งาน งาน และ งาน จำได้ว่าเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา กระแสข่าวของน้าแน็ค-เกตุเสพย์สวัสดิ์ฯ เป็นเรื่องนึงในบรรดาสารพัดข่าวสาร ที่ทำให้ตัวเองแปลกใจอยู่เหมือนกัน ว่า เอ๋อ...ทำไม ยังไง จู่ ๆ ออกมาประกาศประหนึ่ง กำลังทุบหม้อข้าวตัวเอง ในเรื่องหน้าที่การงาน แต่ก็ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด ตามประสาคนไม่คลั่งไคล้ดารา หรือตามกระแสอะไรมากนักในบางโมเม้นท์ พอมีโอกาสเสวานาพาทีกับน้องๆ หนึ่งในหัวข้อที่เม้าท์มอย ก็เป็นเรื่องของ "น้าเน็ค" ที่ดูจากการให้สัมภาษณ์ เขาให้เหตุผลอะไรบ้างในการออกมากู่ร้องให้ก้องสังคมไทย จากที่ฟัง ไผ่ว่า...ไผ่เข้าใจอารมณ์ของเขามากเลยอ่ะ เป็นสิ่งที่...บางครั้ง มันอาจจะเกิดกับหลาย ๆ คนที่กำลังทำงาน อย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ และเชื่อว่า เหตุการณ์แบบนี้ หลาย ๆ คนอาจจะเผชิญอยู่แบบไม่รู้ตัว หรือรู้ตัว แต่ไม่รู้จะหยุดสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง เหมือนรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงๆ ถ้าเหยียบเบรคแบบกระทันหัน มันคงทำให้รถคว่ำได้ง่าย หรือไม่คงหัวทิ่มหัวตำ เจ็บตัวกันไปเลยทีเดียว การทำงานแบบกินบุญเก่า การทำงานที่ขายสิ่งที่ตัวเองเคยเป็น การทำงานโดยขายไอเดียเดิม และสิ่งเดิม ๆ ก็เหมือนแบตเตอร์รี่ ที่โดนใช้งานไปทุก ๆ วัน โดยไม่มีการ Re-Chraged เพิ่ม อย่างที่เขาให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เหมือนรถน้ำมันกำลังจะหมด ไม่มีสิ่งใหม่ ๆ ความรู้ใหม่ ๆ เข้ามาแทนที่ สักวันมันก็ต้องหมด หมดแบบไม่รู้ชะตากรรมว่าจะหมดตอนไหน คงเรียกว่า น็อคกันไปข้างนึง เพราะคนเราไม่ใช่เครื่องจักรที่จะใช้เวลา ตั้งแต่ตื่นนอน ไปจนถึงเวลาเข้านอนอีกครั้ง เพียงเพื่อทำงานๆๆ ...ผมนอนหลังตี 2 และออกจากบ้าน 7 โมงเช้าทุกวัน จริง ๆ ไม่เหนื่อย แต่อาจจะเป็นเพราะว่า พ่อฝึกให้ผมทำงานหนักตั้งแต่เด็ก แต่สิ่งที่อยู่ในหัวสมองมันถูกใช้ไปทุกวัน ไม่ได้มีโอกาสเติมเต็มเลย ผมก็เลยอยากมีโอกาสพักดู... ...สิ่งที่สะสมมาเริ่มร่อยหรอ ก็เลยอยากยุติเพื่อไปสะสมและมาทำใหม่... ...