1 2 3 4 5 6 7
8 9 10 11 12 13 14
15 16 17 18 19 20 21
22 23 24 25 26 27 28
29 30 31
สมาชิกเก่าและใหม่...ในบ้านเรา
เรื่องของไก่...สุดที่รักของเราสองคน หลังจากพาเที่ยวศรีลังกากันจนมึนกับการเดินทางระยะเวลา ๑๗ วัน รวมวันไปกลับ ทั้งภาพทั้งเรื่องราวๆ กับมินิสตอรี่เลยก็ว่าได้ ขอขอบพระคุณกำลังใจจากผู้ที่ติดตามอ่านกันจนจบพร้อมกับคำให้กำลังใจมากมาย แม่บุญอ่านแล้วก็แอบยิ้มอย่างมีความสุขอยู่คนเดียว หลังจากทริปนี้แล้วเราสองคนก็ไม่ได้ไปไหนไกลๆ อีก จะมีก็แต่แม่บุญที่จะกลับเมืองไทยช่วงเดือนตุลาคม เพื่อไปร่วมงานพระราชพิธีที่สำคัญที่สุด....เป็นครั้งสุดท้าย คิดแล้วก็ใจหายนะคะ ส่วนมิเชล ก่อนกลับเบลเยียมฟันของแกมีปัญหาเลยต้องทำการซ่อมแซมใหม่ อีกทั้งต้องดูแลไก่ที่ตอนนี้เพิ่มขึ้นมาเป็น ๗ ตัว งานนี้จะเอาไปฝากใคร? ไม่มีใครรับเลี้ยงแน่ๆ ส่วนจะให้เพื่อนบ้านแวะมาดูแลให้ข้าวน้ำเหมือนตอนที่มีเพียงสองตัวนั้นไม่ได้เสียแล้ว..เกรงใจ ค่ะ ตกลงแกเลยรับอาสาเฝ้าบ้าน ปล่อยให้แม่บุญได้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวเพียงลำพัง การเดินทางครั้งสำคัญนี้ ต้องซื้อตั๋วล่วงหน้าราวครึ่งปี ส่วนโรงแรมที่จองไว้ใกล้สนามหลวงก็จองในระยะเดียวกัน มาเข้าเรื่องกันดีกว่า คงจำกันไก้ว่าเมื่อปีที่แล้วช่วงหลังหน้าหนาว เราสองคนอยากเลี้ยงไก่เพื่อจะได้กินไข่สดๆ ไม่ต้องซื้อ รวมทั้งชอบทำขนมเวลาเห็นสีไข่ไก่ที่เลี้ยงเองตอกออกมาสีส้มปรี้ดแล้วมันได้อารมณ์เป็นที่สุด แตกต่างจากไข่ที่ซื้อมาจากร้าน ตอกออกมาสีซีดราวกับไข่ขาว แต่ที่นี่ดีหน่อยที่เขามีไข่ออแกนิคขายด้วย ตอนที่ยังไม่เลี้ยงไก่ก็ได้อาศัยไข่ออแกนิคนี่แหละมาทำขนม มากิน ตอนนี้เลิกซื้อแล้วค่ะ ไก่ที่เราไปได้มานั้นเป็นไก่ที่พันธุ์แท้ๆ ต้นตำหรับมาจากประเทศจีน ตัวเธอเลยเล็กๆ ไข่ใบเล็กจิว แต่ที่ชอบมากๆ ก็คือ หัวของไก่พันธุ์นี้จะมีขนขึ้นเป็นวงกลมราวกับหัวปิงปอง อีกทั้งขนที่ฟูนิ่มไปทั้งตัวบางครั้งเวลานั่งราวกับตุ๊กตาก็ไม่ปาน มิเชลชอบอุ้มมาลูบขนแล้วคุยกับพวกเขามาก แม่บุญอุ้มเหมือนกันเอามาลูบขนเล่น แต่เธอเล่นตัวมากไม่ให้อุ้มนานเหมือนหมาน้อยที่จะหลับตาพริ้มเวลาลูบขนที่คอ ยิ่งเวลาผ่านไปนานบุคลิกของไก่ที่เลี้ยงสองตัวก็ยิ่งแตกต่าง ชาร์ล็อตต์...ตัวสีขาว เธอมีลักษณะของผู้นำทั้งกายทั้งหัวที่ตั้งตรง หัวชูสูงตลอด ส่วน..ซอคโกแลต...ตัวสีน้ำตาล แม้จะตัวอ้วนกลมโตกว่าชาร์ล็อตต์ แต่เธอสมัครใจเป็นผู้ตามอย่างไม่มีข้อแม้ใดๆ ไม่ว่าชาร์ล็อตต์จะพาเดินหรือวิ่ง ซ้ายหรือขวาเธอจะเดินจะวิ่งตามตลอด ใครไปใครมาก็เห็นพ้องต้องกันว่า เป็นเช่นนั้นจริงๆ อย่างที่เขาว่า เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้นั้นท่าจะจริง เพราะถ้าเหมือนกันคงทะเลาะกันแน่ๆ เวลาที่ทั้งสองสาวหิวข้าว...