คิดไปเขียนไปตามสไตส์...แม่บุญ.....
Welcome to my little world .....
Group Blog
 
<<
กันยายน 2560
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
10 กันยายน 2560
 
All Blogs
 

สามขาพาทัวร์.....ศรีลังกา 15 Goodbye Mirissa to Brussels





วันที่ 15 From Mirissa to Comombo to Brussels












ในที่สุดการเดินทางอันยาวนานเป็นเวลากว่าครึ่งเดือนก็มาถึงเวลาสิ้นสุดลง แม่บุญเตรียมจัดกระเป๋าเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อวานตอนค่ำ หลังอาหารเย็น ดีที่ตัวเองไม่ได้ซื้อของมากมายเลยไม่ต้องยัดเยียดให้กระเป๋าต้องตุงไปมากกว่าเดิม











เช้าวันนี้สีอันสดใสของพระอาทิตย์สาดส่องเข้ามาจนสว่างไปทั้งห้อง อาบน้ำเสร็จก็พากันลงไปกินอาหารเช้า เมื่อวานหลังจากมาส่งพวกเราที่โรงแรม ชามูร์ก็บอกลาทุกๆ คนและสั่งเสียว่าไม่ต้องเป็นห่วง การเดินทางในวันนี้จากโรงแรมตรงไปสนามบินยาวเลย พักยกตอนกินอาหารมื้อเที่ยงซึ่งได้บอกโซเฟอร์ไว้แล้วว่าจะจอดพักที่ไหน เป็นอันว่าไม่ต้องกังวลเรื่องการสื่อสารเพราะไม่ต้องพูดกันมากนั่นเอง











คนขับรถของพวกเราพูดภาษาอังกฤษได้น้อย ฟังพอรู้เรื่องเวลาพูดยาวๆ เขาจะไม่เข้าใจ อันนี้แม่บุญเคยคุยด้วยแต่แกเอาแต่ยิ้มไม่หือไม่อือเลยเป็นอันว่ารู้กัน จากนั้นก็ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก พวกเรารวบรวมเงินค่าทิปให้ทั้งสองคน ชามูร์นั้นได้มากกว่าเพราะต้องทำทุกอย่าง คนขับๆ รถอย่างเดียว อันนั้นเป็นการคิดของฝรั่ง แต่จริงๆ แล้วแม่บุญว่าเขาทำหน้าที่สำคัญมากคือการขับรถอย่างระมัดระวังรักษาชีวิตของผู้โดยสารทั้งหมดก็ว่าได้ เพียงแต่ไม่ได้สื่อสารกันมากนักเหมือนไกด์ชามูร์เท่านั้นเอง














หลังอาหารเช้ายังมีเวลาจนถึงบ่ายโมงรถจึงจะมารับไปสนามบิน พวกเราเลยฉวยโอกาสไปเดินเล่นชายทะเลกัน เพื่อนๆ พากันไปว่ายน้ำ แต่แม่บุญกับมิเชลพากันเดินเลาะเลียบไปตามชายหาด ไม่อยากเปียกให้ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่อีก ที่ชายหาดมีนักท่องเที่ยวพอสมควร นั่ง นอนอาบแดดกันจนตัวเป็นสีแดงเหมือนกุ้งต้ม มิเชลหัวเราะในคำเปรียบเทียบของแม่บุญ








ได้เวลารถมารอรับตอนบ่าย กระเป๋าถูกลำเลียงขึ้นรถโดยคนขับเพียงคนเดียว เขาเคยชินกับการจัดระเบียบกระเป๋าอันมากมายจนมาถึงวันสุดท้าย ออกจะใจหายอยู่บ้างเพราะเดินทางด้วยกันมาครึ่งเดือนพอดี ความผูกพันมันย่อมต้องมีบ้างเป็นธรรมดา รถวิ่งตามถนนสายหลักบางครั้งต้องแวะเข้าไปในตัวเมืองเพื่อใช้เส้นทางสายอื่น พวกเรานั่งหลับกันมั่ง เพราะระยะทางอันยาวไกลกว่า สามชั่วโมง บ่ายสองโมงครึ่งที่รถมาจอดที่ร้านอาหารริมถนนใหญ่ให้กินข้าวกัน










