เที่ยวชัยภูมิ...ท่องเกาะสีชัง

ลองดูนะ พยายามนำภาพมาลง แต่ไม่รู้จะสำเร็จไม๊


ไชโย!!! สำเร็จแล้ว 1 อย่าง เหลือเพลงต้องหาเวลาเรียนรู้ให้ได้ ลงภาพเป็นแล้วนี่ อิอิอิ

ภาพที่เห็นคือน้ำตกตาดโตน น้ำตกที่สวยงามของ จว.ชัยภูมิ มาดูอีกภาพนะ



เป็นภาพทุ่งนาระหว่างทาง มาอีกภาพละกัน ชักสนุก



ส่วนภาพนี้เป็นภาพน่องไก่ ที่เกาะสีชัง ซึ่งน้องๆ ไกด์
เขาบอกเรา ดูภาพไปก่อนนะ เนื้อหาตามมาภายหลัง อิอิอิ



สองไกด์ผู้ยิ่งหญ่ายยยยย ของกลุ่มเรานะเนี่ย ใจดีจะให้พี่ๆ ไปกินน่องไก่โน่นนนน ใจดีจิงๆๆ จนน่าเขกหัว อิอิอิ

อีกภาพเป็นภาพภายในพระราชวังบ้าง จำชื่อไม่ได้น่ะพระราชวังอะไร เฮ้อ...สมองปลาทองนี่แย่จัง



อีกภาพล่ะกัน อ้อ ไม่ใช่ฝีมือเราถ่ายนะ เพื่อนๆ ที่ไปด้วยกันเขาถ่าย



ภาพสุดท้ายมุมสวยๆ ของเขาช่องขาด ที่เกาะสีชัง



ไปทะเลไม่มีภาพ suuny-low ได้งัย จริงไม๊ ก็เลยเอามาลงซะ 1 ภาพ สวยซะไม่มี sunny-low เนี่ย (แปลเป็นไทยว่าพระอาทิตย์ยามแสงอ่อน) ภาพพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า งามแต้ๆ เน้อ



ส่งภาพให้ดูจุใจแล้ว เนื้อหาตามมาวันพรุ่งนี้นะคะ

ง่วงแย้ว....หาว หาว หาว ครบสามพอดี อิอิอิ

นอนดีก่า


17 ธันวาคม 2548



นอนอิ่มแล้ว เลยมาเติมเนื้อหาให้สมบูรณ์นะ

เริ่มจาก จว.ชัยภูมิ ก่อนนะจ๊ะ ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าชัยภูมิ จะเป็นจังหวัดที่น่าท่องเที่ยวขนาดนี้ เพียง 5 ชม..จาก กทม.ที่ขับรถไปกัน เราได้เห็นจังหวัดทางภาคอีสานที่ร่มรื่นและเขียวขจีจากป่าไม้ตลอดเส้นทางเมื่อเข้าจังหวัดเขา การไปชัยภูมิคราวนี้คือการไปทำงาน แต่ก็นะ ...
มันก็มีโปรแกรมแอบๆ เที่ยวไปด้วยล่ะ อิอิอิ

พอไปถึงก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเจ้าของพื้นที่ คือ อ.เนินสง่า ดูแลเทคแคร์ตลอดระยะเวลา 5 วันของการ
ทำงาน ประทับใจมากนะ สำหรับการต้อนรับของเพื่อนๆ ร่วมงานในพื้นที่ ขอบคุณจากใจจริง

จว.ชัยภูมิ เป็นจังหวัดที่มีอุทยานแห่งชาติตั้งอยู่มากมายและมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง ถ้าไปช่วงก่อนฤดูหนาว ก็จะได้เห็นทุ่งดอกกระเจียวบาน ซึ่งเสียดายที่ไปไม่ทัน แต่ก็ได้ไปเที่ยวน้ำตกตาดโตนและพักที่อุทยานของน้ำตกแห่งนี้ ช่วงที่ไปอากาศค่อนข้างหนาวแล้ว และฟ้าเปิด ทำให้เห็นดวงดาวสุกสกาวเต็มท้องฟ้า แต่ว่า
แต่ว่า...ต้นไม่มันเยอะมาก เยอะจริงๆ ในอุทยานแห่งชาติ
น้ำตกตาดโตน และบริเวณบ้านพักเรา ก็ไม่มีที่กลางแจ้ง
ที่จะนอนดูดาวได้ ทำยังไงล่ะ คน กทม.มักจะตื่นเต้นกับการดูดาว เพราะมักจะเห็นแต่ดาว (เสา) ใน กทม. เพื่อนๆ ที่ไปก็อยากดูดาว เพราะคืนนั้นดาวสวยมาก ก็เลยเดินกันไปเรื่อยๆ ตามถนนของอุทยาน พอเจอจุดเหมาะๆ ที่เห็นดาวเยอะที่สุด เรา 3 คน คือ 1 หญิง กับ 2 ชาย (เหมือนเพลงเลยเนอะ) ก็เลยนอนมันกลางถนนนั่นล่ะ...อิอิอิ
นอนกลางถนนจริงๆ นะ ณ เวลา 00.30 น. เพื่อที่จะดูดาวกัน และก็ได้นอนดูดาวแบบสมใจ ปนระคนใจว่า

จะมีคนบ้าที่ไหนขับรถมอเตอร์ไซค์ซิ่งในอุทยานหรือเปล่าหว่า!!!

จะมีตัวอะไรเลื้อยมาบนตัว บนหัวหรือเปล่าหว่า!!

อิอิอิ

แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คืนนั้นจึงนอนดูดาวกลางถนน ที่ได้บรรยากาศที่ดีอีกแบบหนึ่ง เพราะเคยนอนดูดาวริมทะเลก็สวย นอนดูดาวบนยอดเขาก็สวย การนอนดูดาวกลางถนนแบบนี้ก็สวยเหมือนกันแฮะ เห็นดาวตกต้อง 3 ดวงแน่ะ พอยิ่งดึกชักยิ่งเย็นหลัง อากาศมันเย็นขึ้นเรื่อยๆ จนตี 1 กว่าๆ จึงชวนกันเข้าบ้านพักนอน และเช้าก็ไปเที่ยวต่อที่เขื่อนจุฬาภรณ์ และทุ่งกระมัง ของอุทยานแห่งชาติภูเขียวเสียดายไม่ได้ถ่ายภาพมาให้ชม บรรยากาศดีนะ ตอนกลางคืนอากาศหนาวจนกลายเป็นมังกรพ่นไฟ
กันเลยล่ะ...

ถ้าใครไม่รู้จะไปเที่ยวไหน แนะนำให้ลองไปเที่ยว จว.ชัยภูมิ ช่วงหน้าหนาวนะ อากาศดีและธรรมชาติก็สงบเงียบร่มรื่นน่าพักผ่อนมากเลยล่ะ แต่ไม่รู้ว่าถ้าเป็นวันหยุดจะมีนักท่องเที่ยวเยอะไม๊ ...หากมีรถคงขับรถไปเที่ยวเองแล้วล่ะ ไปเสาร์กลับอาทิตย์ได้สบายๆๆ


ท่องเกาะสีชัง....อันนี้ไปแบบซำเหมาตะลอนทัวร์กับ
กลุ่มเพื่อนๆ เพื่อชีวิต ก็สนุกสนานดี เพราะเพื่อนๆ น่ารักทุกคน และเกาะสีชังก็สวยงามน่าท่องเที่ยว ไม่น่าเชื่อ 3 ชม. จาก กทม.จะพาเรามาอยู่บนเกาะเล็กๆ นี้ได้ ขณะที่เวลาเท่าๆ กัน สำหรับการเดินทางใน กทม.เราอาจไม่ได้ไปไหนไกลเลย บางทีไปได้แค่บ้านกับที่ทำงานจริงๆ เวลาที่เหลือคือการนั่งเที่ยวบนรถโดยสารและมองวิวรอบๆ กทม. เฮ้อ...ชีวิตคน กทม.

วันแรกที่ไปถึงก็ขึ้นไปไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของคนเกาะสีชัง และไปไหว้รอยพระพุทธบาท โดยมีน้องๆ นักเรียน 2 คนนั้นเป็นไกด์นำเที่ยวและเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เขารู้ ย้ำนะ เฉพาะที่เขารู้..บังเอิญมาเจอคนแก่ช่างซักแบบเรา น้องๆ ตอบไม่ได้เลยน่ะ ...แกล้งเด็กไปงั้นเองแหล่ะ อิอิอิ
และเพราะไม่ได้เดินขึ้นเขานาน พอขึ้นทีก็เล่นเอาหอบเหมือนกันนะ และหิวข้าวด้วยเพราะเลยเวลาอาหาร
กลางวันมานานแล้ว น้องๆ ไกด์บอกว่าจะพาไปกิน
น่องไก่ รับรองพี่กินแล้วจะอิ่มเลย เหรอ เหรอ ดีๆ ดีๆ
ตรงไหนวะ ขึ้นมาไม่เห็นร้านสักแห่ง สักครู่พอเดินลงมาจากจุดที่ไหว้รอยพระพุทธบาท



ทางขึ้นเนี่ยล่ะ เล่นเอาซะหอบเลย



รอยพระพุทธบาทที่ไปไหว้กัน พอเดินลงมาสักครู่น้องมัน
ก็ชี้เกาะน่องไก่อันนั้น และบอกว่า พี่ๆ นี่ไง น่องไก่ พี่ไปกินกันสิ อืม...อืม...ยืนคิด...ฆ่าเด็กๆ นี่ติดคุกกี่ปีวะ...
คุ้มเปล่านะ...อิอิอิ


