราะผมไม่ค่อยมีเวลาว่างในช่วงนี้

บ่ายนี้ก็ตั้งใจว่าจะไปที่อำเภอดอกคำใต้ ด้วยรถประจำทาง


ยังไม่รู้ว่าคืนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง

อยากไปเที่ยวดอกคำใต้ เพราะได้ยินชื่อนี้มานานแล้ว
ทั้งชื่อเพลงและชื่อหนัง

มาอยู่ใกล้ๆแค่นี้ไม่ไปเที่ยวก็จะเสียเที่ยว
แล้วจะมาเล่าให้ฟังครับ

 

โดย: พ่อพเยีย 25 กันยายน 2549 12:39:45 น.  

 

โชคดี...ขอให้โชคดีกับการเดินทาง
ขออย่าให้เจอรถถังขวางทางก็แล้วกันเน้อ

ใช่...ชีวิตจริงไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนนิยาย...

 

โดย: ภู เชียงดาว IP: 203.154.52.235 25 กันยายน 2549 13:17:36 น.  

 

อะไร ๆ ก็ไม่แน่นอน

บางทีชีวิตจริงไม่ใช่นิยาย
บางทีชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย
บางทีชีวิตจริงเหมือนนิยาย



 

โดย: J IP: 203.154.114.253 25 กันยายน 2549 15:41:36 น.  

 

คุณเจนานๆมาที แต่เป็นประเภทมาไม่บ่อยแต่ต่อยหนัก
ชอบที่เขียนทิ้งไว้ข้างบนนี้มาก...

รู้ว่าเราอิจฉาก็ขยันแปะภาพทุ่งนาให้หนูหัวใจสะอื้นทุกครั้งที่เห็น

ทั้งลมหนาว ลมฝนปนเปช่วงนี้ ไม่ลืมทำหัวใจและร่างกายให้อบอุ่นนะคะ

 

โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.136.62.31 25 กันยายน 2549 17:56:22 น.  

 

พริ้ว..พราย...ลมหนาว...พัด...ผ่าน..
ดอกจาน......ดาวเรือง...ไหว...หวั่น....
ดอกพุด..จับมือ..อัญชัญ.....
คำใต้....หนาว...สั่น....เดียวดาย.....
บัดเอย....บัดนี้....
ถึงมี..ลม..แรง....แกล้ง...อยู่...
คำใต้...เข้มแข็ง...จงรู้...
หยัด..สู้..แม้..เพียง...เดียว...ดาย...
เขียนเล่นหนุกๆง่ะ..ส่งมากวนประสาทง่ะ..อิอิอิ...
แต่ว่าไปก็คิดถึงเพื่อนคนหนึ่งสมัยเรียนมหาวิทยาลัย .หุหุหุ ก็นานมาแร๊ววว ห้ามถามเน้อว่ากี่ปี...หุหุหุหุหหหหหหหห
เธอเป็นชาวดอกคำใต้ ตัวเล็กๆ หน้ากลมๆ ผิวขาวๆ แต่เก่งที่หนึ่งเล้ยย ..เพื่อนๆป้อจายยังยอมแพ้เธอก็แล้วกัน...หุหุหุ...

 

โดย: ปิ่นกำนัน IP: 203.151.140.118 25 กันยายน 2549 21:52:20 น.  

 

เล่าถึง Point of View,Caracter,plot
พวกนี้นิกกำลังเรียนอยู่ค่ะ เด็กปอสาม
เรียนเรื่องการเขียน แม่น้องนิกเลยได้อ่าน
ตามลูกไปด้วย ก็พยายามจะเข้าใจมันค่ะ

โชคดีในการเดินทางนะคะ แล้วมีเรื่องดีๆมาเล่าให้กันฟังด้วยนะคะ อยากเห็นฟ้าเป็นฟ้า
ทุ่งนาเป็นทุ่งนาอยางนี้ค่ะ

 

โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.144.212 26 กันยายน 2549 7:28:11 น.  

 

ตอนกลับมาเมืองไทยใหม่ๆ (หลังจากจบการศึกษาระดับป.โทที่ต่างประเทศ) ตกค่ำเป็นอาจารย์พิเศษ สอนวิชาคณิตศาสตร์ แต่เนื่องจากคนที่สอนหนังสือต้องมีวุฒิครู จึงไปเรียนที่วิทยาลัยครูแห่งหนี่ง (ภาคค่ำ) เอกไทย โท อังกฤษ ตอนนั้นเป็นนักเขียนเรื่องสั้นแล้ว แต่อาจารย์ไม่ทราบว่าเราเป็นนักเขียน หลักสูตรที่เรียน ต้องเรียนวิชาการเขียน สอบปลายปี ได้เกรด B อาจารย์บอกว่าไม่มีใครเขียนได้ดี จนสามารถได้เกรด A แล้วเขียนดีกับไม่ดี มีอะไรเป็นมาตรฐานมาวัด เกรด หรือว่าความนิยมของคนอ่าน

มีคนถามว่า...ทำอย่างไร จึงจะเขียนนิยายได้ดี
ตอบเขาไปว่า เขียนตามที่คุณต้องการเขียน ถูกผิดค่อยแก้ไขกันทีหลัง...ถูกเป็นศิษย์ ผิดเป็นครู

มีคนถามว่าทำไมคุณจึงเขียนนิยายหลายร้อยหน้าได้ ทั้งที่คุณจบวิศวะ
ตอบเขาไปว่า ตอนที่ฉันเขียน ฉันใช้หัวใจและความรู้สึกเขียน ไม่ได้ใช้วิชาวางแผนและควบคุมกำลังการผลิตเขียน

อยากจะบอกพี่โดมว่า...ถ้าอยากจะเขียน เขียนไปตามที่พี่โดมต้องการเขียน

แต่สิ่งที่จะเป็นตัวรั้งไม่ให้พี่โดมเขียน ไม่ใช่ใครหรอก ความลังเลว่าจะเขียนหรือไม่เขียนของพี่โดมต่างหาก ทำให้พี่โดมไม่มีนิยายให้พวกเราอ่าน...

ให้กำลังใจ เผื่อจะได้หนังสือฟรีพร้อมลายเซ็นของพี่ ก็เลยรออ่านอยู่นี่ล่ะ...

 

โดย: จานโจ๊ก IP: 87.212.143.101 16 ตุลาคม 2549 0:56:57 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและกำลังใจจากจานโจ๊กครับ

 

โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.20.154 16 ตุลาคม 2549 16:00:17 น.  

 

สองปีผ่านไป
ชักอยากเห็นหน้าตาหนังสือเล่มที่ว่านี้แล้วสิ

 

โดย: ตาพราน IP: 117.47.104.218 24 กันยายน 2551 20:05:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.