" เรื่องราวต่างๆเป็นดั่งทองคำในเทพนิยาย เมื่อคุณแจกจ่ายไปมากขึ้น คุณก็ได้รับกลับมามากขึ้น " พอลลี แมคไกวร์
Group Blog
001. เรื่องไร้สาระคดี ของ Moonfleet
002. ว่าด้วย ชีวิต ความคิด ผลงาน ของ นายกฯ ทักษิณ ชินวัตร นายกฯ ตลอดกาล
003. ว่าด้วย การท่องเที่ยวไปสู่ความสำเร็จ (ROVERING TO SUCCESS)
004. ว่าด้วย หนังสือของ ปีเตอร์ ดรักเกอร์
005. ว่าด้วย วาทะ ของ คนแถวหน้า : (TOP DOG)
006. Law of Success :ว่าด้วย ศาสตร์แห่งความสำเร็จ ของนโปเลียน ฮิลล์
007. The Prince by Niccolo Machiavilli : เจ้าผู้ปกครอง
008. Power of Life : พลังแห่งชีวิต
009. ว่าด้วย พิชัยสงคราม พงศาวดาร เต๋า และ จีนศึกษา
010. รายการ สนทนาประสา นายกฯ สมัคร สุนทรเวช
011. คิดแล้วรวย ด้วยแนวทางธุรกิจของ นโปเลียน ฮิลล์
012. เส้นทางสู่เสรีภาพ ของ เบอร์ทรันด์ รัสเซลล์
013. เรื่อง สัญญาประชาคม (Contract Social) ของ จัง จ๊ากส์ รุสโซ่ แปลและเรียบเรียงโดย จินดา จินตนเสรี
014 Moonfleet @CCC: เชียงใหม่ นครแห่งชีวิต และ ความมั่งคั่ง ชุดที่ 1. พ.ศ.2552
015. ร้านอาหาร และ การรับประทาน @จ.เชียงใหม่ & จ.ลำพูน
016. ตลาด : ตลาดสด ตลาดนัด ตลาดต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ และ ลำพูน
017. ON LIBERTY by John Mill
018. วัด และ สำนักสงฆ์ จังหวัดเชียงใหม่ Volume I.
019. วัด และ สำนักสงฆ์ จังหวัด ลำพูน Volume 1
020. เรื่อง "สาระ DD" เศรษฐกิจ สังคม การเมือง & การบริหารการจัดการธุรกิจ # 001
021. การเดินทาง คือ สหายของฉัน ส่วนการผจญภัยคือแรงบันดาลใจ
022. ว่าด้วยเรื่อง สโมสรไลออนส์เชียงใหม่ภูพิงค์ ภาค 310 A1
023. หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ สมัยที่ 17 ประจำปี 2552 - 2553
024. ว่าด้วย อำเภอ.บ้านโฮ่ง จังหวัด.ลำพูน
025. ว่าด้วย Power : The Story of อำนาจ
026. เรียนรู้ " ......... " จาการอ่าน หนังสือ.
027. Sovereignty : การปกครองอยู่ที่กฏหมายมากกว่าตัวบุคคล
028. ประมวลสุนทรพจน์ของนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พ.ศ. 2544
029. วัด และ สำนักสงฆ์ จังหวัดเชียงใหม่ Volume II
030. CRI online : China Radir Online และ CCTV .
031. หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ สมัยที่ 18 ประจำปี 2554
032. เชียงใหม่นครแห่งชีวิตและความมั่งคั่ง Volume II
033. Chiang Mai City 2554
034. Moonfleet 2011 : The Odyssey พ.ศ. 2554 ( Part 1 )
035. Moonfleet 2012 : The Odyssey พ.ศ. 2555
036. นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ นครแห่งชีวิตและความมั่งคั่ง พ.ศ.2555
037. ว่าด้วย ASEAN Comunity หรือ ประชาคมอาเซียน
038. ว่าด้วย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (Republic of the Union of Myanmar)
039. ว่าด้วย จังหวัด กว๋างบิ่ญ (Quảng Bình) และ กลุ่มจังหวัดภาคกลาง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม.
040. ว่าด้วย ประเทศเวียดนาม
041. ว่าด้วย ประเทศสิงคโปร์
042. Moonfleet 2011 : THE ODYSSEY พ.ศ. 2554 ( Part 2 )
043. ว่าด้วย กรุงเทพมหานคร อรรัตนโกสินทร์.
044. China : ว่าด้วย ประเทศจีน
045. The Greater Mekong Subregion (GMS) : แม่น้ำโขง
046. Thai Chamber of Commerce : หอการค้าทั่วประเทศไทย
047. Star of Asian.
048. ว่าด้วย ภาคประชาสังคมจังหวัดเชียงใหม่
049. ว่าด้วย คณะกรรมการส่งเสริมกิจการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วาระ 2557-2560
050. Japan : ว่าด้วย ประเทศญี่ปุ่น
051. Marketing : การตลาด
052. Tvdmcnews Worldnews
053. ว่าด้วย เกษียร เตชะพีระ
054. ว่าด้วย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
055. ว่าด้วย ประเทศ Korea : เกาหลีใต้
056. ว่าด้วย Kittiratt Na-Ranong (กิตติรัตน์ ณ ระนอง)
057. Arabia Night : อาหรับราตรี กลุ่มประเทศอารเบีย
059. ว่าด้วย จังหวัดลำปาง พ.ศ.2556
060. Lao People's Democratic Republic.(ສາທາລະນະລັດ ປະຊາທິປະໄຕ ປະຊາຊົນລາວ)
061. ลำนำหลวงพระบาง สปป.ลาว The rhythm of Luang Prabang.
062. ว่าด้วย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
063. ว่าด้วย CAMBODIA
064. ว่าด้วย "บันทึก ความทรงจำ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ" ในเรื่องต่างๆ
065. บันทึกการเดินทาง
066. An Inquiry into the Nature and Causes of the Wealth of Nations. ว่าด้วย ประเทศไทย
067. ว่าด้วย ทุน เงินตรา ความมั่งคั่ง.
068. ว่าด้วย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
069. โลกนี้มีเพียงหนึ่ง การดูแลและบำรุงรักษาดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ โดย บาร์บารา วอร์ด
070. ปีแห่งความรุ่งโรจน์ : A YEAR OF GROWING RICH
071. เรียนภาษาอังกฤษ จาก เพลง เนื้อเพลง และ ภาพยนต์
072. reba : Property and Real Estate
073. Productivity Corner หรือ จดหมายข่าวรายเดือน สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ
074. BUREAUCRAY มหาชนรัฐ ประชาธิปไตย เศรษฐกิจ สังคม และ การเมือง.
075. พคบ.301: ผู้บริหารยุคใหม่ใส่ใจความมั่นคงของประเทศไทย
076. CEQC สมัยที่ 4 : คณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.) หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ สมัยที่ 4 ประจำปี 2555 - 2559
077. ว่าด้วย ตำนานและเรื่องราวเหตุการณ์ ล้านนาไทย ( The Story of Lanna Thai )
078. Economics : เศรษฐศาสตร์
079. Spaceship Earth : ยานอวกาศชื่อว่า โลก เรื่อง สภาวะแวดล้อมของมนุษย์
080. แกงโฮะ : การบริหารและจัดการ
081. Thailand เรื่องราวของสองนคร.
082. ร่วมด้วยช่วยให้ "กำลังใจ" แด่ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในปฏิบัติการ Thailand Vision "สร้างความสุข สลายความทุกข์ ให้ประชาชนไทย"
083. ว่าด้วย นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แห่ง ประเทศไทย: บันทึกไว้เป็นตำนาน
084. ว่าด้วย เมืองเชียงตุง(Kyaing Tong) หรือเก็งตุ๋ง (Keng tung) และ รัฐฉาน (Shan)แห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์.
085. Moonfleet Thailand : รายงาน ประเทศไทย
086. Moonfleet Asia
087. ถนน.สายบุญ สายวัฒนธรรม No.1 วัดศรีโสดา - ถ.ศรีวิชัย - ถ.ห้วยแก้ว - สวนรุกขชาติห้วยแก้ว
088. ถนน.สายบุญ สายวัฒนธรรม No.2 วัดพระสิงห์ฯ - ถ.ราชดำเนิน
089.ถนน.สายบุญสายวัฒนธรรม NO.3 วัดเชตุพน - ถ.รัตนโกสินทร์
090. ว่าด้วย ธรรมาภิบาล จังหวัดเชียงใหม่ : Good Governance Committee.
091. ว่าด้วย พระพุทธศาสนา
092.เชียงใหม่ นครแห่งชีวิตและความมั่งคั่ง.
093. ว่าด้วย ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย
094. 6 Cities 3 Countries : ความร่วมมือ 6 ฝ่าย เขตชายแดนระหว่าง จีน ลาว ไทย
095. ว่าด้วย ผู้ว่าฯ นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ นครแห่งชีวิตและความมั่งคั่ง 2556
096. Sunset of Life : ชีวิตช่วงสนธยา.
097. รวมบทความของ อาจารย์ นิธิ เอียวศรีวงศ์
098. Moonfleet : ว่าด้วย Upper Northern Provincial Cluster 1 Chamber of Commerce : หอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1.
099. ว่าด้วย คณะทำงานเครือข่ายภาคประชาสังคมจังหวัดเชียงใหม่
100. การเดินทาง คือ สหายของฉัน ส่วนการผจญภัย คือ แรงบันดาลใจ
101.ว่าด้วย ประเทศแถบยุโรปตะวันออก
กันยายน 2550
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
16 กันยายน 2550
072. Of Love and Death in the American Novel
071.Of The Prince ของ Niccolo Macchiavelli ว่าด้วย...เจ้าผู้ปกครอง
070. Of Power ว่าด้วย อำนาจ
All Blogs
03.10.2564 กาอัล ดอร์นิค (Gaal Donick) การเดินทางสู่ ทรานทอร์ (Trantor)
03.10.2564 ฮาริ เซลด็อน (Hari Seldon) นักอนาคตประวัติศาสตร์
14.04.2560 วัดหนอง สีคูณเมือง หรือ วัดหนองศรีคูนเมือง, หลวงพระบาง, สปป.ลาว.
11.04.2560 การประกวดนางสังขาร หลวงพระบาง สปป.ลาว ประจำปี พ.ศ.2017 (วันแรก)
11.04.2560 วัดป่าฮวก (Wat Pa Houak) หรือ วัดป่ารวก หลวงพระบาง เมืองมรดกโลก สปป.ลาว
16.04.2560 การแสดงโขน พะลัก.พะลาม @หอคำหลวงพระบาง หรือ หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง สปป.ลาว.
301. บัญญัติ 10 ประการของโทมัส เจฟเฟอร์สัน ประธานาธิบดีคนที่ 3 ของประเทศสหรัฐอเมริกา (ค.ศ.1801-1809)
300. วันอาสาฬหบูชา
มีความสุขที่สุดในโลก
สัมภาษณ์: "เดโช ไชยทัพ" ท้องถิ่นโตเองไม่ได้
รูปแบบของกรอบมาตรฐานคุณวุฒิแห่งชาติ
เดี่ยวไมโครโฟน 8
You Tube: บทอาขยาน เช่น วิชาเหมือนสินค้า
มหาวิทยาลัยรามคำแหง
Bangkok Thailand
Manila City, Philippines
Kuala Lumpur, Malaysia
The Fastest Growing Economic Countries in Asia : ไม่มีประเทศไทยแลนด์ ดินแดนแห่ง....
Jakarta City : กรุงจาการ์ต้า เมืองหลวงแห่ง อินโดนีเซีย
Tokyo City : กรุงโตเกียว
New York City
หนังสั้น หรือ ภาพยนต์เรื่องสั้น หรือ Short Movie หรือ Short Story
นักเรียน และ นักศึกษา
เพลงที่เคยชอบในอดีต และ ปัจจุบันก็ยังคงชอบฟังอยู่ดี : Christie San Bernadino
loveis 26 : You Tube ของ loveis 26
Only in Vietnam
กฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เมื่อจะไปเฝ้า พระราชา อุปฌาย์ ตุลาการ หญิงสาว และ หญิงแก่ผู้มีลูกสาวซี่งเรารักใคร่
มายาคือความมั่งคั่ง และ มายาคือความรักนี้มีคุณดีที่ไหนบ้าง ?
นิทานเวตาล เรื่องที่ 3. เรื่องของนกแก้วชื่อ วิทัคธจูฑามณี ของพระเจ้าวิกรมเกศริน กับนกขุนทอง
นิทานเวตาล เรื่องที่ 2. เรื่องของนางมันทารวดี กับ พราหมณ์หนุ่ม 3 คน
นิทานเวตาล เรื่องที่ ๑. เรื่องของเจ้าชายวัชรมกุฏ กับพระสหายชื่อ พุทธิศรีระ
เริ่มเรื่อง เวตาลปัญจวิงศติ
คำนำ นิทานเวตาล
พระเจ้าจันทรคุปต์ที่ 2 จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
นิทานเวตาล จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อาหารมื้อเช้าภายใต้เส้นงบประมาณ 10 บาท
นกน้อยทำรังแต่พอตัว แต่ต้องมีความมั่นคงและแข็งแรงด้วยมิฉะนั้นสมาชิกในครอบครัวจะได้รับอันตรายดังนี้
งานที่ไม่ได้เริ่มต้น คือ งานที่ใช้เวลายาวนานที่สุดกว่าจะสำเร็จ
วันคุ้มครองโลก 22 เมษายน พ.ศ. 2553 : พิธีบวชอุบาสิกาแก้วรุ่น 500,000 คน และหล่อพระธรรมกาย
วันคุ้มครองโลก 22 เมษายน พ.ศ. 2553 : พิธีมอบผ้าสไบแก้ว แก่ อุบาสิกาแก้วรุ่น 500,000 คน
1. วิวรณ์ของพระเยซูคริสต์
ความชั่วช้าของมนุษยชาติ : พระเจ้าทรงเห็นว่าความชั่วช้าของมนุษย์มีมากบนแผ่นดิน จึงเสียพระทัยที่ได้...
๓. จักกวัตติสูตร
204. ทอมัส เจฟเฟอร์สัน
203.Power Shift : หมอ พระเจ้าในเสื้อคลุมสีขาว
202. Power Shift : ยุคสมัยแห่งการเคลื่อนย้ายของอำนาจ
201.อำนาจใหม่ หรือ POWER SHIFT
ความพอประมาณ คือ อะไร ? ปัญญา คือ อะไร ?
ตำนานพระญาธัมมิกราช
ธันวาคม เดือนแห่งการสรุปบทเรียน
The Little Match Girl
CARMEN :"ความรัก คือ นกป่า" ที่ "ไม่มีวัน เชื่อง"
ทำอย่างไรจึงจะมีความสุข ไม่ว่าจะมั่งมี หรือ ยากจน
หนังสือที่ใครไม่ได้อ่านจะต้องเสียใจ: การเดินทางของส่วนที่หายไป : The Missing Piece Meet the Big O
เยาวชน มีความปราถนาอันสูงส่ง ในอันที่จะไปสร้าง ความใฝ่ฝันอันยิ่งใหญ่ ของตน
พระผู้ทรงปกเกล้าฯ ประชาธิปไตย
16 ข้อแห่งความยิ่งใหญ่ของเวียดนามเหนือไทย ศักยภาพที่น่ากลัวของเวียดนาม . . . ไทยควรอ่านเพื่อสังวร
การเลือก"แฟน" มีความเสี่ยง ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นหลักประกันผลการดำเนินงานในอนาคต
1 ใน โครงการตักบาตรพระ 500,000 รูป
เด็กเท้าเปลือย
จากเจ้าพระยาถึงฝั่งโขง ของ สนธิกาญจน์ กาญจนาสน์
The Greatest Salesman In the World by Og Mandino
ว่าด้วย เฟาสต์ เรื่องเล่าโดยจดหมายเก้าฉบับ by อีวาน ตูร์เกเนฟ
ว่าด้วย กฏแห่งกรรม The Law of Karma ( หน้าที่ของกรรม)
Trust Models
คนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา . ผู้บันดาลให้มนุษย์ขึ้นไปเยือนดวงดาวได้สำเร็จ
รายชื่อ นายกรัฐมนตรี ประเทศไทย
THE ROAD NOT TAKEN : ทางที่ไม่ได้เลือก
ปรัชญาการบริหารเวลา ทำงานให้ฉลาดขึ้น ไม่ใช่ให้หนักขึ้น"
OF VISION ... ว่าด้วย วิสัยทัศน์
OF...DREAM
7. โอหัง ( pride / hubris ) 1 ในบาป 7 ประการ
6. อิจฉา ( envy ) 1 ในบาป 7 ประการ
5. โทสะ ( wrath ) 1 ในบาป 7 ประการ
4. เกียจคร้าน (sloth / laziness ) 1 ในบาป 7 บาป
3. โลภะ ( greed / avarice ) 1 ในบาป 7 ประการ
2. ตะกละ (ภาษาลาติน: gula กูลา ; ภาษาอังกฤษ: gluttony) 1 ในบาป 7 ประการ
บาป 7 ประการ (seven deadly sins)
1. ราคะ (ภาษาลาติน: luxuria ลุกซุเรีย ; ภาษาอังกฤษ: lust) 1 ในบาป 7 ประการ
Of Carmen ว่าเพลง คาร์เมน
OF ว่าด้วย คุณ น้ำมนต์ ธีรนัยน์ ณ หนองคาย
OF Carmen .... ความรัก คือ นกป่า
สิบสองเรื่องอุปรากร
Of Carmen ว่าด้วย เรื่อง คาร์เมน
Of Re-imagine by tom peters ว่าด้วย คิดใหม่
Of Sins & Hells ว่าด้วย บาป และ นรก 8 ขุม ?
