ในวันสำคัญของชีวิตอย่างวันแต่งงาน เราคงอยากให้คนสำคัญอยู่ในงานด้วย
ซึ่งไม่ใช่แค่ พ่อแม่ พี่น้อง หรือครอบครัว แต่รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงด้วย

เช่นเดียวกับคู่รัก Jamie Gehrlich และ Jason
ที่อยากให้น้องหมาตัวโปรดร่วมเป็นพยานรักในงานแต่งงานของพวกเขา

ทั้งคู่เล่าว่าพวกเขาได้รับเลี้ยงเจ้าหมาพิตบูล Spike เมื่อเดือนมกราคม ปี 2007
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Spike เป็นหมาที่ดีที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยมีมา
และมันก็ทำตัวเป็นหมาผู้คุ้มกันตั้งแต่วันแรกที่ถูกรับเลี้ยง

กระทั่งเดือนพฤษภาคม ปี 2016 Jamie ในวัย 33 ปี
ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง 2 ชนิด คือ เซลล์เม็ดเลือดขาวและมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

การเป็นมะเร็งถึง 2 ชนิดในเวลาเดียวกัน ทำให้หญิงสาวและแฟนหนุ่มช็อกมาก
แน่นอน ทั้งคู่ไม่อยากคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้น

วันนั้น หญิงสาวกลับจากการทำงานก่อนเวลา แล้วเธอกับ Jason ก็นอนกอดกันอยู่บนเตียง
 โดยมี Spike ขึ้นมานอนข้างๆ เธอด้วย ราวกับว่ารู้ว่าเจ้านายกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่แย่

Jamie เชื่อว่า Spike รู้ว่าเธอเป็นมะเร็ง และมันน่าจะรู้มาก่อนหน้านี้แล้ว
เธอว่าไม่กี่เดือนก่อนจะถูกวินิจฉัย
เจ้าหมาเดินตามเธอไปทุกที่ และไม่ยอมทิ้งให้เธออยู่คนเดียว

ตอนนั้น หญิงสาวบอก Jason ว่า

"ไม่ฉันหรือ Spike นี่แหละ ที่กำลังจะตาย
เพราะมันไม่ยอมให้ฉันอยู่ตามลำพังเลย"

หลังจากที่รู้ว่าเป็นมะเร็ง Jamie ก็ได้เข้ารักษาตัวตามคำแนะนำของแพทย์ 

รวมไปถึงการผ่าตัดปากมดลูกในเดือนตุลาคม ปี 2016
และตลอดเวลานั้น เจ้าหมาอยู่เคียงข้างเธอไม่เคยห่าง

กระทั่งปี 2017 อาการของ Jamie ก็ค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ
แต่ในเวลาเดียวกันนี้ เจ้า Spike เริ่มแสดงอาการของโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTI)

เจ้าของจึงพามันไปหาหมออย่างรวดเร็ว
แล้วก็ได้รู้ว่ามันมีเนื้องอกขนาดใหญ่อยู่ในกระเพาะปัสสาวะ
ข่าวนี้ทำเอาหัวใจของ Jamie สลาย

คุณหมอบอกว่าตำแหน่งของมะเร็งเจ้าหมา
ทำให้ไม่สามารถผ่าตัดได้ เพราะมีความเสี่ยงเกินไป
กระทั่งในเดือนธันวาคมของปี 2017 คุณหมอบอกว่า
Spike จะมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ 2 เดือน

จริงๆ แล้ว คู่รักได้กำหนดวันแต่งงานในวันที่ 23 มิถุนายน ปี 2018
ซึ่ง Jamie คิดเสมอว่าเธออยากให้ Spike เห็นตอนที่เธอเดินเข้าพิธีแต่งงาน
และเจ้าหมาคือคนสำคัญที่เธออยากเห็นมากที่สุดในงานแต่ง

ดังนั้น หญิงสาวกับแฟนหนุ่มจึงได้ถ่ายรูปพรีเวดดิ้งไว้ก่อน
โดยมีเจ้าหมาอยู่ในเฟรมกับพวกเขาด้วย
ทั้งคู่เชื่อว่างานแต่งของพวกเขาจะสมบูรณ์ไม่ได้ถ้าไม่มี Spike

ตลอดเวลาที่หญิงสาวต่อสู้กับมะเร็ง เจ้าหมาอยู่เคียงข้างเธอไม่เคยห่าง
ดังนั้น ตอนนี้เธอจึงดูแลมันสุดความสามาร
และหวังว่า Spike จะมีชีวิตอยู่จนถึงวันที่เธอจะเข้าพิธีแต่งงาน

เจ้าหมาเองก็ไม่ยอมแพ้ต่อชะตาตัวเองง่ายๆ
มันพยายามมีชีวิตอยู่ให้นานที่สุดเท่าที่จะทนได้
เพราะมันเองก็อยากเห็นเจ้านายที่รักในวันสำคัญของเธอเหมือนกัน

สุดท้ายแล้ว แม้ว่าจะเจ้าหมาจะจากไปก่อนงานแต่ง
แต่คู่รักตั้งใจจะเอารูปของมันไปตั้งไว้ในงานแต่งด้วย
และเชื่อว่ามันเองก็คงภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของวันสำคัญนี้