... Simplicity is Happiness ♥ ...
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2559
 
12 กุมภาพันธ์ 2559
 
All Blogs
 
8 เรื่องที่สาวๆ ยัง "ไม่ควรเล่า" ในเดทแรก( ;´Д`)

#1 แฟนเก่าโรคจิต 

หัวข้ออันตราย / ต้องห้ามมากที่สุดในการเดทคือ " แฟนเก่า " ( ในกรณีที่เคยมีแฟนมาก่อน )
ยิ่งถ้าจบแบบไม่สวยล่ะก็ พยายามเลี่ยงให้มากที่สุดจะดีกว่า แต่หากคุยไปคุยมาแล้ว
ต้องวกกลับมาเรื่องนี้จริงๆ ก็ให้คุยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ปกติธรรมดา
บอกแค่ว่า " อ๋อ เราไปกันไม่ได้น่ะ " ก็พอ

อย่าทำหน้าตื่นแล้วรีบโพล่งว่า " อ๋อ! แฟนเก่าของฉันน่ะเหรอ ช่วงเลิกกันใหม่ๆ
เขาโทรหาฉันทุกคืนเลย โทรมาว่าไงรู้ไหม แกกล้ามากที่บังอาจเลิกกับฉัน
ตายศพไม่สวยแน่" หรือ " เขาเคยกระโดดขวางหน้ารถไม่ให้ฉันขับหนีด้วย
ดีนะที่ไม่ชน แต่ก็เข้าโรงพยาบาลไปหลายเดือน " หรือ
" ครั้งล่าสุดที่เขาเห็นฉันอยู่กับแฟนใหม่ ผู้ชายคนนั้นรักษาตัวอยู่ ยังไม่ออกมาเลย
" คู่เดทของเธอคงไม่อยากเป็นตัวตายตัวแทนแฟนใหม่คนนั้นแน่นอนค่ะ

อีกเหตุผลหนึ่งคือ บางคนจะแอบคิดไปว่า การที่เรามี
" แฟนเก่า " แปลว่าเราต้องมีบางสิ่งที่ไม่ดี ผู้ชายจึงขอเลิก
ดังนั้นพยายามอย่าเน้นเรื่องนี้มากดีกว่า

#2 ความชอบ / รสนิยมแปลกๆ ที่น่ากลัว 

ไม่มีใครอยากรู้ว่าสาวสวยน่ารักตรงหน้าชอบแส้ กุญแจมือ
น้ำตาเทียนตั้งแต่คุยกันในเดทแรกหรอกนะ! ผู้หญิงบางคนมีรสนิยมและความชอบแปลกๆ
ที่ใครก็ไม่อาจเข้าถึง โดยเฉพาะสาวสาย " มโน " มีเพื่อนแท้เป็นหนังสือนิยาย
และเกมเรท 18+ สมองเพริดแพร้วไปด้วยจินตนาการแบบสุดขั้ว
( นึกถึงห้องแดงใน Fifty Shade of Grey แล้วจะเข้าใจ )

ถ้าเธอเริ่มพูดถึงคำว่า " จริงๆ เราชอบความเจ็บปวดน่ะ เนี่ย
ที่บ้านก็มีแส้อยู่ด้ามนึง พรีออเดอร์มา กลัวคนหาว่าเป็นโรคจิต... "
เธอคิดว่าเจ้าหนุ่มข้างหน้าจะทำสีหน้าอย่างไร แน่นอนว่าเขาจะเปลี่ยนมุมมอง
ที่มีต่อเธอทันที จากสาวหวานแบ๊วๆ เป็นสาว Sadism ที่ต้องถอยหนีให้ไกล
ผู้ชายบางคนก็ไม่เข้าใจคำว่าล้อเล่น เพราะเขายังไม่รู้จักเธอดีพอไงล่ะ

สงบปากสงบคำ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้จนกว่าจะสนิทจนถึงขั้นร่วมหอลงโรง
ถ้าเขาบังเอิญถามขึ้นมาจริงๆ ก็บอกแค่ " ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอก เราไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ "

#3 ลักษณะของครอบครัว / นิสัยคนที่บ้าน 

เพิ่งเจอหน้าผู้ชาย อย่าเพิ่งสาธยายเล่าประวัติครอบครัว ดราม่าชีวิตตั้งแต่เกิดจนโต
ครอบครัวยากจนปากกัดตีนถีบ ต้องสู้รบกับคนโน้นคนนี้จนกว่าจะตั้งตัวได้
และอีกหลายเรื่องเศร้าเคล้าน้ำตาจนหนุ่มๆ ต้องเบะปากมองบนเลยนะคะ!
นี่ไม่ใช่รายการวงเวียนชีวิต อย่าทำลายบรรยากาศหวานๆ ด้วยเรื่องเศร้า
เผลอๆ เขาจะรำคาญจนตีตัวออกห่างเลยด้วยซ้ำ

ในทางกลับกัน ถ้าครอบครัวไม่มีปัญหาเรื่องความยากจน
ก็อย่าเล่าเรื่องปัญหาภายในครอบครัว นิสัยแปลกๆ ของคนในบ้าน
เช่น ชอบตะโกน เตะข้าวของอย่างไม่มีเหตุผล เพราะจะยิ่งทำให้เขา
กลัวและอยากไปให้พ้นๆ จากเดทนี้เสียที

ถ้าเขาถามว่า " ที่บ้านเธอเป็นประมาณไหนเหรอ " ให้ตอบว่า
" ก็เหมือนครอบครัวทั่วไปแหละ " ด้วยสีหน้ายิ้มๆ อย่าเพิ่งขยายรายละเอียด
เขาจะได้ไม่ต้องถามต่อให้เจอคำตอบน่าสะพรึงไงล่ะ

#4 งานอดิเรก / ของสะสมแปลกๆ 

เราเชื่อว่าทุกคนย่อมต้องมีของสะสมแปลกๆ ในวัยเด็กกันทั้งนั้น
( หรือบางคนก็สะสมมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันเลย ) เช่น
ตัวแมลงสตาฟฟ์แข็งเก็บใส่กรอบไว้เป็นคอลเลคชั่น,
ถุงขนมหรือกล่องนมลายแปลกๆ ตามเทศกาลที่กินแล้ว,
ตุ๊กตาซอมบี้หน้าเฟะๆ เรียงรายเป็นตู้, เส้นผมมนุษย์จากทุกสถานที่เวลาไปเที่ยว
และอื่นๆ อีกมากมายเท่าที่จะคิดได้ จำไว้ว่า อย่าเพิ่งเล่าให้เขาฟัง!

ถ้าเป็นของสะสมน่ารักๆ อย่างตุ๊กตาสัตว์ กระปุกออมสิน ฟิกเกอร์
ผ้าเช็ดหน้าก็น่ารักดีอยู่หรอก แต่ถ้าผู้ชายได้ยินว่าเธอสะสม
" เศษเล็บของตัวเองตั้งแต่เด็กจนโต " คิดว่าเขาจะยิ้มด้วยความดีใจไหมล่ะ
จะมองว่าเธอเป็นยัยเพี้ยนและอยากวิ่งหนีให้ไกลเสียมากกว่า

ผู้ชายบางคนกลัวในสิ่งแปลกๆ เช่น กลัวตุ๊กตา ถ้าเธอรีบเล่าไปแล้วว่า
" เรามีตุ๊กตาอยู่เต็มตู้ที่บ้านเลย อยากไปดูไหม " เขาคงทำหน้าสะพรึง
หวาดกลัวเหมือนเธอจะงับหัวเขายังไงยังงั้น! ถ้าเขาถามก็ทำเงียบๆ
หรือตอบสิ่งที่ดูปกติไป ถ้านึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะอ้างอะไร
เราแนะนำว่า " สะสมเงิน " ค่ะ

#5 โพล่งบอกไปตรงๆ ว่า " ฉันตกหลุมรักนายตั้งแต่แรกพบ " 

" นายรู้ไหมว่า ฉันตกหลุมรักนายตั้งแต่แรกพบเลยนะ "
อย่าเพิ่งพูดคำนี้ต่อหน้าหนุ่มที่เพิ่งรู้จักเด็ดขาด!
ผู้หญิงออกตัวแรงอาจเป็นสเปคของผู้ชายหลายคน
แต่ถ้าเรายังไม่รู้นิสัยของคนตรงหน้า ทำตัวปกติ นิ่งๆ
เรียบร้อย play safe ไว้ก่อนดีกว่า!