Of....Hermann Hesse ว่าด้วย เฮอร์มานน์ เฮสเส ประพันธกรเอกเยอรมันผู้ได้รับรางวัลโนเบล
Of http://plaza.harmonix.ne.jp/~onizuka/galgaE.html
Of Imaginary Worlds ว่าด้วย โลกจินตนาการ
Of มุ่งสู่รอบพันปีที่สามแห่งคริสต์กาล
Of MEGATRENDS 2000 by John Naisbitt & Patricia Aburdene
Of The Secret Power by Marie Corelli ว่าด้วยเรื่อง อานุภาพพิศวง แปลและเรียบเรียงโดย อมราวดี
Of THE MURDER OF DELICIA by Merie Corelli นางแก้ว แปลและเรียบเรียงโดย อมราวดี
Of INNOCENT by Marie Corelli ว่าด้วย ผู้บริสุทธิ์ แปล/เรียบเรียง อมราวดี
Of The Trench Comrade by Marie Corelli ว่าด้วย เพื่อนร่วมสนามเพลาะ แปล/เรียบเรียง อมราวดี
Of The Signal by Marie Corelli ว่าด้วย แสงสัญญาณ แปล/เรียบเรียง อมราวดี
Of The Lady with the Carnations by Marie Corelli ว่าด้วยเรื่อง นางในภาพ แปล/เรียบเรียงโดย อมราวดี
Of "Sunny" by Marie Corelli ว่าด้วยเรื่อง "ซันนี่" แปล/เรียบเรียง อมราวดี
Of The Song of Miriam by Marie Corelli ว่าด้วยเรื่อง เพลงพยาบาท แปล/เรียบเรียง อมราวดี
Of Angel's Wickedness by Marie Corelli ว่าด้วยเรื่อง ผู้ที่พระเจ้ารัก แปล/เรียบเรียง อมราวดี
Of The Boy by Marie Corelli ว่าด้วยเรื่อง สาวสำนึก แปล/เรียบเรียง อมราวดี
Of Rejected by Marie Corelli ว่าด้วย โลกศิลปะ แปล/เรียบเรียง อมราวดี
Of The Panther by Marie Corelli ว่าด้วย สัตว์กับคน แปล/เรียบเรียง อมราวดี
Of Lolita by Marie Corelli ว่าด้วยเรื่อง โลลิตา แปล/เรียบเรียง อมราวดี
Of Why She was Glad by Marie Corelli ว่าด้วยเรื่อง ผู้ที่หล่อนไม่ปรารถนา แปล/เรียบเรียง อมราวดี
Nehemiah P. Hoskins, Artist by Marie Corelli ว่าด้วย ศิลปินเอก แปล/เรียบเรียง อมราวดี
Of The Silence of the Maharajah by Marie Corelli ว่าด้วย เรื่อง คนละโลก
Of The DISTANT VOICE by Marie Corelli ว่าด้วย หนังสือเรื่อง เสียงสวรรค์ แปล โดย อมราวดี
Of The Mighty Atom (1890) ว่าด้วย อำนาจพลังปรมณู
Of God's Good Man (1894)
Of The Silver Domino
Of Twin Souls: The Strange Experiences of Mr Rameses
Of Cameos by Marie Corelli
Of The Sorrows of Satan by Marie Corelli
Of Barabbas : A Dream of the World's Tragedy (1893) by Marie Corelli
Of The Soul of Lilith by Marie Corelli
Of Ardath by Marie Corelli
Of Wormwood ( เถ้าสวาท) : A Drama of Paris by Marie Corelli
Of Vendetta ( ความพยาบาท) by Marie Corelli
Of A Romance of Two Worlds by Marie Corelli
Of Thelma by Marie Corelli ว่าด้วย หนังสือเรื่อง เต็ลมา
Of Shardik by Richard Adams ว่าด้วย ชาร์ดิก หมียักษ์ แปลโดย สุดจิตต์ ภิญโญยิ่ง
Of WATERSHIP DOWN by Richard Adams ว่าด้วย เรื่อง ทุ่งวอเตอร์ชิพ
Of ..The Currents of Space by Isacc Asimov ว่าด้วย ลาแล้วโลก
Of ...Against the Fall of Night ว่าด้วย..ประหนึ่งจะเย้ยรัตติกาล ของ Arthur C. Clarke
Of...The Achieving Society ว่าด้วย...สังคมแห่งความสำเร็จ
Of ....The Limits to Growth. ว่าด้วย ขีดจำกัดความเจริญ
Of One Hundred Countries, Two Billion People: by Robert S. McNamara ว่าด้วย ร้อยประเทศสองพันล้านคน
ว่าด้วย ..ที่น่าสนใจ ในเรื่อง Foundation
Of ...Hermann Hesse ว่าด้วย เรื่องของ เฮอร์มานน์ เฮสเส
Of Robots and Empire ว่าด้วย นครห่นยนต์ โดย Isacc Asimov
Of The Robots of Dawn ว่าด้วย นครอรุณรุ่ง โดย Isacc Asimov
Of The Naked Sun ว่าด้วย เรื่อง นครสุริยะ โดย Isacc Asimov
Of The Cave of Steel ว่าด้วย เรื่อง โลหะนคร ของ Isacc Asimov
ว่าด้วย เรื่อง นักสืบหุ่นยนต์ (ชุดหนังสือ)
