พฤษภาคม 2549

 
1
2
3
5
6
7
8
9
10
11
13
14
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
เที่ยวคนเดียวก็สนุกได้...ถ้าใจรัก


อาการตอนนี้ประมาณนี้เลย...โดนเพื่อนๆ รุมสกรัมทับถม แผลเหวอะหวะเต็มตัวไปหมด...

แต่ยังยิ้มได้ เพราะไม่สน...เชอะ

เพื่อนนะเพื่อน...ไม่น่าทำความฝันเราพังทลายเลย
กะจะไปนอนกางเต็นท์ฟังเสียงคลื่นทะเลเสียหน่อย...แห้วหมดเลย

เฮ้อ...เสียแผนไปหมด!!!

ไหนๆ ก็มีวันหยุดสักที จะให้อยู่บ้านทั้ง 4 วันคงเบื่อแย่ และเป็นคนไม่ชอบอยู่เฉยๆ ถ้าไม่เหนื่อยจากงานจริงๆ หรือไม่หมดแรงหมดใจจากอะไรสักอย่าง ก็ไม่อยากอยู่บ้านหรอก เลยคิดว่า ต้องพาตัวเองไปเที่ยวที่ไหนสักแห่งที่ตัวเองอยากไป


ตอนแรกว่าจะไปทะเลสวนสนกับทัวร์ของการรถไฟวันนี้ แต่เขาบอกที่นั่งมีว่าง 2 ที่และต้องให้รีบจอง ซึ่งเราไม่สะดวก และคิดอีกที ถ้าไปทะเลคนเดียว คงจะยิ่งเหงา...ถ้าต้องไปนั่ง - นอน มองทะเลคนเดียวเนี่ย

เลยเปลี่ยนใจไปเที่ยวสถานที่ที่ยังไม่เคยไปและอยากไปดีกว่า ที่สำคัญต้องสะดวกที่จะเดินทางไปได้ด้วยตนเอง

และสถานที่หนึ่งที่คิดว่าอยากไปก็คือ ตลาดน้ำดำเนินสะดวก จว.ราชบุรี ก็เลยหาข้อมูลเส้นทางและการเดินทางทางอินเตอร์เน็ต อ่านดูแล้วไม่ยากที่จะลุยคนเดียวได้

ก็ลุยสิ...จะอยู่เฉยทำไม...บอกแล้ว

ถ้ามีเวลา...ขอให้ได้พาตัวเองไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ บางทีแค่ได้นั่งรถออกไปดูต้นไม้ใบหญ้าสองข้างทางแทนตึกสูงๆ ในกรุงเทพฯ เราก็สุขใจแล้วล่ะ ...แค่นี้ก็พอนะ.

เดี๋ยวไปขโมยรูปตลาดน้ำดำเนินสะดวกของเวปไซต์อื่นๆ มาให้ดูนะ เพราะตนเองไม่มีกล้อง แต่จะถ่ายถอดภาพด้วยตัวอักษรแทนแล้วกัน



ความจอแจของตลาดน้ำในวันนี้ เหมือนภาพที่ขโมยมาลงเป๊ะๆ เลย เพราะวันนี้เป็นวันหยุดไง เรือแน่นขนัดเต็มคลองจริงๆ แน่นมากๆ ขอบอก ประมาณว่าเรือจะเกยเรือเลยล่ะ...

เดี๋ยว เดี๋ยว ย้อนเวลาไปก่อน ต้องเล่าถึงการเดินทางก่อน เผื่อใครสนใจจะไปเที่ยว คนเดียวก็ไปเที่ยวได้นะคะ แต่จะโชคดีแบบเราหรือเปล่าไม่รู้

นั่งรถเมล์จากบ้าน 2 ต่อเพื่อไปขนส่งสายใต้ใหม่ (ไกลจริงๆ เลย) จากนั้นต่อรถ บขส.กรุงเทพฯ - ดำเนินสะดวก ตอนไปราคา 64 บาท แต่ตอนกลับราคา 77 บาท ทำไมมันต่างกันหว่า ก็สงสัย แต่คิดว่า ไปคนละบริษัททัวร์ไง เพราะขาไปเขาเข้านครปฐม และไปราชบุรี แต่ขากลับเขามาสมุทรสาคร
มายังไงหว่า เอาล่ะนะ ก็ถึงกรุงเทพฯได้หรอก เพราะตอนขากลับน่ะ ขึ้นรถได้หลับตลอดทางเลยล่ะ อิอิ

