5 เคล็ดลับเลิกพฤติกรรมคิดหมกมุ่น ♦ 5 Tips to Stop Obsessive Thinking (。́︿̀。)
คุณเคยรู้สึกเหมือนถูกคุมขังอยู่ในจิตใจของตัวเองหรือเปล่า? คุณมักจะนึกถึงแต่สถานการณ์แย่ๆซ้ำไปซ้ำมาหรือเปล่า?
หากคำตอบคือ ใช่ งั้นเราก็พร้อมที่จะช่วยเหลือคุณแล้ว
การคิดหมกมุ่นหรือการย้ำคิดย้ำทำมีลักษณะไม่ต่างจากกงล้อหนูแฮมสเตอร์ หรือแผ่นเสียงตกร่องที่เอาแต่เล่นเพลงเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำอีก ต่อให้ชีวิตกำลังดำเนินไปได้สวยพวกเราก็ยังมีแนวโน้มที่จะคิดหมกมุ่นอยู่ดี ราวกับว่าสมองจดจำได้แต่ประสบการณ์แย่ๆและสลัดความคิดดีๆออกไป พฤติกรรมเช่นนี้อาจก่อให้เกิดปัญหาได้เนื่องจากสมองจะไม่สนใจวิธีแก้หรือมุมมองใหม่ๆ ในการรับมือกับสถานการณ์แต่จะสร้างความรู้สึกในแง่ลบออกมาเพียงอย่างเดียว งั้นลองพิจารณาวิธีเหล่านี้เพื่อลดความรู้สึกตึงเครียดลง
1. เพิ่มการตระหนักรู้ให้มากขึ้น ❤
ขั้นตอนแรกในการเปลี่ยนพฤติกรรมทุกอย่างคือเราต้องมีสติกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราต้องจดจำรูปแบบของตัวเองก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงมัน เมื่อคนเรากระทำสิ่งใดซ้ำๆ สิ่งนั้นก็จะกลายเป็นนิสัยที่ถูกสร้างขึ้นเช่นเดียวกับการกัดเล็บหรือการติดโซเชียลมีเดียทุกๆนาที โดยที่คุณไม่รู้ตัว ครั้งหน้าถ้าคุณเริ่มรู้สึกตัวว่ากำลังคิดหมกมุ่น จงสั่งว่า หยุด! และขจัดมันทิ้งไปซะ
2. พูดออกมา ❤
เมื่อคุณตกอยู่ในวังวนของการคิดหมกมุ่น เช่น ความผิดพลาดในที่ทำงาน ความสัมพันธ์กับคนรัก การทะเลาะกับเพื่อน หรือการใช้ชีวิตที่ไม่ตรงกับความปรารถนาของตัวเอง เป็นต้น คุณก็อาจรู้สึกกลัวว่าจะมีสิ่งที่ไม่ดีกำลังเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม พยายามสรุปความคิดของคุณให้เหลือเพียงประโยคเดียว เช่น "ฉันกลัวว่าจะตกงาน" หรือ "ฉันโกรธที่เพื่อนทำตัวไม่ดีกับฉัน" เพื่อให้ตัวเองรู้ถึงปัญหาที่แท้จริงและสามารถควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้
3. ฝึกตั้งสติ ❤
คนส่วนใหญ่มักจะเอาแต่นึกถึงความผิดพลาดในอดีตหรือเป็นห่วงอนาคตในวันข้างหน้ามากกว่า แทนที่จะใช้เวลาอยู่กับปัจจุบัน การฝึกตั้งสติจะช่วยทำให้เราลดพฤติกรรมการคิดหมกมุ่น และเพิ่มความตระหนักรู้ในตนเองมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น
คราวหน้าถ้าคุณกำลังรับประทานอาหารมื้อเที่ยง พยายามห้ามตัวเองไม่ให้เช็คอีเมล (หรือสื่อโซเชียลอื่นๆ) แต่จงใส่ใจกับสิ่งที่คุณเห็น จงฟังเสียง ดมกลิ่น สัมผัส และลิ้มรสชาติของมัน เพื่อระลึกถึงช่วงเวลาปัจจุบัน
4. รู้จักยอมรับ ❤
จงให้เวลากับตัวเองในการคิดถึงต้นตอของความวิตกกังวลทั้งหมด และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อยอมรับสถานการณ์เหล่านั้น ฉันรู้ว่ามันยาก แต่ความเจ็บปวดและความทรมานเหล่านั้นจะยิ่งแย่ลงไปอีก เนื่องจากความคิดของเราเอง ดังนั้นจงยอมรับในสภาพปัจจุบันและเลิกพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ลองถามตัวเองว่า "ตอนนี้ฉันสามารถทำอะไรได้บ้างไหม?" หากคำตอบคือไม่ก็จงยอมรับมัน หายใจเข้าลึกๆและทำในสิ่งที่คุณมีความสุข แต่ถ้าคำตอบคือใช่ก็ลงมือทำได้เลย
5. กำหนดเวลาพักและคลายเครียด ❤
ฉันมักจะได้ยินคนอื่นพูดว่าพวกเขานอนไม่หลับเพราะไม่สามารถทำให้จิตใจสงบลงได้ ขณะที่ฉันก็รู้สึกเหนื่อยและปัญหาเหล่านั้นก็ทำให้ฉันเครียดอยู่ตลอดเช่นกัน หลังจากที่ลองผิดลองถูกมาสักพักหนึ่งฉันก็พบว่าการให้เวลาตัวเองในการคิดเรื่อยเปื่อย ประมาณ 15-30 นาทีทำให้ฉันรู้สึกค่อยยังชั่วขึ้น ส่วนในตอนกลางคืน หากฉันเริ่มคิดมากก็จะบอกกับตัวเองว่า "ตอนนี้เราแก้ปัญหาอะไรไม่ได้หรอก นอนเถอะไว้ค่อยคิดใหม่พรุ่งนี้แล้วกัน"
ฉันรู้ว่าวิธีเหล่านี้ไม่ง่ายเลยแต่เราก็สามารถลงมือทำได้ไม่ใช่เหรอ? ไม่ว่าอะไรก็ต้องอาศัยการฝึกฝน ความขยันหมั่นเพียร และการรู้จักรักตัวเอง อย่าลืมว่าคุณไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างในคราวเดียวและอย่ารู้สึกว่าตัวเองล้มเหลว เพียงเพราะว่ารู้สึกกลัวหรือวิตกกังวล เนื่องจากความกลัวและความวิตกกังวล ก็เป็นเรื่องปกติทั่วไป อย่างไรก็ตามหากพฤติกรรมการคิดหมกมุ่น กำลังแทรกแซงชีวิตของคุณอยู่ก็ควรมองหาทางช่วย ดังนั้น การบำบัดและรับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการประยุกต์ใช้เคล็ดลับเหล่านี้
Blogger : Jodee Virgo (https://www.jodeevirgo.com/) Source : theeverygirl.com (https://theeverygirl.com/5-tips-to-stop-obsessive-thinking) แชร์จาก : https://issue247.com/life/tips-to-stop-obsessive-thinking/
Create Date : 23 กรกฎาคม 2559 |
|
0 comments |
Last Update : 27 มีนาคม 2561 22:40:51 น. |
Counter : 1391 Pageviews. |
|
|
|