Of I Robot ว่าด้วย เรื่อง ข้า คือ หุ่นยนต์
ว่าด้วย กฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์
089. Of Foundation's Triumph ว่าด้วย เรื่อง ชัยชนะของสถาบันสถาปนา โดย เดวิด บริน
088. Of Foundation and Chaos ว่าด้วย ฝ่าวิกฤตสถาบันสถาปนา ของ เกรก แบร์
087. Of Foundationงs Fear ว่าด้วย เรื่อง สุดหนทาง สถาบันสถาปนา โดย เกรกอรี เบนฟอร์ด
086. Of Forward the Foundation ว่าด้วย เรื่อง สู่เส้นทาง สถาบันสถาปนา ของ Isacc Asimov
085. Of Prelude to Foundation ว่าด้วย เรื่อง กำเนิดสถาบันสถาปนา โดย Isacc Asimov
084. Of Foundation and Earth ว่าด้วย สถาบันสถาปนา และ โลก ของ Isacc Asimov
83. Of...Foundation's Edge ว่าด้วย เรื่อง สถาบันสถาปนา และ ปฐมภพ ของ Isacc Asimov
082. Of..Second Foundation ว่าด้วย เรื่อง สถาบันสถาปนา แห่งที่สอง ของ Isacc Asimov
081. Of..Foundation and Empire ว่าด้วย เรื่อง สถาบันสถาปนา และ จักวรรดิ ของ Isacc Asimov
080. Of...Foundation ว่าด้วย เรื่อง สถาบันสถาปนา ของ Isaac Asimov
079. Of Children's End ว่าด้วย เรื่อง สุดสิ้นกลิ่นน้ำนม ของ Arthur C. Clarke
078. Of ...Love in the mist 1. ว่าด้วยความรักระหว่าง Cupid and Psyche
077. Of Schim Shimmel
076. Of INQUIRY IN TO THE NATURE AND CAUSES OF THE WEALTH OF NATION ของ ADAM SMITH
075. Of The Federalist Papers ว่าด้วย...เอกสารความคิดทางการเมืองอเมริกัน
074. Of The Post-Corporate World ว่าด้วย..โลกยุคหลังบรรษัท
073. Of When Corporations Rule the World เมื่อบรรษัทครองโลก
072. Of Love and Death in the American Novel
071.Of The Prince ของ Niccolo Macchiavelli ว่าด้วย...เจ้าผู้ปกครอง
070. Of Power ว่าด้วย อำนาจ
069. Of 101 Golden Keys to Success!
068. ว่าด้วย การพัฒนาตนเองด้วยการอ่านหนังสือของ Napoleon Hill
067. ว่าด้วย หนังสือของ หลวงวิจิตรวาทการ
066.ว่าด้วย ธรรมชาติของคนในสังคม และ อุปนิสัยและจริตของแต่ละบุคคล
065.ว่าด้วย จิต มโน วิญญาณ เกิดดับ
064. ว่าด้วย เรื่องของกิเลส (เครื่องใจให้เศร้าหมอง) ๑๐ อย่าง
063. ว่าด้วย ธรรมที่มีความทะยานอยากเป็นมูล ๙ อย่าง
062.ว่าด้วย ธรรม
061.ว่าด้วย ศัตรูภายใน (โลภะ, โทสะ, โมหะ)
060. ว่าด้วย...ทักษะการดำรงชีวิต
059. Of sloth / laziness ว่าด้วย ความเกียจคร้าน 1 ใน 7 บาป
058. ว่าด้วย...เด็กเอ๋ย เด็กดี ต้องมีหน้าที่10อย่างด้วยกัน
057. คนที่เกิดมีขวานมาในปากด้วย
056. ว่าด้วย ธรรม 10 อย่าง บุคคลละธรรม ๑๐ อย่างได้จึงควรเป็นพระอรหันต์
055. ว่าด้วยเรื่อง ไม่ฉลาดในเรื่องจิตของผู้อื่นก็ควรฉลาดในเรื่องจิตของตน
054. ว่าด้วย ตัณหา
053. Of Ignorance ว่าด้วย โมหะ (ความหลง) หรือ อวิชชา
052. Of Anger หรือ Wrath ว่าด้วย ความโกรธ (R.2)
051. Of Creed ว่าด้วย ความโลภ (R.2)
050. ว่าด้วย กิเลส
043. ว่าด้วย มงคลชีวิต 38 ประการ
049. ว่าด้วย อิทธิบาท ๔ : ธรรมแห่งความสำเร็จในการทำงาน
048. Of "Ten Commandments" ว่าด้วย "บัญญัติ 10 ประการ"
047. Of seven deadly sins ว่าด้วย บาป 7 ประการ
046. Of Pride / Hubris ว่าด้วย ความโอหัง 1 ใน 7 บาป
045. Of Envy ว่าด้วย ความอิจฉา 1 ใน 7 บาป
044. Of Wrath หรือ Ira ว่าด้วย โทสะ ความโกรธเคือง และ พยาบาท 1 ใน 7 บาป
042. Of Greed / Avarice โลภะ (ภาษาลาติน: avaritia อวาริเทีย ) 1 ใน 7 บาป
041.. Of Discoure ว่าด้วย วาทกรรม
040. Of Death ว่าด้วย ความตาย
039. Of Gluttony ว่าด้วย ตะกละ (ภาษาลาติน: gula กูลา ; ภาษาอังกฤษ: gluttony)
038. Of Lust / Luxuria ว่าด้วย ราคะ (ภาษาลาติน: luxuria ลุกซุเรีย)
037. Of Education ว่าด้วย การศึกษา
036. Of Custom ว่าด้วย ประเพณีนิยม
035. Of Cunning : ว่าด้วย เลห์กล
034. Of Counsel ว่าด้วย การปรึกษาหารือ
033. Of Suntzu ว่าด้วย ตำราพิชัยสงครามของ ซุนหวู่
032. Of Ceremonies and Respects ว่าด้วย พิธีกรรม และ การยอมรับนับถือ
031. Of Boldness ว่าด้วยความอาจหาญ
030. Of Beauty ว่าด้วย ความงาม
029. Of Adversity ว่าด้วย ความลำเค็ญ
028. Of Worry, anxious, apprehensive, uneasy ว่าด้วย ความกังวล ..... ความวิตกกังวล
027. Of Fear, afraid, apprehensive ว่าด้วย ความกลัว
026. ว่าด้วย นิวรณ์ ๕
025. ว่าด้วย กิเลส
024. ว่าด้วย สังโยชน์ ๑๐
023. ว่าด้วย กามราคะ
022. ว่าด้วย วิจิกิจฉา
021. ว่าด้วย อุทธัจจกุกกุจจะ
020. Of Revenge ว่าด้วย ความอาฆาต ความพยาบาท
019. Of Envy ว่าด้วย ความอิจฉา .... ความริษยา
018. Of Bias ว่าด้วย ความลำเอียง
017. ว่าด้วย โทสะ ความโกรธ แค้น ฉุนเฉียว ขุ่นมัว Of Anger หรือ Wrath
016.ว่าด้วย ความโลภ
015. Love ว่าด้วย ความรัก
014. Ambition ว่าด้วย ความทะเยอทะยาน
013. Of Dream ว่าด้วย ความใฝ่ฝัน
012. Of Hope ว่าด้วย ความหวัง
011. Of Family ว่าด้วย ครอบครัว
010. Of Good Friend ว่าด้วย เพื่อนที่ดีงาม "กัลยาณมิตร"
009. ว่าด้วย คุณลักษณะของผู้นำ (Leader Traits) ที่ประสบความสำเร็จ.
008. ว่าด้วย บุคลิกภาพ Of Personality
007. ว่าด้วย อุปนิสัย (อุปนิสัย 7 ของ Stephen R. Covey ) Of Habit
006. ว่าด้วย ความเห็น ( สัมมาทิฏฐิ และ มิจฉาทิฏฐิ ) Of Opinion
005. ว่าด้วย ทัศนคติ Of Attitude
004. ว่าด้วย หน้าที่ของ พ่อ แม่ ลูก และ ครอบครัว Of Parent Children and Family
003. ว่าด้วย การสมรส Of Marriage
002. ว่าด้วย มิตรภาพ Of Friendship
001. ว่าด้วย เพื่อน Of Friend
070. Of Power ว่าด้วย อำนาจ
อำนาจ
นักสังคมวิทยานิยาม อำนาจ ว่าเป็นความสามารถในการกำหนดให้ผู้อื่นเป็นหรือกระทำตามความต้องการของตนเอง แม้ว่าผู้อื่นจะขัดขืนก็ตาม
"อำนาจ หมายถึงโอกาสที่มีอยู่ในความสัมพันธ์ทางสังคม ที่ทำให้บางคนสามารถกระทำตามความตั้งใจ แม้ว่าจะมีการขัดขวาง โดยไม่ขึ้นกับหลักการที่รองรับโอกาสนั้นๆ"
มักซ์ เวเบอร์, แนวคิดพื้นฐานของสังคมวิทยา
การกำหนดนี้อาจไม่จำเป็นต้องมีการบีบบังคับ (ด้วยกำลังหรือด้วยการขู่ว่าจะใช้กำลัง) ดังนั้น "อำนาจ" ในแนวคิดทางสังคมวิทยา จึงมีความหมายครอบคลุมถึงอำนาจทางกายภาพและอำนาจการเมือง ในภาษาที่ใช้กันในชีวิตประจำวัน คำว่า "อำนาจ" จะมีความหมายใกล้เคียงกับคำว่า "อิทธิพล" (ในภาษาอังกฤษ: "influence")
ถ้าจะกล่าวในกรณีทั่วไปมากกว่านี้ เราสามารถนิยาม "อำนาจ" ว่าเป็นความสามารถฝ่ายเดียว หรือเกือบจะฝ่ายเดียว, หรือศักยภาพในการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอะไรบางอย่าง ซึ่งมักจะเป็นชีวิตของผู้คน ผ่านทางการกระทำของตนเอง หรือผู้อื่น.
การใช้อำนาจดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะกับมนุษย์ที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะต้องการสังคม และอยู่รวมเป็นกลุ่ม
Link:
"พระราชอำนาจ"
Create Date : 16 กันยายน 2550
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2554 16:45:26 น.
4 comments
Counter : 914 Pageviews.