ด้านล่างเขาจัดเป็นอาหารแบบพื้นเมืองขายให้คนพื้นที่ ส่วนอาคารติดแอร์หลังใหญ่ใกล้ๆ เป็นร้านอาหารให้ผู้มาเยือน อาหารจึงมีทั้งพิชช่า ไก่ทอด มันฝรั่งทอด พวกเรายกขบวนขึ้นไปดูแล้วก็กลับลงมาซื้อกินที่ร้านค้าด้านล่าง เลือกอาหารที่คิดว่าตัวเองกินได้แล้วก็มานั่งรอ ไม่นานนักพนักงานก็มาเสริฟให้กับทุกๆ คน มิเชลแกกลัวท้องเสียเลยขอกินซุป ส่วนแม่บุญสั่งข้าวกับไก่ทอด










ซุปของมิเชลและเพื่อนอีกคนมาช้ากว่าคนอื่นๆ แม่บุญเลยแบ่งให้มิเชลกินด้วยกัน เพื่อนผู้ชายอีกคนสั่งเหมือนมิเชลเลยพลอยได้ช้าไปด้วย ตอนนี้เองที่ได้เห็นความแตกต่างระหว่างคนเอาเชียอย่างแม่บุญกับฝรั่ง ความแตกต่างที่ว่าคือ นิสัยของคนเอเชีย คนไทยอย่างแม่บุญ ยอมแบ่งข้าวที่มีให้สามีกินด้วยกัน เดี๋ยวซุปยกมาแล้วก็ค่อยให้แกกินทีหลัง ส่วนเพื่อนสาวอีกคนกินอาหารในจานอย่างหิวโหย โดยมีสามีนั่งมองกลืนน้ำลายอยู่ข้างๆ








แม่บุญเห็นเขามองมาที่เราสองคนที่แบ่งอาหารกันกิน แล้วก็หันกลับไปมองภรรยาของตนเอง แกคงคิดนะว่า เอ...ทำไมแม่บุญแบ่งข้าวให้สามีกินได้ ส่วนภรรยาฉันนั่งกินไม่พูดไม่จาไม่เรียกสักคำ จนข้าวที่ภรรยาเขากินหายไปเกินครึ่งเธอกัดเจอพริกเข้าเลยยกจานออก คงจะพึ่งนึกได้เลยหันมาถามสามีว่า ฉันไม่กินแล้ว ไก่มันเผ็ดจะกินไหม? ....สามีของเธอรับจานข้าวที่เหลือน้อยนิดมากินเพราะความหิว....เอวัง










ไม่ใช่ครั้งแรกที่แม่บุญเห็น แต่เห็นมาตั้งแต่อยู่เบลเยียม แปลกนะ อาหารมากมายในจาน หากเป็นแม่บุญถ้าคิดว่ากินไม่หมด จะตักแบ่งออกไปครึ่งหนึ่งให้มิเชลก่อน จากนั้นจึงลงมือกินเพราะไม่อยากให้เห็นว่าเป็นของเหลือ ตามนิสัยคนไทย ส่วนกลุ่มเพื่อน กินกันจนไม่อยากกินจึงจะถามคนอื่นว่าจะเอาไหม ? มันกลายเป็นของเหลือกิน..ที่คนไทยถือ แต่มันกลับกลายเป็นมารยาทที่ดีนะแม่บุญว่า










จำได้ไหม? เคยเล่าให้ฟังตอนต้นๆ เรื่องแม่บุญชอบกินไข่ขาว ไข่ดาวหากไม่สุกจะไม่กินตรงไข่แดงเลย เพื่อนชอบกินไข่แดง..แต่ไม่กินไข่ขาว แม่บุญบอกเขาว่าถ้าเธอไม่ชอบไข่ขาวให้ฉันก็ได้ เห็นเธอรับปาก แต่กินไข่แดงโดยเอาขนมปังจิ้มจนแฉะไปหมด พอกินเสร็จเลื่อนจานมาให้แม่บุญบอกว่าอิ่มแล้ว เอาไปเลย แม่บุญยิ้มแล้วบอกว่า คงไม่ต้องแล้วหล่ะ เพราะไข่ขาวมันเปื้อนไข่แดงไปหมดแล้วฉันเหม็นคาว ขอบคุณมาก เธอเลยเขินไม่ถามอีกเลย สิ่งละอันพันละน้อยบางทีคนก็มองข้ามไป หลายครั้งที่พอแม่บุญทำอะไรไป พวกเขาจะบอกว่า เออ ใช่เนาะ ฉันลืมคิดไป เช่น การซื้อกล้วยมาเผื่อคนขับรถกับชามูร์ ที่ร่วมเดินทางด้วยกัน













หลังอาหารมื้อบ่ายแก่ๆ พวกเราก็เดินกลับไปขึ้นรถ คนขับรอจนพวกเราขึ้นรถกันหมดก็ค่อยเดินตามปิดประตูให้ก่อนจะออกรถและขับไปส่งจนถึงสนามบิน ระหว่างทางไม่มีใครพูดอะไร ต่างคนต่างมองตรงไปข้างหน้า มองออกนอกหน้าต่างเพื่อชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางราวกับจะสั่งลา









ส่วนแม่บุญนั่งมองไปทางหน้าคิดทบทวนการเดินทางอันยาวนานครั้งนี้ แปลกนะ ที่จะบอกว่า ความประทับใจในสถานที่ ผู้คน อาหารการกิน และ ฯลฯ ดูเหมือนจะน้อยกว่าเมื่อครั้งไปเยือนอินเดีย หรือ พม่า สองประเทศนั้นไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากที่นี่มากนัก แต่กลับมีความผูกพันคิดอยากจะกลับไปอีก ในความลำบากของการเดินทางมีเงาแห่งความอาวรณ์แอบซ่อนอยู่อย่างลึกเร้น ถึงแม้ว่าผู้คนที่ศรีลังกาก็ลำบากไม่แพ้กัน แต่ทำไมถึงคิดถึงแต่ที่อินเดีย....แปลกจริงๆ









ที่สนามบิน พวกเราเข้าแถวรอเช็คอิน จากนั้นก็นั่งรอเวลาเครื่องออก นั่งคุยกันจนได้เวลา ในที่สุดเครื่องบินก็นำพามาส่งถึงบ้าน ประเทศเบลเยียม บ้านที่สองของแม่บุญ อย่างปลอดภัย











เวลาล่วงเลยผ่านไปนับแต่วันเดินทางจนถึงวันนี้ที่มานั่งเขียนบันทึกย้อนหลังให้ทุกๆ ท่านได้อ่านกัน ความทรงจำยังแจ่มชัดในสมอง วันหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ หลังอาหารเช้า เราสองคนนั่งคุยกันเรื่องราวต่างๆ มิเชลพูดขึ้นมาว่า คิดถึงอินเดีย...ปีหน้า เราไปที่นั่นกันนะแม่บุญ ...เพราะเมื่อสามเดือนที่ผ่านมา ไกด์หนุ่มชาวภาระตะได้เดินทางมาเยี่ยมถึงเบลเยียม พร้อมกับคู่หมั้นชาวปูรีเช่นกัน เขาสองคนร่วมกันทำงานหาเงินไปช่วยสร้างที่สูบน้ำในหมู่บ้านทุรกันดารกว่า ๔๓ แห่ง แล้ว