ผมอยากให้จุดประกายความคิดบางอย่างของคนในสังคม คนเราเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ เราไม่ควรจะยึดติดกับอะไรทั้งนั้น ส่วนระยะเวลาในการพักงาน ผมตอบไม่ได้จริง ๆ... ชีวิตมันมีสัดส่วนที่มากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความฝัน ครอบครัว คนรอบข้าง สังคมที่เราอยู่ เพียงความสุข สงบเล็ก ๆ ที่ได้อยู่กับตัวเอง ใจของตัวเองและสิ่งรอบข้าง เพราะเราไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาลย์ หรือแม้กระทั่งของโลก บางครั้ง ในการทำงาน "เงิน" ก็ไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกสิ่ง หากการทำงานนั้น ขาดแรงบันดาลใจและเป้าหมายที่ชัดเจน และไม่สามารถตอบสนองความต้องการหลักในใจเราได้ จริงอยู่ว่า ถ้าไม่มีเงินในยุคนี้สมัยนี้ จะอยู๋ได้อย่างไร คำตอบที่มี อาจจะฟังดูแฟนตาซ๊ไปสักหน่อย แต่...มันทำได้ ..."อยู่อย่างพอเพียง" ไง... มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่สุดจะมหัศจรรย์ ที่สามารถดึงศักยภาพของตัวเอง ออกมาได้ ขึ้นอยู่ที่ว่า จะทำหรือไม่...ก็เท่านั้น เคยฟังนิทานเรื่องหนึ่งที่ท่านอาจารย์สุเทพ อัตถากร (อดีตรมต.ทบวงมหาวิทยาลัย) ถ่ายทอด เป็นเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐีวัยดึกคนหนึ่งที่เดินทางไปพักร้อนชายทะเล และได้คุยกับชาวประมงหนุ่มงที่นั่งตกปลาอยู่ที่สะพานปลา เศรษฐีเห็นชาวประมงตกปลาได้จำนวนมากก็ชวนคุย เศรษฐี ; โอ้...คุณตกปลาได้เยอะจัง แถวนี้แสดงว่าปลาคงชุม ชาวประมง ; ครับ ที่นี่ทะเลยังสะอาด โรงงานอุตสาหกรรมยังไม่เยอะ สิ่งแวดล้อมก็ยังไม่เสียมาก ทุกวันจะได้ปลาแบบนี้เสมอ เศรษฐี ; แล้วถ้าออกเรือไปกลางทะเล จะไม่เยอะกว่านี้เหรอ? ชาวประมง ; ก็เยอะนะครับ ได้มาทีก็เต็มลำหล่ะมั้ง เศรษฐี ; อ่าว...แล้วทำไมคุณไม่ออกเรือไปหาล่ะ มานั่งใช้เบ็ดตกแบบนี้ก็ได้นิดเดียว ถ้าเป็นผม ๆ จะออกเรือไปจับปลากลางทะเล คุ้มกว่าอีก ชาวประมง ; ได้มาเยอะแล้วคุณจะทำยังไงต่อหล่ะ เศรษฐี ; อ่าว...ได้มาเยอะๆ ผมก็จะเอาไปขายหน่ะสิ ...เศรษฐีตอบ พลางคิดในใจดูถูกสติปัญญาของชาวประมงที่ช่างไม่รู้อะไรเลย ชาวประมง ทำหน้าซื่อแล้วถามต่อ ; ขายได้แล้วยังไง เศรษฐี ; ขายได้แล้วก็ค่อย ๆ เก็บเงินไว้ ทำไปเรื่อย ๆ ขยายกิจการไง คุณนี่ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการทำธุรกิจเลยหรือไงนะ ชาวประมง ; ผมไม่ทราบเรื่องธุรกิจที่คุณว่าจริง ๆ นั่นแหละครับ...ถ้าขยายธุรกิจได้แล้วยังไงต่อ เศรษฐีได้ที โชว์ภูมิพลางเย้ยหยัยชาวประมง ; ก็ขยายเสร็จ ก็ซื้อเรือเพิ่ม พอได้เรือเพิ่มก็ขยายกิจการเป็นล่ำเป็นสัน ถ้าทำธุรกิจเจริญรุดหน้าไปได้เรื่อย ๆ ก็เปิดเป็นบริษัทมันซะไงหล่ะ ฮ่าๆๆ... ชาวประมงทำหน้าทึ่งในความคิดนั้น และถามต่อ...; แล้วเปิดบริษัทแล้วยังไงต่อ เศรษฐี ; เฮ้อไอ้หนุ่ม...