|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
มู่ชี (牧谿) สมณจิตรกร : หาความหมายในภาพชุด "ไตรภาคี " แห่งวัดเซน
.
.
.
.
สวนหินแบบเซนที่ เรียวเง็น-อิน(龍源院) วัดไดโทขุจิ (大德寺) เกียวโต
.
.
ในบรรดาสมณจิตรกรชาวจีนที่โด่งดังในญี่ปุ่น นอกจากท่าน เหลียงข่าย (เรียวไก 梁楷 Ryokai) แล้ว ท่าน มู่ชี (มกเค 牧谿 Mokkei) ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่ในแวดวง นิกายธยาน (เซน 禪 Ch'an) ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
ในครั้งนี้จึงขอแนะนำภาพอันงดงามของท่าน มาให้เพื่อนชมกันครับ
.
.
เชิญครับ
นกกะเรียน---------พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์(กวนอิม)---------ชะนีอุ้มลูก
.
.
ท่าน มู่ชี หรือ มกเค มีฉายาว่า ฝ่าฉาง (法常) ซึ่งแปลว่า ธรรมนิตโย หรือ ธัมมนิจโจ มีชีวิตอยู่ราวปี พ.ศ.1753 - 1818 เป็นสมณจิตรกรในสมัยซ่งใต้ คาบเกี่ยวไปถึงต้นสมัยหยวน เดิมท่านแซ่หลี่ เป็นชาวเสฉวน เมื่อบวชแล้วได้ย้ายมาพำนักที่เมืองหลินอัน (ปัจจุบันคือเมืองหังโจว) อยู่วัดแถวๆทะเลสาบซีหู ซึ่งมีทัศนียภาพทิวทัศน์งดงามมาก
ท่านมู่ชีมีความสามารถในการวาดหลายแบบ ทั้งภาพคน สัตว์ และภาพทิวทัศน์(ซานสุ่ย)
ตอนอยู่ที่หังโจวท่านได้พบกับพระภิกษุเซนชาวญี่ปุ่นท่านหนึ่ง สังกัดนิกายรินไซ นามว่า เบงเง็น (辨圆 Ben' en พ.ศ.1745 - 1823 ) ท่านเบงเง็นมาถึงประเทศจีนเมื่อราวปี พ.ศ.1778 เพื่อจะมาศึกษา พระศาสนาที่ต้นแหล่งกำเนิดนิกาย เมื่อเบงเง็นกลับไปญี่ปุ่นก็ได้นำภาพเขียนฝีมือท่านมู่ชีไปด้วยจำนวนหนึ่ง และภาพเหล่านั้นก็เป็นที่ชื่นชมต้องรสนิยมชาวอาทิตย์อุทัยเป็นอย่างยิ่ง
ในประเทศจีนเองสมัยนั้นก็มิได้นิยมชมชื่นภาพวาดของท่านมู่ชีนัก ท่านมิได้มีชื่อเสียงสักเท่าไร เพราะค่านิยมของชาวจีนยุคนั้นชอบ จิตรกรที่เป็นนักปราชญ์ดังๆ . . . ต้องเก่งในทางบทกวีและสามารถ ในการเขียนลายมืออักษรศิลป์ด้วย ซึ่งท่านมู่ชีมิได้เก่งกาจในด้านนี้ ท่านจึงถูกจัดว่าเป็นแค่จิตรกรระดับรองเท่านั้น
มีนักวิจารณ์ศิลป์ทรงภูมิคนหนึ่งของสมัยซ่งชื่อ ทังเฮ่า (湯垕)
ได้กล่าวไว่ในหนังสือ "ประวัติศาสตร์การเขียนรูป" ว่า . . . .