โดยการจัดงานหารายได้ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ และเดินทางไปทำงานที่หมู่บ้านต่างๆ พร้อมชาวบ้าน อีกทั้งยังมีโครงการซื้อชุดนักเรียนให้กับเด็กยากจนในหมู่บ้าน ต่างๆ ทุนการศึกษา นับเป็นตัวอย่างอันดีของผู้ที่ต้องการพัฒนาชุมชนห่างไกลให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างพอเพียง โครงการนี้ดำเนินการภายใต้มูลนิธิที่คู่หมั้นของเขาจัดทำขึ้นที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพราะตอนนี้เธออาศัยอยู่ที่นั่น โดยการเดินทางไปมาทั้งสองประเทศ











มิเชลได้ช่วยสมทบทุนไปจำนวนหนึ่ง และเรามีโครงการจัดงานที่เบลเยียมเพื่อช่วยเหลือหาทุนไปช่วยสมทบอีกในปีหน้า และจะเดินทางไปกับทั้งสองคนเพื่อไปดูแลการทำงานนั้นด้วย การเดินทางครั้งต่อไปคงจะแตกต่างไปจากที่ผ่านๆ มา













เดือนที่แล้วไกด์ชาวอินเดียใช้การสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต เล่าให้ฟังว่า ไปเจอเด็กผู้ชายที่ยากจน แต่อยากไปโรงเรียนมาก เขาปวดที่ตาและต้องไปหาหมอ แต่ไม่มีเงินเลย









แม่บุญได้ยินแล้วก็อดสงสารไม่ได้ จึงได้ส่งเงินไปให้จำนวนหนึ่งเพื่อให้ไปหาหมอ ไม่นานมานี้ไกด์ส่งภาพของครอบครัวมาให้ พร้อมกับคำขอบคุณ และภาพของเด็กชายที่ใส่แว่นตาหนาเตอะเพราะสายตาสั้น ด้วยเงินที่แม่บุญส่งไปให้ ส่วนผู้พ่อนั้นสายตาน่าจะไม่ปกติเช่นกัน หรืออาจจะบอดเพราะเท่าที่เห็นจากภาพถ่ายดูขาวผิดปกติ









หลายท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมไม่ช่วยเด็กชาวไทย ไปช่วยคนอินเดียทำไม ? แม่บุญกับมิเชลไม่ได้เลือกว่าจะช่วยใคร ที่ไหนก่อน แต่เราช่วยตามเหตุการณ์และความเดือดร้อนของคนที่ต้องการ เช่นเด็กคนนี้ต้องการความช่วยเหลือด่วน ก็ได้ช่วยไปตามกำลังความสามารถ ส่วนที่เมืองไทยก็เคยช่วยเหลือให้ทุนการศึกษาเด็กยากจน ๓ คนเป็นเวลากว่า ๓ ปีเช่นกัน แม่บุญทำตามกำลังที่ตนเองจะสามารถทำได้ เพราะไม่ใช่คนร่ำรวยแต่อย่างใด













ขอกราบขอบคุณทุกๆ ท่านที่ได้เข้ามาอ่าน มาชม มาให้ความคิดเห็น กำลังใจต่างๆ ตั้งแต่ต้นจนจบกรเดินทางครั้งนี้ และจะขอถือโอกาสบอกกล่าวว่า แม่บุญอาจจะห่างหายไปจากการเขียนเรื่องราวยาวๆ แบบนี้เพราะมีภาระอื่นที่ต้องทำอย่างติดพัน อาจจะเข้ามาเขียนเรื่องราวเป็นตอนๆ เท่านั้น เพื่อไม่ให้ท่านผู้อ่านต้องรอคอยอย่างยาวนานเหมือนที่ผ่านมา กราบขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ












 

Create Date : 10 กันยายน 2560
22 comments
Last Update : 10 กันยายน 2560 0:06:25 น.
Counter : 3533 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณnewyorknurse, คุณmambymam, คุณtuk-tuk@korat, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณกะว่าก๋า, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณKavanich96, คุณบ่งบ๊ง, คุณเนินน้ำ, คุณSai Eeuu, คุณSweet_pills, คุณสองแผ่นดิน, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณหงต้าหยา, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณRinsa Yoyolive

 


มาเที่ยวด้วยค่ะ
วิวสวยมากค่ะ
โหวดค่ะ

 

โดย: newyorknurse 10 กันยายน 2560 5:07:59 น.  