เจ้าตัวหัวโจกจะมายืนที่มุมสนามตะเบ็งเสียงร้องดังๆ ตามระดับความหิว หากร้องแล้วไม่มาจะยิ่งตะเบ็งเสียงให้ดังขึ้นอีก ส่วนเจ้าสีน้ำตาลเธอจะมาเป็นลูกคอคอยประสานเสียงตะเบ็งพร้อมๆ กัน ถึงตอนนั้นถ้าไม่รีบเอาข้าวไปให้กิน ชาวบ้านทั้งซอยคงได้ยินไปทั่ว ช่วงหน้าร้อนพระอาทิตย์ขยันทำงาน ขึ้นก่อนเวลาตั้งแต่ตีห้า เจ้าสองตัวตื่นพร้อมนาฬิกาธรรมชาติ จะพากันตะเบ็งเสียงร้องให้ไปเปิดเล้าไก่ เล่นเอาเราสองคนที่นอนห้องนอนไม่ไกลกันนั้นต้องผลัดเวรกันลุกไปเปิดเล้าไก่ เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่น่านอนแต่ดันมาปลุกให้ตื่นแต่เช้า ส่วนหน้าหนาวนั้นดีหน่อยเพราะสายแล้วก็ยังมืด และเพราะความหนาวทั้งสองสาวจะนั่งติดกันกลมดิกไม่ขยับมาตะโกนร้องเรียกเหมือนหน้าร้อน ส่วนตอนช่วงตกไข่ระยะเวลาประมาณ ๒๐ กว่าวัน ชาร์ล็อตต์จะเริ่มก่อนโดยจะไม่ยอมลงมากินข้าวกินน้ำ แต่จะนั่งกกไข่ทั้งวันทั้งคืน มีบ้างที่ลุกมาเหยียดขา แล้วก็รีบๆ จิกกินเมล็ดพืชที่วางไว้ให้ใกล้ๆ พร้อมกับน้ำดื่มข้างๆ จากนั้นเธอจะรีบไปนั่งกกไข่อีกโดยไม่ขยับไปไหนอีกเลย ช่วงนี้เองที่เจ้าเพื่อนซี้จะหงอยเหงา เดินจิกกินหญ้า กินแมลงไปตามเรื่องริมๆ รั้ว บางครั้งก็ยืนมองออกไปไกล ราวกับจะมองหาสิ่งหนึ่งสิ่งใด หรือยืนคิด??? แม่บุญกับมิเชลแอบยืนมองทางหน้าต่างเห็นพฤติกรรมนี้มาตลอด จนมาถึงช่วงที่เธอตกไข่บ้างซึ่งเป็นช่วงหนึ่งอาทิตย์ให้หลัง ช่วงนี้เองที่เสียงร้องดังลั่นซอยจะหายเงียบเพราะทั้งสองสาวจะนั่งกกไข่เอาเป็นเอาตาย ไก่พันธุ์นี้ได้ชื่อว่าเป็นพันธุ์ที่กกไข่ดีที่สุดในโลกพันธุ์หนึ่ง อันนี้ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตค่ะ ระยะเวลากว่าปีผ่านไป วันหนึ่งแม่บุญบอกมิเชลว่า อยากได้ไก่อีกสักตัวหรือสองตัวเอามาไว้เป็นเพื่อนซอคโกแลต เวลาที่ชาร์ล็อตต์ตกไข่ จะได้ไม่เหงา ไข่ที่พวกเธอตกออกมานั้นไม่มีลูกเจี๊ยบเพราะไม่ได้ผสมพันธุ์นั่นเอง จะให้ไปหาตัวผู้ที่ไหนมาผสม ??? เผอิญมิเชลมีเพื่อนที่มีฟาร์มเลี้ยงไก่พันธุ์นี้เช่นกัน วันหนึ่งแกคุยเรื่องนี้กับเพื่อนๆ จึงบอกว่า จะไปยากอะไร เวลาที่กกไข่มาถึงให้มาเอาไข่จากไก่ของเธอซึ่งรับรองว่าไข่ทุกใบมีลูกอ่อนแน่ๆ เพราะที่นั่นมีไก่ตัวผู้ แล้ววันที่รอคอยก็มาถึง ชาร์ล้อตต์มีอาการที่จะฟักไข่ มิเชลเลยรีบบึงรถไปบ้านเพื่อน โดยไม่ลืมที่จะเอาไข่ของทั้งสองสาวไปแลกเป็นจำนวน ๖ ใบ ที่เอาไปเผื่อเพราะถ้าหากว่าไข่มันไม่มีตัวจะได้มีตัวเลือกอื่น พอมาถึงบ้านแกก็รีบเอาไข่ของเพื่อนขีดด้วยดินสอไว้เป็นสัญลักษณ์และเขียนวันที่ไว้ จากนั้นก็ดึงเอาไข่ของชาร์ล็อตต์ที่ไม่มีตัวอ่อนออกมา แล้วเอาไข่ของเพื่อนวางไว้ให้ฟักแทน ส่วนช็อคโกแลตนั้นเธอไม่ค่อยมีไข่มากนัก แม้จะโดนมิเชลขู่อยู่บ่อยๆ ว่า ถ้าไม่ออกไข่ให้กินจะทำต้มข่าไก่...แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างใด กลับเดินลอยชายไปมาในสนามหญ้าอย่างสบายใจพอถึงเวลากินก็จะวิ่งมายืนริมรั้วตะโกนเรียกเช่นเคย เราสองคนรอเวลากันโดยขีดปฏิทินเอาไว้ดูว่าจะได้ไก่ลูกเจี๊ยบเมื่อไหร่? เช้าวันหนึ่งหลังจากระยะเวลาล่วงเลยไปเกือบเดือน มิเชลเดินไปเปิดประตูให้ไก่ แกได้ยินเสียงเล็กๆ คล้ายเสียงลูกเจี๊ยบร้องอยู่ใต้ท้องของชาร์ล็อตต์ แกรีบตะโกนเรียกแม่บุญให้ลงไปดู เมื่อไปถึงแกก็อุ้มชาร์ล็อตตขึ้นทำให้เห็นไก่น้อย ๒ ตัว สีขาวส่งเสียงร้องอยู่ แกเลยรีบวางลงเพราะชาร์ล็อตต์เธอจิกที่มือ จากนั้นอีกวัน ก็มีลูกเจี๊ยบเกิดตามมาอีก ๓ ตัวเป็นสีน้ำตาลอ่อนและน้ำตาลเข้ม รวมทั้งหมด ๕ ตัว ไข่อีกฟองที่เหลือไม่มีอะไรข้างในแต่แตกไปเพราะถูกทับนั่นเอง ในที่สุดเราก็ได้ลูกเจี๊ยบมาเพิ่มรวมแล้วเป็น ๗ ตัว แม่บุญกับมิเชลวิ่งให้ข้าวให้น้ำกันอยู่อย่างรื่นเริง แม่บุญเป็นห่วงไก่น้อยกลัวจะโดนนกมาโฉบไปกิน เลยบอกมิเชลหาตาข่ายให้ จากนั้นก็ทำการขึงกับต้นแอปเปิ้ลที่อยู่ริมสนาม มิเชลล้อมรั้วให้แคบลงเพื่อให้ตาข่ายครอบคลุมไปถึง ทำให้หายห่วงเรื่องนกไปได้ ลูกเจี๊ยบ ๕ ตัว มีแม่ ๒ ตัวที่ผลัดเปลี่ยนกันฟักไข่ ช่วงแรกๆ ชาร์ล็อตต์หวงลูกมาก แม้แต่เพื่อนชี้ก็ไม่ยอมให้เข้าใกล้ ส่วนเจ้าอ้วนช็อคโกแลตก็ไม่ละความพยายาม ตกค่ำเวลานอน เธอจะมานอนใกล้ๆ ชาร์ล็อตต์ในพื้นที่สี่เหลี่ยมแคบๆ โดยชาร์ล็อตต์ยินยอมให้นอนใกล้ๆ ได้ แต่ไม่ให้ฟักไข่ เวลาผ่านไปเป็นอาทิตย์ ลูกเจี๊ยบวิ่งตามแม่สองตัวไปรอบๆ สนาม เวลาให้อาหารหากมีเศษเนื้อเล็กๆ แม่สองตัวจะคาบแล้วทิ้งลงที่พื้นให้ลูกๆ กินก่อน จนลูกอิ่มจึงจะกินของตัวเอง เห็นแล้วก็อดชื่นชมในความรัก ความรับผิดชอบของแม่สองตัวนั้นไม่ได้ ขนาดเขาเป็นไก่...ยังรักลูกขนาดนี้ แม่บางคนที่คลอดลูกแล้วลูกไปทิ้ง....ใจคอทำด้วยอะไรหนอ ??? เพื่อนๆ ที่รู้ข่าวการมีสมาชิกใหม่เพิ่มในบ้านต่างแวะเวียนมาชมความน่ารักของเจ้าลุกเจี๊ยบทั้ง ๕ ตัว มิเชลตั้งชื่อให้เรียกยากๆ ทั้งนั้นแม่บุญเลยไม่เอา แต่จะเรียกตามสีของเขา วันเวลาผ่านไปลูกเจี๊ยบก็โตขึ้นเรื่อยๆ แม่บุญสังเกตเห็นว่าเจ้าไก่แม่ทั้งสองตัวเปลี่ยนไป โดยไม่เคยมายืนร้องขอกินข้างริมรั้วอีกเลย ชาร์ล็อตต์ที่เคยพูดมากๆ ก็ไม่พูดอะไรอีก วันหนึ่งเราได้ยินเสียงร้องดังที่สนามจึงรีบวิ่งไปดู เห็นชาร์ล็อตต์กำลังจิกตีกับซอคโกแลตซึ่งเป็นภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อน คงเป็นเพราะชาร์ล็อตต์หวงลูก ไม่อยากให้ตัวอื่นเข้าใกล้ แต่เจ้าอ้อวนไม่ยอมเพราะอยากมีส่วนร่วมแป็นแม่ด้วยเลยเกิดปากเสียงถึงขั้นลงมือลงไม้กัน แม่บุญเอาขวดน้ำเปล่าตีเจ้าชาร์ล้อตต์ไปหนึ่งครั้ง จากนั้นก็จับแยกกัน จากวันนั้นก็จะเห็นชาร์ล้อตต์จิกเจ้าอ้อวนและลูกเจี๊ยบในบางครั้ง แม่บุญโกรธมากที่เธอตีลูก เอาขวดเคาะหัวไปอีกทีเป็นการตักเตือน มิเชลรีบไปอ่านจากอินเทอร์เน็ตเรื่องของชีวิตไก่ เขาเขียนไว้น่าสนใจมากว่า ที่ชาร์ล็อตต์ทำเช่นนั้นเพราะต้องการให้ลูกเชื่อฟังตัวเอง ให้รู้ว่าเป็นแม่ และต้องทำตั้งแต่เมื่อลูกเจี๊ยบยังเด็กจะได้ปกครองง่าย คงเหมือนคำกล่าวที่ว่า ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แข็งดัดยากนั่นเอง ดูแล้วก็ไม่ต่างจากคนเท่าไหร่นะ... บางวันนั่งกันอยู่ในบ้านจะได้ยินเสียงร้องจากชาร์ล็อตต์ดังลั่นบ้าน พอวิ่งไปดูก็เห็นนกตัวโตบินจากไปอย่างรวดเร็วเพราะได้ยินเสียงที่แม่บุญวิ่งไปที่สนามหญ้า ทุกครั้งที่มีอะไรเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาร์ล็อตต์จะเป็นคนร้องเตือน ร้องเรียกให้เราไปช่วย และเป็นแบบนี้มาตลอด เมื่อลูกเจี๊ยบอายุได้สองเดือน ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เจ้าเจี๊ยบสองตัวมุดออกจากรั้วในช่องว่างเล็กๆ ที่เราไม่ได้สังเกต ชาร์ล้อตต์ตะโกนร้องแต่เราไม่ได้ยิน จนกระทั้งเวลาผ่านไปจึงได้ยินทีหลัง เมื่อวิ่งไปถึงก็เห็นภาพของชาร์ล้อตต์ที่กระโดดข้ามรั้วสูงกว่าตัวไปกกลูกสองตัวไว้ ส่วนเจ้าไก่อีก ๔ ตัวพากันนั่งอยู่ใกล้ๆ เจ้าอ้วนในฝั่งตรงกันข้ามแต่ใกล้ๆ รั้วที่ตรงกับชาร์ล็อตต์นั่งอยู่ ความรักลูกกลัวลูกได้รับอันตรายทำให้ชาร์ล้อตต์บินข้ามรั้วออกไปปกป้องลูกและคงจะสั่งให้เจ้าอ้อวนดูแลลูกสามตัวที่เหลือ เราสองคนรีบวิ่งไปอุ้มเจ้าตัวเล็กใส่กลับไปที่อยู่แล้วจับชาร์ล็อตต์ลงไปดูแลลูกทันที พอทั้งเจ็ดตัวอยู่รวมกันเห็นพวกเขาส่งเสียงกันระงม คงจะถามหรือต่อว่าๆ ทีหลังอย่าทำนั่นเอง เจ้าไก่ตัวสีขาวกับสีน้ำตาลที่โตกว่า ดูเหมือนจะเกเรกว่าเพื่อน วันหนึ่งก็แอบกระโดดออกจากข้างๆ รั้ว อีก ชาร์ล้อตต์อีกตามเคยที่ส่งเสียงร้องเรียกให้เราได้ยินและไปช่วยจับกลับบ้าน ... ติดตามตอนหน้านะคะ ยังไม่จบค่ะ
Create Date : 03 ตุลาคม 2560
Last Update : 3 ตุลาคม 2560 0:17:31 น.
14 comments
Counter : 2917 Pageviews.
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณโอพีย์ , คุณไวน์กับสายน้ำ , คุณอุ้มสี , คุณtuk-tuk@korat , คุณmambymam , คุณสายหมอกและก้อนเมฆ , คุณหงต้าหยา , คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน , คุณKavanich96 , คุณSai Eeuu , คุณร่มไม้เย็น , คุณพิรุณร่ำ , คุณhaiku , คุณกะว่าก๋า
โดย: DD (เมษาโชดดี ) วันที่: 3 ตุลาคม 2560 เวลา:2:20:24 น.
โดย: อุ้มสี วันที่: 3 ตุลาคม 2560 เวลา:6:54:29 น.
โดย: mambymam วันที่: 3 ตุลาคม 2560 เวลา:14:02:36 น.
โดย: หมุยจุ๋ย วันที่: 4 ตุลาคม 2560 เวลา:6:05:38 น.
โดย: Jujastar วันที่: 4 ตุลาคม 2560 เวลา:19:37:15 น.
โดย: Kavanich96 วันที่: 5 ตุลาคม 2560 เวลา:2:03:31 น.
โดย: Sai Eeuu วันที่: 9 ตุลาคม 2560 เวลา:20:40:30 น.
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 10 ตุลาคม 2560 เวลา:13:14:31 น.
โดย: พิรุณร่ำ วันที่: 29 ตุลาคม 2560 เวลา:21:50:26 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 พฤศจิกายน 2560 เวลา:6:26:03 น.
Location :
กรุงเทพฯ Belgium
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 87 คน [? ]
แม่บุญ..เป็นหญิงไทยอายุเลยวัยรุ่นไปไกล จับพลัดจับพลูได้สามีเป็นฝรั่งแล้วก็หอบผ้าตามกันไปอยู่เมืองนอกเมืองนา พอได้เวลาหยุดงานก็กระเตงกันไปเที่ยวตามประสาตายาย ไม่มีลูกกวนตัวกวนใจ แม่บุญนั้นชอบเขียน ชอบเล่า ชอบถ่ายรูป เป็นที่สุด จะเก็บไว้คนเดียวก็กระไรอยู่ เอามาแบ่งบันกันให้ลูก ๆ หลาน ๆ ได้อ่าน ได้ดูกันดีกว่า ส่วนฝีมือด้านอื่น ๆ นั้นก็พอจะมีอยู่บ้าง เช่น ทำอาหาร ก็เอามาแบ่งปันกันอีกนั่นแหละ ค่อย ๆ รู้จักกันไป รู้จักกันแล้วก็อย่าลืมเข้ามาคุยกันนะ ปล....รูปภาพต่าง ๆ หากต้องการนำไปใช้ช่วยบอกที่มาที่ไปด้วยนะคะ เป็นการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งสังคมไทยเราค่อนข้างมองข้ามในเรื่องนี้ค่ะ
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อุ้มสี Topical Blog ดู Blog
Maeboon Klaibann Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
.......................
อ่านสนุกเลยคะ ติดตามตอนต่อไป
อ้อเพิ่งรู้งี้เองว่าการจิกลูกของแม่ไก่คือการอบรมสั่งสอน....