จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
กันยายน 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
23 กันยายน 2549
 
All Blogs
 
วันฝนตกและถนนสีแดง





บ่อน้ำในบริเวณบ้าน




23 กันยายน 2549


วันนี้ฟ้าฝนอึมครึมทั้งวัน ก่อนออกจากบ้านผมจึงเตรียมตัวพร้อมแล้ว คือไม่พกโทรศัพท์มือถือ ส่วนกระเป๋าสตางค์กับแฮนดี้ไดรว์ก็ใส่ถุงพลาสติคกันฝนไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวผมเองไม่กลัวเปียก กลัวแต่ของเปียกเท่านั้น หลังจากเข้าร้านเน็ตจัดการกับงานและอัพบล็อกเสร็จเรียบร้อยก็แวะร้านหนังสือซื้อมติชนสุดสัปดาห์กับเนชั่นสุดสัปดาห์

โอ้เอ้พลิกหนังสือเล่มอื่นๆดูอยู่หน้าร้าน พักหนึ่งฝนก็เทลงมา ผมขอถุงพลาสติคใบใหญ่เขาเพิ่มอีกใบเพราะว่าถุงที่เขาใส่หนังสือให้นั้นเล็กเกินไป แวะร้านค้าซื้อของใช้เล็กๆน้อยๆเท่าที่จำเป็นจะต้องใช้ เช่น ยากันยุงแบบจุด อันที่จริงยุงก็ไม่ค่อยมีหรอก แต่ก็จุดกันเอาไว้ (กันไว้ดีกว่าแก้ ช่วงหลังๆผลิตภัณฑ์ยากันยุงชอบทำกลิ่นหอมๆ ไม่รู้ว่าสูดเข้าไปในลมหายใจจะเป็นอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่พยายามตั้งเอาไว้ไม่ให้ใกล้เกินไปนัก แบตเตอรี่ดับเบิ้ลเอ 4 ก้อน เผื่อไว้ใช้ถ่ายรูป

ขณะเข้าร้านค้าฝนก็กระหน่ำลงมาอย่างหนัก เอาหนังสือและข้าวของที่ซื้อไว้วางตะแกรงใส่ของข้างหน้ารถจักรยาน แล้วตั้งหน้าตั้งตาปั่นจักรยานมุ่งหน้ากลับทิศทางเดิมเพื่อกลับบ้าน

นานแล้วที่ผมไม่ได้ขี่จักรยานท่ามกลางสายฝนแบบนี้ อันที่จริงเมื่อวันก่อนผมก็ขี่ลุยมาท่ามกลางสายฝนเหมือนกัน แต่ทว่าฝนยังไม่หนักเท่าวันนี้ และนั่นผมยังไม่ได้เตรียมใจมาก่อน

สำหรับวันนี้ผมเตรียมพร้อมตั้งแต่ออกจากบ้านแล้ว ผมเลือกที่จะไม่ไปทางลัด ระยะทางจากตัวตลาดมาถึงบ้านกลางทุ่งน่าจะอยู่ที่ราวๆสี่ห้ากิโลเมตร ความยาวสี่ห้ากิโลเมตรจะมีช่วงจากถนนใหญ่สู่บ้านกลางทุ่งเป็นถนนดินสีแดงช่วงหนึ่ง ซึ่งระยะทางก็พอสมควร ตามปกติก็ไม่ได้ราบเรียบนัก ที่ผ่านมาฝนตกต่อเนื่องมาหลายวันติดต่อกัน ร่องทางเละเป็นโคลนเป็นหลุมเป็นบ่อเฉอะแฉะ ความนุ่มและความแข็งของดินแต่ละจุดไม่เท่ากัน

นับว่าเย็นนี้เป็นยามเย็นที่สงบและสวยงามวันหนึ่ง ถนนลาดยางสีดำ เงียบและโล่ง จากตัวตลาดแม่ใจ มายังสี่แยกมะพร้าวเผา ไม่มียวดยานขวักไขว่ ฝนเทลงมา ผมกำลังอยู่บนอานจักรยานเพื่อกลับบ้านดินกลางทุ่ง ฝนกระหน่ำลงมายามเย็น ท้องฟ้าขาวครึ้ม บนถนนไม่มียวดยานและผู้คนให้เห็นเลย เสมือนผมปั่นจักรยานอยู่เพียงคนเดียว บนถนนสายนี้ บรรยากาศเริ่มค่ำ แสงไฟข้างทางมัวซัวเพราะถูกพรางแสงด้วยเม็ดฝน

ผมถอดแว่นสายตาเก็บไว้ให้เรียบร้อย เม็ดฝนเล็กๆปะพรมใบหน้าตลอดเวลาที่ปั่นจักรยานไปข้างหน้า ผมใช้มือขวายกปาดน้ำลูบน้ำออกจากหน้าเป็นระยะๆ เมื่อข้ามพ้นถนนใหญ่แล้วเริ่มสู่ถนนดินแดงที่เป็นหลุมเป็นบ่อ ผมตั้งสติ เกร็งกล้ามเนื้อแขนขาขึ้นมาอีกนิดเพื่อความพร้อมที่จะปั่นไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ

ยามนี้ผมไม่ได้สนใจมองอะไรแล้วนอกจากถนนดินแดงที่เห็นรางๆอยู่เบื้องหน้าและเร่งฝีเท้าไปข้างหน้า หลายต่อหลายครั้งล้อจักรยานเพลี่ยงพล้ำลงไปหลุมบ่อบ้าง แต่ทว่าผมก็ยังปั่นไปข้างหน้าโดยไม่ล้มและไม่ยอมลงจากรถ

การปั่นจักรยานที่ทะยานไปข้างหน้าอย่างเต็มแรงอย่างไม่กลัวล้มนั้น เป็นความรู้สึกที่แตกต่างไปจากการปั่นจักรยานที่คอยหลบเลี่ยงหลุมบ่อเพราะกลัวล้มกลัวเสียแรง ขณะที่ผมกำลังทะยานไปข้างหน้า โดยไม่สนใจต่อหลุมเล็กหลุมน้อยข้างทาง เป้าหมายของผมนั่นคือบ้านที่เป็นเงาตะคุ่มอยู่กลางทุ่งนาในความมืดในเวลานี้

สายฝนที่กระหน่ำลงมาเสมือนเป็นตัวเร่งให้ผมเร่งความเร็วยิ่งขึ้น เหงื่อซึ่งตอนนี้ผมคิดว่าคงละลายหลอมรวมไปกับสายฝนที่อาบร่างผมแล้ว

ในสถานการณ์ที่ดูคับขันเร่งด่วนหรือไม่น่าเผชิญเช่นนี้ แต่ผมกลับไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นเลย ของที่ผมกลัวว่าจะเปียกอยู่ในถุงพลาสตติคที่ปลอดภัย กายใจของผมกับจักรยานเป็นหนึ่งเดียวกัน และดูเหมือนว่าวันนี้ผมทำเวลาได้เร็วกว่าเมื่อวานซึ่งฝนตกน้อยกว่านี้และยังไม่มืดค่ำ

ผมไม่ได้รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลยขณะที่ปั่นจักรยานวิ่งลุยไปข้างหน้า แต่มันกลายเป็นความสนุกด้วยซ้ำ ก่อนที่ผมจะลงจากจักรยานแล้วจอดไว้ที่หน้าบ้าน ผมนึกถึงประโยคคำพูดของ บัณฑิต อึ้งรังสี วาทยกรระดับโลก (จากหนังสือ “ต้องเป็นหนึ่งให้ได้”) เขาพูดไว้น่าฟังมาก :
“ผมบอกได้เลยว่า ชีวิตที่เดินอย่างเชื่อมั่นและมีเป้าหมายนั้น เป็นชีวิตที่มันส์มาก”

นี่ขนาดผมปั่นจักรยานฝ่าสายฝนเพื่อกลับบ้าน ผมยังรู้สึกมันส์มากเลย ถ้าในชีวิตเราตั้งเป้าหมายแล้วเดินเข้าไปหามันอย่างเชื่อมั่น จะมันส์ขนาดไหนหนอ ?


----------------------------------------------


.


Create Date : 23 กันยายน 2549
Last Update : 23 กันยายน 2549 16:49:25 น. 4 comments
Counter : 964 Pageviews.

 
อิจฉาบ้านคุณจัง ท่าทางคงร่มรื่นและได้กลิ่นหญ้าหอมๆเวลาฝนตกแน่เลย

น่าสนุกดีนะคะ


โดย: Claire_plastic วันที่: 23 กันยายน 2549 เวลา:19:26:46 น.  

 
พ่อพเยียมี...ต้องเป็นหนึ่งให้ได้...แล้วเหรอ...
ว้า..หนูช้าไปก้าวนึงอีกแล้วสิ...

หลังจากฝ่าฝนหนักขนาดนี้ กลับถึงบ้านต้องทำร่างกายให้อบอุ่นนะคะ
โรคปอดบวมยังไม่หมดไปจากโลกเรา ประมาทไม่ได้ ชราภาพมากแล้ว ต้องรักษาตัวมากๆ

เอ..หนูพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า ทบทวนหลายรอบก็ไม่พบคำผิด...



โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.136.61.231 วันที่: 23 กันยายน 2549 เวลา:21:26:16 น.  

 
แวะมาทักทายครับ


โดย: เด็กตลาดเหนือ IP: 124.121.55.206 วันที่: 23 กันยายน 2549 เวลา:23:48:07 น.  

 
โอ๊ย..ในที่สุดก็ถึงบ้านได้
อย่าลืมนะคะ อย่างพี่ตะเบบูญ่าบอกเอาไว้
ประมาทไม่ได้ ..โห..พี่เราไม่ประหยัดถ้อยคำ
เลย ตรงใจเป๊ะ

เขียนได้ยังไง๊ ให้เราลุ้นจนตัวโก่งว่าจะไปล้มอยู่กลางถนน แล้วถอดแว่นสายตาปั่นด้วยนะนั่น

จะจำไว้ค่ะว่า ชีวิตที่เดินอย่างเชื่อมั่นและ
มีเป้าหมายนั้นมันส์มาก



โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.144.48 วันที่: 24 กันยายน 2549 เวลา:8:53:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.