นึกถึงหน้าผู้ชายที่ซีดขาว สตั๊นด้วยคำพูดรัวๆ ของเธอว่า
" ทำไมนายถึงหล่อได้ขนาดนี้นะ ปากนิดจมูกหน่อย
นึกว่าพระเอกหลุดออกมาจากนิยาย เห็นนายครั้งแรกหัวใจฉันแทบจะหยุดเต้น
หยุดหายใจ โอ๊ย อายจัง " ( ไม่ต้องอายแล้วล่ะแม่คุณ มาเต็มซะขนาดนี้ )
ถ้าหนุ่มคนนี้เป็นคนตลก อารมณ์ดีก็แล้วไป แต่ถ้าเขาเกิดกลัว
จนชิ่งหนีไปก่อนล่ะก็ เสียดายได้อีกนะจ๊ะ

อย่าทำตัวเหมือนคนโรคจิตที่จ้องจะกลืนกินผู้ชายอยู่ตลอดเวลา
จะหน้าแดงด้วยความเขินอายบ้างก็ได้ แต่จงแสดงออกทางสีหน้า
ไม่ใช่คำพูด! กรณีที่แย่ที่สุดคือเขาอาจมองว่าเธอ " ง่าย " ซึ่งไม่โอเคแน่นอน

#6 พูดถึงอนาคตของตัวเองในอีก 5 ปีข้างหน้า 

เพิ่งจะเจอหน้ากันแค่ไม่กี่นาที ยัยนี่ก็พร่ำเพ้อเรื่องอนาคตที่มีร่วมกัน
( ใครไปตกลงกับเธอไม่ทราบ!? ) ซะแล้ว นั่งบนเก้าอี้ก้นยังไม่ทันร้อน
แม่เจ้าประคุณก็เริ่มพูดถึงธีมสีงานแต่งงาน จะชวนแขกมากี่คน
จะเสิร์ฟอาหารบุฟเฟ่ต์หรือโต๊ะจีน ฮันนีมูนที่เมืองไทยหรือต่างประเทศ แต่งกี่ปีจะมีลูก
ลูกชายลูกสาวกี่คน แล้วเราจะมีความสุขตลอดไป ตื่นค่ะ! ( ดีดนิ้วแบบเมนเทอร์ลูกเกด )

ผู้ชายที่อารมณ์ดี ไม่คิดเยอะก็คงหัวเราะขำๆ ไป
แต่ถ้าเจอคนซีเรียส เขาจะรู้สึกกดดันและสับสนกับความเพ้อเจ้อของเธอ
และตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วว่า " ฉันไม่คบยัยต๊องนี่หรอก "

ถ้าเขาเป็นฝ่ายเริ่มหัวข้อนี้ขึ้นมาเอง ก็แค่พูดว่า " อนาคตเหรอ
ยังไม่ได้คิดไกลขนาดนั้นหรอก แค่มีบ้าน มีรถ มีงานดีๆ ทำก็พอแล้วล่ะ อ้อ!
ถ้ามีคนอยู่เคียงข้างกันด้วยก็ดีนะ " ตอบได้เยี่ยมมาก! เพราะนั่นคือ
สิ่งที่ใกล้ความจริงที่สุด ไม่เพ้อเจ้อ และมีทางเป็นจริงได้จากมุมมองของคนถามค่ะ

#7 ความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว 

ความสัมพันธ์ในครอบครัวเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน ไม่ว่าเธอจะมีปัญหากับที่บ้าน
ห่างเหินสุดขีดขนาดไม่คุยกันมาเป็นปีๆ แล้ว หรือตัวติดกันตลอดเหมือนเป็นลูกแหง่
ก็อย่าเพิ่งพูดให้คู่เดทฟังจนหมดเปลือก รอให้สนิทกันกว่านี้ก่อนจะดีกว่า

ถ้าเธอไม่สนิทกับพ่อแม่ บอกแค่ว่า " อ๋อ ก็คุยกันบ้าง "
ดีกว่าบอกว่า " แม่มีพ่อใหม่ หนีออกจากบ้านไปเป็นปีแล้วล่ะ "
( ถ้าตอบอย่างหลัง บรรยากาศมาคุครอบงำแน่นอน )

หรือถ้าเธอไม่ค่อยมีเพื่อน ตัวติดกับพ่อแม่ได้อีก
ก็อาจจะถูกมองว่าเป็นลูกแหง่ไม่ยอมโต ก็บอกแค่ว่า
" สนิทแหละ ก็คุยกันทุกวัน " ก็พอแล้ว