"งานของมู่ชีวาดด้วยหมึก ร่างฉับไว แต่ดูดาดๆพื้นๆ ขาดคุณลักษณะแบบอย่างของการวาดสมัยเก่าก่อน"
ปัจจุบันทุกวงการยกย่องท่านมู่ชีว่าเป็นจิตรกรเอกของสมัยซ่งทีเดียว ผลงานส่วนใหญ่อยู่ในญี่ปุ่น แต่ละชิ้นได้รับการอนุรักษ์อย่างดี โดย ประกาศให้เป็น "มรดกศิลปกรรมแห่งชาติ" ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น แบบอย่างของการวาดแบบมีแรงบันดาลใจ ฝีพู่กันของท่านมีเอกลักษณ์ ที่ทรงพลังอย่างยิ่ง ซึ่งตกทอดมาให้คนรุ่นหลังอย่างพวกเราได้ชมกัน
.
.
.
ทีนี้จะกล่าวถึงภาพม้วนแขวนไตรภาคีชุดนี้
ปัจจุบันอยู่ที่วัด ไดโทขุจิ (大德寺 วัดมหาคุณธรรม) เมืองเกียวโต เป็นสมบัติตกทอดจากท่านโชกุน อะฉิคะกะ โยฉิมิสึ (足利義满 พ.ศ.1910 - 1938) เป็นรูปวาดด้วยหมึกบนผ้าไหม
.
.
ภาพขยายเดี่ยวให้เห็นรายละเอียด
พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (観音) ทรงเศวตภูษา ขนาด 174.2 ซม. x 98.8 ซม. รูปนี้มีลายเซ็นจิตรกรคือ 蜀僧法常謹製 (แปลว่า...ฝ่าฉาง ภิกษุจากเสฉวน วาดขึ้นด้วยความเคารพยิ่ง) พร้อมตราประทับ
.
.
นกกะเรียน (鶴) เดินออกมาจากดงไผ่ ขนาด 173.9 ซม. x 98.8 ซม. ไม่มีลายเซ็น แต่มีตราประทับ(ต่างจากตราที่รูปกลาง)
.
.
ชะนี (猿) อุ้มลูก ขนาด 173.9 ซม. x 98.8 ซม. ไม่มีลายเซ็น แต่มีตราประทับ(ต่างจากตราที่รูปกลาง)
.
.
ไม่มีคำอธิบายถึงความเกี่ยวพันของรูปทั้ง 3 ม้วนนี้ แต่มีคนบอกว่า เคยเห็นรูปภาพแบบนี้ประดับในวัดที่ประเทศจีน อย่างไรก็ตาม ยืนยันได้ว่าทั้ง 3 รูปนี้เป็นฝีมือที่แท้จริงของท่านมู่ชี
อย่างไรก็ตามครูดิ่งจะขอพยายามมั่ว ลากเอา "3 รูป ไตรภาคี" นี้มา หาความหมายที่เชื่อมโยงกัน . . ลองดูครับ 5 5 5 5 5 +
รูปชะนี มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนานิกายเซนคือ มีวลีที่ว่า " 猿 猱 捉月 " แปลว่า " ชะนีคว้า (เงา) พระจันทร์ (ในน้ำ) " มาจากคัมภีร์สันสกฤต "มหาสังฆิกวินัย" ซึ่งแต่งโดยพระภิกษุ ชาวอินเดียนาม พุทธภัทร ท่านได้จาริกไปจีนราว พ.ศ.951
ฝูงชะนีต่อตัวคว้าเงาจันทร์
หลวงจีนฝาเสี่ยน (法顯 พ.ศ.860 - 963) กล่าวถึงชะนีฝูงหนึ่งบนต้นไม้ เห็นเงาพระจันทร์ในน้ำจึงพยายามห้อยตัวจับกันเป็นโซ่ห่วงต่อตัวกันลง มาเพื่อจะคว้าจับเอาเงาพระจันทร์ในน้ำให้ได้ แต่แล้วกิ่งไม้ก็หักลงมา พากันจมน้ำตาย . . . อุปมานี้ท่านจึงสอนว่า ผู้ใดที่มีกิเลสตัณหาปรารถนา ในโลกียะนั้นเปรียบประดุจดังผู้พยายามไขว่คว้าในมายาสมมุติอันเป็นสิ่ง ล่อให้หลงใหล มองข้ามถึงสิ่งที่เป็นอยู่ในตัวตนอันแท้จริง ซึ่งมีคุณค่าใน ตัวเองอย่างพอเพียงอยู่แล้ว
เป็นอันว่ารูปชะนีนี้จึงเกี่ยวพันกับพุทธนิกายเซนด้วยประการฉะนี้ เพื่อนๆถ้าหากเห็นหรือได้ยินเสียงชะนีร้องโหยหวนเมื่อใด ขอให้ระลึก ถึงอุปมาในสิ่งที่ท่านหลวงจีนสอนเตือนใจเอาไว้ด้วยก็คงไม่เสียหลาย
ภาพชะนีอุ้มลูกของท่านมู่ชี (ขยาย)
ชะนีที่เห็นในภาพของมู่ชีนี้เป็นพันธุ์ที่มีขนสีดำทั้งต้ว ยกเว้นรอบวงหน้า เป็นขนสีขาว ชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Hylobates agilis (ชะนีมือดำ) บางสายพันธุ์มีขนสีเทา เหลืองทอง หรือ ขาวเงิน แหล่งที่พบมากอยู่ แถบสุมาตรา คาบสมุทรมาเลย์ และภาคใต้ของไทย
.
