เซอร์เรียลิสม์คืออะไร ? (คนแก่กับเพื่อนเก่า)
นัดกับไพศาล ธีรพงษ์วิษฯที่หอสมุดแห่งชาติ เวลานัดหมายก่อนสี่โมงเย็น เพราะเขาบอกว่านัดกับประสิทธิ์ เพื่อนอีกคนที่ทำงานธนาคารแห่งประเทศไทย เราสามคนต่างก็เป็นเพื่อน "ไอ้ป๋อ"ด้วยกัน
เป้าหมายคือไปงานแสดงงานของเขาจัดที่ร้าน TUBA ซอยเอกมัย 21
ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สอง ที่มางานแสดงภาพโดยที่เจ้าของผลงานเสียชีวิตแล้ว
ครั้งแรกก็ตอนที่ไอ้ป๋อตายใหม่ๆ และครั้งนี้เป็นการเปิดตัวกองทุน จิระศักดิ์ พัฒนพงศ์
ก็ได้พบแต่คนคุ้นหน้าเกือบทั้งนั้น
ภาพชุดนี้ส่วนใหญ่ผ่านสายตาของผมมาหมดแล้ว เพราะเป็นช่วงแรกที่เขาเริ่มทำงาน ยังสดใหม่และไฟแรง แต่งานจะออกไปทางหม่นๆหดหู่และรุนแรง
โดยส่วนตัวผมชอบงานยุคหลังๆช่วงที่เขาเขียนอยู่ที่หาดไนหาน ภูเก็ตมากกว่า (นี่เป็นทัศนะส่วนตัวนะครับ)
แต่บางคนก็บอกว่าเป็นงานที่บริสุทธิ์และดีที่สุด ที่ทำด้วยจิตวิญญญาณไม่มีอามิสมาล่อ (ก็ต่างจิตต่างใจ)
พี่สุชาติเป็นประธานเปิด บรรยากาศแบบนี้ผมค่อนข้างคุ้นเคย เพราะผ่านมาหลายครั้งจนนับไม่ถ้วนแล้ว เพียงแต่ในช่วงสองสามปีผมห่างจากเพื่อนฝูงไปนาน
ครั้งนี้จึงนัดเพื่อนตั้งแต่ยุคหนุ่ม อย่างเตือนจิต นวตรังค์ จากบ้านโป่งมาพบหน้าพูดคุยกันบ้าง เราสนทนากับคนโน้นคนนี้ในงานอยู่นาน จนเห็นว่าสมควรแก่เวลาจึงออกจากร้าน
ประสิทธิ์มีอาการติดลมนิดหน่อย จึงตกลงกันไปหาที่นั่งคุยกันต่อ ผม,ประสิทธิ์,ไพศาลและเตือนจิต จึงไปด้วยกันด้วยรถของประสิทธิ์
ผมเสนอว่าไปนั่งร้านโอลด์เล้ง แถวอาร์ซีเอ ดีกว่า เพราะไม่ไกลกันนัก และเผื่อว่าได้พบเพื่อนฝูงคนอื่นๆบ้าง
แต่ร้านเหล้าโอลด์เล้งวันจันทร์ผู้คนค่อนข้างบางตา และไม่พบใครที่เราเผื่อๆไว้ เรานั่งคุยกันทั้งเรื่องการงานและความฝันและความหลังกันอย่างออกรส ท้ายสุดประสิทธิ์ขับรถมาส่งหน้าบ้าน ไพศาลแยกไปก่อน แล้วเตือนจิต จนสุดท้ายจึงเป็นผม
ช่วงที่สนทนากัน สัมผัสได้ว่าประสิทธิ์ยังมีความฝันที่จะเขียนรูปอย่างที่เขาปรารถนา ไฟคุโชนในน้ำเสียงและแววตา
งานอาชีพของประสิทธิ์แตกต่างจากเพื่อนฝูงคนอื่นๆ - - รูปในหลวงที่เห็นในธนบัตร ที่เราใช้อยู่ทุกวันนั่นแหละเป็นฝีมือของเขาหละ เขารู้สึกภาคภูมิใจในงานที่เขาทำ
แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ยังปลีกเวลาว่างเขียนรูปอยู่เสมอ เขาหวังวันหนึ่งเขาอยยากแสดงงานภาพเขียนสีน้ำซึ่งเขาซุ่มทำอยู่
สำหรับไพศาล ธีร์ฯ ซึ่งเคยมีฝีมือภาพเขียนระดับรางวัล กลับไม่พูดถึงการกลับมาเขียนรูปอีก เพราะเขากลายเป็นนักวิจารณ์ศิลปะไปแล้ว และตอนนี้เขาเพิ่งมีลูกคนแรกอายุขวบครึ่ง (คงจะมีลูกช้ากว่าเพื่อนทุกคนในรุ่นเดียวกัน)
เตือนจิต นวตรังค์ เกิดมาเป็นกวี ทุกวันนี้เขาก็ยังเป็นกวีเพราะรักษาไม่หาย เขาพูดถึงบทกวีและงานศิลปะที่เขารัก
เราต่างก็แก่ขึ้นตามลำพัง ต่างคนต่างก็แก่กันตามใจชอบ จะแก่มากแก่น้อยก็เลือกเอา
นานๆได้พบเพื่อนฝูงก็รู้สึกว่าได้พบแรงบันดาลใจให้มีแรงอยากจะเขียนหนังสือไปเรื่อยๆ
พรุ่งนี้จะไป "บ้านทุ่งดาว"ของพิบูลศักดิ์ ละครพล ที่อ.แม่ใจ จังหวัดพะเยา ยังไม่รู้ว่าจะอยู่สักกี่วัน แต่สิ้นเดือนต้องกลับมาเมืองนนท์ เพราะ "คาบโลกย์คาบธรรมมีกำหนดออกสิ้นเดือนนี้
ที่โน่นไม่ค่อยสะดวกในเรื่องใช้เน็ต แต่ก็พยายามจะหาใช้
สวัสดีครับ...
----------------------------------
ภาพเหมือนของจิระศักดิ์ พัฒน์พงษ์
ผลงานแนวเซอร์เรียลิสม์ยุคแรกๆของจิระศักดิ์
(จากซ้าย) เตือนจิต ,ไพศาล ,ประสิทธิ์
เตือนจิต นวตรังค์ กับผลงานของจิระศักดิ์ (เขาเคยบอกกับผมว่ารูปปลาหรือเมือกลื่นคาวปลาคือสัญลักษณ์ทางเพศในรูปเขียนของเขา)
ทองธัช เทพารักษ์ เพชฌฆาตหมื่นปก (คนนี้เคยออกแบบโลโก้ปลากรอบตะกั่วป่าให้ผม)
ทองธัช เทพารักษ์ กับ ประสาร มฤคพิทักษ์
ไม่ประสงค์ออกนาม (พรีเซนเตอร์ดาวแดง)
เวียง - วชิระ บัวสนธ์ แห่งสำนักพิมพ์สามัญชน และนิตยสาร ฅ.คน
อารักษ์ อาภากาศ คนเดินดินน้อยก็หนึ่ง
สิงห์สนามหลวง
เรืองเดช จันทรคีรี,เวียง วชิระ,ทองธัช เทพารักษ์
Create Date : 12 กันยายน 2549 |
|
13 comments |
Last Update : 12 กันยายน 2549 20:51:25 น. |
Counter : 4647 Pageviews. |
|
|
|
และเห็นตัวจริงของเตือนจิต แล้ว ทำให้นึกแสงดาว ศรัทธามั่น, เพราะหลายคนนึกว่า เป็นกวีผู้หญิง...ฮา
พี่โดม ไปบ้านทุ่งดาว ฝากความระลึกถึงพี่ปอนด้วยเน้อ...และกระซิบบอกว่า ขอต้นฉบับด้วย...แควนๆ ถามหา
เอ.พี่เจอพี่เวียง แกไม่บ่นถึงผมบ้างเหรอรึ