Share
Tweet
อำนาจและพลังทางสังคม 3 ชนิด
หมายเหตุ ข้อมูลทั้งหมดนี้ เป็นการเก็บความมาจากการบรรยายของ ศ.นพ.ประเวศ วะสี ซึ่งบรรยายให้กับนักศึกษาของสถาบันพระปกเกล้าฯ (ที่เดินทางมาศึกษาภาคสนาม ณ เขตจังหวัดภาคเหนือ) ที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ สวนบันรีสอร์ท อ.หางดง ในวันที่ 3 มิถุนายน 2543 เวลา 8.30 น. (ข้อมูลที่เก็บความมานี้ ได้มีการปรับปรุงขึ้นมาใหม่และจัดแยกหัวข้อตามที่ผู้เรียบเรียงเข้าใจ และประยุกต์ให้เข้ากันกับสื่ออิเล็คทรอนิค. ดังนั้น หากมีข้อผิดพลาดประการใด ผู้เรียบเรียงขอรับผิดชอบต่อข้อมูลเหล่านี้ที่นำเสนอ. สมเกียรติ ตั้งนโม)
พลังทางสังคมออกเป็น 3 ส่วนคือ
พลังพลานุภาพ หมายถึงพลังอำนาจซึ่งมาจากการใช้กำลัง เป็นอำนาจของการใช้ความรุนแรงเข้าแก้ไขปัญหา พลังชนิดนี้ ยิ่งใช้ความรุนแรงมากเท่าใด ก็ยิ่งทำให้เกิดความทุกข์ยากมากทั้งฝ่ายที่ถูกกระทำและฝ่ายที่กระทำ และในท้ายที่สุดผู้ใช้ความรุนแรงนั้นก็จะอยู่ไม่ได้. (สังคมที่ใช้พลังแบบพลานุภาพนี้ เป็นสังคมในรูปแบบที่เก่าแก่ที่สุด มีมาตั้งแต่อดีตจนกระทั่งปัจจุบัน และมักเป็นสังคมที่ล้าหลัง)
พลังธนานุภาพ หมายถึงพลังอำนาจซึ่งได้มาจากการใช้อำนาจทางการเงิน แทรกซึมเข้ามาในการแก้ปัญหา หรือเข้าแก้ปัญหาโดยตรง. อำนาจที่มาจากเงินนี้ไม่มีสัญชาติ แผ่ซ่านแทรกซึมไปได้ทั่วและซับซ้อน มีความแนบเนียนจนผู้ที่ถูกใช้อำนาจชนิดนี้ไม่ทันรู้ตัว ดังนั้น จึงเป็นอันตรายมากเพราะผู้ถูกกระทำไม่ทันได้ระวังตัวเหมือนกับคนที่ใช้ความรุนแรงกับเรา
พลังสังคมานุภาพ หมายถึงพลังทางสังคมหรือชุมชน บางท็เรียกว่าประชานุภาพ พลังชนิดนี้เชื่อในอำนาจของความรู้ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกัน ร่วมคิดร่วมทำ และการระดมสมองเพื่อเข้าแก้ไขปัญหาต่างๆ เป็นอำนาจในลักษณะของการประสานร่วมมือกัน อำนาจความรู้นี้มีความยั่งยืน. สำหรับสังคมานุภาพนี้ เป็นพลังอำนาจที่รวมตัวกันอยู่ในพื้นที่จริงทางภูมิศาสตร์หรือทาง cyber space ก็ได้ โดยผ่านสื่ออีเล็คทรอนิค ที่ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน พลังเช่นนี้จึงมาจากหลายแหล่งความคิด และมีอำนาจในการแก้ไขปัญหาทุกชนิด โดยไม่ต้องใช้ความรุนแรง
2. รูปธรรมโครงสร้างทางอำนาจ
รูปธรรมทางโครงสร้างพลังพลานุภาพ จะเป็นไปในลักษณะแนวดิ่งจากบนลงล่างตามลำดับ มีการสั่งการและมีผู้ปฏิบัติตาม. โครงสร้างทางอำนาจชนิดนี้มีลักษณะของผู้ชาย และอำนาจไม่ยั่งยืน กล่าวคือ เมื่อผู้มีอำนาจแบบนี้ตายลง โครงสร้างนี้ก็จะเสื่อมทรุดลง หรือบางครั้งก็พังครืนลงมา
รูปธรรมทางโครงสร้างพลังธนานุภาพ มีลักษณะเป็นแนวดิ่งและแนวนอน ทั้งในลักษณะของการสั่งการของผู้มีอำนาจเงินมากกว่าลงมาตามลำดับ และการแพร่กระจายไปตามแนวนอนแบบเชื้อโรค อีกทั้งยังทำงานร่วมกับอำนาจแบบพลานุภาพได้ด้วย ซึ่งจะทำให้อำนาจความรุนแรงเข้มข้นมากขึ้น. ส่วนการสืบทอดอำนาจนั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
รูปธรรมทางโครงสร้างพลังสังคมานุภาพ จะเป็นไปในลักษณะแนวนอน และร่วมประสานความร่วมมือ อำนาจนี้มีความยั่งยืนกว่า และเป็นอำนาจแบบผู้หญิง คือถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน ไม่มีลักษณะของความเป็นผู้นำที่โดดเด่น หรือการสืบทอดอำนาจตลอดกาล
3. สังคมานุภาพ
สังคมานุภาพ เกิดขึ้นมาได้จากหลายๆสาเหตุ บางครั้งเริ่มต้นขึ้นมาจากการพยายามหาทางแก้ปัญหาร่วมกันในสิ่งที่นำมาซึ่งความทุกข์ อาจเริ่มจากความทุกข์ของปัจเจกชน และพัฒนาไปสู่การร่วมกันกับคนที่มีความทุกข์อย่างเดียวกัน และพยายามค้นหาทางออกพร้อมๆกัน. การร่วมทุกข์นี้ในทางพุทธศาสนาถือว่าจะทำให้ความรู้สึกทุกข์นั้นน้อยลง และที่สำคัญ การร่วมทุกข์ทำให้ได้มีการปรับทุกข์ ได้รับการปรึกษาหารือกัน จากหนักกลายเป็นเบา
4. หลักธรรมแห่งสังคมานุภาพ
ในทางพระพุทธศาสนา มีหลักธรรมที่นำมาประยุกต์ใช้ได้กับพลังแห่งสังคมานุภาพคือ หลักแห่งอปริหานิยธรรม(หรือ ธรรมะที่ไม่ทำให้ฉิบหาย)[ปริหานิยธรรม ธรรมแห่งความฉิบหาย] ซึ่งพระพุทธองค์ทรงตรัสสอนให้มีการหมั่นประชุมกันเนืองนิจ
ในหนังสือเรื่อง Making Democracy World : civic tradition of modern Itary เป็นหนังสือเกี่ยวกับการไปศึกษาเชิงเปรียบเทียบถึงความแตกต่างของประเทศอิตาลีว่า ทำไมเมืองมิลาโน ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี จึงมีความเจริญทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง, แต่พอมาศึกษาที่ซิซิลี ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ ทำไมจึงพบว่ามีแต่การคอรัปชั่น การฆ่ากัน การโกงกัน และมาเฟีย. ผมสรุปของการศึกษาเชิงเปรียบเทียบนี้ออกมาคือ เป็นเพราะเมืองมิลาโนมีประชาคม ในขณะที่ซิซิลีไม่มีประชาคม. การมีประชาคม ทำให้การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมดี มีศีลธรรม
สรุปทั้งหมดของหนังสือเล่มนี้ หากใช้คำพูดที่รวบรัดและสั้นที่สุดก็คือ ประชาคม, ประชาสังคม, และความร่วมมือกันนั่นเอง
Resource:
//www.geocities.com/midnightuniv/newpage77.htm
โดย: ทฤษฏี 3 อำนาจ โดย ศ.นพ.ประเวศ วะศี (
moonfleet
) วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:9:53:44 น.
ความลับ เรื่อง อำนาจ (ตอนจบ)
- ดาวรุ่ง รัตนพยากรณ์ จากหนังสือแลใต้ -
ปัจจุบันหน่วยงานต่างๆ รำคาญกับการที่ประชาชนสามารถตรวจสอบการทำงานได้ในหลายแง่มุม และมักทำ อย่างเสียไม่ได้ นั่นเป็นการสำคัญผิด ของข้าราชการที่คิดว่าอำนาจที่ตนมีอยู่นั้น หล่นมาจากฟ้า แท้จริงแล้วอำนาจ ที่เขาใช้อยู่ (โดยได้รับเงินเดือน) นั้นมาจากการที่ประชาชน มอบให้ การตรวจสอบของประชาชนในรูปแบบต่างๆ ถือเป็นเรื่องปกติ ของเจ้าของอำนาจ
ถ้าเราสังเกตจากตนเองในชีวิตประจำวัน เราจะพบว่าคนเรามีแนวโน้มที่จะเสพติดอำนาจ อยากให้มีอยู่ อย่างถาวร และมีเพิ่มขึ้นไปอีก องค์กรต่างๆ ในสังคมก็เช่นนั้น เพราะองค์กร ประกอบขึ้นด้วย คนที่มีลักษณะดังว่านั้น การพยายาม แผ่ขยายอำนาจ ของบุคคล และองค์กร จึงเป็นเรื่องปกติ ขึ้นอยู่กับว่าประชาชนเจ้าของอำนาจเห็นด้วยหรือไม่ ในทางการเมือง สามารถ จำกัด การแผ่ขยายอาณาจักร ที่ว่านั้นได้ง่าย เพราะแต่ละองค์กร จะถูกกำหนดไว้ชัดเจนว่า มีภาระหน้าที่อย่างไร แค่ไหน แต่ในทางเศรษฐกิจจะทำยากกว่า เพราะธุรกิจ ดำเนินการโดยเอกชน นับล้านๆ คน อย่างไรก็ตามเมื่อการแผ่ขยายอำนาจถึงระดับหนึ่ง คนจะรู้ว่า มันมีผลกระทบ กับสังคม สังคมจึงผลักดัน ให้การเมือง เข้ามากำกับควบคุมการออกกฎหมาย จำกัดการผูกขาด การค้า จำกัดการถือครองที่ดิน คือตัวอย่างที่สังคมจะจำกัดการขยายอำนาจของธุรกิจ (แต่ธุรกิจ ก็ใช้อำนาจทางการเมืองของตนเองมาคัดค้านกฎหมายดังกล่าวอยู่)