 

ชมภาพสวยๆก่อน เดี๋ยวมาอ่านค่ะ



 

โดย: mambymam 10 กันยายน 2560 7:19:17 น.  

 

ช่วยใครก็ได้ที่เดือดร้อน ดีที่สุดค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 10 กันยายน 2560 12:23:03 น.  

 

อ่านเริ่องราวแล้วต้องขอชื่นชมในน้ำใจของแม่บุญกับคุณมิเชลมากค่ะ
การทั่ช่วยคนที่กำลังเดือดร้อนนั้นถือว่าทำถูก
และดีที่สุดค่ะ

ภาพสวยมากๆค่ะวันนี้

 

โดย: mambymam 10 กันยายน 2560 15:11:28 น.  

 

ภาพเรือในน้ำสวยมากเลยค่ะแม่บุญ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Kavanich96 Funniest Blog ดู Blog
คนผ่านทางมาเจอ Diarist ดู Blog
กะว่าก๋า Photo Blog ดู Blog
ann_shinchang Cartoon Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Music Blog ดู Blog
mariabamboo Photo Blog ดู Blog
Gorjai Writer Movie Blog ดู Blog
Maeboon Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 10 กันยายน 2560 20:51:53 น.  

 

โหวต Travel Blog ครับพี่ไก่

มีคนเคยบอกว่า
เวลาไปเที่ยวด้วยกัน
จะรู้จักกันดีขึ้น
คือนิสัยส่วนตัวจะแสดงออกมาให้เห็นเลย

เรื่องที่พี่ไก่เล่าบนโต๊ะกินข้าว
ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แสดงออกมาตามวัฒนธรรมและนิสัยเลยนะครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 11 กันยายน 2560 14:38:07 น.  

 

อ่านที่แม่บุญ เขียน.... แล้วนึกถึง การแบ่งปันอาหาร ให้อีกคน
ก่อนที่ตนเองจะกิน...

เราเห็นในไทย หลายครั้ง ผมว่าเป็นสิ่งที่ดี การมีน้ำใจ.... แต่ที่
ตปท.ไม่ค่อยคุ้น..ครับ

แม่บุญช่วยเหลือคน ดีครับ การมีน้ำใจ มีเมตตา ดีมากเลย.. ภาพ
แสงอาทิตย์ส่องเป็นประกายวิบวับ กับน้ำ สวยมากครับ..

....

ว่าง ๆ เขียนอีกนะครับ เรืืองอะไรก็ได้เป็นตอน ๆ ยิ่งดี..


Maeboon Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 11 กันยายน 2560 18:55:27 น.  

 

สวัสดีคะแม่ชีไก่คนสวย(เก่งล้ำด้วย) อิอิ
ไม่ค่อยได้ทักทายกัน แต่ก็ยังคงคิดถึงเสมอ ตลอดๆ ไม่เคยลืม
อ่านเรื่องราวในบล๊อกนี้แล้ว แต่จะยังไม่เขียนอะไรมาก
เอาเป็นว่าเดือนหน้ากลับเมืองไทยแล้วค่อยมาคุยกันยาวๆ
ขอเชิญแม่ชีไก่มาเรียนทำอาหารที่บ้านด้วยนะเจ้าคะ
ยินดีจัดให้ จะเรียนเมนูใด วานบอก ไม่ต้องเกรงใจเน้อ

 

โดย: บ่งบ๊ง 13 กันยายน 2560 13:53:30 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับพี่ไก่

การพูดคุยช่วยได้จริงๆ
อีกสองสิ่งที่ช่วยได้แน่ๆ
คือการยอมรับและเข้าใจในตัวคนรัก
ผมว่าคู่ไหนทำแบบนี้ได้
ก็อยู่กันยาวนานแน่นอนครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 13 กันยายน 2560 13:59:08 น.  

 

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมค่ะ
เรื่องโหวตไม่ต้องกังวลนะคะ
พี่ก็ยังไม่ได้โหวตที่นี่เหมือนกัน

พี่ก็สบายขึ้นเรื่อยๆค่ะ หมอเก่งมาก
เขาคงมาถูกทางแล้ว

 

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) 13 กันยายน 2560 15:06:05 น.  

 

สวัสดีอีกรอบค่าแม่บุญ

หนูไม่ได้ลองชิมชีสอย่างเดียวเลยค่ะ เลยไม่แน่ใจว่าหนุบๆ เหมือนกันมั้ย

แต่หอมและอร่อยดีนะคะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 13 กันยายน 2560 15:34:56 น.  

 

บางทริปเราจะประทับใจหรือไม่ค่อยประทับใจ
เพื่อนร่วมเดินทางก็น่าจะมีส่วนอยู่เหมือนกันนะคะ
รักษาสุขภาพดี ๆ แล้วไปลุยอินเดียต่อค่ะ อีกไม่กี่เดือนก็ปีหน้าแล้วเนาะ

 

โดย: เนินน้ำ 13 กันยายน 2560 18:48:07 น.  

 

จบทริปแล้ว แม่บุญเขียนความประทับใจ จนคนอ่านซาบซึ้งกันไปตามๆ กันค่ะ โชคดีนะคะ ที่มิเชล เห็นพ้องและชอบแบบเดียวกับแม่บุญ

พูดถึงเรื่องแบ่งอาหารกันนี่ มีแต่ชาติเอเชียจริงๆ นะคะ ที่ทำ และมีแต่หญิงไทยเท่านั้นนะคะ ที่ดูแลสามี ดีงามแล้วค่ะ แม่บุญ

 

โดย: Sai Eeuu 13 กันยายน 2560 21:39:14 น.  

 

Maeboon Travel Blog

ขอบคุณแม่บุญสำหรับประสบการณ์ท่องเที่ยวศรีลังกานี้นะคะ
และขออนุโมทนาบุญกับแม่บุญและคุณมิเชลด้วยค่ะ
แม่บุญไปอินเดียอีกครั้ง ต๋าจะติดตามต่อค่ะ

 

โดย: Sweet_pills 13 กันยายน 2560 22:25:51 น.  

 

มาเที่ยวต่อครับ แม่บุญ
ปิดเทอม ต.ค.นี้ ก็ได้เวลาพาเด็กไปเล่นน้ำทะลครับ

 

โดย: สองแผ่นดิน 13 กันยายน 2560 22:28:59 น.  

 



สวัสดียามเช้าครับพี่ไก่


 

โดย: กะว่าก๋า 14 กันยายน 2560 6:38:13 น.  

 

ดีใจนะคะที่ไปเยี่ยม
พี่ติ๋วห่างหายจากบล้อคไปนาน
กลับมาอีกครั้งเพื่อบันทึกความทรงจำ
ที่อยากเขียนเท่านั้น

อ่านของน้องไก่ตั้งแต่ต้น ชอบมาก
หลากหลายมุมมอง โดยเฉพาะการให้ทิป
ทั้งสองคนมีค่าเท่าเทียมกัน แต่คนขับรถที่ดี
ย่อมพาไปสู่จุดหมายปลายทางด้วยดี

การช่วยเหลือคนอยู่ที่ใจ เหมือนการแบ่งอาหารกันทาน ถ้าใจเรารักการแบ่งปัน
ทำให้ได้หมดแม้เพื่อน แต่ดูที่มารยาทด้วย
ให้โดยไม่มีมารยาทเราก็ทานไม่ลงเหมือนกัน

จะคอยติดตามอ่านอีกนะคะ

 

โดย: หมุยจุ๋ย 14 กันยายน 2560 15:08:21 น.  

 

กลับมาอ่านและส่งกำลังใจค่ะ
พักนี้พี่ต้องอยู่เงียบๆนิ่งๆสักพัก ต้องรักษาตัว
ให้หายดีก่อนไปพม่า งานบล็อกก็ทำบล็อก
เล็กๆพอได้พูดคุยกับเพื่อนๆแก้เหงาบ้าง

ตามไปเที่ยวกับคุณไก่ก็สนุกมากทุกทีนะคะ
แม้จะเป็นที่ที่เคยไปมาแล้ว

ชวนกลับไปชมดอกไม้เล็กๆน้อยๆที่บ้านกันค่ะ

 

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) 15 กันยายน 2560 10:12:03 น.  

 

สวัสดีครับพี่ไก่

ได้แต่หวังว่า
ไก่ทั้งสามตัวจะใช้เวลาปรับตัวปรับใจ
และอยู่ร่วมกันได้ในที่สุด

และมันคงไม่ทำร้ายกันจนบาดเจ็บอะไร
เพราะธรรมชาติของไก่ไม่ได้เป็นสัตว์ที่ต่อสู้ทำร้ายกันรุนแรงนะครับพี่
แค่อาจหวงที่ หวงความเป็นจ่าฝูงเฉยๆครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 17 กันยายน 2560 13:53:50 น.  

 



สวัสดียามเช้าครับพี่ไก่


 

โดย: กะว่าก๋า 18 กันยายน 2560 7:03:14 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่ไก่


ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตด้วยนะครับ


 

โดย: กะว่าก๋า 20 กันยายน 2560 6:05:09 น.  

 

ช่วงแสงเช้าเย็นนี้
ได้เปรียบจริงๆค่า เค้าถึงได้เรียกว่า ช่วงเวลาเงินเวลาทอง
หรือช่วงเวลาโรแมนติก
ภาพเรือในน้ำก็ได้จังหวะพอดีให้เป่

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
เกศสุริยง Education Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Literature Blog ดู Blog
phunsud Travel Blog ดู Blog
Maeboon Travel Blog ดู Blog



 

โดย: Rinsa Yoyolive 23 กันยายน 2560 15:30:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Maeboon
Location :
กรุงเทพฯ Belgium

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 87 คน [?]




แม่บุญ..เป็นหญิงไทยอายุเลยวัยรุ่นไปไกล จับพลัดจับพลูได้สามีเป็นฝรั่งแล้วก็หอบผ้าตามกันไปอยู่เมืองนอกเมืองนา พอได้เวลาหยุดงานก็กระเตงกันไปเที่ยวตามประสาตายาย ไม่มีลูกกวนตัวกวนใจ แม่บุญนั้นชอบเขียน ชอบเล่า ชอบถ่ายรูป เป็นที่สุด จะเก็บไว้คนเดียวก็กระไรอยู่ เอามาแบ่งบันกันให้ลูก ๆ หลาน ๆ ได้อ่าน ได้ดูกันดีกว่า ส่วนฝีมือด้านอื่น ๆ นั้นก็พอจะมีอยู่บ้าง เช่น ทำอาหาร ก็เอามาแบ่งปันกันอีกนั่นแหละ ค่อย ๆ รู้จักกันไป รู้จักกันแล้วก็อย่าลืมเข้ามาคุยกันนะ


ปล....รูปภาพต่าง ๆ หากต้องการนำไปใช้ช่วยบอกที่มาที่ไปด้วยนะคะ เป็นการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งสังคมไทยเราค่อนข้างมองข้ามในเรื่องนี้ค่ะ

free counters
New Comments
Friends' blogs
[Add Maeboon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.