รถ บขส.ที่นั่งไป เขาพาไปจอดตรงท่าเรืออะไรสักแห่ง แต่เป็นที่สำหรับปล่อยนักท่องเที่ยวที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มาลง เพราะจะได้เหมาเรือเขาไป คาดว่าคนขับรถกับเจ้าของท่าเรือคงมีส่วนแบ่งกัน

แต่ก้อล่ะนะ เราก็ไม่รู้นี่นา เท่าที่หาข้อมูลมา เราสามารถนั่งรถสองแถวสีเหลืองจากขนส่งดำเนินสะดวก ไปตลาดน้ำได้ แต่มันจะไม่สะดวก เพราะเราต้องไปหาเรือเอง ถ้าจะเที่ยวตลาดน้ำให้สนุกนะ เพราะถ้าไปเดินอยู่บนฝั่งก็ไม่ได้บรรยากาศมาเที่ยวตลาดน้ำสิ จริงปะ

และไปคนเดียวแบบนี้ มีหวังเสียค่าเรือแพงตาย บังเอิญบนรถ บขส.ที่ไปก็มีคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อีก 5 คน เป็นชาวต่างชาติ 1 คน สรุปเลยว่ากลุ่มนี้ต้องไปด้วยกัน ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกัน ทางท่าเรือก็คิดค่าหัวให้คนละ 150 บาทในการพานั่งเรือเที่ยวชมตลาดน้ำในเวลา 1.30 ชม. ทุกคนก็เลยต้องสมยอม เอ๊ย! จำยอม เพราะอยากเที่ยวก็ต้องแบบนี้ล่ะ และถือว่าสะดวกที่สุดแล้ว

แต่ละคนถูกจับนั่งบนเรือ ลักษณะเรือเหมือนเรือหางยาวนะแต่เล็กกว่า เรืออะไรหว่า เราถูกจับนั่งหลังสุด ใกล้คนขับเรือ...เสร็จเรา...อิอิ

ก็ถามสิ...จะเหลือ เหรอ??? ถามเพื่อให้เขาเล่าให้ฟัง การมาเที่ยวมันจะได้คุ้มค่ามากขึ้นอีกหน่อย และคนอื่นๆ ส่วนใหญ่เขานั่งไกลออกไป เขาก็จะไม่ค่อยได้ยิน แต่เราน่ะ คุ้มล่ะ...

ลุงคนขับเรืออายุประมาณ 54 นะ เขาเกิดและเติบโตที่คลองนี้ เขาก็จะเล่าเรื่องราวของคลองนี้ให้ฟัง เสียดายไม่มีกล้อง เพราะระหว่างทางที่จะไปถึงตลาดน้ำดำเนินสะดวกนั้น มันต้องผ่านคลองที่เป็นคลองขุดที่ชาวบ้านเขาทำกันเอง เพื่อใช้เป็นเส้นทางการเดินทาง (ไม่แน่ใจข้อมูลนะ แต่ลุงบอกว่าคลองเหล่านี้ชาวบ้านสร้างกันเอง) สองข้างฝั่งคลองจะเป็นสวนผลไม้สารพัด ส่วนใหญ่เป็นส้ม และมะพร้าว และมีอีกเยอะแยะ ก็สวนผลไม้น่ะ นึกออกเปล่า สวนผลไม้ก็คงมีผลไม้มากมายนะ (อธิบายแบบกำปั้นทุบดินจริงๆ ) ประมาณว่าสองฝั่งคลองจะเป็นสวนผลไม้และบ้านชาวบ้าน อากาศดีมากเลยล่ะ ไม่ร้อน และลมก็พัดสบายๆ

นั่งบนเรือชมบรรยากาศไปเรื่อยๆ ฟังลุงเล่าโน่นเล่านี้ให้ฟัง มันก็เพลินไปเลยนะ ดูวิวทิวทัศน์สองข้างทาง และบ้านเรือนของชาวบ้าน มองดูก็น่าอยู่ดี แต่ขืนเรือแล่นกันทั้งวันแบบนี้คงไม่ไหวเหมือนกัน...แฮะ

เรือจะพาเราไปเที่ยวตามโปรแกรมของเขา ไปชิมน้ำตาลสด ที่หวานสุดๆ เพราะมันสดจริงๆ และไปพาเที่ยวตลาดน้ำที่จอแจไปด้วยเรือนักท่องเที่ยวและเรือแม่ค้าที่ใกล้ชิดกันประมาณว่าจะเป็นเรือลำเดียวกันเลยล่ะ