แต่ถึงแม้ไม่มีการจำกัดการแผ่ขยายอำนาจด้วยอำนาจทางการเมืองหรือกฎหมาย ธรรมชาติ ก็จะมีวิธีควบคุม การขยายอำนาจ อยู่ในตัวเองเช่นกัน
ไม่มีเจ้าพ่อคนไหนเลยที่จะไม่ถูกท้าทายอำนาจ ไม่ว่าจะควบคุมบ้านเมืองได้เบ็ดเสร็จเพียงใดก็ตาม เจ้าพ่อส่วนใหญ่ จึงไม่ตายดีสักคน คนที่ตายดีส่วนใหญ่ จะเข้าใจธรรมชาติของอำนาจ ที่ต้อง ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป จัดระยะห่าง กับศูนย์กลางอำนาจอื่นๆ ได้เหมาะสม ยามใดที่มี ความไม่เหมาะสมเกิดขึ้น เจ้าพ่อจะฆ่ากันเพราะล้ำเส้นกัน
ในทางการเมืองเหตุผลที่ต้องมีการกระจายอำนาจก็เหตุผลเดียวกัน เดิมทีชุมชนต่างๆ เป็นคนจัดการ บ้านเมืองของตัวเอง มีวิธีหาทรัพยากร มีวิธีจัดการ แบ่งผลประโยชน์ ในรูปแบบ ต่างๆ ในท้องถิ่น ระบบเจ้าที่ดิน กินบ้านกินเมืองก็เป็นระบบหนึ่ง ไม่มีระบบ แบบประเทศ เสียด้วยซ้ำ เมื่อมีประเทศ ขึ้นมา มีการรวมศูนย์การจัดการไว้ที่เมืองหลวง มีการเก็บภาษี เพื่อสนับสนุน การใช้อำนาจ ทางการเมือง การปกครองกว่า ๑๐๐ ปีผ่านไปของการรวมศูนย์อำนาจ รัฐบาลกลางเริ่มเห็นว่า ถ้ารวมศูนย์ต่อไปจะอยู่ไม่ได้ เพราะประชาชน เจ้าของอำนาจ ไม่ยินยอม อีกต่อไป คนในท้องถิ่น ต้องการเก็บภาษีเอง ต้องการจัดการบ้านเมืองเอง ต้องการเลือกคนบริหาร ท้องถิ่นเอง เราจึงพบว่า กฎหมายการให้มีองค์การบริหารส่วนตำบลนั้น คนส่วนใหญ่เห็นด้วย และผ่านออกมาอย่างรวดเร็ว
การกระจายอำนาจไปยังท้องถิ่นนั้นหาใช่บังเกิดผลขึ้นมาจากความริเริ่มของนักการเมือง คนดี คนใด คนหนึ่งไม่ แต่เป็นความจำเป็น ทางประวัติศาสตร์ ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาล ก็ต้องทำแบบนี้ ทั้งสิ้น เพราะถ้าไม่ทำรัฐบาลกลาง ที่รวบอำนาจ มานานกว่า ๑๐๐ ปี (ดูอายุกระทรวงต่างๆ) จะอยู่ไม่ได้ เพราะแรงเสียดทานจากท้องถิ่น ที่จะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ความลับจึงเป็นว่า บุคคล หน่วยงานหรือสถาบันต่าง ๆ ที่ต้องการอยู่ในอำนาจ ให้ได้นาน ต้องมีการแบ่งสรร กระจายอำนาจ ให้กับบุคคล หน่วยงาน หรือสถาบันอื่นๆ อย่างเหมาะสม ถ้าจะกินคนเดียวตลอดไป จะตายหนังสือพิมพ์คลุมหน้า บนถนน เหมือนดังเจ้าพ่อ ทั้งหลายนั้นเอง
ความลับประการสุดท้ายเรื่องอำนาจต้องย้อนกลับไปที่แหล่งที่มาของอำนาจ คนหรือสถาบัน จะมีอำนาจอยู่ได้ ไม่เพียงได้รับมอบหมาย จากเจ้าของอำนาจเท่านั้น แต่ต้องได้รับการยอมรับด้วย หน่วยงานต่างๆ แม้ว่าจะมีกฎหมายมอบอำนาจให้ จากประชาชนแล้ว แต่ถ้าทำตัว ไม่น่านับถือ แม้ว่าประชาชนยังไม่สามารถเขียนกฎหมายใหม่ได้ แต่ประชาชนไม่ยอมรับ อำนาจของ หน่วยงานนั้น ก็หมดไป กฎหมาย ให้อำนาจตำรวจ ทหารในการปราบปราม คนที่ก่อความไม่สงบ แต่เมื่อคนที่ก่อความไม่สงบ คือคนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่ไม่พอใจ (ไม่ยอมมอบอำนาจให้) รัฐ ตำรวจ ทหารก็ไม่อาจใช้อำนาจอย่างได้ผล ดังกรณี เหตุการณ์นองเลือด หลายครั้ง ในประวัติศาสตร์ไทย รวมทั้งเหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ ในปี ๒๕๓๕ ความหมายก็คือ เมื่อเจ้าของ อำนาจถอนอำนาจ อำนาจของหน่วยงานนั้น จะเหลือเพียง อำนาจในกระดาษ ถ้ายังขืนใช้อำนาจ ก็จะกลายเป็นการขุดหลุมฝังตนเอง ดังที่ทหารถูกประณาม ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ จนเป็นประวัติที่ด่างพร้อย ลบไม่ออก จนถึงปัจจุบัน
ในระดับปัจเจกชน เป็นที่รู้กันใน หมู่นักต่อสู้แบบสันติวิธีว่าวิธีสลายอำนาจของผู้มีอำนาจ คือการไม่ยอมรับ อำนาจนั้น ไม่ว่าในทางกฎหมาย หรือประเพณี องค์กรนั้นจะมีอำนาจอยู่ก็ตาม ซึ่งถูกแปรมาเป็นการต่อสู้แบบสันติวิธี ที่เรียกว่าการดื้อแพ่ง ของพลเมือง (Civil disobedience) ตัวอย่างเช่น มีกฎหมายห้ามเดินขบวน ใครเดินขบวนผิดกฎหมาย ตำรวจจับเข้าคุกได้ ประชาชน เห็นว่า นี่เป็นกฎหมาย ที่ไม่เป็นธรรม เป็นกฎหมายที่เขาผู้เป็นเจ้าของอำนาจ ไม่ยอมรับ ไม่อนุมัติ แต่รัฐยังดึงดันใช้กฎหมายนี้ ก็มีคนจำนวนมาก มาเดินขบวน ยอมให้มีการจับ กันทั้งประเทศ ตำรวจยังมีอำนาจตามกฎหมาย แต่ไม่มีอำนาจจัดการอะไรได้ เพราะคนลุกฮือกัน ขึ้นมาทั้งประเทศ ตำรวจไม่สามารถใช้อำนาจนั้นได้ เท่ากับไม่มีอำนาจหลงเหลืออยู่
ในทางธุรกิจ การไม่ยอมรับอำนาจของธุรกิจคือการไม่ซื้อสินค้าและบริการ การเคลื่อนไหว เป็นขบวนใหญ่ ของประชาชน คือการบอยคอต (boycott) ซึ่งจะให้ธุรกิจพังทลาย ในชั่วข้ามคืน
แม้แต่ในครอบครัวพ่อแม่จะมีอำนาจเหนือลูกอยู่ได้เพราะลูกยังยอมรับการใช้อำนาจ ถ้าวันใด ที่ลูกๆ บอกว่า เขาไม่ยอมรับอำนาจ ไม่เชื่อฟัง ไม่ว่าจะถูกลงโทษ อย่างไรก็ตาม อำนาจของพ่อแม่ ก็จะหมดไป แม้ว่าสังคมจะยอมรับว่า เขายังเป็นพ่อแม่ของเด็กๆ เหล่านั้นอยู่ก็ตาม
อำนาจจะยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ตาม จะเบ็ดเสร็จขนาดไหนก็ตาม คนใช้อำนาจยังใช้มันได้อยู่ ตราบเท่าที่ คนที่ถูกใช้อำนาจยอมรับ วันใด ที่คนถูกใช้อำนาจ ไม่ยอมรับ คนที่ใช้อำนาจ จะไม่มีอำนาจอีกต่อไป ไม่ว่าประเพณี วัฒนธรรมหรือกฎหมาย ให้อำนาจไว้ ขนาดไหนก็ตาม
ความลับเรื่องอำนาจมีหลายประการคือ อำนาจทั้งหมดของสถาบันต่างๆ ในสังคมมาจาก ประชาชน ประชาชนมอบอำนาจ ให้สถาบันต่างๆ โดยเขียนเป็น ลายลักษณ์อักษร และการยอมรับ อำนาจ เป็นของเสพติด บุคคลหรือองค์กร ต้องการอำนาจ มากขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องมีการกำกับ การใช้อำนาจ อำนาจทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง สามารถแปรเปลี่ยนไปมา ระหว่างกันได้ คนที่มีความสามารถ ในการแปรเปลี่ยนอำนาจ จะยึดกุมพื้นที่ ทางสังคมได้มากที่สุด แต่ถ้ายึดกุม มากเกินกว่าเหตุ โดยไม่แบ่งคนอื่น มักตายไร้ที่กลบฝัง จึงต้องมีการแบ่งอำนาจ กระจายอำนาจ เพื่อรักษาอำนาจ ให้ยาวนาน และสุดท้าย ไม่ว่าจะมีอำนาจขนาดไหนก็ตาม ถ้าคนที่ถูกใช้อำนาจ ไม่ยอมรับ คนที่อยู่เหนือกว่า จะหมดอำนาจไปทันที
-เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๖๑ ธันวาคม ๒๕๔๖ -
Resource:
//www.asoke.info/09Communication/DharmaPublicize/Kid/k161/070.html
โดย: ความลับ เรื่อง อำนาจ (ตอนจบ) (
moonfleet
) วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:9:55:44 น.
"พระราชอำนาจ"
" เราอ่านแล้ว เราชอบมาก เขียนได้ดี เขียนได้ถูกต้อง"
คือ กระแสพระราชดำรัสที่ทรงตรัสกับนายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา และทรงรับสั่งให้เชิญกระแสพระราชดำรัสนี้มาแจ้งกับข้าพระพุทธเจ้า
"เรา" ทรงชี้พระหัตถ์ไปที่พระอุระของพระองค์ "ให้ไปบอกเขาว่า เราชอบมาก"
ข้าพระพุทธเจ้าได้ยกมือทั้งสองประนมเหนือศีรษะน้อมรับกระแสพระราชดำรัสนี้จากท่านปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา เมื่อได้พบกัน ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2548 เวลา 17.00 น. ณ บ้านของท่านปีย์ฯ
กระแสแห่งความปลื้มปีติและปัสสัทธิเอ่อล้นท่วมหัวใจของข้าพระพุทธเจ้าจนมิอาจจะพรรณนาความใด ๆ ออกมาได้ ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นต่อข้าของแผ่นดินคนหนึ่งและขอพระราชทานกราบบังคมทูลเพิ่มเติมว่า
คนไทยในปัจจุบันอยู่ในสภาวะที่เครียดจัดกับปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เกรงจะขยายตัวออกไปจนเกิดการเสียดินแดนขึ้นในสมัยของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปัญหาน้ำมันแพงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง คนไทยตั้งแต่ชนบทจนถึงในเมืองต่างมีหนี้สินล้นพ้นตัว มีค่าครองชีพสูงขึ้น โรคเอดส์-ยาเสพติดกลับมาระบาดมากขึ้น คุณธรรมศีลธรรมของผู้คนเสื่อมทรามลง เกิดการปล้นฆ่า ฉกชิง วิ่งราว ข่มขืน อนาจารขึ้นมากมาย ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นในทุกระดับการปกครอง แต่กระบวนการตรวจสอบปราบปรามอ่อนแอเพราะถูกครอบงำและแทรกแซง วันนี้ราชการอ่อนแอ-คนไทยอ่อนแอ ทำให้คนไทยเครียด-วิตกกังวล-มองไม่เห็นอนาคต
คนไทยทุกหมู่เหล่าคงได้แต่หวังในพระบรมเดชานุภาพในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทที่จะปกแผ่ลงมาเยียวยาแก้ไขปัญหาทั้งมวลและดำรงชาติดำรงไทยไว้ภายใต้ "พระราชอำนาจ" ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท
แต่คนไทยส่วนใหญ่ในปัจจุบันกลับขาดความรู้ความเข้าใจใน "พระราชอำนาจ" ที่ถูกต้องและเพียงพอ
คนไทยส่วนใหญ่ยังเข้าใจว่า พระมหากษัตริย์ไทยต้องอยู่ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ ทั้งที่กฎหมายรัฐธรรมนูญทุกฉบับพระมหากษัตริย์ทรงให้ความเห็นชอบหรือทรงมีพระบรมราชานุมัติก่อนจึงจะประกาศใช้บังคับได้
คนไทยส่วนใหญ่รู้จัก "พระราชอำนาจ" ตามลายลักษณ์อักษรที่ปรากฏไว้ในรัฐธรรมนูญเท่านั้น ทั้งที่ยังมี "พระราชอำนาจ" ตามนิติราชประเพณีอีกมาก
ราชการเองก็ยังไม่เข้าใจในเรื่องของ "พระราชสมภารเจ้า" จึงได้ตรากฎหมายและใช้กฎหมายเกี่ยวกับสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ผิดนิติราชประเพณีทำให้เกิดสังฆาเภท สงฆ์แยกเป็น 2 ฝ่าย
คนไทยส่วนใหญ่ทราบดีว่า ยามที่เกิดวิกฤติการณ์ใด ๆ ขึ้นในบ้านเมืองเกินกว่ากำลังความสามารถที่จะใช้กลไกตามปกติของทางราชการและกฎหมายเยียวยาได้ พระมหากษัตริย์ของคนไทยจะทรงแก้ไขวิกฤติการณ์เหล่านั้นได้เสมอ
ด้วยเหตุนี้ ข้าพระพุทธเจ้าจึงค้นคว้าเรียบเรียงเขียน "พระราชอำนาจ" ขึ้นมาท่ามกลางกระแสวิกฤติการณ์และความเลวร้ายต่าง ๆ และก็มิได้มีความคาดหวังแม้แต่น้อยว่าคนไทยจะให้ความสนใจในหนังสือนี้ เพราะข้าพระพุทธเจ้าถูกขัดขวางเป็นประจำจากคนบางกลุ่มบางพวกเสมอนับตั้งแต่ได้ออกหนังสือ "การใช้อำนาจ เป็นธรรมชาติของมนุษย์"
เมื่อข้าพระพุทธเจ้าได้น้อมรับกระแสพระราชดำรัสดังกล่าวนี้มาแล้วทำให้ต้องพยายามแพร่กระจายหนังสือเล่มนี้ให้กว้างขวางในหมู่คนไทยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ "พระราชอำนาจ" ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทมาเป็นมหาจักรขับเคลื่อนประเทศและประชาชนชาวไทยสืบไป
ควรมิควรแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
(นายประมวล รุจนเสรี
Link :
"พระราชอำนาจ"
โดย: "พระราชอำนาจ" (
moonfleet
) วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:10:06:11 น.
"อำนาจ, ฟูโก, และ แฟรงค์เฟริทสคูล"
ดังชื่อหัวข้อรองคือ, "ความพยายามกบฎต่อโครงสร้างอำนาจ"
บทความนี้ ใจความสำคัญอยู่ที่การตรวจสอบประเด็นเรื่องของ"อำนาจ" ว่ามันครอบงำเราอย่างไร
ณ จุดเริ่มต้นของเรื่อง "อำนาจ, ฟูโก, และ แฟรงค์เฟริทสคูล" ผู้เขียนจะพาเราไปสำรวจอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับแนวคิดเรื่อง"อำนาจ"ของ Foucault และ the Frankfurt School ว่า ต่างกันอย่างไร ? จากนั้นก็ค่อยๆพาเราลงไปในรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องของ"อำนาจ" โดยสาธยายความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปตามลำดับ เริ่มจากการวิเคราะห์เรื่อง"อำนาจ"ในทัศนะของฟูโกก่อน แล้วต่อด้วยแนวคิด แฟรงค์เฟริทสคูล โดยเน้นที่แนวคิดของอาดอร์โน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้เขียนให้ความสำคัญต่อแนวคิดของอาดอร์โน ในเรื่อง หลักวิภาษวิธีเชิงนิเสธ(Negative Dialectics) ในฐานะที่เป็นเครื่องมือของการตั้งคำถามและท้าทายต่อ"อำนาจ"และ"การครอบงำ". โดยเฉพาะการครอบงำนั้น มันมาพร้อมกันกับเหตุผล
สำหรับ "วิภาษวิธีเชิงนิเสธ"( Negative Dialectics) คือการกลับไปฟื้นคืน และการคิดใหม่อีกครั้งเกี่ยวกับไอเดียต่างๆที่ได้ตั้งมั่นหรือเป็นที่ยอมรับกันแล้วในยุคสว่าง(Enlightenment). โดยการตรวจตราถึงความไม่เสมอภาคทางสังคม และความไม่ดีพอที่ปรากฏขึ้นมาจากยุคนี้
Adorno อ้างว่า ปรัชญาหลังยุคสว่างขึ้นอยู่กับคุณลักษณ์ต่างๆเกี่ยวกับความคิดในเชิงเหตุผล โดยที่ไม่เคยตั้งคำถามกับตัวของเหตุผลเองเลย และ"อันนี้ได้น้อมนำไปสู่ความคับแคบของปรัชญา และเมื่อไม่มีการตั้งคำถาม"เหตุผล" เราจึงตกอยู่ในภาวะที่ยอมจำนนโดยไม่รู้ตัว. หลักวิภาษวิธีเชิงนิเสธจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาจุดอ่อนตรงนี้ และทำให้เราไปถึงจุดของความมีอิสรภาพอย่างแท้จริง
ที่ชัดเจนมาก ในบทความนี้ได้ให้ตัวอย่างเกี่ยวกับประสบการณ์จริงที่ Nancy Welch ซึ่งได้ประสบมา จากการเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก ภาควิชาภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง. เธอรู้สึกไม่เห็นด้วยกับอำนาจที่ครอบงำบรรดานักศึกษาอยู่ และได้ท้าทายกับมัน แต่สุดท้ายเธอแพ้
ข้อสำคัญไม่ได้อยู่ตรงที่เธอแพ้ แต่เป็นวิธีการของเธอที่กล้าตั้งคำถาม ซึ่งมันจะเป็นชนวนสำคัญในการสั่งสมของความกล้าหาญ ความกล้าท้าทายต่อ"อำนาจ"อันไม่ชอบธรรม ซึ่งจะน้อมนำเราไปสู่"อิสรภาพ"อย่างแท้จริง
สมเกียรติ ตั้งนโม (แปลและเรียบเรียง)
(หมายเหตุ : การแปลบทความชิ้นนี้ ได้ตัดเอาบางส่วนที่ไม่จำเป็นออก เพื่อลดความซับซ้อนของแนวคิดทางปรัชญาของ Theodor Adorno ลง หากสนใจต้นฉบับของบทความชิ้นนี้ โดยไม่มีการตัดทอนในภาษาอังกฤษ กรุณา
คลิกไปที่
//english.ttu.edu/
courses/ 5362/paper1/
mike.paper1.html)
โดยไม่มีเว้นวรรค
โดย: "อำนาจ, ฟูโก, และ แฟรงค์เฟริทสคูล" (
moonfleet
) วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:10:43:39 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
moonfleet
Location :
เชียงใหม่ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [
?
