ผลพวงจากการเก็บของหนีน้ำท่วม : รูปวาดสไตล์ "ไห่พ่าย"(海派) ... นกไม้สี่ฤดู
คิดถึงศรีปราชญ์ร่ายโคลง
เรียมร่ำน้ำเนตรถ้วม..........ถึงพรหม พาเทพเจ้าตกจม.............จ่อมม้วย พระสุเมรุเปื่อยเป็นตม........ทบท่าว ลงแฮ หากอกนิษฐ์พรหมฉ้วย.......พี่ไว้จึ่งคง ฯ
V V V
ศรีดิ่งเกิดอารมณ์กวีจึงขอร่ายโคลงมั่ง
ชนร่ำน้ำเน่าถ้วม..............ถึงคอ อดอยากสุดทนรอ.............แทบม้วย สินทรัพย์เปื่อยไป่พอ..........ตีนเปื่อย ตูดเปื่อย หากรัฐหมดภูมิฉ้วย...........เฉดพ้นไผทไป ฯ
เอาเถิดครับน้องพี่ สรรพะฟี้ดแบ้คต่อการจัดการน้ำสำหรับอุทกภัยหนนี้ สาธุชนแลทุรชนทุกท่านทั้งไทยเทศก็ได้ประจักษ์แก่ตา รู้ซึ้งแก่ใจแร้ว เปื่อยการที่พ้มจะพูดไปให้เปลืองน้ำลาย....สื่อแลสภาก็ได้ภิปรายกันไป หลายยกแหล่ว.....ถูกใจนักวิชาการท่านหนึ่งมาพูดออกทีวีว่า . . .
อุทกภัยครั้งนี้ 20% เกิดจาก "ธรรมชาติ"
80% เกิดจาก "การบริหารจัดการ"
แล้วท่านก็เสนอตัวขอเป็นประธานตรวจสอบเรื่องนี้ . . . เพื่อ
เอาความจริงมาตีแผ่ให้ประชาชนไทยได้รับรู้
ฝันไปเต๊อะอาจาน! . . . ก๊อพวกมานว้ายวางจายกานปายแร้วงัย สิ่งที่นักเลือกตั้งครอกนี้กลัวที่สุด...คือ " ค ว า ม จ ริ ง " ขอรับกระพ้ม
ยุทธการ...เปิดโปง-ตีแผ่-โจมตี-ล้มล้าง เป็นฟามชำนาญเอ๊กซาเปิทสุดๆของเขา
ยุทธการ...ขี้จุ๊-ขี้ฮก-ขี้ตั๋วะ-ตอหลด-เบี่ยงประเด็น-กลบข่าว-เอาสีข้างถู-จ้างสื่อขายตัว เป็นฟามเชี่ยวชาญขั้นด๊อกเต้อร์ของเขา
หวังอยู่อย่างเดียวว่า........... ประชาชนไทย ทุ ก ค น (ไม่จำกัดสีผิวสีเสื้อ) จะได้ " เ รี ย น รู้ " กันเสียที
เฮ้ออออออออ ขอบ่นเพียงเบาะๆให้ทันสมัยกะเค้าหน่อยนะครับ
แล้วเราค่อยมาเข้าเรื่องสบายๆกัน อิ อิ
...............
รูปวาดชุดนี้จะเรียกว่าเป็นมรดกตกทอดมาก็คงไม่ผิด ผู้วาดเป็นญาติโกของเพื่อนพ่อผม มาจากเมืองจีนมาเยี่ยม แต่ละภาพได้เขียนมอบเป็นที่ระลึกแก่พี่น้องของเพื่อนพ่อ สุดท้าย...เพื่อนพ่อได้มอบให้แก่พ่อผมอีกที...นั่นเป็นเรื่องเก่าเมื่อ 70 กว่าปีก่อน
สภาพที่ผมได้รับมารุ่งริ่งเว้าแหว่ง ม้วนที่เปี่ยว(ติดพื้นหลัง)ถูกมอดและแมลงสาบแทะ โชคดีที่เนื้อภาพยังสมบูรณ์ดี....นึกชมวิธีการเก็บแบบเข้าม้วนดั้งเดิม ที่สามารถ รักษาให้ผลงานยังคงสภาพได้ นี่สิภูมิปัญญาของคนโบราณจริงๆ ในเนื้อกาวที่ใช้ติดภาพนั้นมีสารพวกพริกผสมอยู่ซึ่งกันแมลงได้ ผมนำรูปชุดนี้ไปเข้าม้วน(เปี่ยว)ใหม่ที่แถววงเวียน 22... พื้นกรอบภาพเป็นผ้าไหมอย่างดี ราคารวมประมาณ 5,000 บาท แพงสำหรับผมครับ เพราะสมัยนั้นเงินเดือนได้กะจี๊ดเดียว
เปี่ยวใหม่เสร็จเอามาแขวนชม.....แขวนไม่กี่วันก็มีแมลงสาบมาแทะอีก ฮ่วย! แต่แทะกินผ้าไหมส่วนที่ติดกับไม้ถ่วงปลายล่าง....เลยเก็บเข้ากรุจนลืม
พอเก็บของหนีน้ำท่วมคราวนี้เลยรื้อออกมาเห็น จึงได้เอามาถ่ายรูปขึ้นบล๊อกอวดเพื่อนๆ
แต่ละภาพขนาด 33 x 135 ซม. (ขนาดม้วน 43 x 222 ซม.) ผมใช้เป็นแค่กล้องปัญญาอ่อนจึงมีความไม่คมไม่ชัดฉะนี้แล
เชิญชมขอรับ . . .
