แนะวิธีขับรถใกล้รถบรรทุกสารเคมี
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แนะผู้ขับขี่เพิ่มความระวังในการขับรถใกล้รถบรรทุกสารเคมี คุณอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง นอกจากผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตามกฎจราจรแล้ว ควรสังเกตยานพาหนะที่อยู่รอบข้าง โดยเฉพาะรถบรรทุกสารเคมี หากต้องขับรถเข้าใกล้ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ และทิ้งระยะห่างให้มากกว่าปกติ รวมทั้งศึกษารูปร่างและลักษณะถังบรรจุของรถบรรทุกสารเคมี เพื่อเป็นข้อมูลในเบื้องต้น หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีรูปร่างและลักษณะที่แตกต่างกัน ทำให้บอกได้ว่าวัตถุที่บรรทุกเป็นสารเคมีประเภทใด ดังนี้
รถบรรทุกของเหลวไวไฟ เป็นถังรูปวงรี หัวท้ายโค้งมนเรียบมีทางเดินบนหลังคา
รถบรรทุกก๊าซเหลวอุณหภูมิต่ำ เช่น ก๊าซฮีเลียม ไนโตรเจน เป็นถังรูปทรงกระบอกใหญ่หัวท้ายโค้งมน ท้ายถังมีตู้ควบคุมระบบระบายความดันและช่องถ่ายสารเคมี
รถบรรทุกสารกัดกร่อน เช่น กรดเกลือ กำมะถัน มองจากท้ายเป็นถังรูปวงกลมเล็ก ด้านข้างเป็นรูปทรงกระบอก หัวท้ายโค้งมนตัวถังเป็นสเตนเลส มีวงแหวนรัดรอบถัง
รถบรรทุกก๊าซเหลวอัดความดัน เช่น ก๊าซคลอรีน แอมโมเนีย เป็นถังรูปทรงกระบอก หัวท้ายมนรูปครึ่งวงกลม
กรณีพบรถบรรทุกสารเคมีรั่วไหล ให้อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุด้านเหนือลมหรือที่สูงระยะไม่ต่ำกว่า 50 เมตร พร้อมโทรฯ แจ้งหน่วยปฏิบัติการช่วยเหลือ เช่น แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย 191 แจ้งเหตุฉุกเฉินอุบัติภัยสารเคมีกรมควบคุมมลพิษ 1650 หรือสายด่วนนิรภัย 1784 พร้อมบอกข้อมูลที่จำเป็นอย่างละเอียด เช่น สถานที่เกิดเหตุ ประเภทของรถบรรทุก รูปร่างและลักษณะของถังบรรจุสารเคมี ชื่อบริษัทขนส่ง สัญลักษณ์ ฉลากหรือเครื่องหมาย และหมายเลขสหประชาชาติที่เป็นตัวเลข 4 หลักติดบนภาชนะบรรจุ ถังเหล็ก แท็งก์ ป้ายที่ติดบนรถบรรทุก และจำนวนผู้บาดเจ็บ เพื่อวางแผนควบคุมอุบัติภัยสารเคมีรั่วไหลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระหว่างรอ ควรกันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องให้ห่างจากจุดที่เกิดเหตุไม่ต่ำกว่า 150 เมตร ห้ามประกอบกิจกรรมที่ก่อให้เกิดประกายไฟ เนื่องจากอาจมีไอระเหยสารเคมีหรือก๊าซติดไฟรั่วไหล ทำให้เกิดระเบิดและเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
หลีกเลี่ยงการจอดรถหรือขับรถผ่านกลุ่มควัน เพราะยานพาหนะเป็นแหล่งกำเนิดประกายไฟ
ห้ามเหยียบ หรือสัมผัสสารเคมีที่รั่วไหลออกมา
ห้ามเปิดท้ายรถบรรทุกสารเคมีที่ประสบอุบัติเหตุ หรือแก้ไขสถานการณ์ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์เด็ดขาด เพราะสารเคมีแต่ละชนิดมีวิธีควบคุมและกู้ภัยต่างกัน
หากไม่มีความรู้ อาจทำให้สถานการณ์รุนแรงและลุกลามขยายวงกว้างอย่างรวดเร็วมากขึ้น.
ที่มา เดลินิวส์
สารบัญ ความรู้เรื่องรถ คลิกดู ที่นี่ค่ะ
Create Date : 02 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 2 กรกฎาคม 2552 17:08:04 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1812 Pageviews. |
|
|
|
|
|