1
2 3 4 5 6 7 8
9 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28 29
30
อาหารหลายสัญชาติ......Couscous
Couscous วันนี้แม่บุญจะขอขั้นการเดินทางเที่ยวศรีลังกา ด้วยการชักชวนเพื่อนๆ ชาวบล็อกมาทำอาหารของต่างชาติทานกัน ซึ่งแม่บุญรับรองว่า จะไม่เลี่ยนเหมือนอาหารหลายๆ จานที่อุดมไปด้วยครีม หรือชีส เพราะอาหารจานนี้เป็นอาหารที่ปรุงเนื้อสัตว์ในน้ำซุปโดยใช้เวลาเคี่ยวนานกว่า ๒ ชั่วโมง พร้อมกับผักมากมายหลากหลาย อาหารที่ว่าชื่อ ......Couscous (ออกเสียงว่า "KOOS-koos") ซึ่งได้มาจากเมล็ดพืช durum wheat Durum wheat,[2] pasta wheat[3] or macaroni wheat (Triticum durum or Triticum turgidum subsp. durum)[4] is the only tetraploid species of wheat of commercial importance that is widely cultivated today.[5] It was developed by artificial selection of the domesticated emmer wheat strains formerly grown in Central Europe and the Near East around 7000 BC, which developed a naked, free-threshing form.[6] Like emmer, durum wheat is awned (with bristles). It is the predominant wheat that grows in the Middle East. Durum in Latin means "hard", and the species is the hardest of all wheats. This refers to the resistance of the grain to milling, in particular of the starchy endosperm, implying dough made from its flour is weak or "soft". This makes durum favorable for semolina and pasta and less practical for flour, which requires more work than with hexaploid wheats like common bread wheats. Despite its high protein content, durum is not a strong wheat in the sense of giving strength to dough through the formation of a gluten network. Durum contains 27% extractable, wet gluten, about 3% higher than in common wheatวิธีที่จะนำมาปรุงคือการนำไปนึ่งให้สุก หรือเติมน้ำเดือดลงไปแล้วปิดฝา เจ้าเมล็ดสีเหลืองนวลมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศแอฟริกาทางตอนเหนือ การปรุงอาหารโดยมีส่วนผสมของขมิ้นและเครื่องเทศต่างๆ เข้าไปด้วย ทุกวันนี้อาหารจานนี้ได้แพร่หลายไปทั่ว โดยเฉพาะในประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียน ประเทศแถบอาหรับ แม้แต่ที่อเมริกา หรือยุโรป ก็นิยมรับประทานอาหารจานนี้กันมากขึ้นด้วย จะเห็นได้จากมีการทำเป็นสูตรของแต่ละประเทศที่มีความแตกต่างกันออกไป หากอยากจะได้อรรถรสในการกินแบบต้นฉบับ เขาต้องมีภาชนะสำหรับใส่ เป็นลักษณะชามกลมและมีฝาปิดยาวรีสูงขึ้นไป