มีทั้งเรือขายผลไม้ ขายของกินประเภทก๊วยเตี๋ยว ขนมต่างๆ ของฝากของชำร่วย เสื้อผ้า รองเท้า สารพัดเลยล่ะ ใครอยากซื้ออะไรก็แวะจอดซื้อ จราจรเรือจึงติดขัดไงล่ะ แต่ก็สนุกดีนะ ได้เห็นบรรยากาศการค้าขายทางเรือ จ๊อกแจ๊กจอแจทั้งแม่ค้า ทั้งนักท่องเที่ยว

ก่อนเข้าตลาดน้ำซึ่งถือเป็นจุดสุดท้ายของโปรแกรมการเที่ยว ลุงคนขับเรือก็พาไปชมบรรยากาศคลองดำเนินสะดวกก่อน เงียบเชียบจริงๆ ผิดกับช่วงตลาดน้ำมากเลย มีบ้านเรือนเก่าๆ ธนาคารเก่าๆ ที่ทำเป็นเรือนไม้ริมน้ำ สถานที่ตั้งโรงหนังเก่าๆ ของชาวดำเนินสะดวก และพาไปซื้ออาหารเลี้ยงปลาตะเพียนหน้าวัด ก่อนไปลุยตลาดน้ำให้ชุ่มใจและปล่อยขึ้นฝั่งตรงตลาดน้ำเพื่อเดินชมตลาดบนบกและเดินหารถสองแถวไปขนส่งกลับบ้านเอง....อิอิ

จบแระ...เหนื่อยนะ แม้ใช้เวลาไม่นาน แต่เดินทางก็ไกลพอสมควร เดินทางไปเที่ยวน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่เดินทางกลับบ้านนี่สิเหนื่อย คราวหน้าเปลี่ยนไปเที่ยวเส้นทางสายเหนือบ้างดีก่า สายใต้มันไกลบ้านมากเลย

จะไปไหนดีหว่า...อิอิ

เที่ยววันเดียว แบบคนเดียว ก็สนุกดีนะ แต่คิดว่าวันนี้เราโชคดีที่มีกลุ่มนั้นเขาไปด้วย หากไม่มีกลุ่มนั้นเราจะไปเที่ยวยังไงก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ให้เหมาเรือไปคนเดียวก็คงไม่ไหว อาจต้องรอไปกับกลุ่มอื่นๆ ที่หลงมาเหมือนกัน แต่ก็ถือว่าสนุกดี คุ้มกับการอดไปทะเล แต่ได้ไปในสถานที่ตนเองอยากไป และไม่เคยไปมาก่อน

ไม่ลองไม่รู้เนอะ...

อ้อ...มีคนถามว่า คิดยังไงไปเที่ยวคนเดียว???

ขอตอบว่า...ไม่คิดอะไร...และคงไม่แปลกมั้ง ถ้าเราต้องเที่ยวคนเดียว....ก็สนุกดีนะ อยากเดินไปไหนก็ไป อยากกินอะไรก็กิน...เหนือยก็กลับ...ถึงบ้านก็หลับเลย
อิอิ


บางทีการที่เราอยู่กับคนหมู่มากบ่อยๆ
อาจทำให้รู้สึกเหนื่อย
และอยากกลับมาอยู่คนเดียวบ้าง...

หายเหนื่อย...ก็ค่อยไปเฮฮาสังสรรค์ใหม่
และค่อยกลับมาอยู่กับตัวเอง
เพื่อทบทวนอะไรๆ ต่างๆ บ้าง
ก้อดีนะ..