การพูดคุยกับน้องๆ เหล่านี้ได้แง่คิดดีๆ มากมาย เด็กๆ เหล่านี้ความคิดเขาดีมาก และขยันด้วย ครูก็สอนมาดีอีกต่างหาก แกล้งถามน้องว่า ถ้าได้เงินจากการนำเที่ยวนี่แล้วจะแบ่งกันยังไง เด็กคนขวามือซึ่งช่างคุยมาก ตอบว่า นำไปรวมเป็นกองกลาง
เอ๊ะ..เราก็ถามต่อว่า รวมเป็นกองกลาง และหากเราได้มากกว่าเพื่อนและเพื่อนได้น้อยเราไม่เสียเปรียบเหรอ
น้องตอบว่าไม่หรอก เพราะบางคนก็อาจไม่ได้เงินจากการนำเที่ยว เพราะการนำเที่ยวนี้น้องๆ ไม่คิดค่าบริการ แล้วแต่นักท่องเที่ยวจะให้ ดังนั้นนำไปรวมเป็นกองกลางและมาแบ่งกันดีแล้ว โดยครูจะเป็นผู้ดูแลให้ อืม..นั่นสิเนอะ เพราะถ้าได้เงินมาและเก็บเป็นของใครของมัน บางคนอาจได้น้อย บางคนอาจได้มาก ทั้งๆ ที่ทำงานเหมือนกัน นำมารวมเป็นกองกลางและแบ่งกันจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะยังไงก็ทำงานกันเป็นทีมอยู่แล้ว

นอกจากนี้ เด็กที่ช่างคุยคนนี้ยังเล่าให้ฟังว่า เขาทำงานอย่างอื่นด้วย เลิกจากการเป็นไกด์ก็จะเก็บขวดพลาสติกขาย และทำอะไรอีกก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเด็กเขาจะหางานทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินนั่นเอง คือ แลกแรงกายของตนเองเพื่อให้ได้เงินกลับมา... เยี่ยมไม๊ เด็กๆ กทม.สู้เขาได้ไม๊เนี่ย

หลังจากไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่เสร็จก็ไปทานอาหารกลางวัน และเย็นๆ ไปช่องเขาขาด ภาพวิวทิวทัศน์สวยดีนะ มีรูป
เหมือนกันแต่ไม่ได้ copy มาน่ะ เขามีเต็นท์ให้นอนริมทะเลด้วยนะ น่าสนใจดีแฮะ...อิอิอิ แต่ถ้าคงจะหนาวแน่เลย...และคืนนั้นก็จบลงด้วยการเล่นกีตาร์ร้องเพลงหน้าบ้านพักจนถึงเวลาพอสมควรก็เข้านอน

พอตอนเช้า เพื่อนๆ ที่มีกล้องก็ตื่นมาไล่จับพระอาทิตย์กัน เพราะบริเวณที่พระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ นั้นอยู่ในเขตวัง และไม่รู้เวลาเปิดวังของเขาไง พอมารู้พระอาทิตย์ก็ขึ้นมาเกือบเต็มดวงแล้ว

อ้อ...ลืมไป ก่อนไปเขาช่องขาดเราไปเที่ยวพระราชวังใกล้ๆ ที่พักมาด้วย เป็นพระราชวังของ ร.5 ที่สร้างขึ้นเพื่อให้พระโอรสองค์หนึ่งมาพักรักษาพระองค์ เพราะอาการเจ็บป่วย เขาบอกกันว่า เกาะสีชัง นี้เป็นสถานที่ที่น่าพักรักษาตัว เพราะอากาศดี อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงน้อยมาก
ใครรู้สึกไม่สบายลองไปพักผ่อนที่นี่ก็ดีเหมือนกันนะ...

ภายในพระราชวังนั้นมีต้นไม้อายุอานามน่าจะเป็นร้อยๆ ปีอยู่มากมาย โดยเฉพาะต้นลั่นทม เพราะดูลักษณะลำต้นนั้นสูงใหญ่มาก เปลือกของลำต้นเหมือนจะลอกร้าวออกมาได้ง่าย กิ่งก้านแผ่สาขาใหญ่โตปกคลุมเต็มบริเวณไปหมด มีมากมายหลายต้นด้วยนะ นอกจากนี้ก็มีเรือนที่พักของสมัย ร.5 ตั้งอยู่หลายเรือน มีสะพานที่ทอดลงไปในทะเลและมีศาลาให้นั่งชมวิว ถ้ามีร้านอาหารบริเวณนั้นคงจะดีมาก แต่มันคงไม่เข้ากับบรรยากาศของวังเท่าไหร่นักเนอะ.....

หลังจากวิ่งถ่ายภาพพระอาทิตย์กันได้สมใจอยาก ก็กลับไปเตรียมตัวและเก็บของใส่เป้ขึ้นเรือ ขึ้นรถทัวร์กลับ กทม. ด้วยความอ่อนเพลีย ...จบไปอีก 1 ทริปเนอะ....



คราวหน้าจะพาไปเชียงรายนะ ทริบนี้ก็หลายปีมาแล้ว แต่ประทับใจหลายอย่าง ขอไปค้นภาพก่อนนะ เพราะที่เชียงรายเป็นการไปเที่ยวแบบไม่มีแผนเลย ประมาณว่า
ไปไหนไปกัน ขอให้มันส์ไว้ก่อน อิอิอิ

Create Date : 17 ธันวาคม 2548 Last Update : 17 ธันวาคม 2548 10:45:29 น. Counter : 106 Pageviews.		7 comments
Share Tweet