เพื่อให้ความร้อนได้กระจายไปอย่างทั่วถึง และทำให้เมล็ดพองตัวขึ้น เรียกว่า couscousière. หากไม่มีจริงๆ วิธีการทำง่ายๆ คือ ต้มน้ำร้อนแล้วเทราดบนเมล็ดปิดฝาไว้ประมาณ ๕ นาที จากนั้นก็เปิดฝาคนให้ทั่ว หากจะให้อร่อยสามารถปรุงด้วยน้ำสต็อกไก่ โรยเกลือเล็กน้อยก็จะทำให้มีรสชาติอร่อยมากขึ้นด้วย ที่แม่บุญจะนำมาเสนอในวันนี้เป็นสูตรชาวชาวโมรอคโค ที่เบลเยียมมีชาวโมรอคโคเข้ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จนได้รับสมญานามว่า ประเทศโมรอคโคที่สองก็ว่าได้ เพราะเดินไปทางไหนก็จะเจอะเจอชาวมอรอคกา ตามสำเนียงฝรั่งเศส ทั่วไป แม่บุญไปซื้อเครื่องเคราและสอบถามเจ้าของสูตรเขาว่าต้องใส่อะไรบ้าง จากนั้นกลับมาก็มาเปิดดูสูตรที่เคยเรียนที่โรงเรียน ยังไม่หนำใจเปิดดูยูทรูปวิธีการทำเข้าไปอีก ผลที่ได้รับคือ มิเชลฟาดไปสองจานพูนๆ และบอกว่า เธอทำให้ชาวมอรอคกาอายแล้วนะ นี่ถ้าไปเปิดขายแข่งน่าจะไม่เลว ...ว่าไปนั่น เครื่องปรุง เนื้อแกะส่วนขา ๑ กิโลกรัม ไส้กรอกแบบรสเผ็ดปานกลาง ครึ่ง กิโลกรัม เครื่องเทศปรุง couscous สำเร็จรูป ๓๐๐ กรัม หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ผักชี ๑ กำใหญ่ ซุคินีหั่นชิ้นปานกลาง ฟักทองหั่นชิ้นปานกลาง แครอท หั่นชิ้นปานกลาง หอมหัวใหญ่สับหยาบ กระเทียมสับหยาบ ๑ ชต พริกชีฟ้าสีแดง เขียว น้ำมันมะกอก เมล็ดcouscous เหลือ พริกไทยป่น มะเขือเทศหั่นชิ้นปานกลาง ๕ หัวใหญ่ ถั่วกระป๋อง ซอสมะเขือเทศเข้มข้น ๑ กระป๋องเล็ก ผงปรุงรส ๑ ชต.วิธีทำ ๑. แม่บุญเอาขาแกะ ไปดาดในกระทะร้อนจัด โดยไม่ต้องใส่น้ำมันใดๆ จากนั้นเอาขึ้นมาพักไว้ ๒. ในกระทะใบเดียวกัน เติมน้ำมันมะกอกรอให้ร้อนไฟปานกลางค่อนข้างแรง จากนั้นใส่หอมใหญ่และกระเทียมสับลงไปผัดให้หอม ใส่มะเขือเทศที่หั่นเตรียมไว้ พร้อมกับมะเขือเทศเข้มข้น ใส่ผงปรุงรส และ ผงcouscous ผัดอีกครั้งจากนั้นนำขาแกะใส่ลงไป เติมน้ำให้ท่วม ใส่เกลือพอประมาณ เปิดไฟกลางค่อนข้างอ่อน ใช้เวลาประมาณ ๑.๓๐ ชม. ๓. ระหว่างนั้นเราไปเตรียมเมล็ด durum wheat โดยการนำไปใส่ในหม้อ ใส่น้ำล้าง ๑ ครั้ง จากนั้นเติมน้ำลงไปครึ่งหนึ่งของเมล็ด ทิ้งไว้ให้อมน้ำจนแห้ง ตั้งหม้อใส่น้ำ นำผ้าขาวบางมาห่อแล้วนำไปนึ่งประมาณ ๒๐ นาที จากนั้น นำออกมาคนให้ทั่ว เตรียมน้ำเปล่า ๑ ถ้วย ใส่เกลือเล็กน้อย และน้ำมันมะกอก พรมลงบนเมล็ดที่ยังอุ่นๆ ให้ทั่วแล้วนำไปนึ่งต่ออีก ๒๐ นาที จึงปิดไฟ ทิ้งค้างให้อุ่นไว้บนหม้อจนกว่าจะตักเสริฟ ๔. เวลาตุ๋นผ่านไป ชม ครึ่ง ใส่ไส้กรอก แล้วจึงใส่ฟักทอง ซุกคินี พริกชีฟ้า เขียว แดง ส่วนถั่วกระป๋องที่ปรุงสุกมาแล้วให้ต้มน้ำร้อนแล้วลวกก่อน ๑ ครั้ง ก่อนใส่ลงไปในหม้อพร้อมกับผักอย่างอื่น