************

เที่ยวละไม - เฉลียง


เที่ยวไปตามตะวันบุกบั่นไปตามลม

สนุกสุขสมหัวใจหงายคว่ำ

ชีพที่ยาวนานหรือสั้นแค่เพียงคำ

เอาตูดแช่น้ำแล้วเดินต่อไป

เถอะเสาะหานภาคลุมครอบ สายลมคงรอบไว้

สายใจไหลลู่สู่สวรรค์



เที่ยงก็กินกันบ่นมันไปไย

ค่ำที่ไหนก็นอนที่นั่น

ตรู่ก็ลืมตาขึ้นมาดูตะวันว่าโลกสร้างสรรค์สวยงามให้เรา

บอกให้รู้ให้ดูความจริง ทิ้งคืนเพื่อสู่เช้า

ให้เราทิ้งเศร้าสู่สดใส



โลกไม่มายาจะบ้าก็ในเมือง

เรียกรุ่งเรืองก็คงจะไม่

โลกในความจริงคือสิ่งอยู่ในใจ นั่นแหละไซร้วัดความรุ่งเรือง

อีกเมฆานภาตระหง่านสายธารที่ผ่านเมือง

สายลมนองเนืองสู่หุบเขา



เที่ยวตามใจปองท่องตามทางมี

สุขอย่างนี้แล้วมีใดเท่า

มั่นในความจริงแต่หยิ่งในตัวเรา มีเพื่อนเป็นภูเขาแล้วกลัวอะไร

อีกทะเลทั้งเห่ทั้งกล่อม ทั้งยอมเป็นเพื่อนใจ

ต้นไม้ทรายคลองพี่น้องกัน





เที่ยวคนเดียววันที่สอง

เมื่อเช้านั่งอ่านหนังสือให้น้องตาบอด อ่านวิชาพระพุทธศาสนา อ่านไปอ่านมา ความคิดก็วูบมาว่า
เรายังไปไหว้พระไม่ครบ 9 วัดตามที่ตั้งใจนี่หว่า เหลืออีกตั้ง 4 วัด คือ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ศาลเจ้าพ่อเสือ วัดสุทัศน์ฯ และวัดชนะสงคราม

ตอนที่คิดเวลาประมาณ 7.30 น. ก็โทร.ไปชวนเพื่อนที่เคยไปด้วยกัน (รู้อยู่แล้วว่ามันยังไม่ตื่นแน่) ก็ลองทาบทามสนใจเปล่า คุณเธออู้อี้เพราะยังไม่ตื่นดี แต่น้ำเสียงประมาณว่า คงไม่อยากไป งั้นไปเองแล้วกัน

ออกจากบ้าน 10.00 น. นั่งรถไปสนามหลวงเริ่มจากไหว้ศาลหลักเมืองเพื่อเป็นศิริมงคล แล้วต่อรถเมล์ไปวัดชนะสงคราม ปกติเป็นคนกรุงเทพฯ ที่ไม่ค่อยไปไหน แต่พอรู้จักเส้นทางของวัด 2 แห่งนี้บ้าง ก็เลยไม่มีปัญหา แต่มีปัญหาคือ วัดสุทัศน์ฯ กับศาลเจ้าพ่อเสือ เพราะไม่รู้จัก แต่พอคุ้นๆ เลาๆ

หลังจากไหว้พระที่วัดชนะสงคราม ก็เตรียมตัวเดินทางไปวัดสุทัศน์ฯ วัดชนะสงครามอยู่บางลำภู เท่าที่รู้คือ จะไปวัดสุทัศน์ฯ ต้องไปเริ่มที่ท่าช้าง สาย ปอ.8 ตามความเข้าใจของตนเองที่เป็นคน กทม.แต่กำเนิด แต่ไม่ค่อยไปไหนเท่าไหร่ไงล่ะ เลยจะงงๆ กับเส้นทางเสมอ

และวันนี้อากาศเป็นใจมาก ฝนเทโครมใหญ่ เปียกมะลอกมะแลก แต่ตั้งใจแล้วนี้ ก็ไม่อยากถอย รอรถเมล์ที่จะไปท่าช้างก็ไม่มาสักที ฝนก็ตกหนักพอสมควร สุดท้ายได้นั่งรถสาย 82

ขณะที่นั่งไปก็รู้สึกไม่พอใจคนขับเท่าไหร่นัก ไม่เกี่ยวกับเราหรอกนะ ความจริงน่ะ แต่เขาไร้น้ำใจกับผู้โดยสารมากไป แถมยังพูดจาไร้ความรู้สึกอีก แค้นแทนผู้โดยสารเลยนะ

ฝนตกหนัก ผู้โดยสารส่วนใหญ่จะหลบฝนที่ป้ายรถเมล์ แต่คนขับรถคันนี้ดันจอดห่างป้าย และเลยป้ายอีกต่างหาก ทั้งๆ ที่หน้าป้ายรถเมล์ก็ว่าง มีลุงกับป้าจะเดินมาขึ้น คนขับก็ไม่จอดนิ่งๆ และฝนตกขนาดนั้น จะให้เขาทำยังไง????
วิ่งมาล่ะเหรอ...

พอเขาไม่วิ่งมา คนขับก็บ่นว่าเขา ว่ากลัวอะไรกับฝน จะต้องให้จอดเกยป้ายเหรอ จะขึ้นก็วิ่งมาสิ งั้นก็รอต่อไป...ระหว่างที่เขาบ่นก็ชำเลืองมองกระจก และมาสบตาเราที่คงส่งสายตาดีเกินไป แกก็เลยบ่นต่อไปอีกว่า
ขับรถส่งถึงที่หมายก็ดีแล้ว จะให้ทำยังไงอีก ชอบร้องเรียนอย่างโน้นอย่างนี้....ฯลฯ