(1) ภาพนกไม้สี่ฤดูแขวนเต็มผนัง ยาวตั้งแต่เพดานจรดพื้น
(2) เน้นเฉพาะส่วนเป็นรูปวาด
(3) ภาพวสันตฤดู...นกกระเต็น หลิว และพุดตาน
(4) ภาพคิมหันตฤดู.....แม่ไก่ และลูกปี่แป๊(ผีผา)
(5) ภาพศารทฤดู.....ไก่โต้ง และดอกเบญจมาศ
(6) ภาพเหมันตฤดู.....นกกระยาง และพงแขมริมบึง
ภาพชุดนี้วาดเมื่อปี 1940 นับถึงปัจจุบันก็ 71 ปี เต็มครับ สีสันยังสดใส ทั้งหมึกและสีน้ำได้กินลึกเป็นเนื้อเดียวกับกระดาษที่บางเบาทว่าเหนียว ลายมือออกจะหวัด หนักเบาปาดป้ายได้ลื่นไหลงดงามมาก ทั้งนกทั้งไม้ เส้นพู่กันเฉียบขาด มั่นใจ แม่นยำ เรียกว่า "เข้าขั้น" ครับผม!
..............................
พูดถึงสไตล์ " ไห่พ่าย " (海派) แล้วอยากขยายความสักเล็กน้อย คำว่า"ไห่พ่าย"แปลว่า สกุลช่างเขียนแถบซ่างไห่ (上海 เซี่ยงไฮ้) บางคราวเรียกว่า "ไห่ซ่างฮว่าพ่าย" (海上 画派) ซึ่งเป็นดินแดน กระเดียดติดทะเลค่อนไปทางใต้ของจีน
ผู้ที่ถือว่าเป็นผู้นำของสำนักนี้คือ เริ่นป๋อเหนียน (任伯年 1840-1896) ช่วงปลายราชวงศ์ชิง ราวครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 19 ท่านได้ริเริ่มก่อตั้งการวาดสไตล์สำนักนี้ขึ้น เป็นการแหวกวงล้อมของ การวาดแบบปัญญาชนดั้งเดิมที่นิยมกัน (Literati Painting 文人画) ท่านเหริ่นเป็นคนเมืองซานยิน มณฑลเจ้อเจียง เดิมท่านจะชอบวาดแบบเหมือนจริงและละเอียดละออในการลงเส้นที่ เรียกว่า "กุงปิ" (工笔) ต่อมาท่านจะหันมาวาดแบบ "ไม่มีกระดูก" (没骨) คือจุ่มสีแล้วป้ายเลย ไม่มีการร่างหรือมีวาดเส้น สีสันจะออกจางแต่สดใส
นักวาดที่โด่งดังของสำนักนี้ได้แก่ ซวีกู่ (虚谷) เจ้าจือเชียน (赵之谦) หวูชางโซว่ (吴昌硕) พานเทียนโซว่ (潘天寿) ฟู่เป้าสือ (傅抱石)
ถ้าท่านจำสกุลช่างสำนัก " หลิ่งหนาน " ที่ผมเคยเขียนไว้แล้ว 2 เอ็นทรี่ ก็ขอบอกไว้ตรงนี้ด้วยว่า...ก็เป็นกิ่งก้านที่แตกแขนงออกไปจาก " ไห่พ่าย " นี้แหละ . . . ถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของวิวัฒนาการการวาดภาพของจีนทีเดียว
....................................................
ขอนำดนตรีเพราะๆของสองสาวสวย บรรเลงเพลง "ระบำจันทรา" (月舞) เอ้อร์หู (二胡) โดย อวี้หงเหมย (于紅梅), ผีผา (琵琶) โดย เจ้าชง (趙聰) เพลงนี้ประพันธ์โดย หม่าจิ่วเยว่ (馬久越) ชาวอิสลามเผ่าหุย เพลงออกสำเนียงแขกๆ ลีลาร่าเริงเบิกบาน สอดประสานกันน่าฟังครับ
ขอบคุณ You Tube ที่นำเพลงเพราะๆมาให้เราฟังเสมอมา
.....................................................
แล้วพบกันใหม่ครับ
Free TextEditor
Create Date : 30 พฤศจิกายน 2554 |
Last Update : 16 มกราคม 2555 15:51:00 น. |
|
32 comments
|
Counter : 5012 Pageviews. |
|
|
ภาพวาดชุดนี้สวยมากๆเลยค่ะ