จำไว้ว่าครั้งแรกของทุกอย่าง จงเดินทางสายกลาง ไม่ตึงไม่ล้นจนเกินไปค่ะ

#8 บอกว่าตัวเอง " ทำงานบ้านไม่เป็น " 

ถึงโลกในยุคสมัยนี้จะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน แต่ยังไงผู้ชายก็มองว่าสาวๆ
ควรมีความเป็นแม่บ้านแม่เรือนอยู่บ้าง นิดหน่อยก็ยังดี! อย่างน้อยเธอก็ควรจะล้างจาน
เอาผ้าเข้าเครื่อง ตากผ้า รดน้ำต้นไม้ กวาดบ้านถูบ้านได้เอง
ทำอาหารเมนูง่ายๆ ได้บ้าง ไม่ใช่จ้างแม่บ้านตลอดเวลา

ถ้าเขาถามแล้วเธอตอบไปตรงๆ ว่า " ต้มไข่ยังทำเปลือกแตกเลย ",
" ผ้าเหรอ ส่งซักตลอดแหละ ใครจะอยากทำเอง เหนื่อยจะตาย "
เขาจะเริ่มหาทางปลีกตัวออกห่าง เพราะหากต้องแต่งงานกันไป
คงเหมือนรับเธอมาเป็นภาระอีกคนน่ะสิ ทำงานบ้านยังไม่เป็น จะเลี้ยงลูกไหวได้ยังไง

ถ้าเธอโตจนพอทำงานบ้านได้แล้ว แต่ยังซักผ้าไม่เป็นก็ต้องพิจารณาตัวเองได้แล้วนะคะ!
ถึงเธอจะเกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวย แต่ก็ควรทำงานหลักๆ ให้เป็น
ถ้าเธอมีโอกาสไปเรียนต่อต่างประเทศ เธอก็ต้องหัดทำเองอยู่ดี
เพราะเขาเรียกว่า " ความรับผิดชอบ " ค่ะ



คำว่า " เดทแรก " ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเพิ่งทำความรู้จักกันเป็นครั้งแรก!
ดังนั้นจงอย่าเพิ่งเผยตัวตนกากๆ เกรียนๆ หรือแปลกประหลาดให้คู่เดทต้องตะลึงจะดีกว่า
ผู้ชายหลายคนที่พร้อมจะยอมรับตัวตนของคนรักได้
แต่นั่นก็ต่อเมื่อเขาตกหลุมรักเธอไปแล้ว ซึ่งการตกหลุมรักก็ต้องมาจาก
First impression และการเผยด้านดีของเธอออกมาก่อนอยู่ดี

เก็บความชอบ รสนิยมส่วนตัว หรือความสัมพันธ์ในครอบครัวที่แปลกประหลาดเอาไว้ก่อน
คุยแต่เรื่องในแง่ดี เผยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะและความน่ารักที่มีในตัวเข้าไว้ หว่านเสน่ห์ใส่ไว้ก่อน
แล้วค่อยๆ เผยตัวตนจริงในเดทครั้งต่อไป ถ้าเข้ากันไม่ได้จริงๆ
ก็ค่อยปรับสถานะเป็นเพื่อนก็ยังไม่สายค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้สาวซิสต้าทุกคนสมหวังในรักนะคะ



ที่มา : https://www.lovepanky.com/flirting-flings/dating-game/white-lies-on-first-date
แชร์จาก : https://sistacafe.com/summaries/
ภาพจากอินเตอร์เน็ต




Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2561 0:05:42 น. 0 comments
Counter : 995 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอกไม้บานริมรั้ว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]






▼ ห้อง SHOP 1 ▼

เสื้อ
แขนกุด สายเดี่ยว
แขนสั้น
แขน 3-5 ส่วน
แขนยาว กันหนาว
-------------------------
กางเกง
กระโปรง
เดรส
รองเท้า
ชุดผ้าไหม ชุดไทยๆ
ผ้าคลุมไหล่ / ผ้าพันคอ / หมวก
ตุ๊กตา

[ วิธีสั่งซื้อ ]
[ อัตราค่าส่ง & ข้อชี้แจง ]

▼ ห้อง SHOP 2 ▼

!! Clearance SALE !!
ล็อต : (A) - (O)


ล็อต : (P)
ล็อต : (Q)
ล็อต : (R)

Friends' blogs
[Add ดอกไม้บานริมรั้ว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.