เพิ่งทำบุญมา พอแระ...แต่ในใจน่ะ ด่าเขาไปมากมายแล้วล่ะ พร้อมกับคิดว่า ถ้าเป็นตัวคนขับเองบ้างจะรู้สึกยังไง ถ้าเจอแบบนี้...เฮ้อ...คน

รอรถ ปอ.8 จนเปียกโซกทั้งขากางเกงแล้ว ก็ไม่เห็นแวว แท๊กซี่ดีก่า ปรากฎว่า ใกล้นิดเดียวเดียวเองวัดสุทัศน์ฯ เนี่ย ก็เลยไหว้พระและนั่งฟังพระท่านเทศน์ ก่อนจะไปลุยต่อศาลเจ้าพ่อเสือ ซึ่งเป็นแห่งสุดท้ายโดยรถสามล้อในราคา 20 บาท มันก็ไม่ไกลกันอยู่ดีนั่นแหล่ะ
แต่ศาลเจ้าพ่อเสือ เป็นสถานที่นับถือของคนจีน การไปไหว้เลยจะงกๆ เงิ่นๆ เพราะไม่รู้เขาไหว้กันยังไง แต่ก็เอาล่ะวะ ดูๆ เขาไปก็ไหว้ได้จนเรียบร้อย

คราวนี้ล่ะ...กลับบ้านไม่ถูก...อิอิ

ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ก้อเลยทำตัวแบบฝรั่ง คือ เดินอ่านป้ายไปเรื่อยๆ ป้ายนี้ไปสนามหลวง ป้ายนี้ไปท่าช้าง ป้ายนี้ไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และก็เดินๆๆๆๆๆๆ

ระหว่างทางก็เจอผู้คนหลากหลายชีวิต เจอป้าอายุมากคนหนึ่ง แกมีกระเป๋า 1 ใบ ในกระเป๋ามีตุ๊กตา 2 ตัว และที่แกถือไว้อีก 1 ตัว แกพูดคุยกับตุ๊กตาเหมือนคุยกับเด็กเล็กๆ สีหน้าและแววตา จนรอยยิ้มแกดูมีความสุขกับตุ๊กตาที่แกถืออยู่มาก... ใครหนอ? อะไรหนอ? ทำร้ายแก

เดินมาอีกเจอคนไร้บ้าน และไม่แน่ใจว่าสติดีหรือไม่ เขาก็มองเรา เราก็มองเขา และก็รีบย่ำเดินหนีอย่างรวดเร็ว
เพราะไม่รู้เขาคิดอะไรที่มองเรา
แต่เราน่ะคิดว่า เขาน่ากลัว...
และไม่ใช่คนเดียวนะ
มีถึง 4 - 5 คน ที่นั่งนอนกันรวมอยู่แถวนั้น ผู้ชายล้วนๆ อายุน่าจะประมาณ 40 - 50 กว่าๆ

ก็คิดนะ...ทำไมเยอะจัง และเขาทำไมต้องมาอยู่แบบนี้
เป็นความคิดที่ไม่รู้จะหาคำตอบยังไง???

แต่ที่แน่ๆ คือ...รีบเดินให้พ้นๆ ตรงนี้ดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของตนเอง...

สุดท้ายก็เดินมาถึงท่าช้างโดยปลอดภัย และต่อรถกลับมาถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ

ต้องบอกว่า การอดไปเที่ยวทะเลครั้งนี้
ทำให้เรารู้จักกรุงเทพฯ มากขึ้นเยอะ
และรู้สึกว่า กรุงเทพฯ มีอะไรน่าสนใจไม่แพ้ต่างจังหวัด
แต่ความน่าสนใจของกรุงเทพฯ
ไม่ใช่ป่าเขาลำเนาไพร
ไม่ใช่ธรรมชาติที่สวยงาม
แต่เป็นวิถีชีวิตแต่ละชีวิตต่างหากที่น่าสนใจ
นานๆ ได้เที่ยวกรุงเทพฯ ทีก็ดีเหมือนกัน
แล้วจะเที่ยวใหม่แล้วกันนะ

เพราะมีอะไรแปลกๆ ให้พบเจอมากดี



Create Date : 12 พฤษภาคม 2549
Last Update : 1 ตุลาคม 2549 11:33:08 น.
Counter : 90 Pageviews.

21 comments
  
ไปใหนมาใหนคนเดียวก็ดี จะทำอะไรก็ทำได้ตามสะดวก ไม่ต้องรอใคร ไม่ต้องกลัวใครรอ
โดย: ozhrk IP: 124.121.121.37 วันที่: 12 พฤษภาคม 2549 เวลา:23:34:36 น.
  



