เทคนิคขับขี่รถอย่างถูกวิธีช่วยประหยัดพลังงาน ประหยัดเงิน
ปัจจุบัน คนไทยกำลังเผชิญกับราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น จากอดีตที่คนไทยเคยใช้น้ำมันเบนซินเพียงลิตรละ 15 บาท น้ำมันดีเซลลิตรละ 13 บาท แต่ขณะนี้ราคาน้ำมันตามความจริงที่ประชาชนต้องจ่ายนั้น ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากตามราคาตลาดโลก โดยราคาน้ำมันเบนซิน 95 จะอยู่ที่ระดับ 29.99 บาทต่อลิตร น้ำมันเบนซิน 91 จะอยู่ที่ระดับ 29.91 ราคาดีเซลอยู่ที่ระดับ 27.34 บาทลิตร ทำให้ประเทศไทยต้องรับภาระหนักขึ้นอีกในการนำเข้าน้ำมันราคาแพง และส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภค ทั้งภาคการคมนาคมขนส่ง ผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะ สินค้าอุปโภค-บริโภคราคาแพงขึ้น ดังนั้น แนวทางที่จะสามารถช่วยกันได้นั่นก็คือ การช่วยกันประหยัด ใช้น้ำมันทุกหยดอย่างคุ้มค่า เพื่อประหยัดเงินในกระเป๋าเรา และประหยัดเงินค่าน้ำมันที่เราต้องจ่ายให้ต่างประเทศ ด้วยวิธีการง่ายๆ เพียงแค่ปรับพฤติกรรมการใช้รถยนต์ของคุณ ดังนี้
● ไม่ควรเร่งเครื่องยนต์ก่อนออกรถ การเร่งเครื่องให้มีความเร็วรอบสูง จะทำให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น เพราะเมื่อเครื่องยนต์มีความเร็วรอบสูง อัตราความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงจะสูงตามไปด้วย เมื่อออกรถเราไม่จำเป็นต้องเร่งเครื่องยนต์ โดยทั่วไปความเร็วรอบที่เหมาะสมสำหรับการออกรถประมาณ 1,100 - 1,250 รอบต่อนาที
● ควรดับเครื่องยนต์เมื่อรถติดหรือต้องจอดรถคอยเป็นเวลานาน การปล่อยให้เครื่องยนต์ติดอยู่เฉยๆ เป็นเวลานานกว่า 1 นาที จะสูญเสียน้ำมันมากกว่าดับเครื่องยนต์แล้วสตาร์ทใหม่ และหากการติดเครื่องจอดอยู่เฉยๆ เป็นเวลา 5 นาที นอกจากจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันไปโดยเปล่าประโยชน์ 0.3 ลิตรแล้ว น้ำมันส่วนที่เผาไหม้ไม่หมด ซึ่งอาจหลงเหลืออยู่ในกระบอกสูบ จะเป็นตัวการทำให้เกิดการสึกหรอในเครื่องยนต์ได้
● ควรขับรถโดยใช้ความเร็วมาตรฐาน การขับรถด้วยความเร็วสูงจะต้องใช้ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงตาม ดังนั้น เราควรควบคุมความเร็วในอัตราที่เหมาะสมคือประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากขับที่ความเร็ว 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะใช้น้ำมันมากขึ้นประมาณร้อยละ 17
● ใช้เกียร์ให้ถูกวิธีโดยให้แต่ละระดับ สัมพันธ์กับความเร็วรอบของเครื่องยนต์ ไม่ควรใช้เกียร์ต่ำ (เกียร์ 1 และ 2) ที่ความเร็วรอบสูง หรือใช้เกียร์สูง (เกียร์ 3, 4 และ 5) ที่ความเร็วรอบต่ำ จะมีผลให้กำลังเครื่องตกและจะสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าปกติ
● ควรเปิดเครื่องปรับอากาศเท่าที่จำเป็น โดยทั่วไปรถยนต์ที่ใช้เครื่องปรับอากาศ จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นอีกประมาณร้อยละ 25 ดังนั้น หากเราเปิดใช้เครื่องปรับอากาศตามความจำเป็น และไม่ปรับให้เย็นมากจนเกินไป เช่น ถ้าอากาศภายนอกรถเย็นสบายอย่างในช่วงเวลาเช้าก็ไม่ควรเปิด จะสามารถลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงลงได้เป็นอย่างมาก
● ไม่ควรบรรทุกน้ำหนักมากเกินไป ในกรณีที่เราบรรทุกน้ำหนักเกินเพียง 50 กิโลกรัม จะทำให้ระยะทางที่วิ่งได้ต่อน้ำมัน 1 ลิตรสั้นลง 1 กิโลเมตร ดังนั้นจึงควรสำรวจดูรถ หากมีสิ่งของที่ไม่จำเป็นก็ควรนำออกมา
● ควรใช้คลัชให้ถูกต้อง อย่าเลี้ยงคลัชขณะจอดรถติดบนทางขึ้นสะพานหรือทางขึ้นเนิน เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองคลัชและน้ำมันเชื้อเพลิง ควรหลีกเลี่ยงโดยใช้เบรคหรือเบรคมือช่วยแทน หรือการเร่งเครื่องอย่างแรงขณะออกรถแต่ยังปล่อยคลัชไม่สุด หรือเมื่อเข้าเกียร์เสร็จแล้ววางเท้าไว้บนแป้นคันเหยียบคลัช ก็จะเป็นสาเหตุทำให้สิ้นเปลืองลูกปืนกดคลัช ผ้าคลัช และน้ำมันเชื้อเพลิงเช่นเดียวกัน
● ไม่ควรออกรถเร็วและเบรคอย่างรุนแรง เพราะการออกรถพรวดพราดด้วยความเร็วสูง หรือเบรคอย่างกระทันหันหรือเบรคอยู่บ่อยๆ จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง และยังเป็นสาเหตุทำให้เครื่องยนต์ เครื่องส่งกำลัง ผ้าเบรคและยางรถ เกิดการชำรุดสึกหรอเร็วขึ้น อีกทั้งอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายด้วย หากปฏิบัติตาม เทคนิคการขับขี่รถเหล่านี้ ก็จะช่วยให้คุณประหยัดน้ำมันประหยัดเงินให้ตัวเองและประเทศชาติได้ ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนต้องช่วยกันเพื่อต่อสู้และฟันฝ่าวิกฤติน้ำมันด้วยกัน โดยการลงมือประหยัดน้ำมันอย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้
ข้อมูลจาก: //www.thainews70.com ที่มา : //www.freestyle-club.net
Create Date : 08 มิถุนายน 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 8 มิถุนายน 2553 17:46:40 น. |
Counter : 894 Pageviews. |
|
|
|