.
....................................................
รูปนกกะเรียนนั้น ที่พอจะลากมาพัวพันได้คือ . . . ในประวัติของ ท่านเว่ยหล่าง หรือ ฮุ่ยเหนิง (惠能 ญี่ปุ่นเรียก เอโน) ผู้เป็นครูบาใหญ่ หรือสังฆปรินายกองค์ที่ 6 สายจีน กล่าวถึงก่อนที่ท่านจะจุติกำเนิด . . .
กะเรียนคู่โบยบิน
ปี พ.ศ.1181 มารดาของท่านฝันว่า มีนกกะเรียนคู่หนึ่งมาบินวนอยู่บนท้อง ฟ้าเหนือหลังคาบ้าน ดอกไม้หน้าบ้านบานขาวสะพรั่งหอมตระหลบ นางตื่น ขึ้นและรู้สึกว่าได้ตั้งครรภ์แล้ว จึงเกิดปสาทะตั้งใจถือศีลกินเจนับแต่นั้นมา
เมื่อขณะคลอดก็เกิดอัศจรรย์มีแสงสว่างปภัสสรออกจากบ้านบรรเจิดจ้า กลิ่นสุคันธชาติหอมอบอวล ครั้นรุ่งเช้าก็มีพระภิกษุอาคันตุกะ 2 รูปมาบอก ว่า บุตรชายที่เกิดมานั้นเป็นผู้มีบุญญาบารมี ขอให้ชื่อว่า"ฮุ่ยเหนิง" มีความหมาย "ฮุ่ย" หมายถึง....นำเอามหาสัจธรรมเผื่อแผ่โปรดสรรพสัตว์ทั้งหลาย "เหนิง" หมายถึง....สามารถนำสรรพสัตว์ปฏิบัติตามกิจแห่งพระพุทธองค์ นี่คือเริ่มต้นชีวประวัติของพระสังฆปรินายกองค์ที่ 6 แห่งนิกายเซน ฉะนี้
กะเรียนคู่โบยบิน
ความจริงนกกะเรียนนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมงคลหลายๆอย่าง โดยเฉพาะ..."การมีอายุยืนยาว และ ความซื่อสัตย์" ซึ่งทางจีนและญี่ปุ่น จะวาดรูปนกกะเรียนคู่กับต้นสน กะเรียนคู่ ใช้เป็นลวดลายต่างๆประดับ ของใช้ เสื้อผ้า ถือว่านำมาซึ่งความสุขทั้งสิ้น
นกกะเรียนหงอนแดง (丹頂鶴 Red-crowned crane) มีชื่อทางวิทยา ศาสตร์ว่า Grus japonensis ชื่อสามัญคือ นกกะเรียนญี่ปุ่น (Japanese crane) หรือ นกกะเรียนแมนจูเรีย (Manchurian crane)...จีนจะน้อยใจมั้ยเนี่ย
กะเรียนควงคู่เต้นรำ
เป็นนกที่สวยสง่างามมาก ทั้งรูปร่าง ท่าทางบิน การเต้นรำเกี้ยวพาราสีกัน หงอนสีแดงจัดเป็นวงกลางศีรษะตัดกับสีขนขาวโพลนทั้งตัว ยกเว้นขนปีก ด้านชิดลำตัว สีออกดำสนิท งอกยาวคลุมหางยามหุบปีก เสียงนั้นก็ก้อง กังวานดังอย่างที่ไทยเราเรียกว่า "โกญจนาท" เป็นนกที่รักเดียวใจเดียว ครองคู่กันจนตายจากกัน
นักปักษิณวิทยาหนุ่มผู้มากความสามารถชาวบล๊อกแกงค์ท่านหนึ่งคือ คุณต้น อายุวัต (Unravel) ได้เคยถ่ายภาพนกกะเรียนพันธุ์นี้จากแถว ฮอกไกโด งดงามมาก . . . เชิญตามไปชมได้ ตามลิ้งค์ทั้งสามนี้ครับ
//unravel-photo.blogspot.com/2010/02/east-hokkaido-trip-i.html
//unravel-photo.blogspot.com/2010/02/east-hokkaido-trip-ii.html
//unravel-photo.blogspot.com/2010/02/finally-here.html
(ขออนุญาตคุณต้นไว้ตรงนี้ด้วยละกัน)
..................
ท่านสมณจิตรกรมู่ชี มีความสามารถอย่างยิ่งที่จะถ่ายทอดอิริยาบทของสัตว์ เป็นธรรมดาที่ชาวเสฉวนจะได้สัมผัสกับป่าอันอุดม (เป็นแหล่งของสัตว์ป่า เช่น หมีแพนด้า ฯลฯ) และเมื่อท่านบวชเป็นพระภิกษุได้ธุดงค์ไปตามป่าเขา ประสบการณ์จริงของท่านจึงนำมาสำแดง ออกทางผลงานจิตรกรรมได้อย่างวิเศษที่สุด ยืนยันได้จากรูปชุด " ไตรภาคี " ทั้ง 3 นี้
สำหรับรูปกลางคือ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (กวนอิม) ทรงเศวตภูษา นั้น เปี่ยมด้วยเมตตากรุณาคุณบนพระพักตร์ ทรงประทับนั่งขัดสมาธิบนโขดศิลา ริมธาร ละไอหมอกปกแผ่คลุมดูชุ่มชื้น ฝีพู่กันอันเฉียบชาญของท่านมู่ชีได้ โน้มน้าวให้เรารู้สึกราวกับได้เฝ้าอยู่เบื้องพระพักตร์พระโพธิสัตว์ . . . สาธุ !
.
.
ขอลงท้ายรูปด้วยงานของท่านมู่ชี ซึ่งโด่งดังมาก
คือรูป " ลูกพลับ 6 ลูก " (六柿圖)
ซึ่งมีสีสัน รูปพรรณสัณฐานแตกต่างกัน . . วาดด้วยหมึกบนกระดาษ
ดังอย่างไร ? ? ? ? ? ?
ผมขอใส่ อัศเจรีย์ไว้ 6 อัน . . . รบกวนท่าน ห า คำตอบเองขอรับ . .
รูปนี้อยู่ที่ เรียวโก-อิน(龍光院) ในวัดไดโทขุจิ (大德寺) เมืองเกียวโต
ใครได้คำตอบว่ายังงัย . . . ส่ ง คำ ต อ บ . . มาเผื่อแผ่ผมมั่งเน้อคร้าบ
.................................................................
สำหรับเพลงไพเราะคราวนี้ขอเสนอฝีมือการบรรเลงของ เหวินซุง (文松) เขาเป็นทั้งนักดนตรีและนักประดิษฐ์ขลุ่ยด้วย เป็นการเดี่ยวขลุ่ยจีนที่เรียกว่า "ต้งเซียวแบบสมัยถัง 唐洞簫"( หรือ ถังซาขุฮะฉิ 唐尺八 ) ในเพลง ชิวเจียงเย่ป๋อ (秋江夜泊 จอดเรือยามราตรีที่ริมแม่น้ำยามฤดูศารท)
ขอขอบคุณ You Tube ที่ได้นำเพลงเพราะๆให้เราได้ชมและฟังเสมอมา
............................................................
โอกาสหน้าพบกันใหม่ สวัสดีครับ
Create Date : 28 สิงหาคม 2554 |
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2554 23:43:37 น. |
|
89 comments
|
Counter : 6759 Pageviews. |
|
|
|
โดย: yyswim วันที่: 28 สิงหาคม 2554 เวลา:1:07:11 น. |
|
|
|
โดย: หมีปุ๊ วันที่: 28 สิงหาคม 2554 เวลา:10:42:23 น. |
|
|
|
โดย: Polarbee วันที่: 28 สิงหาคม 2554 เวลา:19:42:34 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 28 สิงหาคม 2554 เวลา:22:30:45 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 สิงหาคม 2554 เวลา:6:22:32 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 สิงหาคม 2554 เวลา:6:23:40 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 สิงหาคม 2554 เวลา:6:30:15 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 สิงหาคม 2554 เวลา:9:12:03 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 สิงหาคม 2554 เวลา:6:24:43 น. |
|
|
|
โดย: buraneemeo วันที่: 1 กันยายน 2554 เวลา:0:05:05 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 กันยายน 2554 เวลา:6:30:59 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 1 กันยายน 2554 เวลา:22:24:32 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 กันยายน 2554 เวลา:6:16:34 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 กันยายน 2554 เวลา:6:47:25 น. |
|
|
|
โดย: buraneemeo วันที่: 3 กันยายน 2554 เวลา:21:56:11 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:6:28:09 น. |
|
|
|
โดย: mastana วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:14:45:34 น. |
|
|
|
โดย: Dingtech วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:23:23:21 น. |
|
|
|
โดย: go far far วันที่: 5 กันยายน 2554 เวลา:5:36:15 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กันยายน 2554 เวลา:6:26:11 น. |
|
|
|
โดย: go far far วันที่: 5 กันยายน 2554 เวลา:22:43:47 น. |
|
|
|
โดย: mastana วันที่: 6 กันยายน 2554 เวลา:9:23:58 น. |
|
|
|
โดย: Bkkbear วันที่: 6 กันยายน 2554 เวลา:14:21:52 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 6 กันยายน 2554 เวลา:20:24:58 น. |
|
|
|
โดย: หมีปุ๊ วันที่: 6 กันยายน 2554 เวลา:23:52:50 น. |
|
|
|
โดย: ongard IP: 61.90.8.191 วันที่: 7 กันยายน 2554 เวลา:12:42:11 น. |
|
|
|
โดย: Polarbee วันที่: 7 กันยายน 2554 เวลา:15:08:21 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 7 กันยายน 2554 เวลา:22:15:29 น. |
|
|
|
โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 7 กันยายน 2554 เวลา:22:58:23 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กันยายน 2554 เวลา:6:36:38 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กันยายน 2554 เวลา:23:02:57 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กันยายน 2554 เวลา:6:02:03 น. |
|
|
|
โดย: panwat วันที่: 9 กันยายน 2554 เวลา:8:07:53 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กันยายน 2554 เวลา:8:27:11 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 9 กันยายน 2554 เวลา:21:28:31 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 กันยายน 2554 เวลา:6:24:25 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 12 กันยายน 2554 เวลา:21:41:01 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 กันยายน 2554 เวลา:6:17:08 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 13 กันยายน 2554 เวลา:23:13:49 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 กันยายน 2554 เวลา:6:23:10 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 กันยายน 2554 เวลา:6:08:55 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 15 กันยายน 2554 เวลา:17:35:46 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 กันยายน 2554 เวลา:6:03:05 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 กันยายน 2554 เวลา:6:50:14 น. |
|
|
|
โดย: go far far วันที่: 17 กันยายน 2554 เวลา:9:52:10 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 17 กันยายน 2554 เวลา:14:41:05 น. |
|
|
|
โดย: Bkkbear วันที่: 18 กันยายน 2554 เวลา:12:38:25 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 19 กันยายน 2554 เวลา:19:43:02 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 21 กันยายน 2554 เวลา:18:21:23 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 26 กันยายน 2554 เวลา:21:09:30 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 27 กันยายน 2554 เวลา:18:15:11 น. |
|
|
|
โดย: Bkkbear วันที่: 27 กันยายน 2554 เวลา:20:52:14 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 28 กันยายน 2554 เวลา:20:39:23 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 30 กันยายน 2554 เวลา:17:25:28 น. |
|
|
|
โดย: go far far วันที่: 2 ตุลาคม 2554 เวลา:10:25:30 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 ตุลาคม 2554 เวลา:6:09:06 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 3 ตุลาคม 2554 เวลา:13:47:05 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 ตุลาคม 2554 เวลา:6:22:04 น. |
|
|
|
โดย: panwat วันที่: 4 ตุลาคม 2554 เวลา:22:57:51 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 ตุลาคม 2554 เวลา:6:11:31 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 ตุลาคม 2554 เวลา:6:23:02 น. |
|
|
|
โดย: go far far วันที่: 8 ตุลาคม 2554 เวลา:10:45:20 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 11 ตุลาคม 2554 เวลา:23:14:20 น. |
|
|
|
โดย: เฮียตี๋น้อย วันที่: 16 ตุลาคม 2554 เวลา:4:45:37 น. |
|
|
|
โดย: เฮียตี๋น้อย วันที่: 16 ตุลาคม 2554 เวลา:4:48:33 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 17 ตุลาคม 2554 เวลา:21:27:06 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 18 ตุลาคม 2554 เวลา:22:34:03 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 21 ตุลาคม 2554 เวลา:17:29:43 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 ตุลาคม 2554 เวลา:6:12:53 น. |
|
|
|
โดย: Unravel วันที่: 27 ตุลาคม 2554 เวลา:16:40:55 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 1 พฤศจิกายน 2554 เวลา:19:25:25 น. |
|
|
|
โดย: Unravel วันที่: 5 พฤศจิกายน 2554 เวลา:18:12:51 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 7 พฤศจิกายน 2554 เวลา:15:14:38 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:6:05:48 น. |
|
|
|
โดย: Bkkbear วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:35:32 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 19 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:30:04 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 22 พฤศจิกายน 2554 เวลา:23:34:03 น. |
|
|
|
โดย: namfaseefoon วันที่: 25 พฤศจิกายน 2554 เวลา:21:10:01 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 26 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:39:33 น. |
|
|
|
โดย: panwat วันที่: 26 พฤศจิกายน 2554 เวลา:19:11:24 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 28 พฤศจิกายน 2554 เวลา:23:01:43 น. |
|
|
|
โดย: panwat วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:39:53 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]
|
◉ ภุมราท้าโลกกว้าง . . เกินฝัน
หวังวาดสู่สวรรค์ . . . . . เวิกโพ้น
แท้คืนสู่สามัญ . . . . . . มละตื่น
ยังฉงนงวยโงกโง้น . . . .โง่ตื้นลืมตาย ฯ
Dingtech :
ผมเป็นคนธรรมดา ธรรมดา มาจากบ้านนอก รักศิลปะทุกชนิด ทุกรูปแบบ ทุกสัญชาติ
รักชาติไทย รักประเทศไทย รักคนไทยทุกคน จงรักภักดี และ เคารพสักการะพระมหากษัตริย์ไทย
ยินดีแลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆทุกคนครับ
since 16 December 2009
|
|
|
|
|
|
|
|
ขออนุญาตเพิ่มรูปอีกรูปครับคุณดิ่ง
ขอให้เดินทางไปกลับปลอดภัย เจอหนังสือดี ๆ และเจอมิตรนะครับ