พออ่านข้อความแล้วเข้าใจ อันเดอร์สแตนเป็นอย่างดี นึกถึงเพลงของน้าหมูขึ้นมาแล้วก็เปล่งเสียงร้องว่า
"ต้องโบกโบยโผบินแม้เหน็บหนาว ใช่ว่าเราจะจากกันนิรันดร์ไป" แปลกแฮะ ทำไมมาลงที่เพลงนี้ก็ไม่รู้
โดย: อุ้มสี วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:3:04:43 น.
  

ขอบคุณพี่อุ้มที่เข้าใจนะคะ

ขอกบจำศีลซักระยะ

แต่โปรแกรมชิงช้าสวรรค์น่ะ สนใจมากๆ
แค่โทร.มาชวนวันนั้นก็เสียดายแล้ว
แต่ขี้เกียจออกจากบ้านจริงๆ

อ้อ...พี่อุ้ม รู้ตัวปะ

โทร.มาหาทีไร
กำลังนอนอยู่จริงๆ

และเป็นแบบนี้ตั้งแต่คบกันแรกๆ แล้ว
ทำได้ไงเนี่ย...พี่สาว
โดย: s (sunny-low ) วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:6:32:09 น.
  
อยากทำอะไรแบบนี้จังเลย เที่ยวแบบหลุดๆมีความสุขไปอีกแบบเนอะ แต่ไม่กล้าไปไหนคนเดียวอ่ะ

กลัวเป็นอันตรายกับคนรอบข้างอ่ะค่ะ
โดย: au_ja วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:9:34:21 น.
  
หน่อยก็ชอบไปเที่ยวคนเดียว โดยเฉพาะเวลาไปร้านหนังสือ เพราะมันไม่มีกำหนดเวลาไง กลัวคนรอเค้าจะเบื่อ อีกอย่าง การเลือกหนังสืออ่านหนังสือมันต้องใช้สมาธิสูง

อาทิตย์ที่แล้วไปเล่นน้ำกลางแดดเปรี้ยงมา ยังดำไม่หายเลย เข็ดๆๆๆๆ

หยุดตั้งสี่วันน่าจะมาเชียงใหม่น่ะ วู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
จะพาไปซิ่งซะหน่อย หน้าร้อนนี่เหมาะแก่การเที่ยวละลายไขมันมาก ๆ อิอิ

-------------------------------------------------------

"การอยู่คนเดียวเป็นสิ่งจำเป็น ได้เห็นอะไรมากมาย
ได้ปลอบตัวเอง ได้ปล่อยเวลาให้เยียวให้ยาหัวใจ
ขอบใจจริงๆในความหวังดี
แต่บอกตรงๆ วันนี้รับมันไม่ไหว"

(จำชื่อเพลงไม่ได้อ่ะ ของอัสนีวสันต์)
โดย: กากีซ่าส์ วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:9:43:07 น.
  
ไม่อยากเที่ยวคนเดียวเท่าไหร่นะ

แต่หากจำเป็นก็ไป ไม่ง้อใคร

ลองไปเหงาที่บล็อกลุงดูบ้างนะครับ
โดย: ไม้หลักปักมั่นคง วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:10:25:43 น.
  
ไปเที่ยวคนเดียวก็สบายดี แต่ว่าต้องไปเที่ยวคนเดียวแบบที่ไม่ต้องสุงสิงกับคนน่ะ
งงไหมคะ คือคืออย่างนี้ เวลาเที่ยวคนเดียวในที่ที่มีคนแยะๆ สำหรับอาร์ตมันเหงาไง
แต่ถ้าเที่ยวคนเดียวในที่ที่ไม่ค่อยมีคน อย่างนี้ ถึงไหนถึงกันเลย



อ้อ..แล้วโปสการ์ดเค้าหละ มีป่ะรอบนี้??
โดย: นางสาวอาร์ต IP: 124.120.5.199 วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:10:34:40 น.
  


เหนื่อยค่ะ...เพิ่งกลับมาจากไปเที่ยววัด 4 แห่ง หลังจากเคยไปไหว้มาแล้ว 5 แห่ง มุ่งมั่นต้องไหว้ให้ครบ 9 แห่ง
วันนี้สำเร็จดังใจหวังเสียที

แต่เหนื่อยจัง

ก่อนอื่น ขอบคุณทุกคนที่แวะมาเยือนก่อน

ยัยอุจาด เอ๊ย อุ๊จ๋า ถ้าจะเดือดร้อนชาวบ้านเขา ก็อย่าไปเที่ยวคนเดียวเลยนะ เดี๋ยวเป็นข่าวหน้าหนึ่งน่ะ
สงสารคนรอบข้างจริงๆ
อิอิ

น้องหน่อยที่รัก....ถ้าพีรู้ล่วงหน้า คงเหาะไปหาตั้งแต่วันพุธแล้ว ไม่เป็นไร เชียงใหม่ - กรุงเทพฯ แค่เนี้ย
ไปเมื่อไรก็ได้เนอะ..ใจใกล้กันมากกว่าอีก
หวานซะ

ขอบคุณคุณไม้หลักปักมั่นคงค่ะ แวะไปเหงาที่บล็อกตามคำเชิญชวนแล้วนะคะ
แต่มันไม่เหงาน่ะสิ กลับทำให้รู้สึกอยากตะลอนไปเรื่อยๆ ซะมากกว่า

ตอนนี้ที่อยากไป คือ เหมืองของป้าเกลนที่ จว.กาญจนบุรี คงมีสักวันที่ได้ไปแน่นอน คิดเอาไว้ก่อนน่ะค่ะ

ยัยอาร์ต เหงาหรือไม่เหงา มันขึ้นอยู่กับเราด้วยนะ
ถ้าเราทำให้ตนเองรู้สึกเหงา อยู่ที่ไหนมันก็คงเหงา
พี่ก็เหงาออกบ่อย..ก่อนหน้านี้

แต่ตอนนี้..ชักอยากกลับมาเหงาบ้างแล้วล่ะ
เพราะเพื่อนเยอะจนหาความเหงาไม่ค่อยเจอไงล่ะ
ก้อ ..พวกเรานั่นเหล่ะ...
ป่วนจนอยากกลับไปหาความเหงาเลย


ปล.วันนี้ไปตลุยมาอีกล่ะ แต่เป็นการตลุยกรุงเทพฯ
แวะไปอ่านข้างบนนะ
โดย: sunny-low (sunny-low ) วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:18:12:13 น.
  
โห... ไปไม่ชวน จะได้ช่วยกันหลง
ไม่ค่อยเข้าเมืองอยู่ด้วย เอิ๊กก

แต่ไหว้พระนี่คงไม่เอา แต่ความจริงไปได้นะ
ไปเดินดูวัด
โดย: ozhrk IP: 124.121.121.149 วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:20:04:01 น.
  



โอเค...ชิงช้าสวรรค์ยังคงรออิ๋วอยู่ แล้วจะโทรบอกจ้าว่าเราไปกันวันไหน..แต่เราไม่เหงากับการเดินทางคนเดียวนะ..แต่ช่วงนี้เราเหนื่อย ว่าแล้วก็ร้องเพลงต่อ ดันนึกถึงเพลงนี้ไปได้ไง "คนเหงาย่อมเข้าใจคนเหงาเมื่อสายตาเศร้าๆ ส่งมาทักทายกัน" จำมาไม่รู้เนื้อจะถูกปล่าว ?




วันนี้มีแต่คนมาถามว่าเราอยู่บ้านได้ยังไงกัน...โอ้วว!!! ซาร่า....มันเป็นไปได้นะจอร์ช บอกแล้วว่าเสาร์-อาทิตย์นี้ขออยู่คนเดียวเป็นปูถอดกระดอง ขอบใจนะจ๊ะที่ชวนไปวัดวันนี้
โดย: อุ้มสี วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:20:33:47 น.
  

เอ๊า ตา Lasip ไม่รู้ชอบเดินดูวัด
ไม่งั้นก็ชวนแล้วสิ

เมื่อวานวันเกิดเราด้วยนี่
โธ่..แล้วไม่บอกว่าชอบวัด
มากกว่าชอบเที่ยวธรรมชาติ

อิอิ

ไม่เป็นไร วัดน กทม.มีอีกหลายวัดที่น่าเที่ยว
วันไหนนึกอยากไปจะมาชวนนะ

พี่อุ้ม..บอกมาเลยวันไหน

ว่าแต่ชิงช้าสวรรค์เนี่ย
ถ้าขึ้นไปแล้วหัวใจวาย
เขารับผิดชอบปะ...
สูงดีจัง...

กลัวความสูงเหมือนกันนา
ยิ่งไม่มีใครให้กุมมือแก้กลัวด้วย
อิอิ....
โดย: s (sunny-low ) วันที่: 14 พฤษภาคม 2549 เวลา:7:17:22 น.
  
ผ่านมา
เลยย่องมาสะหน่อย
แล้วย่องกลับไป...
โดย: คุยไม่ยุ่ง..มุ่งแต่ย่อง..จ้องแต่เยี่ยม IP: 58.9.125.45 วันที่: 14 พฤษภาคม 2549 เวลา:10:06:56 น.
  


แบบมาบอกว่า Up Blog ใหม่อีกแล้วครับท่าน
รูปน้าหงาหล่อมากๆ ไม่เข้าไปดูไม่ได้แล้ว
โดย: อุ้มสี วันที่: 14 พฤษภาคม 2549 เวลา:20:14:21 น.
  
ป้า...ลืมไปรึป่าวว่าบ้านไอ้กระผมอยู่ราชบุรีอ่ะ.....

*****อยู่ที่ไหนก็เหงาได้*****
โดย: ตากล้อง...พเนจร IP: 125.25.131.223 วันที่: 14 พฤษภาคม 2549 เวลา:21:24:20 น.
  

ไม่ลืมหรอกนะ
ก็ยังนึกจะชวนอยู่
แต่แว่วๆ ว่าเราไม่อยู่นี่นา

และตั้งใจแล้วว่า

จะไปเที่ยวคนเดียว

ก็เลยไม่ชวนไง

โอกาสหน้าจะให้พาเที่ยวนะ
ราชบุรีมีอะไรน่าสนใจเยอะอยู่
ถ้ำค้างคาวก็ดีนะ ไม่เห็นถ่ายรูปมาโชว์
บินกันพรึ่บ
โดย: s (sunny-low ) วันที่: 15 พฤษภาคม 2549 เวลา:4:57:43 น.
  
ย่องมา
วันจันทร์..(อีกแล้ว)
ย่องไป
รีบไปทำงาน
โดย: คุยไม่ยุ่ง..มุ่งแต่ย่อง..จ้องแต่เยี่ยม IP: 58.9.121.244 วันที่: 15 พฤษภาคม 2549 เวลา:8:15:26 น.
  
ต๊ะเอ๋......ของครายเอ่ย?

โตะจายโหมะเยย นึกว่าวัตถุระเบิด อิอิ
ขอบคุณค่ะเจ๊อิ๋ว
สักวันจะทดแทน (สักวัน)วันไหนม่ายรุ

เมื่อวานไปกทม.มาด้วยแหละ นัดเพื่อนกินสุกี้เอ็มเค แต่หาร้านไม่เจอ(ตามประสาพวกบ้านนอก)เด็กลพ'รี,ชล'รี,หมุดสาคร 3 สาว 3 สไตล์ หิ้วไก่ไปคนละเล้า เอาไปปล่อย อิอิ


หาเอ็มเคไม่ได้ หิวแล้ว..เลยกินสุกี้นีโอแถวอนุสาวรีย์ กินเสร็จก็กลับบ้านใครบ้านมัน เด็กบ้านนอกทั้งนั้นตาละคน อิอิ มานะ มานี ไปกินไกลจัง ลพบุรีก็มีดั้นด้นไปกรุงเตป

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับ แว่นฟ้า (ตั้งชื่อให้เรียบร้อย)
โดย: au_ja วันที่: 15 พฤษภาคม 2549 เวลา:15:35:38 น.
  

นั่นน่ะ

ฝีมือน้องกากีซ่าส์คนสวยเลยล่ะ

ใครสนใจสั่งน้องเขาได้นะ

ไม่แพงหรอก

ราคาต่อรองกันได้

อุดหนุนกันหน่อย

อิอิ

แต่เจ้าตัวนี้และอีกหลายๆ ตัวที่สั่งไป
ยังบ่ได้จ่ายตังค์เลยน่ะ

อิอิ...ส่งไปให้น้องบัวอีก 1 ด้วย
ไม่รู้ได้รับยัง
ส่วนอีกตัวเก็บไว้เองล่ะ
งกงัย
โดย: s (sunny-low ) วันที่: 15 พฤษภาคม 2549 เวลา:15:57:53 น.
  
....ยังไม่เคยไปเที่ยวคนเดียวเลยแต่ตอนนี้มีโอกาสแล้ว รอแค่จังหวะก็ลุยโลด....
โดย: boybangplee วันที่: 18 พฤษภาคม 2549 เวลา:18:53:14 น.
  
ไปคนเดียวบ่อย ๆ เหมือนกันค่ะ
โดย: opleee วันที่: 21 พฤษภาคม 2549 เวลา:21:12:59 น.
  
ยินดีกับการมาเที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวกครับ
โดย: Insignia_Museum วันที่: 17 สิงหาคม 2551 เวลา:10:30:48 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sunny-low
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



ความทุกข์
สอนให้อดทน
ถ้าผ่านมันได้
ก็จะเจอความสุข...