ปล่อยทิ้งไว้อีก ๓๐ นาที ๕. เมื่อสุกดีแล้วจะเห็นได้ว่าเนื้อแกะส่วนน่องหลุดออกมาโดยไม่ต้องใช้มีดตัด จากนั้นเตรียมภาชนะเป็นถาดหลุมหรือจานเปลขนาดใหญ่ ตักเมล็ด couscous ที่นึ่งเตรียมไว้ใส่ลงในชาม ใช้ก้นถ้วยกดตรงกลางให้เป็นหลุม จากนั้นตักเนื้อแกะ ผัก ไส้กรอกใส่ลงไป ราดด้วยน้ำซุปให้ทั่ว โรยด้วยผักชี ๗. วิธีเสริฟ ๘. อาหารจานนี้เป็นการล้อมวงแบ่งกันทานโดยแต่ละคนตักจากชามใบใหญ่ที่จัดไว้ตรงกลาง ต้นตำหรับเขากินกันด้วยมือ หากชอบรสเผ็ดจะเติมบาสทาโก หรือพริกป่นตามแบบไทยๆ ลงไปก็ไม่ผิดกติกาแต่ประการใด รสชาติของอาหารจานนี้จะออกรสเผ็ดจากเครื่องปรุงแล้วแต่ว่าจะใส่มากหรือน้อยแค่ไหน เมื่อผสมกันแล้วออกมารสชาติถูกปากคนไทยค่ะ ทำกันแล้วอร่อยหรือไม่อย่าลืมมากระซิบกันนะคะ ขอให้อร่อยค่ะ มีภาพมาฝากจากในสวนค่ะ ตอนหน้าเที่ยวศรีลังกากันต่อนะคะ
Create Date : 11 เมษายน 2560
21 comments
Last Update : 16 ธันวาคม 2560 12:46:03 น.
Counter : 4058 Pageviews.
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณnewyorknurse , คุณพิรุณร่ำ , คุณอุ้มสี , คุณmoresaw , คุณไวน์กับสายน้ำ , คุณMitsubachi , คุณsecreate , คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน , คุณรัชต์สารินท์ , คุณภาวิดา คนบ้านป่า , คุณSweet_pills , คุณmambymam , คุณClose To Heaven , คุณกะว่าก๋า , คุณเนินน้ำ , คุณtuk-tuk@korat , คุณสองแผ่นดิน , คุณlovereason
โดย: อุ้มสี 11 เมษายน 2560 7:41:57 น.
โดย: moresaw 11 เมษายน 2560 8:56:20 น.
โดย: secreate 11 เมษายน 2560 16:36:22 น.
โดย: moresaw 11 เมษายน 2560 19:44:48 น.
โดย: wicsir 14 เมษายน 2560 20:14:42 น.
โดย: กะว่าก๋า 14 เมษายน 2560 20:31:16 น.
โดย: เนินน้ำ 14 เมษายน 2560 22:42:27 น.
Location :
กรุงเทพฯ Belgium
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 87 คน [? ]
แม่บุญ..เป็นหญิงไทยอายุเลยวัยรุ่นไปไกล จับพลัดจับพลูได้สามีเป็นฝรั่งแล้วก็หอบผ้าตามกันไปอยู่เมืองนอกเมืองนา พอได้เวลาหยุดงานก็กระเตงกันไปเที่ยวตามประสาตายาย ไม่มีลูกกวนตัวกวนใจ แม่บุญนั้นชอบเขียน ชอบเล่า ชอบถ่ายรูป เป็นที่สุด จะเก็บไว้คนเดียวก็กระไรอยู่ เอามาแบ่งบันกันให้ลูก ๆ หลาน ๆ ได้อ่าน ได้ดูกันดีกว่า ส่วนฝีมือด้านอื่น ๆ นั้นก็พอจะมีอยู่บ้าง เช่น ทำอาหาร ก็เอามาแบ่งปันกันอีกนั่นแหละ ค่อย ๆ รู้จักกันไป รู้จักกันแล้วก็อย่าลืมเข้ามาคุยกันนะ ปล....รูปภาพต่าง ๆ หากต้องการนำไปใช้ช่วยบอกที่มาที่ไปด้วยนะคะ เป็นการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งสังคมไทยเราค่อนข้างมองข้ามในเรื่องนี้ค่ะ
น่ากินจัง
โหวดค่ะ