ขับรถในเมืองใหญ่
มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงที่รถจอดข้างทาง จะขับออกจากจุดจอดและตัดหน้ารถของเรา
การขับต่างถิ่นสิ่งที่ควรตระหนักมากที่สุด คือการพยายามศึกษารูปแบบการใช้ถนนของคนพื้นที่นั้นๆ สำคัญที่สุดคือการปรับตัวเข้ากับพวกเขาให้ได้ ยกตัวอย่างเช่น พวกเขาขับช้าๆ ไม่รีบเร่งเหมือนกับการขับในกรุงเทพ เราก็ต้องปรับลดความเร็วลงให้ช้าๆ หรืออย่างน้อยก็ควรจะตามป้ายกำหนดหรือกฎหมายจราจรระบุไว้ หากมีความเสี่ยงปริมาณรถมาก ผู้คนเดินข้ามถนนไร้ระเบียบก็ควรจะต้องระมัดระวังมากขึ้น ลดความเร็วลงกว่ากฎหมายกำหนดไว้ เช่นจาก 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ลดลงเหลือสัก 30-40 เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถเบรกหยุดในระยะกระชั้นชิด
เราต้องไม่ลืมว่ากฎหมายจราจรของบ้านเรา เขียนเมื่อหลายสิบปีสมัยที่รถยนต์มีน้อยกว่ารถจักรยานสองล้อ แต่รูปแบบของการใช้ถนนมีความเปลี่ยนแปลงทุกวันล้ำหน้ากว่ากฎหมาย
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับรถของผู้ขับขี่ คือแนวทางหนึ่งที่พอจะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุและความสูญเสีย เป็นความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ต้องรอให้ใครออกมาเตือนหรือรอให้มีกฎหมายใหม่คลอดมา
ในเมืองใหญ่ๆ มีรถจอดข้างทางมาก ดังนั้นก็พอคาดการณ์ได้เลยว่า มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงที่รถจอดข้างทางจะขับออกจากจุดจอด และตัดหน้ารถของเรา ในกรณีนี้เราใช้ช่องทางเดินรถช่องที่สอง ความเร็วต่ำๆ จะพอช่วยผ่อนหนักเป็นเบาหรือไม่เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน เมื่อมีรถออกตัดหน้าเราก็สามารถเบรกหยุด การเบรกหยุดได้ในช่องทางที่เราเดินรถนั้น จะมีความปลอดภัยมากกว่าการหักหลบเบนออกไปใช้ช่องทางที่ 3 เพราะอาจจะถูกชนหรือเป็นเหตุให้รถคันอื่น หรือบุคคลอื่นได้รับความสูญเสีย
อุบัติเหตุที่เกิดส่วนมากเพราะเห็นในระยะกระชั้นชิดมากๆ หมดทางออกไม่มีทางไป มีเสียงเบรกและตามด้วยเสียงโครมแล้วเปิดประตูรถลงมาเจรจา บางรายก็คุยกันได้ดีๆ บางรายก็ถึงขั้นลงไม้ลงมือชกต่อยกันอารมณ์ร้อน การจะเห็นได้แต่เนิ่นๆ นั้นทั้งสองฝ่ายต้องรู้จักหน้าที่ของตน เช่นจะใช้ตามองเฉพาะบริเวณของถนนเท่านั้น พวกบรรดาป้ายโฆษณาต่างๆ ก็จะไม่ใช้เวลามากหันมอง เพราะการละสายตาจากถนนมันจะทำให้เป็นในระยะกระชั้นชิดมากๆ หรือบางรายหันกลับมามองถนนรถก็ชนท้ายรถคันหน้าแล้ว การมองไปข้างหน้ามองถนนเป็นความรับผิดชอบอย่างหนึ่ง ความเห็นอกเห็นใจเจ้าของรถใหม่ป้ายแดงที่เพิ่งซื้อมาใหม่ๆ ยังไม่ได้ป้ายขาว วิ่งอยู่ในช่องทางของตนดีๆ ก็มีรถพุ่งมาชนด้านหลัง ท้ายรถเสียหายและที่สำคัญคือเสียความรู้สึก กำลังจะขับไปให้พระเจิม ไปยังไม่ถึงวัดก็มีคนอื่นช่วยเจิมท้ายให้แล้ว แม้จะมีประกันซ่อมให้แต่ความรู้สึกมันเหมือนมีแผลอยู่ในใจ ดังนั้นการไม่ละสายตาจากถนน จะช่วยให้ลดโอกาสเสี่ยงที่จะชนเกิดอุบัติเหตุ เพราะการไม่ละสายตาจะช่วยให้เห็นเร็วขึ้น
การพยายามไม่สลับเปลี่ยนช่องทางเดินรถ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยโอกาสเกิดอุบัติเหตุ พยายามขับในช่องทางเดียวไปเรื่อยๆ เพราะใช้เวลาไม่นานก็จะผ่านพ้นตัวเมือง อดทนเพียงนิดเดียวแต่ได้ความปลอดภัยมันก็คุ้มค่ากว่า ยิ่งหากเราต้องเดินทางผ่านจังหวัดหนึ่ง เพื่อจะไปอีกจังหวัดหนึ่งยิ่งควรต้องระมัดระวังให้มาก มิฉะนั้นอาจจะไปไม่ถึงจุดหมายปลายทาง หรือไปช้าเพราะต้องไปโรงพักพบตำรวจกรณีอุบัติเหตุ ถึงขั้นเสียชีวิตหรือมีผู้บาดเจ็บ รถเสียหายเดินทางต่อไปไม่ได้ เสียทั้งเวลาและความรู้สึก ความระมัดระวังความใจเย็นๆ จะคุ้มค่าในยามนี้เพราะหากเกิดอุบัติเหตุก็ต้องดับเครื่องยนต์ ออกมายืนนอกรถ เด็กเล็กๆ ผิวกำลังบอบบางก็จะถูกแดดเผาหรือหน้าขาวๆ ของสาวๆ ก็อาจด่างลาย เพราะเหงื่อจากความร้อนของแสงแดด หน้าไม่สวยอารมณ์ก็ไม่สวยตาม
สำหรับชาวกรุงเทพความคุ้นเคยมันกลายเป็นนิสัยไปแล้ว เพราะการใช้ทางสะดวกทางด่วนไม่มีรถจักรยานยนต์ร่วมใช้ทาง ชินกับการใช้ความเร็วสูงๆ และการประมาณการใช้เวลาเดินทางไว้ไม่มาก พอนานๆ ออกไปต่างจังหวัดสักครั้ง เช่นช่วงเทศกาลปีใหม่หรือสงกรานต์ ก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุ
การพยายามศึกษาพฤติกรรมของแต่ละท้องถิ่น ความระมัดระวังและความรับผิดชอบต่อสังคม จะช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุครับ
ที่มา : //www.bangkokbiznews.com
สารบัญ รู้เรื่องรถ
Create Date : 18 พฤษภาคม 2554 |
Last Update : 18 พฤษภาคม 2554 18:02:19 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1736 Pageviews. |
|
|
|
ติดแก๊ส
ขาย iphone
เช่าคอนโด
roll up
เว็บขายของ