เอางี้ ผมจะแนะนำให้แบบม้วนเดียวจบเลยนะ ถ้ากิจการคุณมันเจริญรุ่งเรืองถึงขั้นที่เปิดเป็นบริษัทได้จริง ๆ แล้ว คุณก็ขยายมันอีก พอรากฐานในบริษัทคุณมันแข็งแรง คุณก็ขยายกิจการไปเรื่อย ๆ เปิดสาขาไปยังเมืองต่าง ๆ ประเทศต่าง ๆ ถ้าเป็นไปได้อ่ะนะ ซึ่งผมมองว่าเป็นไปได้มาก พอกิจการขยายไปลงทุนในต่างประเทศได้ คุณก็จะได้กำไรมากขึ้น ทำนั่นทำนี่ ขยายโอกาสให้ตัวคุณเองได้สบาย ๆ ถ้าไปถึงจุดนั้นได้ ครอบครัวคุณก็สบาย มีกินมีใช้ไม่มีวันหมด บ้านช่องใหญ่โต มีทุกอย่างที่ต้องการ พอคุณอายุสัก 50-60 คุณก็ปลดเกษียณตัวเองได้แล๊ววว ตอนนี้ผมเดาว่า คุณคงอายุไม่เกิน 30 ปี ถ้าคุณเริ่มกิจการตอนนี้นะ ผมว่า คุณใช้เวลาไม่นานหรอกเอ่อ...ว่าแต่...คุณสนใจไอเดียที่ผมแนะนำไหม ผมคุยกับคุณแล้วรู้สึกถูกชะตา ชาวประมง ; ก็...สนใจนะครับ แต่..ขอถามสักนิด ว่า..ถ้าคุณเป็นผม เมื่อเกษียณ คุณจะทำอะไรต่อไปหล่ะครับ เศรษฐี ; อื่มมม...ก็...อาจจะหางานอดิเรกอะไรทำหล่ะมั้ง ไปเที่ยวทะเล ภูเขา เดินป่า ตั้งแคมป์ หรือ...อาจจะนั่งตกปลาอย่างที่คุณทำอยู่นี่ไงหล่ะ ฮ่าๆๆ ชาวประมง ; อ่อ...ถ้านั่นเป็นกระบวนการในการทำธุรกิจที่ท่านว่า มันคงเกินกว่าสติปัญญาของผมจะคาดคิดได้จริง ๆ แต่...ผมไม่เข้าใจว่า มันดีตรงไหน ในเมื่อสิ่งที่ท่านคิดจะทำให้อีก 30 ปีข้างหน้านั้น ตอนนี้ผมกำลังทำมันอยู่ ทำไมผมต้องเสียเวลาถึง 30 ปี เพื่อที่จะมีชีวิตที่มีความสุขในอนาคต ในเมื่อขณะนี้ ผมและครอบครัวของผมก็มีมันอยู่แล้ว เศรษฐี ; ........... สำหรับเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ วัยทำงานทุกท่านเป็นยังไงกันบ้างคะ ได้นั่งตกปลาแบบชาวประมงกันหรือยังเอ่ย หรือกำลังอยู่ในทะเลเพื่อจับปลาได้เยอะๆกันอยู่ ไม่ว่าจะอยู่ในจังหวะไหนของชีวิต อย่าลืมที่จะมีความสุขกับมัน เพราะเราไม่รู้ว่า พรุ่งนี้ จะเป็นยังไง ว้าววววววววว คมสมชื่อ บาดลึกจริงๆ
โดย: ผัดไทเส้นหมี่ วันที่: 30 มกราคม 2555 เวลา:21:36:06 น.
สวัสดีค่ะคุณไผ่
มีความสุขกับทุกๆวัน ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะอาจจะไม่มีพรุ่งนี้สำหรับเรา โดย: pantawan วันที่: 30 มกราคม 2555 เวลา:21:39:16 น.
ช่วงนี้พี่ก๋าก็มีแต่งาน งาน งาน
และงานครับ 555 เลยไม่ได้ไปทักทายเพื่อนบล้อกเลย โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มกราคม 2555 เวลา:21:41:52 น.
คนเราทำงานเพื่ออนาคตโดยหารู้ไม่ว่า
อนาคตคือความไม่แน่นอนนะครับพี่ ราตรีสวัสดิ์ครับ โดย: Don't try this at home. วันที่: 30 มกราคม 2555 เวลา:22:48:55 น.
ปายก็มีโอกาสได้อ่านบทสัมภาษณ์ของน้าเน็คนะคะพี่ไผ่
ก็ได้เห็นบางมุมในความคิดของน้าเน็ค แล้วรู้สึกอิจฉาที่เค้าอยากทำ อะไรก็ได้ คนเราอาจมีความฝันได้หลายอย่าง บางอย่างทำไปพร้อม ๆ กันได้ แต่บางอย่าง...อาจต้องแลกด้วย บางสิ่งบางอย่าง ไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ อยู่แล้วนี่โน๊ะพี่ไผ่ ก็ไม่แปลกจนเกินไป ที่เค้าจะหยุดเดินในเส้นทางสายหนึ่ง เมื่อเค้ามองเห็นปลายทางอยู่ลิบ ๆ แล้ว ขณะเดียวกันยังมีเส้นทางอีกสายหนึ่ง ดูกว้างกว่า สองข้างทาง น่าสนใจกว่า แล้วน้าเน็คก็มั่นใจแล้วด้วยว่ามันไม่เสี่ยงอะไร ไปต่อมีแต่จะดีขึ้นแน่ ๆ มันน่าท้าทายน้อยเสียเมื่อไหร่ ถ้าวันหนึ่งมีสิทธิ์หรือโอกาสทำอย่างนั้นบ้าง...ก็คงดี ... ... คนหาปลา อ่านแล้วก็ชอบ เออ...วันนี้ชอบทั้งบล็อกเลย อิอิ ... ... คุณพี่จะนอนรึยังคะ ปายส่งเข้านอนเลยแล้วกันน๊า ฝันดีเจ้าค่ะ ^<" โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 31 มกราคม 2555 เวลา:1:05:10 น.
พี่ขอเม้นท์ในบล็อกนี้ดีกว่าว่าชอบแนวคิดของน้าเน็คมากเลย ตอนแรกที่ยังไม่แถลงข่าว ก็ยังงงๆ ว่าบ้าหรือเปล่าวะ ยังหนุ่มแน่น งานกำลังเข้า จะว่าถูกลอตเตอรี่ต่างประเทศที่มีเงินเป็นพันล้านก็ไม่ใช่ แต่พอได้รับทราบจากที่เขาพูดตอนแถลงข่าว จึงเข้าใจ และแอบชมอยู่ในใจว่ายอดจริงๆ
คนจำนวนมากที่เผชิญกับเรื่องราวเรื่องงานอย่างน้าเน็ค เบื่ออยากลาออกใจจะขาด แต่ทำไม่ได้ เพราะถ้าออกไปก็ไม่รู้จะทำอะไร จึงต้องอยู่ทนทำไปจนถึงที่สุดนั่นละ โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:22:02:31 น.
|
คมไผ่
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?] Q ; เป็นคนแบบไหน A ; เป็นได้ทุกแบบ ขึ้นอยู่ที่ว่า...เป็นกับใคร และเป็นเมื่อไหร่ แล้วแต่สถานการณ์ค่ะ เป็นนางฟ้าก็ได้ นางมารก็ได้ แล้วแต่ว่าใครจะมาด้วยแบบไหน Q ; ให้นิยามกับตัวเองว่าอะไร A ; ทะเล...(มั้ง) ได้บรรยากาศหลากหลายดี นิ่ง ๆ สงบ ๆ ก็ได้ ชิว ๆ ก็ได้ แต่...ถ้ามีองค์ประกอบอื่นก็...ตามนั้น Q ; เหมือนจะน่ากลัวนะเนี๊ยะ A ; อย่ากลัวเล้ย บ้าบอไปงั้นแหละ ฉีดยาเรียบร้อยแล้ว ไม่นิยมกัดใครก่อนอยู่แล้น หุหุ โพสต์ได้ เม้นท์ได้ ด่าได้(แต่อาจมีสวนเล็ก ๆ คริๆ)
Group Blog All Blog
Friends Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |