7 สัญญาณเตือนว่าคุณกำลังทำลายชีวิตตัวเอง (っ- ‸ ς)
คนฉลาดจะรู้ว่าวันพรุ่งนี้คือโอกาสที่เราจะได้แก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ แต่คนส่วนใหญ่มักรอจนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้แทนที่จะทำวันนี้ให้ดีที่สุด ดังนั้น เมื่อพวกเขามองย้อนกลับไปก็จะมีแต่ความรู้สึกเสียใจในภายหลัง หากวิกฤตการณ์วัยกลางคนเกิดขึ้นก็คงเป็นเพราะเหตุผลเหล่านี้แหละ
►► คิดว่าจะทำซ้ำแล้วซ้ำอีก
การคิดว่าจะทำกับการลงมือทำถือว่าเป็นพฤติกรรมที่แตกต่างกัน ในความเป็นจริงคนเรามักจะมีปัญหามากมายและเมื่อเอาแต่คิดอยู่อย่างนั้น ปัญหาก็จะยิ่งตามมามากขึ้น อย่างไรก็ตามการลงมือทำจะช่วยยับยั้งพฤติกรรมเหล่านั้น และเปลี่ยนความคิดให้มีความเป็นไปได้มากขึ้น
►► ฝันกลางวัน
บางครั้งการอยู่ในโลกแห่งความฝันนั้น ง่ายกว่าการออกไปเผชิญกับความเจ็บปวด ในโลกแห่งความจริง ความฝันจะครอบงำจิตใจของคุณ ดังนั้นคุณควรรีบตื่นขึ้นซะ ขณะที่การเอาแต่ฝันถึงความสำเร็จในอดีต ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้แต่อย่าลืมว่าคุณผ่านจุดนั้นมาแล้ว ชีวิตของคุณจะเปล่าประโยชน์หากมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับความสำเร็จในอดีต ทางที่ดีตื่นขึ้นมาอยู่ในโลกแห่งความจริงได้แล้ว
►► บรรยากาศในแง่ลบ
ความคิดในแง่ลบเกี่ยวกับตัวเอง งาน เงินเดือน เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า โรคภัยไข้เจ็บ เพื่อนบ้าน และหนี้สินล้วนแต่ทำให้เกิดความคิดในแง่ลบเพิ่มมากขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือความคิดสามารถทำให้ชีวิตของคุณแย่ลงได้ทั้งนั้น ทั้งนี้การลงมือทำจะกลายเป็นสิ่งที่สูญเปล่าหากบรรยากาศในแง่ลบ ยังคงเป็นฝ่ายชนะเนื่องจากทัศนคติต่างๆล้วนเกิดจากความคิดของตัวเองทั้งสิ้น ดังนั้นจงเปลี่ยนจากคนคิดลบเป็นคนคิดบวกให้เร็วที่สุด
►► การแทรกแซงจากภายนอก
เพื่อนๆกับครอบครัวจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ แต่พวกเขากำลังปิดกั้นคุณจากความสำเร็จหรือเปล่า? ลองสังเกตว่าพวกเขาใช้ชีวิตอย่างไรขณะที่ชีวิตของคุณไร้การเคลื่อนไหว ได้เวลากำจัดพวกผีดูดวิญญาณและชอบสร้างบรรยากาศในแง่ลบเหล่านี้ ออกจากวงโคจรของคุณไปได้แล้ว หากเพื่อนๆและครอบครัวของคุณ เป็นแบบนี้ก็ลองหาแรงสนับสนุนใหม่ๆดู
►► เรียงลำดับความสำคัญไม่ถูก
อะไรทำให้การซื้อเสื้อผ้ามีความสำคัญมากกว่าการไปโรงเรียน? ทำไมวิดีโอเกมที่ออกใหม่ล่าสุดจึงสำคัญกว่านัดของคุณหมอ? คุณกำลังจัดลำดับความสำคัญผิดไปหรือเปล่า? คนเหล่านี้จะใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน และปฏิเสธที่จะมองภาพกว้างๆหรืออนาคตของพวกเขา ดังนั้น ควรตั้งเป้าที่อนาคตของตัวเองก่อน เช่น หางาน เข้ามหาวิทยาลัย หาที่อยู่อาศัย จ่ายหนี้ต่างๆ เป็นต้น จากนั้นค่อยตามด้วยกิจกรรมเล็กๆน้อยๆ เช่น การซื้อเสื้อผ้าหรือตกแต่งบ้าน
►► ขลุกตัวอยู่แต่ในโลกแห่งความสบาย
ในทางกลับกันเมื่อคนเราประสบความสำเร็จก็อยากที่จะหยุดและพักผ่อน หรือที่เรียกว่าโลกแห่งความสบาย ความพยายามสิ้นสุดลงแล้วและเป้าหมายที่ใหญ่กว่านั้น ก็หลุดลอยออกไป หลังจากนั้นไม่นานก็จะกลายเป็นความขี้เกียจและผันแปร เป็นความเสียใจเพราะเราไม่ต้องพยายามอีกต่อไปแล้ว ทางแก้คือมุ่งหน้าเข้าหา ความท้าทายและความเสี่ยงบ้าง อย่างน้อยพยายามแล้วก็ยังดีกว่าไม่ยอมทำอะไรเลย
►► ละเลยการดูแลสุขภาพ
การอดนอนจะทำให้สมองทำงานช้าลง เป็นโรคนอนไม่หลับและมีอาการประสาทหลอน ดังนั้นคุณควรเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมและออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยในการลดน้ำหนักจิตใจของคุณก็จะสดชื่นและมีสมาธิมากขึ้น ร่างกายก็ช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้เนื่องจากมีสุขภาพดีและมีพละกำลังเต็มเปี่ยม ดังนั้นอย่าลืมให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ
สรุปว่าการทำทุกอย่างในเชิงรุกคือทางแก้สำหรับผู้ที่กำลังทำลายชีวิตของตัวเอง เริ่มจากพุ่งไปข้างหน้าก่อนและประเมินรายละเอียดต่างๆ จงจำไว้ว่าร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณนั้นไม่เคยหยุดนิ่ง หากคุณละเลยทุกอย่าง ไม่นานชีวิตของคุณก็จะเริ่มเสื่อมถอยลงไป
Blogger : Tonya Jones Reynolds Source : youqueen.com ขอบคุณที่มา: https://issue247.com/life/warning-signs-that-you-are-wasting-your-life/ แชร์จาก : https://board.postjung.com/988440.html โพสท์โดย: SpiderMeaw
Create Date : 09 กันยายน 2559 |
|
0 comments |
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2561 0:53:30 น. |
Counter : 1280 Pageviews. |
|
|
|