]
ไม่มีสิ่งใดจะเกิดขึ้นมาได้ หากไม่เคยเป็นความฝันมาก่อน
New Comments
Friends' blogs
Opey
hellojaae
tuk-tuk@korat
อยากเป็นไกด์ ใครช่วยที
ขามเรียง
แฟนEOD
me-o
เจียวต้าย
SevenDaffodils
วายุอัคคี
Webmaster - BlogGang
[Add moonfleet's blog to your web]
Links
CSRi สถาบันธุรกิจเพื่อสังคม
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
หมายเหตุ ข้อมูลทั้งหมดนี้ เป็นการเก็บความมาจากการบรรยายของ ศ.นพ.ประเวศ วะสี ซึ่งบรรยายให้กับนักศึกษาของสถาบันพระปกเกล้าฯ (ที่เดินทางมาศึกษาภาคสนาม ณ เขตจังหวัดภาคเหนือ) ที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ สวนบันรีสอร์ท อ.หางดง ในวันที่ 3 มิถุนายน 2543 เวลา 8.30 น. (ข้อมูลที่เก็บความมานี้ ได้มีการปรับปรุงขึ้นมาใหม่และจัดแยกหัวข้อตามที่ผู้เรียบเรียงเข้าใจ และประยุกต์ให้เข้ากันกับสื่ออิเล็คทรอนิค. ดังนั้น หากมีข้อผิดพลาดประการใด ผู้เรียบเรียงขอรับผิดชอบต่อข้อมูลเหล่านี้ที่นำเสนอ. สมเกียรติ ตั้งนโม)
พลังทางสังคมออกเป็น 3 ส่วนคือ
พลังพลานุภาพ หมายถึงพลังอำนาจซึ่งมาจากการใช้กำลัง เป็นอำนาจของการใช้ความรุนแรงเข้าแก้ไขปัญหา พลังชนิดนี้ ยิ่งใช้ความรุนแรงมากเท่าใด ก็ยิ่งทำให้เกิดความทุกข์ยากมากทั้งฝ่ายที่ถูกกระทำและฝ่ายที่กระทำ และในท้ายที่สุดผู้ใช้ความรุนแรงนั้นก็จะอยู่ไม่ได้. (สังคมที่ใช้พลังแบบพลานุภาพนี้ เป็นสังคมในรูปแบบที่เก่าแก่ที่สุด มีมาตั้งแต่อดีตจนกระทั่งปัจจุบัน และมักเป็นสังคมที่ล้าหลัง)
พลังธนานุภาพ หมายถึงพลังอำนาจซึ่งได้มาจากการใช้อำนาจทางการเงิน แทรกซึมเข้ามาในการแก้ปัญหา หรือเข้าแก้ปัญหาโดยตรง. อำนาจที่มาจากเงินนี้ไม่มีสัญชาติ แผ่ซ่านแทรกซึมไปได้ทั่วและซับซ้อน มีความแนบเนียนจนผู้ที่ถูกใช้อำนาจชนิดนี้ไม่ทันรู้ตัว ดังนั้น จึงเป็นอันตรายมากเพราะผู้ถูกกระทำไม่ทันได้ระวังตัวเหมือนกับคนที่ใช้ความรุนแรงกับเรา
พลังสังคมานุภาพ หมายถึงพลังทางสังคมหรือชุมชน บางท็เรียกว่าประชานุภาพ พลังชนิดนี้เชื่อในอำนาจของความรู้ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกัน ร่วมคิดร่วมทำ และการระดมสมองเพื่อเข้าแก้ไขปัญหาต่างๆ เป็นอำนาจในลักษณะของการประสานร่วมมือกัน อำนาจความรู้นี้มีความยั่งยืน. สำหรับสังคมานุภาพนี้ เป็นพลังอำนาจที่รวมตัวกันอยู่ในพื้นที่จริงทางภูมิศาสตร์หรือทาง cyber space ก็ได้ โดยผ่านสื่ออีเล็คทรอนิค ที่ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน พลังเช่นนี้จึงมาจากหลายแหล่งความคิด และมีอำนาจในการแก้ไขปัญหาทุกชนิด โดยไม่ต้องใช้ความรุนแรง
2. รูปธรรมโครงสร้างทางอำนาจ
รูปธรรมทางโครงสร้างพลังพลานุภาพ จะเป็นไปในลักษณะแนวดิ่งจากบนลงล่างตามลำดับ มีการสั่งการและมีผู้ปฏิบัติตาม. โครงสร้างทางอำนาจชนิดนี้มีลักษณะของผู้ชาย และอำนาจไม่ยั่งยืน กล่าวคือ เมื่อผู้มีอำนาจแบบนี้ตายลง โครงสร้างนี้ก็จะเสื่อมทรุดลง หรือบางครั้งก็พังครืนลงมา
รูปธรรมทางโครงสร้างพลังธนานุภาพ มีลักษณะเป็นแนวดิ่งและแนวนอน ทั้งในลักษณะของการสั่งการของผู้มีอำนาจเงินมากกว่าลงมาตามลำดับ และการแพร่กระจายไปตามแนวนอนแบบเชื้อโรค อีกทั้งยังทำงานร่วมกับอำนาจแบบพลานุภาพได้ด้วย ซึ่งจะทำให้อำนาจความรุนแรงเข้มข้นมากขึ้น. ส่วนการสืบทอดอำนาจนั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
รูปธรรมทางโครงสร้างพลังสังคมานุภาพ จะเป็นไปในลักษณะแนวนอน และร่วมประสานความร่วมมือ อำนาจนี้มีความยั่งยืนกว่า และเป็นอำนาจแบบผู้หญิง คือถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน ไม่มีลักษณะของความเป็นผู้นำที่โดดเด่น หรือการสืบทอดอำนาจตลอดกาล
3. สังคมานุภาพ
สังคมานุภาพ เกิดขึ้นมาได้จากหลายๆสาเหตุ บางครั้งเริ่มต้นขึ้นมาจากการพยายามหาทางแก้ปัญหาร่วมกันในสิ่งที่นำมาซึ่งความทุกข์ อาจเริ่มจากความทุกข์ของปัจเจกชน และพัฒนาไปสู่การร่วมกันกับคนที่มีความทุกข์อย่างเดียวกัน และพยายามค้นหาทางออกพร้อมๆกัน. การร่วมทุกข์นี้ในทางพุทธศาสนาถือว่าจะทำให้ความรู้สึกทุกข์นั้นน้อยลง และที่สำคัญ การร่วมทุกข์ทำให้ได้มีการปรับทุกข์ ได้รับการปรึกษาหารือกัน จากหนักกลายเป็นเบา
4. หลักธรรมแห่งสังคมานุภาพ
ในทางพระพุทธศาสนา มีหลักธรรมที่นำมาประยุกต์ใช้ได้กับพลังแห่งสังคมานุภาพคือ หลักแห่งอปริหานิยธรรม(หรือ ธรรมะที่ไม่ทำให้ฉิบหาย)[ปริหานิยธรรม ธรรมแห่งความฉิบหาย] ซึ่งพระพุทธองค์ทรงตรัสสอนให้มีการหมั่นประชุมกันเนืองนิจ
ในหนังสือเรื่อง Making Democracy World : civic tradition of modern Itary เป็นหนังสือเกี่ยวกับการไปศึกษาเชิงเปรียบเทียบถึงความแตกต่างของประเทศอิตาลีว่า ทำไมเมืองมิลาโน ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี จึงมีความเจริญทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง, แต่พอมาศึกษาที่ซิซิลี ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ ทำไมจึงพบว่ามีแต่การคอรัปชั่น การฆ่ากัน การโกงกัน และมาเฟีย. ผมสรุปของการศึกษาเชิงเปรียบเทียบนี้ออกมาคือ เป็นเพราะเมืองมิลาโนมีประชาคม ในขณะที่ซิซิลีไม่มีประชาคม. การมีประชาคม ทำให้การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมดี มีศีลธรรม
สรุปทั้งหมดของหนังสือเล่มนี้ หากใช้คำพูดที่รวบรัดและสั้นที่สุดก็คือ ประชาคม, ประชาสังคม, และความร่วมมือกันนั่นเอง
Resource:
//www.geocities.com/midnightuniv/newpage77.htm